สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 333 องค์หญิงนักชิ่ง

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 333 องค์หญิงนักชิ่ง?

ตอนที่ 333 องค์หญิงนักชิ่ง?

โอ้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทรงพลังยิ่งนัก!

สวี่หลิงอวิ๋นครุ่นคิด “ท่านได้เขียนบันทึกไว้ล่วงหน้าบ้างไหม? แค่บอกฉันมาว่าคลังขุมทรัพย์อยู่ที่ไหน ท่านไม่ต้องอายหรอก ฉันรู้หนังสือน่า!”

สเปนเซอร์หน้าบึ้ง!

ผู้หญิงคนนี้หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าเธอต้องการเงินต่อให้เขาตายไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?

“ใช่! ก็ฉันเป็นคนขี้เหนียวนี่เพคะ!” สวี่หลิงอวิ๋นเข้าใจสีหน้าของอีกฝ่าย และยิ้มอย่างเขินอาย “ไม่น่าเชื่อ เราเป็นพลเมืองตัวเล็กในเมืองเล็ก ๆ ที่ทำให้ท่านยิ้มได้เหรอเนี่ย!”

“ท่านจะได้ค่าตอบแทนก็ต่อเมื่อเรามีชีวิตรอด!” สเปนเซอร์ผู้ปากแข็งยังคงยืนยันการตัดสินใจของเขา

สวี่หลิงอวิ๋นเยาะเย้ย “ฉันคิดว่าท่านควรจะสงสารประชาชนของท่านก่อนนะเพคะ แต่ไม่คิดเลยว่าท่านจะเป็นคนเลือดเย็นแบบนี้! เห็นแต่ความอยู่รอดของราชวงศ์ตัวเองจนไม่นึกถึงประชาชนคนอื่นเลยเหรอ?”

“ฉันถึงขนาดนึกถึงแววตาที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อยที่ถูกฝังอยู่ในชั้นใต้ดิน พวกท่านไม่นึกถึงพวกเขาบ้างเลยเหรอ? อยากจะฝังพวกเขาลงไปพร้อมกับพวกท่านหรือไง?! อดทนได้ยังไงกัน?”

เหมยหมี่ถอนหายใจ “เสด็จพ่อ ตอบรับเธอเถอะเพคะ!”

อย่างไรเสียพี่อาคาลก็ยังมีชีวิตอยู่ และจะกลายเป็นความหวังของทุกสิ่ง!

สเปนเซอร์มองดูลูกสาว เขาหวังว่าเหมยหมี่จะมีชีวิตรอดออกไป เขาแก่แล้วจะตายก็ไม่เป็นไร!

หลี่ผิงผิงได้ยินเรื่องทั้งหมดเช่นกัน

สภาพจิตใจของสาวใช้และองครักษ์ทั้งหลายเริ่มหดหู่ โดยรู้ดีว่าโอกาสที่พวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือมีน้อยมาก พวกเขาจึงก้มศีรษะลงและไม่พูดอะไร

ทว่าหลี่ผิงผิงรับไม่ได้!

เธอรู้สึกอกจะแตกตาย! และร้องตะโกนว่า “ไม่ได้! เธอจะไม่ช่วยชีวิตฉันได้ยังไง?! ฉันไม่อยากตาย! ฉันไม่อยากกลายเป็นอาหารของพวกเอเลี่ยน!”

ดวงตาของเหมยหมี่ดูเย็นชาขึ้น เธอทำท่าทางสั่งทหารระดับ 8 ดาวที่อยู่ด้านหลัง

ทหารก้าวออกมาด้านหน้าและลากจักรพรรดินีหลี่ผิงผิงไปด้านข้าง ก่อนจะทำให้เธอหมดสติลง

ทว่าเสียงของหลี่ผิงผิงยังดังออกไปด้านนอก

ใครจะอยากจะตายล่ะ?! ประชากรปีกพิสุทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังรอดูการตัดสินใจของราชวงศ์เงียบ ๆ

พวกเขาได้ยินเสียงของเหมยหมี่ราวกับได้ยินเสียงจากธรรมชาติ

พวกเขาจะรอดไหม?!

สวี่หลิงอวิ๋นเกาหัว เฮ้อ…ราชวงศ์ปีกพิสุทธิ์จะตอบรับจริง ๆ เหรอ?! นี่มันเกินความคาดหมายของเธอไปมาก!

“ได้! งั้นรอแป๊บ!”

หลังจากวางสาย สวี่หลิงอวิ๋นก็นั่งลงด้วยสภาพจิตใจหดหู่ “ตอนนี้จะทำยังไงดี!”

นั่นคืออสุรกายยักษ์ระดับ 10 ดาว! เธอเคยเห็นภาพถ่ายของมันมาก่อน อสุรกายร้ายระดับ 10 ดาวทุกตัวมีขนาดใหญ่มาก แม้แต่ราชาเอเลี่ยนระดับ 10 ดาวเองก็ไม่กล้าเข้าไปก่อกวนพวกมัน!

พวกมันมีขนาดใหญ่มหึมาเช่นเดียวกับภูเขา! พวกมันเดินทางท่องเที่ยวระหว่างห้วงดวงดาวได้อย่างอิสระ พวกมันสามารถดูดซึมสสารลึกลับในจักรวาลได้ และขนของพวกมันมีความแข็งแกร่งในการป้องกันอย่างมาก!

“ถ้าทำไม่ได้ก็ถอยออกมาครับ” โอคาซีจ้องมองเธอ “คงจะไม่ไปพยายามไปตายเอาดาบหน้าหรอกใช่ไหม?”

“แต่ถ้าไม่ไป ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนคะ!” สวี่หลิงอวิ๋นทำหน้าบึ้ง! โธ่เอ๊ย! เพิ่งจะดูเท่ได้ไม่นานแท้ ๆ!

ถึงตายก็ต้องรักษาหน้าเอาไว้!

โอคาซีหยิกแก้มเธอ “ผมจะไปกับท่าน!”

สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า และครุ่นคิด “งั้นก็ไปดูรอบ ๆ ก่อนเถอะค่ะ จะหายหน้าหายตาไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงขายหน้าแย่!”

โอคาซีทำได้แต่พยักหน้า

อสุรกายยักษ์เหน็ดเหนื่อยจากการกระโดดไปมา และใช้กรงเล็บของมันขุดทำรังเพื่อนอนพักผ่อนท่ามกลางซากปรักหักพัง

มันไม่กลัวการโจมตีของเหล่ามนุษย์และบรรดาเอเลี่ยน เพราะพวกเขาไม่สามารถเอาชนะมันได้

เอเลี่ยนระดับ 9 ดาวนอนลงบนพื้นพระราชวังอย่างเชื่อฟัง และไม่มีใครกล้าส่งเสียงดัง

พวกมันเกรงกลัวว่าจะเผลอไปรบกวนอสุรกายยักษ์ และมันจะถูกจับกินทั้งเป็น!

อสุรกายยักษ์เป็นเช่นนี้ มันกินไม่เลือก ถ้าเกิดรู้สึกหิวมาก มันก็แค่ฆ่าเอเลี่ยนทั้งหมดบนดาวเคราะห์และจับกิน ก่อนจะนอนหลับไปทั้งปี

อสุรกายยักษ์กำลังหลับสนิท ทว่าหูของมันยังกระตุกเป็นครั้งคราว ราวกับว่ามันยังเฝ้าสังเกตการณ์ภายนอกอยู่

สำหรับคลื่นสัญญาณต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้พื้นดิน มันเองก็รับรู้ แต่ขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจ

สวี่หลิงอวิ๋นขึ้นไปบนยานรบแล้วค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปเหนือน่านฟ้าจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ พวกเธอได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระยะไกลว่ามีสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาอยู่ใต้ล่างของพวกเธอในขณะนี้!

สวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้ว มันจะไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ? ที่พุ่งตรงมาเหนือสิ่งมีชีวิตระดับ 10 ดาวแบบนี้?

ดูเหมือนว่าอสุรกายยักษ์สังเกตเห็นบางอย่างที่อยู่เหนือศีรษะของมัน?

มันพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่พอใจ และลุกขึ้นยืน!

มันพ่นเปลวไฟออกมาจากปาก โจมตีเข้าไปที่ยานอวกาศโดยตรง!

โชคดีที่ยานอวกาศมีเกราะป้องกัน ไม่เช่นนั้นคงไม่รอดจากการโจมตีครั้งนี้! อย่างไรก็ตามต้องพึงระวังไว้เสมอว่าคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์จะเริ่มส่งสัญญาณเตือนอันตราย

‘เกราะป้องกันพลังงานลดเหลือสามสิบเปอร์เซ็นต์!’

‘เกราะป้องกันพลังงานลดเหลือสิบเปอร์เซ็นต์!’

‘เกราะป้องกันพลังงานลดเหลือหนึ่งเปอร์เซ็นต์!’

‘คำเตือน เกราะป้องกันพลังงานกำลังจะถูกปิด!’

“ไม่นะ! มีอะไรผิดพลาดกับเกราะป้องกันพลังงานหรือเปล่า? ทำไมถึงเสียพลังงานขนาดนี้?!” สวี่หลิงอวิ๋นเอ่ยถามขณะสั่งให้ช่างเทคนิคทะยานขึ้นสู่อวกาศโดยตรง

โอคาซีพูดว่า “พลังของอสุรกายตัวนี้แตกต่างกับเอเลี่ยนตัวอื่น!”

“ในลมหายใจของมันมีสสารลึกลับบางอย่างที่สามารถกลืนกินพลังงานได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น ถ้าเราเจอกับราชาเอเลี่ยนและสัตว์ประหลาดในเวลาเดียว ให้พวกเราเลือกเผชิญหน้ากับราชาเอเลี่ยนจะดีกว่า”

เยี่ยมไปเลย สวี่หลิงอวิ๋นเข้าใจแล้วว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับอสุรกายแบบไหน?!

ฮึ! ตอนนี้คงสายเกินไปที่จะเสียใจแล้วใช่ไหม?! สวี่หลิงอวิ๋นอยากจะร้องไห้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ในขณะเดียวกัน อสุรกายยักษ์รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก มันมองหาใครไม่เจอ เห็นเพียงแต่ยานอวกาศลำเล็กที่บินว่อนเหนือศีรษะของมันเท่านั้น?

มันกำลังรนหาที่ตายกันใช่ไหม?!

เหล่าทหารปีกพิสุทธิ์เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ยานอวกาศที่มีตราสัญลักษณ์ประจำชาติของจักรวรรดิชิงเหย้าเพิ่งจอดลงและถูกอสุรกายระดับ 10 ดาวขับไล่ด้วยการเอาไฟลนก้น!

จะมีอะไรให้พูดอีก? ตอนมา มาอย่างรุ่งโรจน์ ตอนกลับ กลับไปอย่างขายขี้หน้า!

ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์รู้สึกพึงพอใจอย่างประหลาด! อา! ไหนคุยโอ้อวดไว้ไง! อยากได้พืชพลังงานอยากได้ดาวเคราะห์ของพวกเขา นึกว่าจะโอหังกว่านี้เสียอีก แต่กลับเป็นแบบนี้ซะงั้น?!

เพิ่งจะโผล่หน้ามาก็ถูกอสุรกายยักษ์ขับไล่ไปเสียแล้ว!

นอกจากนี้ยังมีทหารจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ที่บันถึงภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้ และโพสต์ลงบนอินเตอร์เน็ตด้วยหัวข้อ ไหนบอกว่าจะช่วยพวกเราไง?!

[บัดซบ! นี่มัน…ขี้คุยเกินไปปะ! น่าไม่อาย!]

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่านี่คือชาวเน็ตปีกพิสุทธิ์! ตอนแรกพวกเขารู้สึกแย่ แต่ตอนนี้กลับมีความสุข!

เฮอะ ๆ! ก่อนหน้านี้ใช้ถ้อยคำรุนแรงแถมยังหยิ่งยโสอีกไม่ใช่เหรอ?! แล้วตอนนี้ยังไง? เสียใจไหมล่ะ? เศร้าไหม?

[หึหึหึ หยุดพูดถึงผู้หญิงในคำทำนายสักที! คำทำนายบ้าอะไรกัน?! เฮอะ ๆ!]

[ใช่ ๆ! ฮึ ฉันเจ๋งกว่าตั้งเยอะ! ตอนนี้ไปไหนแล้วล่ะ!]

[พวกชิงเหย้าหยุดเรียกหาองค์หญิงสามนั่นองค์หญิงสามนี่สักที! ไม่ละอายแก่ใจต่อนายตัวเองบ้างหรือไง!]

[ดูสิว่าฝีมือการหลบหนีเป็นยังไง? นี่คือวิธีการสร้างชื่อเสียงของผู้ที่ทรงพลังและมีอำนาจงั้นเหรอ?! ฮ่า ๆ! องค์หญิงนักชิ่งงี้ปะ?!]

[องค์หญิงนักชิ่ง?! สุดยอด!]

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท