ตอนที่ 337 การหลอกล่อครั้งใหญ่
ตอนที่ 337 การหลอกล่อครั้งใหญ่
สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้นขณะกินอย่างเอร็ดอร่อย
“อย่างที่พวกคุณพูดกันว่าฉันเป็นองค์หญิงนักชิ่ง คงทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะงั้นฉันไม่รับเงื่อนไขคงจะดีกว่า!”
ผู้คนปีกพิสุทธิ์ทั้งหลายรู้สึกฉุนเฉียวเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว!
ตลอดวันที่ผ่านมา สวี่หลิงอวิ๋นยังคงต่อรองกับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ และตอนนี้ประโยคสุดท้ายก็มาถึง นั่นคือ ฉันไม่ทำแล้วโว้ย ใครอยากจะเล่นกับพวกเขากัน?!
ผู้คนจากจักรวรรดิชิงเหย้าแทบจะลุกขึ้นปรบมือ!
[ทำดีมากองค์หญิงสาม! ฮ่า ๆ! พวกเขายอมทนไม่ไหวใช่ไหม? งั้นก็ปล่อยพวกเขาไป!]
[ใช่แล้ว! เรายังมีเป็ดกุนดักให้กินอีกเหลือเฟื้อ! ฉันนี่รอจะเพิ่มเมนูอาหารรสชาติอื่นลงบนโต๊ะไม่ไหวแล้ว!]
[เมื่อไหร่ฝ่าบาทจะเปิดสอนสักที? เครื่องปรุงรสก็หมดแล้วเนี่ย! พวกเราอยากได้สูตรใหม่กันแล้ว!]
[อย่าไปช่วยคนปีกพิสุทธิ์! พวกมันก็เป็นแค่ไอ้งั่ง! พี่ชายของฉันถูกพวกมันฆ่าตาย!]
…
สงครามย่อมนำมาซึ่งหยาดน้ำตาและคราบเลือดเสมอ
สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออก…
เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อมองดูคอมเมนต์ของสมาชิกครอบครัวของผู้ตาย
นี่คือผลจากความโลภของมนุษย์!
เมื่อสมาชิกครอบครัวของผู้ตายจากชิงเหย้าออกมา ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ก็รีบซ่อนตัวทันที และไม่มีใครอยากจะแสดงตัวอีก
แน่นอนว่ายังมีพวกที่ไร้สมองพูดออกมาว่าประชากรของพวกเขาก็เสียชีวิตลงเยอะเช่นกัน
และคอมเมนต์ก็ได้รับการถากถางจากทุกคนทันที
[โย่ ผู้บุกรุกก็บอกว่าตัวเองคือผู้เสียสละเหมือนกันเหรอเนี่ย? ตลกชะมัดยาก!]
[คอมเมนต์บนนี่โง่เกินบรรยาย! ถ้าพวกแกไม่บุกรุกก่อน เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นไหมล่ะ?!]
…
สเปนเซอร์รีบติดต่อสวี่หลิงอวิ๋นอีกครั้ง และคราวนี้เขาเตรียมการมาแล้ว
“เรายินดีจะชดใช้จักรวรรดิชิงเหย้าด้วยชีวิตของเรา!”
สเปนเซอร์พูด “เราเป็นคนบาป! องค์หญิงสาม เราไม่ต้องการขออะไรเลย ตราบใดที่ท่านเต็มใจจะช่วยประชากรผู้บริสุทธิ์ เราจะขอไถ่โทษด้วยความตาย”
ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของสเปนเซอร์!
ทว่าองค์หญิงเหมยหมี่เป็นคนตกใจมากที่สุด และก่อนที่เธอจะตอบโต้อะไร เธอก็เห็นพ่อผู้เป็นที่รักถือดาบพลังดวงดาวไว้แน่นและปาดคอตัวเองตาย!
สวี่หลิงอวิ๋นตกใจเช่นกัน!
สวี่เทียวอวี๋กำลังแอบดูวิดีโอก็รู้สึกตกใจ!
จักรพรรดิหลาย ๆ จักรวรรดินับไม่ถ้วนต่างตกตะลึง!
จักรพรรดิผู้กล้าหาญและหยิ่งทะนงเลือกที่จะสละชีวิตตัวเองเพื่อประชาชนจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์!
เขาไม่ได้ตายลงในสนามรบ แต่กลับจบชีวิตตัวเองลงในห้องใต้ดินขนาดเล็กแห่งนี้!
เหมยหมี่เอื้อมมือที่สั่นเทาออกไปสัมผัสตาของผู้เป็นพ่อ และปิดตาของเขาลง
เธอพยายามจะจับมือของพ่อเอาไว้ แต่มือคู่นั้นกลับไม่ยอมจูงเธอไปไหน!
เธอยังจำได้ดีว่า ตอนเด็ก ๆ สุขภาพของเธอไม่ค่อยดีนัก ขณะที่แม่ชอบไปปาร์ตี้น้ำชาและไม่ค่อยใส่ใจดูแลเธอมากเท่าที่ควร กลับกลายเป็นพ่อที่มักจะมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เธอฟัง พาเธอไปประชุมด้วย และพาเธอไปโรงเรียน…
พ่อของเธอมอบความทรงจำดี ๆ ให้เธอเสมอ แต่วันนี้พ่อกลับเลือกที่จะจบชีวิตลงต่อหน้าเธอ
เธอกัดริมฝีปากแน่นโดยไม่ส่งเสียงร้องอะไรออกมา
ซอฟต์แวร์ถ่ายอดสดหันหลังให้เธอ ขณะที่คนทั้งห้องใต้ดินยังคงอยู่ในความตกตะลึง พวกเขาตื่นจากภวังค์ทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของจักรพรรดินีหลี่ผิงผิง
“สเปนเซอร์! เป็นอะไรไป?!” หลี่ผิงผิงคลานเข้าไปหาร่างของสเปนเซอร์ หยดน้ำตาไหลรินลงมาขณะคลานเข้าไปดูร่างของสามีใกล้ ๆ เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดสามีถึงจากเธอไป?!
เหมยหมี่มองดูแม่ที่เคลื่อนตัวเข้ามา ปาดน้ำตา และร้องตะโกนหาองครักษ์ “พาเธอออกไป!”
ตอนนี้เหมยหมี่เป็นผู้บัญชาการที่มีอำนาจสูงสุดในห้องใต้ดิน คำพูดของเธอเปรียบเหมือนอาญาสิทธิ์ที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามแต่โดยดี แม้แต่จักรพรรดินีเองก็ควรยืนอย่างสงบอยู่ด้านหลังเธอ
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนจะหันกลับมามองสวี่หลิงอวิ๋น
“ต้องขอโทษด้วยที่ให้ทุกคนมารับรู้เหตุการณ์แบบนี้” เหมยหมี่พูดขึ้นด้วยท่าทีสงบนิ่ง “เราหวังว่าองค์หญิงสามจะช่วยชีวิตของประชากรผู้บริสุทธิ์ตามที่เสด็จพ่อของเราขอไว้!”
เธอมองดูสวี่หลิงอวิ๋นและเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้อาจแตกต่างออกไป เพราะถ้าเธอถูกอสุรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวจ้องจะเล่นงาน แต่ทำไมเธอถึงยังรอดอยู่ล่ะ? ยังสามารถนั่งพักผ่อนกินของอร่อยแบบนี้ได้อยู่อีก?!
สวี่หลิงอวิ๋นวางแป้งแผ่นลง และมองดูหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
องค์หญิงเหมยหมี่คนนี้ไม่ง่าย!
“เราทราบดีว่าองค์หญิงสามมีความแค้นต่อพวกเรามาก แต่ตอนนี้เสด็จพ่อได้ชดใช้ความผิดพลาดที่ทำลงไปแล้ว พวกเราชาวปีกพิสุทธิ์เองก็เต็มใจที่จะแสดงความจริงใจตามที่ท่านขอไว้ หากท่านเต็มใจจะช่วยจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของเราให้รอดพ้นภัยอันตราย เราก็ยินดีจะตอบแทนท่านด้วยดาวเคราะห์จำนวนยี่สิบเปอร์เซ็นต์”
“และพืชพลังงานอีกสามสิบชนิด”
นี่เป็นเงื่อนไขที่ไม่มีใครจะปฏิเสธ!
สวี่หลิงอวิ๋นเองก็สนใจเช่นกัน!
นอกจากสวี่หลิงอวิ๋นแล้ว แม้แต่จักรวรรดิอื่นก็ทนไม่ไหวและต่อสายสนทนาทางวิดีโอเข้ามาโดยตรง “หากองค์หญิงสามไม่เต็มใจจะช่วย พวกเราจักรวรรดิอีโน่เต็มใจจะช่วยท่าน!”
“พวกเราจักรวรรดิเบ็ตตี้เต็มใจจะช่วยท่าน!”
“พวกเราจักรวรรดิคัสเซิลเต็มใจจะช่วยท่าน!”
…
จักรวรรดิจำนวนนับไม่ถ้วนยื่นมือช่วยเหลือและทุกคนก็มองมาที่เหมยหมี่
พวกเขาทั้งหมดล้วนคิดแค่ว่าจะเข้าไปกอบกู้เมืองหลวง ไม่จำเป็นต้องกำจัดอสุรกายยักษ์ระดับ 10 ดาว เพียงแต่เอาชนะเอเลี่ยนระดับ 9 ดาวทั้งหมดก็พอแล้ว!
มันง่ายมาก!
ก็แค่คิดหาวิธีการหลอกล่อพวกมันให้ออกไปไม่ใช่เหรอ?
มีอะไรให้เป็นเรื่องยาก? ด้วยราคาค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว จะยอมแพ้จักรวรรดิชิงเหย้าไม่ได้!
สวี่หลิงอวิ๋นยักไหล่ “ตามใจพวกท่านแล้วกัน!”
เธอไม่สนใจหรอก!
คราวนี้ผู้คนจากจักรวรรดิอื่นมองมาที่เหมยหมี่ โดยหวังว่าเหมยหมี่จะตอบรับคำข้อร้องของพวกเขา!
เหมยหมี่มองไปทางสวี่หลิงอวิ๋น และเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจ เธอจึงพยักหน้า
“ในเมื่อจักรวรรดิอื่นเต็มใจจะเข้าร่วม เราจะให้เวลาพวกท่านสองวัน หากพวกท่านสามารถขับไล่อสุรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวและเอเลี่ยนทั้งหลายไปได้ภายในสองวัน เราก็ยินดีที่จะมอบค่าตอบแทนแบบนี้ให้กับพวกท่าน”
จักรวรรดิทั้งหลายเตรียมพร้อมกับการต่อสู้
สวี่เทียนอวี๋รู้สึกเป็นกังวลใจเล็กน้อย เขารู้สึกกังวลเพราะผลตอบแทนที่มหาศาลเช่นนี้ แต่เมื่อมองดูท่าทางที่นิ่งสงบของลูกสาว ความกระวนกระวายในใจก็เบาบางลง
เฝ้าดูลูกสาวดีกว่า!
ปล่อยให้เธอได้ทำในสิ่งที่เธอต้องการ! อย่างไรเสีย บัลลังก์จักรวรรดิชิงเหย้าก็จะถูกส่งมอบต่อให้เธอ!
สวี่หลิงอวิ๋นกำลังคิดอะไรอยู่?
เธอแค่คิดว่าคนพวกนี้มีแต่ขี้เลื่อยในหัวสมองใช่ไหม?!
พวกเขาลืมสงครามเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนไปแล้วเหรอ?! แค่กำจัดราชาเอเลี่ยนยังต้องใช้ยอดฝีมือระดับ 10 ดาวถึงสองคน!
อีกทั้งได้รับชัยชนะมาหลังจากสูญเสียมวลมนุษยชาติไปจำนวนนับไม่ถ้วน พวกเขาเอาแต่กินจนหลงลืมเรื่องการต่อสู้ใช่ไหม?!
ของดีแบบนั้นจะกลืนง่ายได้อย่างไร?
แม้องค์หญิงเหมยหมี่จะดูอ่อนแอลง แต่ความจริงแล้วเธอแค่พยายามบั่นทอนความแข็งแกร่งของจักรวรรดิอื่น!
โดยการใช้เมืองหลวงของเธอเป็นสนามรบ กวาดล้างกองกำลังที่มีประสิทธิภาพจากทุกจักรวรรดิให้สิ้นซาก และความแข็งแกร่งก็จะตกทอดมาถึงปีกพิสุทธิ์
ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี…
แต่สำหรับคำพูดที่ว่าจริงใจของเธอนั้นแท้จริงคิดอย่างไรกันแน่ คิดจะวางอุบายหลอกจักรวรรดิชิงเหย้าหรือไม่? ใครจะรู้ได้กันล่ะ?!