ตอนที่ 341 เสี่ยวอ้ายผู้โหดเหี้ยม
ตอนที่ 341 เสี่ยวอ้ายผู้โหดเหี้ยม
“นากา เจ้าจะไปหานายท่านกับเราไหม? เธอนิสัยดีมากเลยนะ! เธอทำอาหารอร่อยเยอะแยะเลย เหมือนกับเค้กและเนื้ออบแห้งที่เจ้ากำลังกินอยู่ มันวิเศษและอร่อยมาก ฝีมือการทำอาหารของนายท่านขั้นเทพไปเลย!”
เสี่ยวอ้ายหลอกล่อนากา โดยหวังว่านากาจะสามารถร่วมมือกับสวี่หลิงอวิ๋นได้
ขนของเจ้าถั่วชมพูลุกซู่ ทำไมเสี่ยวอ้ายจะต้องชวนนากาไปด้วยกันด้วย? หากมีระดับ 10 ดาวยืนอยู่ตรงหน้าสวี่หลิงอวิ๋น สวี่หลิงอวิ๋ยยังจะเห็นเกอหลัว 9 ดาวอยู่ในสายตาอีกไหม?
แล้วมันจะเจรจาเงื่อนไขกับสวี่หลิงอวิ๋นในอนาคตได้อย่างไร?
ถั่วชมพูฝังศีรษะของมันลงไปในท้องหนาและหลั่งน้ำตาด้วยความโศกเศร้า
เสี่ยวอ้ายจอมเจ้าเล่ห์ตัวนี้มีความงดงามดั่งบุปผา มันเลือกให้นากาเข้ามาเป็นลูกสมุนเพื่อที่จะได้รับความสนใจจากนายท่านสินะ!
น่ารังเกียจเสียจริง!
ถั่วชมพูไม่เคยรู้มาก่อนว่าอีกฝ่ายเรียกสวี่หลิงอวิ๋นว่านายท่าน!
นากาส่ายหัวและพูดว่า “เป็นไปไม่ได้หรอก เผ่าพันธุ์เอเลี่ยนกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ญาติดีกันไม่ได้หรอก!”
แน่นอนว่ามันเห็นถั่วชมพูที่อยู่ตรงนั้น และพูดดูถูกว่า “เจ้าตัวนั้นเป็นพวกเลือดผสมและไม่จัดอยู่ในเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนของเรา เอเลี่ยนอย่างเราไม่มีนิสัยยอมรับนายท่านที่เป็นมนุษย์หรอก!”
ถั่วชมพูรู้สึกมีความสุขทันทีที่ที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายไม่ยอมรับสวี่หลิงอวิ๋นให้เป็นนายท่าน หางปุยของมันกระดิกไปมา!
แต่ว่ามันไม่สนใจคำพูดของนากาที่ว่าไม่ยอมรับนายท่านที่เป็นมนุษย์และไม่นับว่าเกอหลัวเป็นเอเลี่ยนบ้างเลยเหรอ? แน่นอนว่ามันสนใจแต่เรื่องกินต่างหาก!
นอกจากนี้พวกมันยังไม่คิดว่าตัวเองเป็นเอเลี่ยนเต็มตัว!
ถั่วชมพูมีความคิดที่แสนจะเย่อหยิ่ง ถึงอย่างนั้นมันก็มีของอร่อยให้อีกฝ่ายก็แล้วกัน แล้วแกก็เฝ้าดูฉันกินต่อไป!
หลังจากที่นากากินอาหารบนพื้นจนหมดเกลี้ยง มันก็ลูบท้องตัวเอง โธ่เอ๊ย ยังไม่อิ่มเลย!
หากมันทำตามนิสัยปกติของตัวเอง มันคงจะมองหาแหล่งที่มาของอาหารอันแสนอร่อยพวกนี้ แต่ตอนนี้มันรู้แหล่งที่มาแล้ว บางทีนายท่านของเสี่ยวอ้ายอาจจะเป็นคนทำอาหารใช่ไหม?!
ช่างเสียเถอะ…เสี่ยวอ้ายแข็งแกร่งเกินไป และมันไม่สามารถเอาชนะได้!
นากาส่ายสะบัดร่างยาวที่เต็มไปด้วยเกล็ดสีดำของมันออกไป
เจ้าถั่วชมพูถอนหายใจด้วยความโล่งอกและล้มลงกับพื้น
เสี่ยวอ้ายพูดเยาะเย้ยมัน “แกไม่ได้กล้าหาญนักหรือไง? ทำไมถึงหวาดกลัวจนยืนเป็นอัมพาตอยู่บนพื้นล่ะ ก่อนหน้านี้แกก็ไม่ได้สุภาพกับนากานักไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงได้แสดงร่างแท้จริงออกมาล่ะ?”
ถั่วชมพูจ้องเขม็งไปที่เสี่ยวอ้ายและบ่นอุบอิบ “นั่นคือนากาที่กำลังอารมณ์เสีย ส่วนฉันเป็นแค่เอเลี่ยนตัวเล็ก 9 ดาว จะไม่กลัวได้อย่างไรล่ะ?!”
ไม่เอาน่า แกมันก็แค่เจ้าหนู กลัวนากาแต่ไม่กลัวเสี่ยวอ้ายอย่างนั้นเหรอ?
เสี่ยวอ้ายส่ายหัวอันใหญ่โตของมัน ช่างเถอะ อย่าเพิ่งไปยุ่งวุ่นวายกับมันเลย อย่างน้อยมันก็ไม่สร้างความเสียหายให้นายท่าน!
ขณะนี้ยานรบของจักรวรรดิอื่น ๆ ถูกทำลายจนสิ้นซาก มนุษย์ระดับ 9 ดาวทั้งหลายที่ติดอยู่บนพื้นก็ตายเกลื่อน และนี่คือฝีมือของนากา
มันเลือดเย็นและโหดเหี้ยม แต่กลับมีใจที่อดทนต่อเอเลี่ยนด้วยกันเอง
อสุรกายหุ้มเกราะส่งมอบแร่พลังงานทั้งหมดที่รวบรวมมาได้ให้กับนากา ขณะที่นากายัดแร่พลังงานเข้าไปในท้องของมันทีละก้อน
ในท้องของพวกมันจะมีพื้นที่เก็บของอันแสนวิเศษอยู่ กักเก็บได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันต้องการ
แร่พลังงานเท่านี้เพียงพอที่ทำให้มันกินอิ่มไปชั่วขณะหนึ่ง!
จะต้องการอาหารของมนุษย์ไปทำไม? แร่พลังงานพวกนี้ไม่หอมกว่าหรอกหรือ?!
สวี่หลิงอวิ๋นติดต่อไปหาถั่วชมพู และรู้สึกโล่งใจเมื่อรู้ว่าสัตว์เลี้ยงทั้งสองของเธอไม่เป็นอะไร
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” สวี่หลิงอวิ๋นถาม
เท่าที่เธอรู้จักรวรรดิอื่น ๆ ได้ล้มเลิกการช่วยจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์แล้ว พวกเขาไม่กล้าเข้าไปกอบกู้พื้นที่ที่มีสิ่งมีชีวิตระดับ 10 ดาวถึงสองตัว!
พืชพลังงานคืออะไร ดาวเคราะห์คืออะไร? พวกเขาก็มีอยู่เยอะเหมือนกัน! ไม่ขาดเหลือเรื่องเงินด้วย!
แต่เมื่อลองคิดดูว่าพวกเขาได้เสียสละทหารยอดฝีมือหลายนาย พลังชีวิตของพวกเขาก็ปลิวหายไปทันที! พวกเขารู้สึกเหมือนอกหัก! ไม่ต้องการความเจ็บปวดนี้!
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี สถานการณ์อยู่ภาตใต้การควบคุมของเสี่ยวอ้ายแล้ว นายท่านไม่ต้องกังวล!” เสี่ยวอ้ายรายงานสภานการณ์ให้กับสวี่หลิงอวิ๋น และพูดต่อ “นาการะดับ 10 ดาวเป็นเพื่อนเก่าแก่ของฉันเอง นายท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป มันเป็นเอเลี่ยนที่พูดคุยด้วยง่าย!”
ถั่วชมพูมองดูเงียบ ๆ คงจะมีแต่เสี่ยวอ้ายที่คิดว่านากาเป็นเด็กดีหรือเปล่า? มีใครไม่รู้บ้างว่านากาเป็นเอเลี่ยนที่ชอบต่อสู้!
มองดูคราบเลือดที่กระจายบนพื้นดินนั่นสิ เป็นฝีมือนากาทั้งหมด! ถ้าเกิดไม่ชอบใจมันก็จะจับฉีก และนี่คือธรรมชาติของนากา!
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า เธอไม่สนใจว่านากาจะดีหรือร้าย หรือว่ามันจะเป็นคนเจ้าอารมณ์แบบไหน สิ่งเดียวที่เธอต้องการจะรู้คือนากาทำอันตรายอะไรกับเสี่ยวอ้ายและถั่วชมพูได้หรือไม่?
สวี่หลิงอวิ๋นคิดว่ามันคงไม่เป็นอะไรหากมันไม่สร้างอันตราย
เดิมทีเธอคิดว่าการมีเสี่ยวอ้ายที่อยู่ในระดับ 10 ดาวเพียงตัวเดียวอาจง่ายต่อการรับมือ ทว่าตอนนี้กลับมีนากาอีกตัวอยู่ด้วย สวี่หลิงอวิ๋นจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะถอยออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากเป็นแบบนั้นเธอคงไม่ต้องการค่าตอบแทนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์
สวี่หลิงอวิ๋นบอกเสี่ยวอ้ายว่า “แกกับถั่วชมพูออกไปก่อน ฉันจะรอพวกแกอยู่เหนือน่านฟ้าจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์”
“ทำไมล่ะ โฮ่ง?” เสี่ยวอ้ายฉลาดหลักแหลม มันต่อสู้กับมนุษย์มาหลายปี และย่อมรู้ดีว่าแผนการของสวี่หลิงอวิ๋นคือการเข้ายึดครองจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ แต่ทั้งที่พวกมันทำสำเร็จมาครึ่งทางแล้ว ทำไมถึงให้ถอยออกไป?
“นายท่านกังวลเกี่ยวกับนากาเหรอ? ท่านไม่ต้องห่วง ฉันจะต่อสู้กับนากาเอง นากาเอาชนะฉันไม่ได้หรอก!”
เสี่ยวอ้ายแปรสภาพเป็นรูปลักษณ์อันแสนน่ารักของมันให้กลายเป็นใบหน้าขนาดใหญ่มหึมา ฟันของมันดูยาวขึ้นจนลอดออกมาจากปาก ดวงตาเปลี่ยนเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำ ทั้งตัวของอสุรกายยักษ์ดูโหดร้ายขึ้นกว่าครั้งไหน ๆ รังสีพิฆาตแผ่ขยายออกมาจากร่างกายจนทำให้ถั่วชมพูกลัวจนหางจุกตูดและวิ่งหนีไป
นากาที่อยู่ห่างออกไปรู้สึกตกใจกับรังสีพิฆาตที่แผ่ขยายออกมา!
มันรู้สึกกังวลใจมากเมื่อมันลืมตาขึ้นและเห็นเสี่ยวอ้าย ทำไมจู่ ๆ มันถึงตกในอยู่สถานการณ์คับขัน?
เป็นไปได้ไหมที่เจ้าถั่วชมพูจะทำให้เสี่ยวอ้ายรำคาญ? ใช่แล้ว เจ้าเกอหลัวหน้าโง่นั่นชอบสร้างปัญหาอยู่เรื่อย
นากาจึงนอนลงกับพื้น และหลับตาลงอีกครั้ง
“นากา เจ้าลุกขึ้นมาสู้กับเรา ถ้าเจ้าเอาชนะเราได้ เราจะรับฟังคำขอของเจ้า เราจะรับปาก หรือว่าเจ้าจะทำตามคำสั่งของเรา?”
เสี่ยวอ้ายกระแทกเข้าที่ด้านข้างของนากา และร้องคำราม
“ฟ่อ…ทำไมเจ้าถึงประสาทนัก?” นากาลุกขึ้นยืนและมองไปทางเสี่ยวอ้าย “ทำไมเจ้าไม่ไปสู้กับเจ้าเกอหลัวนั่น มาสู้กับข้าทำไม? เจ้าสู้กับข้ามาหลายปีแล้ว เจ้าก็รู้ว่าข้าเอาชนะเจ้าไม่ได้!”
นากาชื่นชอบการต่อสู้ก็จริง แต่มันไม่ใช่พวกโง่เขลา หลังจากดวลฝีมือการต่อสู้กับเสี่ยวอ้ายมาหลายปี มันก็เข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนเถรตรงและแข็งแกร่ง การต่อสู้ของอีกฝ่ายเป็นเหมือนกลอุบายที่โหดเหี้ยม
ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายดุร้ายมาก เพียงแค่ทุบตีสองสามครั้งเกล็ดของมันก็แตกกระจายจนเกือบล้มตาย
นากาผู้ชื่นชอบการต่อสู้สาบานว่าจะไม่ต่อสู้กับเสี่ยวอ้ายอีก ด้วยเหตุนี้มันจึงย้ายบ้านใหม่ แล้วจู่ ๆ มันก็ดันต้องมาประจันหน้ากับอีกฝ่ายอีกครั้ง