ตอนที่ 343 ป่าวประกาศ
ตอนที่ 343 ป่าวประกาศ
“ลูกรัก…สายลับของลูกไว้ใจได้หรือเปล่า? เรากำลังคุยเรื่องเอเลี่ยนกับอสุรกายระดับ 10 ดาวกันอยู่นะ ลูกจะต้องพึ่งพาสายลับไปทำไม?”
“นี่เป็นสายลับทางธุรกิจที่บอกเสด็จพ่อไม่ได้ เอาล่ะ…ลูกจะวางสายก่อน”
เหมยหมี่เล็งเห็นถึงสถานการณ์ภายนอก และรับรู้ได้ว่าบัดนี้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ไร้ซึ่งความหวังแล้ว
แต่ก็ถือว่าไม่เลวทีเดียว ก่อนหน้านี้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์สูญเสียยอดฝีมือระดับ 9 ดาวไปจำนวนมาก และตอนนี้จักรวรรดิอื่นที่ต้องการผลประโยชน์จากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ก็สูญเสียยอดฝีมือระดับ 9 ดาวไปจำนวนมากเช่นกัน
เพียงแต่ไม่รู้ว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะทำอย่างไร เธอยังจะยอมรับข้อเสนออยู่ไหม?
เหมยหมี่ครุ่นคิด ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรมาลองดูที่สวี่หลิงอวิ๋นก่อนดีกว่า
ดังนั้นเธอจึงติดต่อหาสวี่หลิงอวิ๋นอีกครั้ง
“เธอถามว่าฉันจะยังไปที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์อยู่ไหม นี่เธอคิดว่าฉันโง่หรือไง?” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้นขณะมองดูเหมยหมี่ด้วยรอยยิ้ม
“ฉันไม่สน ฉันก็แค่จะรอดูว่าเธอจะกล้ามาหรือเปล่า แต่ถ้าเธอไม่กล้ามาก็ช่างมันเถอะ ฉันก็ไม่ได้คาดหวังอะไรสักหน่อย” เหมยหมี่พูดเบา ๆ และเตรียมตัวจะวางสายสนทนาทางวิดีโอลง
“เดี๋ยวก่อน” สวี่หลิงอวิ๋นรีบโพล่งขึ้นทันที “เงื่อนไขที่เธอบอกก่อนหน้านี้ยังจะนับอยู่ไหม? ถ้าเกิดยังนับอยู่ ฉันก็จะตอบตกลง”
“เธอจะกล้ามาเหรอ? เธอเองก็รู้ว่าเอเลี่ยนระดับ 10 ดาวทั้งสองตัวยังอยู่ที่นี่”
เหมยหมี่มองดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เธอรู้สึกถึงความแตกต่างเล็กน้อย พูดตามหลักเหตุผล ผู้หญิงคนนี้ไม่น่าจะตอบตกลง
“ก็ไม่มีอะไรมากนักหรอก และเธอเองก็คงจะไม่เคยได้ยินประโยคที่ว่าคนจริงไม่พูดเยอะ!”
สวี่หลิงอวิ๋นครุ่นคิดกับตัวเอง เจ้าเอเลี่ยนระดับ 10 ดาวทั้งสองตัวเป็นของเธอ แล้วเธอจะต้องกลัวอะไร?
ส่วนระดับ 9 ดาวที่เหลือนั้นจัดการสบายมาก เพราะอย่างไรเสียระดับ 10 ดาวทั้งสองตัวก็ย่อมร้ายแรงกว่าระดับ 9 ดาวตัวอื่นใช่ไหม?
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นเธอประกาศร่วมกันได้เลย แล้วคืนนี้ฉันจะแสดงให้เธอเห็นถึงพลังของจักรวรรดิชิงเหย้า!”
สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ
“ดี แล้วฉันจะรอดูว่าจักรวรรดิชิงเหย้าของเธอจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน”
ท่ามกลางความมืดมิดยามค่ำคืน เหมยหมี่ปรากฏกายต่อหน้ากล้องวิดีโอถ่ายทอดสดอย่างตรงเวลา เธอดูเฉยเมยและไม่หวาดกลัวอันตรายใด ๆ ราวกับเธอได้ละทิ้งชีวิตและความตายเอาไว้ด้านหลัง
สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มแฉ่ง และดูสบายใจยิ่งนัก
หญิงสาวทั้งสองคนนี้เป็นถึงองค์หญิงของทั้งสองจักรวรรดิ แต่กลับไม่มีใครกล้าดูถูกพวกเธอ
จักรพรรดิจากจักรวรรดิอื่นและที่เหลือ พวกเขาต่างเข้าใจกันดีว่าหากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์รอดพ้นจากสงครามในครั้งนี้ไปได้ องค์หญิงเหมยหมี่จะต้องเป็นที่ประจักษ์ในห้วงดวงดาว
สำหรับสวี่หลิงอวิ๋นแล้ว ไม่มีใครกล้าคัดค้านเธอ และในอนาคตเธอจะได้นั่งอยู่ในตำแหน่งสำคัญของห้วงดาวดาวอย่างแน่นอน
ผู้หญิงทั้งสองคน คนหนึ่งดูสุขุมและเย็นชา ส่วนอีกคนมีชีวิตชีวา ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าสาธารณชนพร้อมกัน ขณะที่ชาวเน็ตจากทั้งสองจักรวรรดิแข่งขันกันส่งเสียงให้กำลังองค์หญิงของพวกเขา
[ดูซิว่าองค์หญิงของเราเท่แค่ไหน เธอเป็นยอดอัจฉริยะระดับ 9 ดาวเชียวนะ!]
[ฮึ่ม! ถ้าไม่ใช่ว่าองค์หญิงของเราสุขภาพไม่ดี เธอก็จะเป็นอัจฉริยะเหมือนกันนั่นแหละ!]
[โย่! เหมือนว่าฉันจะได้ยินเสียงโม้ดังมากจากคอมเมนต์บน เธอสุขภาพไม่ดีอย่างนั้นเหรอ? ฉันเนี่ยสุขภาพดีที่สุดในโลกแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นใครเทียบองค์หญิงสามได้เลย!]
[ใช่ ๆๆ! ถ้าองค์หญิงเหมยหมี่ของพวกแกสุขภาพดี เธอคงจะเป็นระดับ 8 ดาวตั้งแต่หนึ่งขวบ เป็นระดับ 9 ดาวตอนสองขวบ และเป็นระดับ 10 ดาวตั้งแต่สามขวบแล้วล่ะ! แต่จะมาเทียบองค์หญิงสามของเราได้อย่างไร?]
องค์หญิงทั้งสองยังไม่ทันเริ่มพูด แต่ชาวเน็ตทั้งหลายก็เริ่มทะเลาะกันเสียแล้ว
“พอแล้ว ทุกคนหยุดพูดก่อน ฉันออนไลน์มาเพื่ออธิบายบางอย่างให้ทุกคนฟัง!” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มและพูดต่อ “องค์หญิงเหมยหมี่แห่งจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ เงื่อนไขที่เราพูดกันก่อนหน้านี้ยังจะนับอยู่ไหม? ถ้านับ ฉันจะวางแผนไปช่วยเหลือจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ทันที!”
“แน่นอนว่ายังนับอยู่ จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของเราพูดคำไหนคำนั้น!”
องค์หญิงเหมยหมี่เหลือบมองสวี่หลิงอวิ๋น และพูดว่า “หวังว่าท่านจะทำสุดความสามารถ อย่ามาจบชีวิตลงบนพื้นที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของเราแล้วกัน”
เฮอะ ๆ ผู้หญิงคนนี้มีเจตจาไม่ดีเอาเสียเลย ถึงกับสาปแช่งให้เธอตายเลยเหรอ?!
“ท่านวางใจได้ เราจะตายก่อนท่านได้อย่างไร?! ท่านก็แค่ทำใจให้สบาย! ถ้าเราเจอร่างของท่านก่อน เราจะช่วยสร้างสุสานให้ท่านอย่างดีเลย!” สวี่หลิงอวิ๋นพูดและยิ้มเยาะ
เหมยหมี่ช้อนสายตาขึ้น ยิ้มเยาะและพูดตอบ “ก็ดี อย่างนั้นเราจะรอให้ท่านมาเยี่ยมแล้วกัน”
หญิงสาวทั้งสองวางสายวิดีโอลงพร้อมกันโดยไม่ได้กล่าวอำลาอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องการหลุดพ้นจากสายตาของสาธารณชน
หลังจากสวี่หลิงอวิ๋นวางสายลง เธอก็ดีดนิ้วขึ้นและออกคำสั่งให้ยานรบทั้งหมดไปรวมตัวกันที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ทันที
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่จำเป็นต้องใช้ยานรบ แต่ก็ยังต้องทำเช่นนี้อยู่ดี!
ในกรณีนี้ เธอก็แค่ต้องพาเอเลี่ยนระดับ 10 ดาวทั้งสองตัวออกไปเท่านั้น ไม่อย่างนั้นองค์หญิงเหมยหมี่จะคิดว่าโชคเข้าข้างเธอ และไม่ยอมจ่ายค่าตอบแทนให้เธอ
ยานรบของจักรวรรดิชิงเหย้ารีบทะยานเข้าไปด้านข้างสวี่หลิงอวิ๋น เพื่อรอให้องค์หญิงสามออกคำสั่ง
ในที่สุดสวี่หลิงอวิ๋นก็เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของจักรวรรดิชิงเหย้าจากการมองดูกองทัพยานรบที่อัดแน่นกันเหมือนฝูงตั๊กแตน
“องค์หญิงสาม พวกเรามารายงานตัว!” จอมพลก็อดวิน พ่อของโอคาซีลุกขึ้นยืนและพูดขึ้น
“สวัสดี ท่านจอมพลก็อดวิน! สวัสดีทุกคน ฉันคือสวี่หลิงอวิ๋น”
ทุกคนในการประชุมทางวิดีโอมองดูรูปลักษณ์อันอ่อนเยาว์ของสวี่หลิงอวิ๋น เด็กสาวอายุสิบแปดปีคนนี้กำลังท้าทายหายนะอันยากลำบากที่ไม่เคยมีใครทำได้ในประวัติศาสตร์มาก่อน
เธอจะเอาชนะสิ่งมีชีวิตระดับ 10 ดาวทั้งสองตัวได้อย่างไร?
โอคาซียืนอยู่ด้านหลังสวี่หลิงอวิ๋น พวกเขาทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกัน
จอมพลก็อดวินรู้สึกพอใจที่ลูกสะใภ้ของเขาจะกลายเป็นจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิชิงเหย้าในอนาคต!
ใครจะไม่มีความสุขกับเรื่องนี้บ้างล่ะ?
จอมพลทั้งหลายต่างรู้สึกอิจฉาจอมพลก็อดวินเป็นอย่างมาก เขาช่างโชคดีเหลือเกิน ถ้าไม่ว่าลูกชายของเขาหล่อเหลา ตระกูลแอนดรูว์จะสอยองค์หญิงสามลงมาได้อย่างไร?
“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงสาม!”
“องค์หญิงสาม หากท่านมีรับสั่งอะไร รับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรีบลงมือทันที!”
“องค์หญิงสามบอกคำสั่งการมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ วันนี้จะต้องทำอะไรบ้าง?”
…
เหล่าจอมพลต่างแสดงออกถึงความทะเยอทะยาน พวกเขาเชื่อว่าองค์หญิงสามจะต้องให้คำตอบที่น่าพึงพอใจ และวันนี้จักรวรรดิชิงเหย้าจะประจักษ์ต่อพันธมิตรห้วงดวงดาวทั้งปวง
พวกเขาไม่กลัวความพ่ายแพ้เหรอ? ตลกแล้ว!
ไปกับองค์หญิงสามทั้งคนจะแพ้ได้อย่างไร? ถึงต่อให้แพ้แล้วจะอย่างไร ทำไมจักรวรรดิอื่นถึงกลัวความพ่ายแพ้นัก? พวกเขาไม่กลัวความอับอายหรอก
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูท่าทางกระตือรือร้นของทุกคนด้วยความพึงพอใจ ใช่แล้ว นี่คือสิ่งที่ต้องการ
“ก่อนอื่นเราขอบคุณทุกท่านที่เต็มใจมาช่วยเรา แต่ตอนนี้มีหนึ่งสิ่งที่เราอยากจะบอกทุกท่าน ทุกท่านไม่ต้องกังวลกับสิ่งมีชีวิตระดับ 10 ดาวทั้งสองตัวนั้นไป” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูวิดีโอและพูดต่อ “ปล่อยให้เราจัดการพวกมันทั้งสองตัวเอง!”