ตอนที่ 353 สวี่รุ่ยอวิ๋นคนไร้แผ่นดิน!
ตอนที่ 353 สวี่รุ่ยอวิ๋นคนไร้แผ่นดิน!
“ได้เลย ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ตามพวกเรามาได้ โฮ่ง!”
ถั่วชมพูรู้สึกถึงความสูญเสีย มันนอนตะแคงและไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไป!
อ๊ากก! มันจะต้องหลุดออกจากความเป็นที่โปรดปรานใช่ไหม? ในอนาคตมันจะยังกินเค้ก อาหารกระป๋อง มันเทศหวาน เนื้ออบแห้ง… และของอื่น ๆ ได้อยู่อีกไหม?!
ในขณะเดียวกัน สวี่หลิงอวิ๋นเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาตรงหน้าเธอ ด้านหลังมีกลุ่มคนเดินตามมาอย่างใกล้ชิด
เมื่อมองดูให้ดี นั่นองค์หญิงเหมยหมี่หรือเปล่า? เธอออกมาจากห้องใต้ดินแล้วเหรอ?!
เหมยหมี่เดินเข้ามาหาสวี่หลิงอวิ๋นทางด้านหน้า
“สวัสดี องค์หญิงสาม” ใบหน้าของเหมยหมี่เรียบเฉย นัยน์ตาของเธอดูเยือกเย็น
“สวัสดี องค์หญิงเหมยหมี่” สวี่หลิงอวิ๋นทักทายกลับ
ทั้งสองคนสบตากัน ต่างคนต่างรู้สึกเลื่อมใสกันและกันเป็นเวลานาน
สวี่หลิงอวิ๋นไม่กล้าดูถูกหญิงสาวตรงหน้า ช่างเป็นผู้หญิงที่สุขุมเหลือเกิน ทั้งที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ตกอยู่ในช่วงเวลาวิกฤต แต่เธอกลับสามารถควบคุมสถานการณ์โดยรวมด้วยท่าทีที่ดูเยือกเย็นแต่น่าเกรงขามแบบนี้ได้
อีกทั้งยังวางแผนทำลายจักรวรรดิอื่นด้วยวิธีการเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์สามารถหมดเสี้ยนหนามได้ในอนาคต
เธอ
เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจมาก!
เหมยหมี่ไม่กล้าแม้แต่จะดูถูกสวี่หลิงอวิ๋นเช่นกัน
สวี่หลิงอวิ๋นคนนี้สามารถแก้ไขสถานการณ์ของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ที่ถูกเอเลี่ยนปิดล้อมได้ด้วยความแข็งแกร่งของเธอเพียงคนเดียว และนั่นแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งเพียงใด…
แม้ทุกคนจะคิดว่าสวี่หลิงอวิ๋นโชคดี แต่ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมของเธอ เอเลี่ยนทั้งสองตัวนี้จะปักหลักอยู่กับเธองั้นเหรอ?!
คนอื่นอาจคิดว่าถ้าพวกเขามีฝีมือการทำอาหารเหมือนกับสวี่หลิงอวิ๋น บางทีพวกเขาอาจจะคลี่คลายวิกฤตการณ์เอเลี่ยนได้
ตอนแรกเหมยหมี่ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ทว่าเธอกลับคิดกลับกันและได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
แต่นี่คือสิ่งมีชีวิตระดับ 10 ดาว
แม้ว่าพวกเธอจะมีทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยม แต่แล้วพวกเธอจะกล้าแสดงตัวต่อหน้าสิ่งมีชีวิตทั้งสองหรือ?
แน่นอนว่า…คงไม่กล้า?
ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นคนนี้กลับกล้าหาญ! เธอลงจอดยานอวกาศต่อหน้าสิ่งมีชีวิตทั้งสองโดยตรง อีกทั้งยังหยิบอาหารออกมาด้วยท่าทีสงบทั้งที่กำลังตกอยู่ในภัยคุกคามของสิ่งมีชีวิตทั้งสอง
เธอกล้าที่จะสื่อสารและเอาอาหารมาให้พวกมัน
สถานการณ์ทั้งหมดเรียบร้อยและเป็นระเบียบมาก กล้าหาญจริง ๆ
“ขอบใจที่ท่านมาช่วยเหลือจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของเรา” เหมยหมี่โค้งคำนับอย่างสุขุมอีกครั้ง
ขณะที่ชาวเน็ตทั้งหลายกำลังมองดูช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์
[จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกภูมิใจขึ้นมาซะงั้น! เพราะว่าฉันเป็นชาวชิงเหย้าน่ะเหรอ? ไม่ใช่หรอก! แต่เป็นเพราะว่าเรามีองค์หญิงสามต่างหาก!]
[เหมือนคอมเมนต์บน!]
[เหมือนคอมเมนต์บน!]
…
สวี่หลิงอวิ๋นรีบช่วยให้เหมยหมี่ลุกขึ้นมาเมื่อมองเห็นการกระทำของเธอ “ไม่ต้องคำนับเราหรอก ถ้าขอบคุณเราแบบนี้แล้วเราจะกล้าร้องขอของตอบแทนจากท่านได้อย่างไรล่ะ?!”
เหมยหมี่แทบจะสะดุดล้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น!
ทำไมปากของผู้หญิงคนนี้ถึงไม่มีหูรูดเอาเสียเลย? กล้าพูดออกมาได้อย่างไร?!
คิดว่าเธอกล้าเป็นคนที่ไม่ตอบแทนบุญคุณใครอย่างนั้นเหรอ?!
สวี่หลิงอวิ๋นเกาหัวและหัวเราะ ‘ฮ่า ๆ’
“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น เราแค่ล้อเล่นน่ะ!”
เหมยหมี่พูดไม่ออก ได้แต่จ้องมองเธออย่างเฉยเมย
เมื่อผ่านไปนาน รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้น
“เรามีของขวัญมาให้องค์หญิงสามด้วยนะ หวังว่าท่านจะชอบที่ได้เห็นมัน!”
ของขวัญ? ของขวัญอะไร? สวี่หลิงอวิ๋นมองดูรอยยิ้มของหญิงสาวตรงหน้า และรับรู้ว่าเรื่องเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น!
จริงด้วย!
“องค์ชายรองจากจักรวรรดิของท่านมาเยี่ยมจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของเรา โชคดีในตอนที่พวกเอเลี่ยนมารุกราน เราปกป้องเขาไว้ได้อย่างดี เพราะอย่างนั้น…” เหมยหมี่ยิ้มเยาะเย้ยอีกฝ่ายกลับ “ยินดีด้วย ท่านจะได้อยู่ร่วมเป็นครอบครัวอีกครั้ง!”
เมื่อพูดเช่นนั้น กลุ่มผู้ชายที่ดูคล้ายคลึงกับองครักษ์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับชายผอมซูบคนหนึ่ง!
สวี่หลิงอวิ๋นเกือบจะจำเขาไม่ได้!
ทว่าหากมองให้ดีกว่านี้ นี่คือไอ้พี่รองสารเลวผู้โชคร้าย…สวี่รุ่ยอวิ๋น!
สวี่รุ่ยอวิ๋นมองดูท้องฟ้าและแสงอาทิตย์ที่ลับสายตาไปนาน ชีวิตที่เหลือจากนี้มีไม่มากนัก ก่อนที่เขาจะเห็นร่างที่คุ้นเคยปรากฏอยู่ตรงหน้า นั่นคือน้องสาวของเขา สวี่หลิงอวิ๋น!
หากพูดถึงคนที่เขาไม่อยากพบเจอในชีวิต สวี่หลิงอวิ๋นจะต้องเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน!
เขาพนันได้เลยว่าสวี่หลิงอวิ๋นรู้ทุกอย่างที่ตัวเองได้ทำลงไป!
“โย่ นั่นใครน่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นค่อย ๆ พูดต่อว่า “เราจะบอกอะไรให้นะองค์หญิงเหมยหมี่ พี่ชายรองของเราไม่ใส่เสื้อผ้าสกปรกแล้วยืนอยู่ตรงนั้นหรอก เราเดาว่าท่านคงเจอเข้ากับพวกหลอกลวงแล้วล่ะ?!”
เหมยหมี่ยิ้ม “อืม…ก็คงจะอย่างนั้น! ในเมื่อองค์หญิงสามบอกว่าไม่ใช่ หัวหน้าองครักษ์!”
หัวหน้าองครักษ์เดินเข้ามา “ฝ่าบาท ท่านมีรับสั่งอะไรเหรอพ่ะย่ะค่ะ?”
“เอาตัวคนหลอกลวงผู้นี้ออกไปยิงทิ้งซะ!”
ยิงทิ้ง?!
สวี่รุ่ยอวิ๋นที่เพิ่งรู้สึกละอายใจว่าอาจจะถูกจดจำได้ พลันรู้สึกตกตะลึงเมื่อได้ยินว่าตัวเองกำลังจะถูกยิงทิ้ง
เขารีบวิ่งเข้าไปกอดต้นขาของสวี่หลิงอวิ๋น “น้องสาวที่รัก! ทั้งหมดเป็นความผิดของพี่เอง เจ้าต้องช่วยพี่นะ! พี่ยังไม่อยากตาย!”
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูสวี่รุ่ยอวิ๋นโดยไม่พูดไม่จา
พี่รองของเธอยังมีความเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า? เขารู้สึกละอายต่อหน้าผู้คนทั้งห้วงดวงดาวบ้างไหม?!
เหมยหมี่อยากจะเจรจาเงื่อนไขกับเธอตั้งแต่แรก อีกทั้งต้องการสร้างสถานการณ์นี้เข้าไปเพื่อทำให้จักรวรรดิชิงเหย้ารู้สึกอับอาย
แต่ถึงอย่างนั้น ไอ้พี่รองหน้าโง่ก็ยังคงไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม?!
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเหมยหมี่จะเต็มใจฆ่าพี่รองจริง ๆ!
แน่นอนว่าเหมยหมี่มองดูสวี่หลิงอวิ๋นแล้วยิ้มเยาะ “อ๊ะ องครักษ์ รีบไปดึงตัวผู้ชายคนนั้นออกมาสิ!?”
องครักษ์เอื้อมมือออกไปดึงสวี่รุ่ยอวิ๋นอย่างแรงขณะก่นด่า “เร็วเข้า! เจ้าคนหลอกลวง ปล่อยมือออกจากเสื้อผ้าขององค์หญิงสามผู้สูงส่งเดี๋ยวนี้!”
สวี่รุ่ยอวิ๋นมองดูสวี่หลิงอวิ๋นด้วยสายตาอาฆาตแค้น
ทำไมสวี่หลิงอวิ๋นถึงไม่ยอมช่วยชีวิตเขา?!
ทำไมเธอถึงช่างโหดเหี้ยมนัก?! ก็เห็นกันอยู่ว่าเธอสามารถช่วยเขาได้!
สวี่หลิงอวิ๋นไม่แม้แต่จะมองดู และหัวเราะเยาะ “โอเค องค์หญิงเหมยหมี่ พูดสิ่งที่ท่านต้องการมาเถอะ! ทำไมจะต้องอ้อมค้อมด้วย น่าสนใจจังเลยนะ…”
สวี่หลิงอวิ๋นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และปิดการถ่ายทอดสด
ผู้ชมทั้งหลายยังคงเฝ้าดูอย่างเพลิดเพลิน แต่ทันทีที่สวี่หลิงอวิ๋นปิดการถ่ายทอดสด ทุกคนก็ถึงกับคิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น?!
เกิดอะไรขึ้น? แน่นอนว่าเห็นแก่ความอัปยศอดสูของวงศ์ตระกูลอย่างไรล่ะ!
สวี่รุ่ยอวิ๋นถูกพามาโยนทิ้งเหมือนสุนัขข้างทาง และถูกเพิกเฉยอย่างไม่ใยดี
หัวใจของสวี่รุ่ยอวิ๋นสับสนและขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก…ทุกอย่างเป็นเพราะนังหญิงสารเลวเหมยหมี่!
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอหลอกลวงเขา เขาจะตกต่ำจนถึงจุดนี้เหรอ?!
และสวี่หลิงอวิ๋น ทั้งที่เธอรู้ว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอ แต่กลับเพิกเฉยและมองดูเขาถูกทำให้ขายขี้หน้า!
นอกจากนี้ เขายังเห็นจอมพลและพลเอกอีกหลายคนที่ยืนอยู่ด้านหลังสวี่หลิงอวิ๋นด้วยความเคารพ แต่กลับเมินเฉยต่อเขา!
ในอดีตจอมพลเหล่านี้มองดูเขาด้วยความเคารพนับถือ อีกทั้งยังให้ความสำคัญแก่เขา
แต่ว่าตอนนี้? เขาแค่ตกลงมายังจุดต้อยต่ำ แล้วคนพวกนั้นจะเยาะเย้ยเขาอย่างไรก็ได้เหรอ?!
เขาถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินมาเป็นเวลานานแล้ว และไม่รู้ว่าตอนนี้ระบอบการปกครองของจักรวรรดิชิงเหย้าได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
อาทิ สวี่หลิงอวิ๋นจะกลายเป็นผู้ครองบัลลังก์คนต่อไปของจักรวรรดิชิงเหย้า ซึ่งอยู่เหนือกว่าองค์ชายใหญ่อีกที!