ตอนที่ 354 ออกเดินทาง
ตอนที่ 354 ออกเดินทาง
ยกตัวอย่าง เช่น สถานการณ์ยากลำบากของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ จักรวรรดิอื่นไม่สามารถทำอะไรได้ แต่สวี่หลิงอวิ๋นกลับเข้าถึงการปิดล้อมได้โดยไม่ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว
มีหลายอย่างที่สวี่รุ่ยอวิ๋นยังไม่รู้ เขาไม่รู้ว่าจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ไม่ใช่จักรวรรดิที่ทรงพลังอีกต่อไป แม้จะสามารถแก้สถานการณ์หายนะได้ทันท่วงที แต่ความแข็งแกร่งก็ลดลงอย่างมากเพราะความขัดแย้งภายในราชวงศ์เช่นกัน
ขณะที่จักรวรรดิชิงเหย้าค่อย ๆ ไต่ขึ้นมาเป็นจักรวรรดิที่ทรงพลังยิ่งกว่า
สิ่งที่เขาไม่แม้แต่จะรู้คือ ยัยน้องสาวที่เขามองเป็นเสี้ยนหนามในการขึ้นครองบัลลังค์ที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าของเขาก็ยังมีสัตว์เลี้ยงเป็นถึงอสุรกายยักษ์ระดับ 10 ดาว
…
ยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกมากมายที่สวี่รุ่ยอวิ๋นยังไม่ได้รับรู้
และมีเพียงเหตุผลเดียวที่เขาคิดว่าเหล่าจอมพลทั้งหลายที่ติดตามสวี่หลิงอวิ๋นนั้นเป็นเพราะความแข็งแกร่งของเธอ พวกเขาจึงยอมก้มหัวอันสูงส่งของพวกเขาเองด้วยความเต็มใจ
สวี่รุ่ยอวิ๋นรู้สึกเกลียดชังอย่างยิ่ง เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงตกมาอยู่จุดนี้ได้ และเขาไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เขาถึงกลายเป็นเพียงสุนัขข้างถนน
ทุกคนต่างพากันรังเกียจเขา!
ตอนนี้ประชาชนในจักรวรรดิชิงเหย้ายังไม่รู้ว่าสวี่รุ่ยอวิ๋นเป็นคนขโมยแผนผังระบบป้องกันเมืองไป
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่า หากพวกเขารู้ พวกเขาก็ต้องพร้อมใจกันมารุมประชาทัณฑ์เขาด้วยความโกรธแค้นเป็นแน่!
โดยเฉพาะกลุ่มสมาชิกครอบครัวของเหล่าทหารที่เสียชีวิตลงในสงคราม พวกเขาจะต้องถลกหนังของเขาออกทั้งตัวอย่างไม่ต้องสงสัย!
ผู้คนระดับสูงย่อมรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี ความลับดังกล่าวไม่สามารถกล่าวว่าเป็นความลับได้อีกต่อไป เพราะฉะนั้น เขาต้องไร้ยางอายขนาดไหนถึงมาขอให้คนอื่นแสดงความเคารพต่อองค์ชายขายชาติเช่นเขาคนนี้?!
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกไม่สบายใจเมื่อมองดูใบหน้าของสวี่รุ่ยอวิ๋น!
ทำไมคนคนนี้ถึงเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้? หากไม่ใช่ว่าเขาเป็นลูกชายของเสด็จพ่อ และยังเป็นพี่รองของเธอ สวี่หลิงอวิ๋นคงจะบีบคอเขาให้ตายไปเสีย!
ยังจะเสนอหน้ามีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไรกัน?!
“องค์หญิงสามเป็นคนใจถึงดีนะ ถ้างั้นเรามาพูดกันอย่างตรงไปตรงมาเถอะ” องค์หญิงเหมยหมี่ยิ้มเบา ๆ ขณะมองดูสวี่หลิงอวิ๋นและพูดว่า “เราจะมอบของตอบแทนที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ให้ท่าน”
“แต่ว่าเราช่วยปกป้ององค์ชายรองจากจักรวรรดิของท่าน เพราะงั้นท่านก็ควรจะตอบแทนเราสักหน่อยหรือเปล่า?”
สวี่หลิงอวิ๋นหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินเช่นนั้น “องค์หญิงเหมยหมี่ ท่านนี่เป็นคนตลกดีนะ ท่านปกป้ององค์ชายรองของเราอย่างนั้นเหรอ? ท่านไม่ต้องปกป้องหรอก…แค่ฆ่าเขาซะ”
เมื่อได้ยินสวี่หลิงอวิ๋นตอบเช่นนี้ สวี่รุ่ยอวิ๋นก็ระเบิดความโกรธออกมา
“เอาเลย สวี่หลิงอวิ๋น เจ้าอยากจะฆ่าพี่นักใช่ไหม? ถ้าพี่ตายไปแล้วคิดว่าเจ้าจะได้สืบทอดบัลลังก์หรือไง?!”
ความคิดของสวี่รุ่ยอวิ๋นอาจจะยังไม่ชัดเจนแจ่มแจ้งนัก
จอมพลทั้งหลายที่อยู่ด้านหลังสวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้ว ขณะที่นายพลคนหนึ่งเดินตรงเข้าไป และตบหน้าเจ้าคนโง่เขลาให้สลบไป…
“พูดอะไรไร้สาระอยู่ได้?! คิดว่าแกจะได้สืบทอดบัลลังก์หรือไง?! สมองกลับไปแล้วเหรอ!”
“ในเมื่อฆ่าเขาได้ เราก็จะป่าวประกาศให้พันธมิตรห้วงดวงดาวรับรู้ด้วย” องค์หญิงเหมยหมี่พูดเบา ๆ ”เราคิดว่าหลายคนคงจะสนใจการต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ของจักรวรรดิท่านแน่ ๆ”
“อีกอย่าง ถ้าประชาชนทั้งหลายรู้ว่าคนจำนวนมากในจักรวรรดิของท่านล้มตายเป็นเพราะองค์ชายรองขายข้อมูลทางการทหารและแผนผังระบบป้องกันเมือง ประชาชนจะมีทัศนคติต่อราชวงศ์ของท่านอย่างไรกันนะ?”
คำพูดขององค์หญิงเหมยหมี่เป็นดั่งภัยคุกคาม เป็นการข่มขู่อย่างเห็นได้ชัด
สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มเยาะ “ทัศนคติต่อราชวงศ์ของเรางั้นเหรอ?”
จากนั้นเธอส่ายหัว และพูดขึ้นว่า “อย่าทำเหมือนกับเราสองคนเป็นคนโง่เลย ประชาชนของเรารู้ดีว่าใครถูกใครผิด”
“สำหรับสวี่รุ่ยอวิ๋น เขาจะได้รับการลงโทษที่สมควรจะได้รับ ถ้าพวกท่านยินดีจะลงโทษเขาแทนพวกเรา เราก็ไม่รังเกียจ”
เหมยหมี่พยักหน้า “ดูเหมือนว่าองค์หญิงจะไม่เต็มใจไถ่ตัวองค์ชายออกไป อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาอยู่กับเราที่นี่แล้วกัน!”
ขณะนี้ ชาวเน็ตทั้งหลายจากชิงเหย้ายังคงคาดเดาว่าทำไมองค์ชายรองถึงไม่ได้ปรากฏตัวเป็นเวลานาน อีกทั้งยังไม่มีรายชื่อองค์ชายอยู่ในสนามรบ
ดาวเคราะห์ที่สวี่รุ่ยอวิ๋นประจำการอยู่ก่อนหน้านั้นได้ถูกเปลี่ยนเป็นชื่อของนายพลคนหนึ่ง และนั่นทำให้ชาวเน็ตรู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
[หรือว่าองค์ชายรองจะไปเป็นแขกรับเชิญที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์และถูกจับขัง?!]
[ไม่เห็นจะเคยได้ยินว่าองค์ชายรองไปเป็นแขกรับเชิญเลยนี่? ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรอกนะ! คุณลองมองดูทัศนคติขององค์หญิงเหมยหมี่ที่มีต่อองค์ชายรองสิ มันไม่เหมือนกับการดูแลแขกวีไอพีเลยสักนิด]
[หรือว่าองค์ชายรองจะทำอะไรไม่ดีไว้หรือเปล่า? รู้สึกไหมว่าองค์หญิงสามดูไม่สนใจองค์ชายรองเลย?]
[โอ้ แต่องค์หญิงสามบอกว่าคนนี้ไม่ใช่องค์ชายรอง พวกคุณลองเดาดูสิว่าใช่หรือเปล่า!]
[เฮ้อ คอมเมนต์บนไร้เดียงสาเหลือเกินนะ! องค์หญิงเหมยหมี่จะชี้ตัวผิดคนได้อย่างไร? อีกอย่างองค์หญิงสามจะปิดกล้องหนีเหรอ?]
[ใช่! ฉันพนันได้เลยว่าจะต้องเป็นองค์ชายรองแน่ ๆ!]
จักรพรรดิและจักรพรรดินีที่อยู่ในพระราชวังรู้สึกสับสนเช่นกัน
เจ้ารองไม่เป็นอะไรจริงด้วย! แต่ทำไมถึงยังมีชีวิตรอดอยู่อีก?!
หากเด็กคนนี้ตาย พวกเขาก็ยังพอที่จะหาวิธีรักษาชื่อเสียงของพวกเขาเอาไว้ได้ แต่ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ และจะต้องถูกตั้งข้อหาเพื่อการลงโทษอย่างแน่นอน!
ตราบใดที่เขากระทำผิด แม้แต่โทษประหารชีวิตก็ไม่สามารถปลดปล่อยความโกรธของประชาชนได้!
ถ้าเขาไม่เปล่งเสียงออกมาเบา ๆ เรื่องสารเลวพรรค์นั้นจะไม่หายไปหรืออย่างไร? มันน่าขายขี้หน้าเสียไม่มีกับการกอดขาน้องสาวและกรีดร้องออกมาเช่นนั้น!
ใบหน้าของจักรพรรดินีซีดเผือดด้วยความโกรธจัด!
ไอ้ลูกเวรนี่! ละทิ้งเกียรติยศของราชวงศ์ไปหมดแล้วจริง ๆ สินะ!
ราชวงศ์ไหนจะมีลูกหลานคิดทรยศเช่นนี้? อยู่เพื่อบัลลังก์แท้ ๆ แต่กลับไม่รู้จักรักษาความทรนงเอาไว้เสียเลย
ถึงจะกำลังจะตาย แต่ก็ควรจะรักษากิริยาท่าทางสักหน่อย!
“หวังว่าภายในอีกสามวันจักรวรรดิของท่านจะเข้ามาสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีกับจักรวรรดิของเรา” องค์หญิงเหมยหมี่พูดขึ้น “ถึงตอนนั้นถ้าท่านเปลี่ยนใจและอยากจะไถ่ตัวองค์ชายรอง เราก็ยินดีเสมอ”
“และฉันขอย้ำ…เราจะให้เวลาท่านแค่สามวันเท่านั้น”
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้าด้วยท่าทีเฉยเมยและมองดูพี่ชายรองผู้โชคร้าย ทั้งที่เธออยากจะฆ่าผู้ชายคนนี้ให้ตายไปเสีย แต่กลับต้องนึกถึงความรู้สึกของพ่อแม่ก่อน
สวี่หลิงอวิ๋นได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ ทว่าเธอจะเอาเอเลี่ยนหุ้มเปลือกทั้งหมดกลับไปได้อย่างไร?!
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนลำบากใจ
เสี่ยวอ้ายทุบหน้าอกของมันเบา ๆ “โฮ่ง! นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง! เสี่ยวอ้ายมีวิธีจัดการ!”
“ท่านบอกมาเลยว่าอยากจะพาพวกมันไปที่ดาวเคราะห์ดวงไหน โฮ่ง!”
ทันทีที่สวี่หลิงอวิ๋นได้ยินว่าเสี่ยวอ้ายจะควบคุมพวกมันผ่านทางเชื่อมมิติ เธอจึงรู้สึกพึงพอใจมาก!
“งั้นพาไปดาวเคราะห์ปลาหมึก!”
ปลาหมึกยักษ์บนดาวเคราะห์ปลาหมึกถูกกินไปจนเกือบหมดแล้ว ตัวที่รอดตายล้วนเป็นเอเลี่ยนปลาหมึกตัวเล็ก พวกมันจะถูกกักขังเอาไว้และไม่สามารถกินได้
ตอนนี้เธอมีกั้งมากกว่าหนึ่งแสนตัว เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการเปิดกิจการร้านค้าของเธอไปอีกสักพักแล้ว!
เธอแสดงแผนที่ให้เสี่ยวอ้ายดูอีกครั้ง และเสี่ยวอ้ายก็พยักหน้าเพื่อแสดงว่ามันรับรู้
มันเปิดปาก ผิวปาก และหลังจากนั้นทางเชื่อมมิติขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น เอเลี่ยนหุ้มเปลือกทั้งหลายคืบคลานเข้าไปเพราะเกรงกลัวว่าทำให้เสี่ยวอ้ายขุ่นเคือง
นากาสะบัดหางและตามสวี่หลิงอวิ๋นไปที่ยานรบ
มันกำลังจะจากไป ทว่ากลับกวาดสวี่รุ่ยอวิ๋นออกจากพื้นไปด้วย!
หัวใจของเหมยหมี่กระชับแน่นขึ้น “องค์หญิงสาม วางคนลงดีกว่าไหม?! ไหนท่านบอกว่าไม่ใช่พี่ชายรองของท่านไง”
สวี่หลิงอวิ๋นหันกลับมาและพบว่านากากำลังลากสวี่รุ่ยอวิ๋นกลับไป เธอก็แอบชมมันเบา ๆ