ตอนที่ 370 มาถึงดาวสมุทร
ตอนที่ 370 มาถึงดาวสมุทร
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับดาวสมุทรเป็นอย่างมาก และมุ่งหน้าไปที่นั่นอย่างมีความสุข
แน่นอนว่าก่อนที่เธอจะออกเดินทาง เธอยังไม่ลืมหยิบอาหารมากมายไปด้วย อย่างไรเสีย…วิวัฒนาการของกิบสันก็เกิดขึ้นจากอาหารของเธอ
สำหรับกิจกรรมที่น่าสนุกเช่นนี้ สัตว์เลี้ยงทั้งสามตัวจะไม่เข้าร่วมได้อย่างไร?
โดยเฉพาะถั่วชมพู บางทีนี่อาจจะเป็นนิสัยเฉพาะตัวของแมว มันรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินเกี่ยวกับของที่มีกลิ่นคาว ทันทีที่มันได้ยินว่าเธอกำลังจะมาเยือนเมืองดาวสมุทรของชาวเงือก น้ำลายของมันก็ยิ่งหยดย้อยลงมา
“โฮ่ง! ถ้าแกไปแล้วเอเลี่ยนหุ้มเปลือกพวกนั้นล่ะ?” เสี่ยวอ้ายสอบบทเรียนให้มัน “แกเริ่มทำแล้วก็ต้องทำให้เสร็จ ถ้าแกจะมาด้วย ก็อย่ามาโทษกรงเล็บของเสี่ยวอ้ายที่โหดร้ายแล้วกัน!”
ถั่วชมพูครวญครางและไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากกลับไปปราบเหล่าเอเลี่ยนบนดาวเคราะห์หงหยางต่อ
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกผิดกับถั่วชมพูเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงให้สัญญาและพูดว่า “แกอดทนไปก่อนนะ รอจนกว่าฉันจะตั้งหลักในดาวสมุทรได้ แล้วจะพาแกไปกินของอร่อย ๆ”
ถั่วชมพูจะพูดอะไรได้? ทำได้เพียงแต่พยักหน้า
ต้นกล้าตัวน้อยในหัวของถั่วชมพูยืนกอดอกและทุบตีมันอีกครั้ง ไม่ยอมฝึกฝนให้ดีแต่จะไปเที่ยวเตร็ดเตร่หรือไร?
ดังนั้นสวี่หลิงอวิ๋นจึงพาสัตว์เลี้ยงสองตัวคือ นากาและเสี่ยวอ้ายไปที่ดาวสมุทร
“ว้าว ที่นี่เป็นมหาสมุทรทั้งหมดจริงด้วย” สวี่หลิงอวิ๋นนอนผิงหน้าต่างอยู่บนยานอวกาศ จ้องมองลงไปด้านล่างและพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“โฮ่ง! แน่นอนสิ ไม่อย่างนั้นทำไมมันถึงเรียกว่าดาวสมุทรล่ะ?” เสี่ยวอ้ายพูดแนะนำสวี่หลิงอวิ๋นราวกับผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นมัคคุเทศก์ “ก็เกือบทั้งเก้าสิบแปดเปอร์เซ็นต์ของดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นมหาสมุทร มีแค่สองเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เป็นพื้นดิน”
“และอย่าได้ดูถูกเงือกที่นี่เชียว โฮ่ง!” เสี่ยวอ้ายเล่า “เงือกพวกนี้เกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งระดับ 6 ดาว แตกต่างจากมนุษย์ พวกเขาแทบจะอยู่ยงคงกระพันในน้ำ แม้ว่าเสี่ยวอ้ายจะเอาชนะจักรพรรดิเงือกที่นี่ได้ก็เถอะ!”
“ฟ่อ เขาแข็งแกร่งกันจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?” นากาเอ่ยถามเมื่อได้ยินเช่นนั้น
มันไม่สามารถเอาชนะเสี่ยวอ้ายได้ แต่มันกลับไม่เคยคิดว่ามันจะเอาชนะพวกปลาไม่ได้
“เจ้าอยากลองไหมล่ะ? โฮ่ง?!” เสี่ยวอ้ายเหล่มองมัน
“ถ้าต้องการต่อสู้ ก็แค่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเสี่ยวอ้าย เสี่ยวอ้ายเจรจากับจักรพรรดิเงือกที่นี่ได้ โฮ่ง!” เสี่ยวอ้ายพูด
“เสี่ยวอ้าย แกรู้จักจักรพรรดิเงือกของที่นี่ด้วยเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูเสี่ยวอ้ายด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าเสี่ยวอ้ายจะรู้จักจักรพรรดิเงือกด้วย
ไม่ว่าจะไปที่ไหน จะต้องมีใครสักคนรู้จักมันเสมอ
“ก็ครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โฮ่ง!” เสี่ยวอ้ายพูดอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว “ไม่ได้คุ้นเคยกันนักหรอก แต่ตอนนั้นฉันหิวมากก็เลยแวะมาที่นี่โดยบังเอิญ และเกือบจะกินองค์หญิงเงือกเข้า จักรพรรดิเลยออกมาต่อสู้กับฉัน แต่ก็แพ้ไปโฮ่ง!”
เสี่ยวอ้ายดูเขินเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มันมากเกินไปที่เกือบไปกินลูกสาวของใครบางคนเข้า
“แล้วพวกแกไม่ได้รู้จักกันเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นเอ่ยถาม และลูบคาง
เสี่ยวอ้ายของเธอทรงพลังมาก เมื่อคิดว่าเธอเองที่เป็นนายท่านก็ควรจะทำตัวให้สมศักดิ์ศรีกว่านี้!
อย่างน้อยก็ควรทำให้เสี่ยวอ้ายรู้สึกปลอดภัย เพราะเธอคงไม่สามารถให้เสี่ยวอ้ายมาดูแลเธอได้ตลอดเวลา
สวี่หลิงอวิ๋นกำหมัดแน่น
ไม่นานยานอวกาศก็เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นผิวน้ำ พื้นผิวน้ำในตอนแรกเป็นสีฟ้าสดใส แต่เมื่อดำดิ่งลึกลงไปใต้น้ำกลับพบเพียงสีดำมืดสนิท และมองไม่เห็นอะไรเลย
ความมืดมิดทำให้ผู้คนที่มองออกไปด้านนอกรู้สึกถึงความกดดัน ได้แต่สงสัยว่าตอนนี้พวกเธอดำดิ่งลงมาลึกกี่เมตรแล้ว
จนกระทั่งมีลำแสงขนาดเล็กปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเธอ
หลังจากนั้น เมืองใต้น้ำก็ส่องสว่างไสวราวกับแสงไฟนับพันดวงที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเธอ
“สวยมาก!” สวี่หลิงอวิ๋นเกลียดที่ภาษาของเธอไม่ได้มาตรฐานมาตั้งแต่สมัยเรียน พูดได้ว่าภาษาของเธอค่อนข้างแย่ และในช่วงเวลาจำเป็น เธอทำได้เพียงใช้คำง่าย ๆ เพื่อบรรยายถึงความงามตระการตาที่เธอได้เห็น
ไม่ว่าจะเป็นตรงนี้หรือตรงนั้น ปลาหลากหลายสีสันต่างพากันแหวกว่ายผ่านกระจกยานอวกาศ พวกมันใช้ปากจูบยานอวกาศด้วยความสงสัย เมื่อรับรู้ว่าสิ่งนี้ไม่สามารถกินได้ พวกมันก็แหวกว่ายหนีไป
ฉากชวนฝันเช่นนี้มีแค่ให้เห็นแค่ในยุคห้วงดวงดาวเท่านั้นใช่ไหม?!
“ลงจากยานอวกาศได้!” สวี่หลิงอวิ๋นสูดลมหายใจเข้าลึก โลกใบใหม่กำลังปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ! ฮ่า ๆๆๆๆ!
เธอกำลังจะได้เห็นเงือก! คงจะดีไม่น้อยถ้าเธอได้สื่อสารกับชาวเน็ตในชาติที่แล้ว!
พวกเขาจะต้องอิจฉาเธอแน่!
ทันทีที่พวกเธอลงมาจากยานอวกาศ พวกเธอก็ใช้พลังจิตสร้างเกราะป้องกันพลังงานขึ้นมาใส่ร่างกายเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเธอได้รับแรงกดดันมหาศาลจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เสี่ยวอ้ายไม่ต้องการอะไรเช่นนี้ แต่เนื่องจากมันเกลียดน้ำ ดังนั้นมันจึงสร้างเกราะป้องกันให้กับตัวเอง
นากาใส่เกราะป้องกันให้ตัวมันด้วยเช่นกัน ถึงมันจะไม่ได้เกลียดน้ำ แต่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ของลูกพี่เอาไว้ ในเมื่อทุกคนใส่เกราะป้องกัน มันก็จะใส่ด้วย!
เงือกสาวแสนสวยกับเงือกหนุ่มรูปงามค่อย ๆ แหวกว่ายออกมาพร้อมกับกลุ่มเงือกทั้งหลาย
ดวงตาของสวี่หลิงอวิ๋นเบิกกว้าง! ช่างเป็นรูปลักษณ์ที่วิเศษอะไรเช่นนี้!
โดยเฉพาะรูปลักษณ์ของเงือกหนุ่มนั้นเปรียบได้เท่ากับโอคาซี!
“ยินดีที่ได้พบเจ้า เสี่ยวอ้ายจอมแข็งแกร่ง!” เงือกหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าน่าจะเป็นจักรพรรดิเงือกที่ต่อสู้กับเสี่ยวอ้าย ถึงแม้ว่าเขาจะค่อนข้างหล่อเหลา ทว่าบุคลิกของเขากลับดูตรงไปตรงมา
เงือกเป็นเผ่าพันธุ์ที่ค่อนข้างเย่อหยิ่ง
เขาสังเกตเห็นเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างแจ่มแจ้ง แต่กลับเพิกเฉยและหันมากล่าวทักทายเสี่ยวอ้าย ก่อนจะมองดูมนุษย์อีกครั้ง
“สวัสดี เจ้ามนุษย์!” จักรพรรดิเงือกลากเสียงยาว และหรี่ตาลงครึ่งหนึ่งขณะมองดูเธอ “เจ้าคงเป็นองค์หญิงจากจักรวรรดิชิงเหย้าสินะ?”
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า “ใช่”
ชายผู้นี้เย่อหยิ่งและน่ารำคาญชะมัด!
เสี่ยวอ้ายส่งเสียง ‘โฮ่ง’ ออกไปด้วยความไม่พอใจ “จักรพรรดิเงือก เจ้าควรให้ความเคารพแก่นายท่าน โฮ่ง! ไม่อย่างนั้นเสี่ยวอ้ายจะโกรธ โฮ่ง!”
จักรพรรดิเงือกตกตะลึง เขาเหลือบมองสวี่หลิงอวิ๋นด้วยความประหลาดใจ “เจ้าคือนายท่านของเสี่ยวอ้ายเหรอ?”
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย นึกไม่ออกว่ามนุษย์ผู้หญิงระดับ 9 ดาวกลายมาเป็นนายท่านของอสุรกายยักษ์ผู้ทรงพลังได้อย่างไร
“ความสามารถของเจ้าคืออะไร?”
หรือว่าเจ้าใช้กลอะไรหลอกลวงเสี่ยวอ้าย? ไม่อย่างนั้น เขาคงนึกไม่ถึงว่าทำไมเสี่ยวอ้ายถึงได้มีพฤติกรรมเช่นนี้
เสี่ยวอ้ายไม่พอใจ! มันสะบัดหางและส่งเสียงคำราม ทั่วก้นบึ้งทะเลก็สั่นสะท้านในทันที “โฮ่ง! บอกไว้ก่อนเลย! เจ้าห้ามพูดแบบนี้กับนายท่าน! โฮ่ง!”
เมื่อจักรพรรดิพบว่าตัวเองทำให้เสี่ยวอ้ายโมโห เขาก็พูดอย่างเจี๋ยมเจี้ยมว่า “อ๊ะ เสี่ยวอ้ายอย่าโมโหสิ เราก็เป็นแบบนี้ อย่าใส่ใจนักเลย!”
ก่อนจะหันไปพูดกับสวี่หลิงอวิ๋นอีกครั้ง “องค์หญิงมนุษย์ ขอโทษด้วยแล้วกัน ได้โปรดมาที่พระราชวังของเราเถอะ! ต้องขอโทษสำหรับความหยาบคายของเราด้วย”
เมื่อเธอมาถึงอาณาเขตของอีกฝ่าย จักรพรรดิเงือกก็ดูถูกเหยียดหยามเธอทันทีทั้งที่เธอยังไม่ได้พูดอะไร