ตอนที่ 394 เทคนิคพิเศษ?
ตอนที่ 394 เทคนิคพิเศษ?
ชาวเน็ตไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ลางสังหรณ์พวกเขาบอกว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับอสุรกายร้าย
พวกเขารู้ว่ามีอสุรกายร้ายบุกรุกไปที่จักรวรรดิไอเดน แล้วก็มีอีกตัวหนึ่งโผล่มาที่ชิงเหย้า นั่นหมายความว่าอสุรกายวางแผนรวมกลุ่มกันเพื่อต่อสู้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ใช่ไหม?
ชาวเน็ตมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ทว่าข้อสันนิฐานส่วนใหญ่ล้วนเกี่ยวข้องกับอสุรกาย
เมื่อนึกถึงผู้คนที่ถูกสังเวย ชาวเน็ตทั้งหลายต่างพากันระงับอารมณ์แค้นเคือง
หากพวกเขาแข็งแกร่งกว่านี้ จำนวนผู้คนที่ถูกสังเวยอาจไม่มากเท่านี้ก็ได้! แต่ก็ยังมีบางคนที่บ่นถึงราชวงศ์
[ถ้าพวกเขาไม่ส่งองค์หญิงสามกับเสี่ยวอ้ายไปที่จักรวรรดิไอเดน ชิงเหย้าคงจะไม่สูญเสียขนาดนี้!]
[ถึงคอมเมนต์บนจะดูไร้มนุษยธรรม แต่ฉันก็คิดว่ามันสมเหตุสมผลนะ! ถ้าเราไม่ไปช่วยจักรวรรดิไอเดน ชิงเหย้าจะสูญเสียนับร้อยคนเชียวเหรอ?!]
[คอมเมนต์บนไร้หัวใจไปแล้ว! ตอนที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์มาโจมตีเรา ใครเป็นคนมาช่วยพวกเรา?! ก็จักรวรรดิไอเดนไหม! องค์ชายรัชทายาทพากองทัพออกมาเองด้วยซ้ำ คุณควรจะสำนึกบุญคุณบ้างนะ หัดขอบคุณคนอื่นบ้าง!]
[ใช่! ชิงเหย้าของเราต้องรู้จักตอบแทนน้ำใจ และรู้จักการเอาคืน คอมเมนต์บน ถ้ากลัวตายนักก็อย่าอยู่ในชิงเหย้าเลยเถอะ!]
[การตอบแทนกันและกันคือนิสัยของชาวชิงเหย้า!]
ชาวเน็ตแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าการช่วยเหลือจักรวรรดิไอเดนนั้นสอดคล้องกับอุปนิสัยกล้าที่จะรักและกล้าที่จะเกลียด ในขณะที่คนกลุ่มน้อยคิดว่าอย่าไปสนใจเรื่องไร้สาระของคนอื่น!
สวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้วเมื่อมองดูคอมเมนต์ด้านล่าง เธอกระแอมเล็กน้อย ช่องคอมเมนต์ก็ขาวสะอาดทันที ไม่มีใครกล้าคอมเมนต์อะไรอีก
ทุกคนต่างรอคอยให้องค์หญิงสามพูดคุยกับพวกเขา อยากรู้ว่าครั้งนี้องค์หญิงสามมีถ้อยคำดี ๆ อะไรจะพูดกับพวกเขาอีก?
“ดีใจที่ได้พบพวกคุณอีกครั้งนะ” สวี่หลิงอวิ๋นพูดอย่างเฉยเมย “ฉันเห็นพวกคุณบอกว่าเราไม่ควรเข้าไปช่วยจักรวรรดิไอเดน แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันอยากจะพูดก็คือพวกเราต้องขอบคุณจักรวรรดิไอเดนที่ให้เข้าไปช่วยเหลือในครั้งนี้”
ชาวเน็ตเริ่มฮือฮา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เข้าไปช่วยเหลือจักรวรรดิไอเดนและต้องขอบคุณจักรวรรดิไอเดนอย่างนั้นเหรอ? นี่เธอเสียสติไปแล้วหรือเปล่า?!
สวี่หลิงอวิ๋นถอยหายใจและพูดว่า “พูดกันตามตรงว่าการเข้าไปช่วยเหลือจักรวรรดิไอเดนทำให้ฉันรับรู้อะไรหนึ่งอย่าง สหภาพห้วงดวงดาวของเรากำลังจะเผชิญหน้ากับความหายนะ!”
หายนะ!
ชาวเน็ตตกตะลึง! คำพูดขององค์หญิงสามทำให้พวกเขาประหลาดใจ!
ความหายนะหมายถึงอะไร?! จะต้องเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกมนุษย์อย่างแน่นอน!
ไม่เคยมีใครใช้คำว่าหายนะในการจู่โจมจักรวรรดิมาก่อน! เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่องค์หญิงสามพูดถึงจะต้องร้ายแรงมากแน่!
“เรารู้บางอย่างมาจากอสุรกายกาน่าว่า ความจริงแล้วสหภาพห้วงดวงดาวของเราถูกปกคลุมด้วยต้นไม้แห่งชีวิต และภายนอกเต็มไปด้วยอาณาเขตของต่างดาว”
ทันทีที่คำพูดนั้นหลุดออกมา ประชาชนทั่วไปก็ตกอยู่ในความโกลาหล!
ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้มากนัก เพราะพวกเขาเคยสำรวจสิ่งนี้มาก่อน พวกเขาเสาะหาอาณาเขตของตัวเองและพบว่าพวกเขาถูกอะไรบางอย่างกักขัง นอกจากนี้ยังค้นพบเส้นแบ่งเขตแดน แต่เนื่องจากบรรพบุรุษได้เล่าขานมาว่าห้ามใครก็ตามก้าวออกไปจากเขตนี้ พวกเขาจึงไม่ได้ออกไป
บรรพบุรุษของพวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่จากรุ่นสู่รุ่น ถึงอย่างนั้นก็มีตำนานเล่าขานต่อกันมาว่าดาวเคราะห์ของพวกเขาเติบโตขึ้นบนต้นไม้ใหญ่ พระเจ้าได้ปลูกสร้างต้นไม้ใหญ่นี้ขึ้นมาเพราะเห็นแก่มนุษย์ที่อ่อนแออย่างพวกเขา
พระเจ้าสั่งห้ามไม่ให้พวกเขาออกจากต้นไม้ใหญ่ หากก้าวออกจากต้นไม้ใหญ่ จะต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายด้านนอก และเมื่อสิ่งมีชีวิตจากเขตดาวต่างแดนค้นพบพวกเขา เมื่อนั้นหายนะจะบังเกิด
นี่คือสิ่งที่องค์หญิงสามกำลังจะบอกพวกเขาใช่หรือไม่?!
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนในห้วงดวงดาวรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี พวกเขาคิดว่าข่าวลือนี้จะเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนผู้ที่ศรัทธาในเทพเจ้า แต่ไม่คาดคิดว่าองค์หญิงสามจะพูดมันออกมา!
กำลังล้อพวกเขาเล่นอยู่งั้นเหรอ?!
สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว “ฉันไม่ได้ล้อพวกคุณเล่นสักหน่อย!”
เธอแบมือออก ต้นกล้าขนาดจิ๋วต้นหนึ่งก่อตัวขึ้นบนฝ่ามือของเธอ ต้นกล้านี้มีสีเขียวมรกตและละเอียดอ่อน
ต้นกล้าถูตัวของมันเข้ากับปลายนิ้วของสวี่หลิงอวิ๋นอย่างสนิทสนม จากนั้นก็ตีวงล้อมกวาดไปทั่วมือของสวี่หลิงอวิ๋น ต้นกล้าจิ๋วที่เหี่ยวแห้งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน ใบไม้สีเขียวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที ต้นกล้าจิ๋วก็เบ่งบานจนเขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ชาวเน็ตตกใจ ครุ่นคิดถึงบางอย่าง องค์หญิงสามมีเทคนิคพิเศษอะไรใช่ไหม?!
มันทำให้พวกเขาถึงกับทึ่ง?!
[เทคนิคขององค์หญิงสามน่าทึ่งมาก! เอาไว้ผมมีแฟนเมื่อไหร่ ผมจะแสดงมายากลนี้ให้เธอดู!]
[องค์หญิงสาม มันเป็นเรื่องจริงหรือปลอมกันแน่?! มันโตขึ้นในมือของมนุษย์ได้ยังไง?!]
[ฉันไม่เชื่อ! จะต้องเป็นเทคนิคพิเศษแน่ ๆ!]
…
สวี่หลิงอวิ๋นเก็บต้นกล้าพลางตอบออกมา “ไม่ใช่เทคนิคพิเศษ…”
ขณะเดียวกันเสี่ยวอ้ายก็เดินเข้ามา ใบหน้าของมันยังคงยิ้มแย้ม ก่อนจะเข้ามาถูไถคลอเคลียสวี่หลิงอวิ๋น
สวี่หลิงอวิ๋นลูบหัวมัน “หากไม่เชื่อฉัน งั้นฉันก็จะให้เสี่ยวอ้ายบอกพวกคุณ!”
ชื่อเสียงของเสี่ยวอ้ายกำลังโด่งดังเป็นพลุแตก!
ตอนนี้ความนิยมของมันสูงกว่าสวี่หลิงอวิ๋นเสียอีก! ใครทำให้เจ้านายได้รับความนิยมน้อยลงล่ะ?
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกเช่นนี้ทุกครั้งที่เห็นเสี่ยวอ้าย แต่โชคดีที่เสี่ยวอ้ายอยู่ที่นี่ด้วย!
เสี่ยวอ้ายสูงมาก มันสามารถเอื้อมถึงไหล่สวี่หลิงอวิ๋นแม้ว่าจะยืนอยู่บนพื้นก็ตาม เสี่ยวอ้ายเปิดปากขณะมองดูหน้าจอ และพูดว่า “นายท่านพูดถูกโฮ่ง!”
“เมื่อครู่นี้นายท่านแค่แสดงต้นกล้าจิ๋วให้พวกคุณดู แต่ตอนนี้ต้นไม้ที่ห้อหุ้มห้วงดวงดาวของพวกคุณเอาไว้กำลังค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นโฮ่ง!”
คำพูดของเสี่ยวอ้ายเป็นเหมือนระเบิดลูกใหญ่ที่ทำให้ชาวเน็ตตกอยู่ท่ามกลางความโกลาหล
“เทพเจ้าที่พวกคุณชอบพูดถึงกันคือนายท่านคนแรกของฉันเองโฮ่ง!” ดวงตาของเสี่ยวอ้ายเต็มไปด้วยความคิดถึง “ตอนนั้นนายท่านรู้สึกสงสารที่พวกคุณอ่อนแอ เขาลบต้นไม้แห่งชีวิตออกจากร่างกายตัวเอง แปรเปลี่ยนมาเป็นบาเรียคอยป้องกันพวกคุณที่อยู่ข้างในนี้”
[นี่… มันเป็นไปได้ยังไง?!]
หากสิ่งที่เสี่ยวอ้ายพูดมาเป็นความจริง
แล้วปีนี้เสี่ยวอ้ายอายุเท่าไหร่แล้วล่ะเนี่ย?!
[โกหกหรือเปล่า!? เป็นไปได้ยังไง! เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน เสี่ยวอ้ายยังดูตัวเล็กขนาดนี้ มันจะเป็นไปได้ยังไง?!]
[เสี่ยวอ้ายล้อพวกเราเล่นหรือเปล่า?!]
ราวกับชาวเน็ตทั้งหลายกำลังฝันไป พวกเขาไม่อยากจะเชื่อข้อเท็จจริงดังกล่าว!
เสี่ยวอ้ายส่ายหัว “โฮ่ง! เสี่ยวอ้ายไม่เคยโกหก! พวกคุณไม่จำเป็นต้องเชื่อเรื่องนี้ก็ได้ แต่พวกคุณควรจริงจังกับปัญหานี้โฮ่ง!”
“พวกคุณไม่คิดว่ามันแปลกบ้างเหรอ? โฮ่ง! หากเป็นพวกเอเลี่ยนที่บุกเข้ามาก็คงจะเป็นเรื่องปกติ แต่นี่ทำไมถึงเป็นอสุรกายที่พบเจอได้ยากล่ะ?”