ตอนที่ 414 ตำแหน่งใหม่ของชิงเย่
ตอนที่ 414 ตำแหน่งใหม่ของชิงเย่
เอลฟ์คนดังกล่าวเริ่มพูด และหยิบวัตถุดิบจำนวนมากออกมาจากปุ่มมิติกักเก็บ! มีทั้งผักและผลไม้สดใหม่ รวมถึงเนื้อที่นุ่มที่สุด!
เช่นเดียวกับเอลฟ์ตัวอื่น พวกเขาหยิบวัตถุดิบออกมามากมาย! ของเหล่านี้แทบจะถล่มห้องพักของสวี่หลิงอวิ๋นจนเต็ม!
เธอเริ่มเก็บของตรงหน้าเป็นอย่างแรก มองดูดวงตาที่เปล่งประกายของผู้คนตรงหน้าและเกาหัว คนเยอะขนาดนี้ จะกินอะไรกันดี?
ท้ายที่สุดพวกเขาก็นำวัตถุดิบมากมายมาให้เธอ!
ช่างเถอะ! มากินหม้อไฟกันเถอะ!
คิดเงินต่อหัวเท่าไหร่ดี อื้ม…ครึ่งเหรียญทองอินทนิลดีไหมนะ?
ยังไงซะพวกเขาก็ต้องรับอาหารของตัวเองใช่ไหมล่ะ?!
เอลฟ์ทั้งหลายได้ยินคำพูดดังกล่าวก็ดีใจ เย้! มีอาหารรูปแบบใหม่ให้กินอีกแล้ว! นับว่าเป็นข่าวดีจริง ๆ!
“เอ่อ ที่นี่คนเยอะมากเลยค่ะ หลังจากที่ฉันทำเสร็จแล้ว ให้ฉันเอาไปเสิร์ฟให้ที่ห้องอาหารดีไหมคะ?” และสวี่หลิงอวิ๋นไม่ลืมที่จะบอกถึงข้อควรระวังในการกินหม้อไฟให้พวกเขา
“ได้ครับ!” พวกเขาพยักหน้า มันไม่ใช่แค่อาหารที่จัดอยู่บนจานหรอกเหรอ? พวกเขาแต่ละคนได้รับหม้อของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีบริกรมาช่วยจัดจานให้!
ความกังวลใจของสวี่หลิงอวิ๋นจึงจางหายไป!
หลังจากที่เอลฟ์ทั้งหลายถูกพาตัวออกไป ชิงเย่ก็เดินออกมาจากมุมห้องด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง และพูดอย่างไม่พอใจว่า “ทำไมเช้านี้มีคนเยอะจัง? ผมแทบจะแทรกตัวเข้ามาไม่ได้เลย!”
“เมื่อคืนพวกท่านทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ กัน? ผมเกือบจะต้องเอาจมูกแนบกับประตูห้องแหนะ!”
สวี่หลิงอวิ๋นเหลือบมองเขา ในขณะเดียวกันต้นกล้าทั้งสองต้นกำลังอาบแดดกันอยู่ที่มุมห้อง ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกมันจะไม่ต้องการกลับมาหาเธอกับโอคาซี
ชิงเย่เห็นต้นไม้ทั้งสองต้นนั้นเช่นกัน
เขาพบเจอต้นไม้แปลกประหลาดมามากมาย!
มีต้นไม้แปลกประหลาดชนิดไหนในจักรวรรดิเอลฟ์ที่เขาไม่เคยพบเห็นอีกงั้นเหรอ?
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นต้นไม้แบบนี้มาก่อน แต่ก็ไม่รู้สึกว่ามันแปลกอะไร
ทว่าความแปลกประหลาดอย่างเดียวที่เขารู้สึกได้ นั่นคือต้นไม้ทั้งสองต้นนี้ให้ความรู้สึกสนิทชิดเชื้อกับเขาหรือเปล่านะ? ดูเหมือนว่าพวกมันจะเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเขา
แปลกจัง! นอกจากพระแม่พฤกษาแล้วจะมีต้นไม้ชนิดไหนมาเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเขาอีก?!
เขาส่ายหัว และคิดว่าตัวเองกำลังเสียสติ
“อยากให้ผมช่วยอะไรไหมครับ?” ชิงเย่พูดประจบสอพลอและเดินเข้าไปหาสวี่หลิงอวิ๋น เฝ้าดูเธอตรวจสภาพของผักครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความสงสัย ก่อนจะหยิบเนื้อออกมาเพื่อดูเนื้อสัมผัส
“ไม่อยาก” สวี่หลิงอวิ๋นตอบแบบขอไปที หากเธอต้องการความช่วยเหลือ เธอก็จะใช้แขนกล หากจะให้มาพึ่งพาชิงเย่ งานคงไม่เสร็จพอดี!
เธอมองดูเนื้อที่สีแดงเข้มในมือ เนื้อสัมผัสของมันค่อนข้างหนาเล็กน้อย สามารถเอามาหั่นเป็นเนื้อแผ่นบางเพื่อทำหม้อไฟได้!
ปลานี้เหมาะสำหรับการลวกก่อนกิน เพื่อให้เนื้อสดและนุ่ม!
แน่นอนว่าควรตรวจสอบผักนานาชนิดอย่างระมัดระวังด้วย ล้างผักชนิดที่เหมาะสมแก่การนำมาต้ม และวางพักไว้สักครู่ เนื้อสัมผัสของมันจะมีความกรุบกรอบ และได้รสชาติหวานเมื่อกินดิบ
เธอผสมผักบางส่วนและเห็ดฟังไจเข้าด้วยกัน หลังจากผสมเสร็จแล้ว ชิงเย่ก็แอบหยิบมาใส่ถ้วยของตัวเองพร้อมกับหมั่นโถวหนึ่งลูก ก่อนจะกินอย่างดุเดือด!
“อื้ม…! อร่อยมาก!” ชิงเย่ยกนิ้วโป้งขึ้นขณะกินไปด้วย! ผักพวกนี้อร่อยกว่าสลัดผักที่เขาเคยกินเสียอีก!
ผักในสลัดล้วนหายากและมีราคาแพง ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นกลับใช้วัตถุดิบธรรมดาในการสร้างสรรค์อาหารที่อร่อยเช่นนี้ขึ้นมาได้ หึหึ! ช่างทำให้ผู้คนน้ำลายไหลได้ตลอดจริง ๆ!
หลังจากกินอาหารในถ้วยใบใหญ่เสร็จ เขาก็อยากกินมันอีกครั้ง แต่สวี่หลิงอวิ๋นกลับใช้ตะเกียบปรามเขาไว้ “ไปให้พ้น! กิน ๆๆ! นายก็รู้แต่จักแต่กินอย่างเดียว!”
“รีบเอาอาหารลงไปเสิร์ฟให้คนอื่น!”
“แล้วทำไมไม่ใช้หุ่นยนต์ล่ะ?” ชิงเย่บ่นพึมพำ แต่หลังจากที่เห็นสวี่หลิงอวิ๋นจ้องเขม็งมาทางเขา เขาก็รีบวิ่งลงไป
“ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ! ไปแล้วครับ! ไปแล้ว!”
นอกจากนี้ เธอยังปรุงน้ำซุปหม้อไฟเอาไว้ และทันทีที่น้ำซุปหม้อไฟถูกปรุง ทั่วทั้งโรงแรมก็ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเผ็ดซ่าน ผู้คนด้านนอกที่เดินผ่านไปมาถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อได้กลิ่นที่น่าดึงดูดนี้ โดยไม่รู้ว่าข้างในกำลังปรุงอาหารประเภทไหน
“อย่ามองมัน! นี่เป็นโรงแรมที่มีแต่คนไฮโซเท่านั้น ลูกจะไปมองมันไม่ได้! เพราะลูกจะไม่มีวันได้พักที่นี่ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่!”
เด็กจำนวนไม่น้อยที่ยืนอยู่ด้านนอกโรงแรมเอลฟ์ไม่เต็มใจนักที่จะจากไป พวกเขารู้สึกโหยหาเมื่อได้กลิ่นหอมดังกล่าว แม้ว่าผู้ใหญ่จะเรียกครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาก็ไม่ยอมขยับ
“ผมก็แค่อยากได้กลิ่นเอง!”
พอลลี่จากเผ่าพันธุ์ตานหยางที่อยู่ข้างนอกโรงแรมเอลฟ์นำเงินติดตัวมาด้วยจิตใจที่เบิกบาน ทว่าก่อนที่จะเข้าไปในโรงแรม เขามองดูผู้คนที่ยืนอยู่ด้านนอกโรงแรมพยายามยื่นจมูกออกมาสูดดม โดยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังดมกลิ่นอะไรกันอยู่
เขาคิดสงสัยในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เลิกสงสัย เพราะเขาเองก็ได้กลิ่นแล้วเช่นกัน!
“อ๊ะ แม่ครัวฝีมือดีคนนั้นจะต้องเริ่มทำอาหารอีกแล้วแน่เลย! ต้องรีบแล้ว! ไม่งั้นจะโดนแย่งไปได้!” พอลลี่จากเผ่าพันธุ์ตานหยางรีบเบียดฝูงชนเข้าไปด้านในโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ และรีบมุ่งไปที่ล็อบบี้ของโรงแรม
โดยปกติแล้วล็อบบี้จะมีผู้คนเดินขวักไขว่ แต่ตอนนี้กลับรกร้าง แม้แต่ไคลินเองก็ไม่รู้ว่าแขกไปไหนกันหมด!
น่าจะอยู่กันที่หน้าประตูห้องของแม่ครัวคนนั้น! พอลลี่รีบขึ้นไปชั้นบน ทว่ากลับไม่มีใครอยู่ที่หน้าประตูห้องดังกล่าว!
แต่หุ่นยนต์จำนวนมากกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังเข้าแถวเพื่อรออะไรบางอย่าง?
พอลลี่เดินเข้าไปดูก็ต้องตะลึง มันยอดเยี่ยมมาก หุ่นยนต์แต่ละตัวกำลังถือหม้อใบเล็ก ในหม้อมีแผ่นกั้นตรงกลางเพื่อแบ่งหม้อออกมาเป็นสองส่วน
ครึ่งหนึ่งมีกลิ่นเผ็ดฉุน ส่วนอีกด้านหนึ่งมีน้ำซุปสีขาวขุ่น และผลไม้สีแดงเล็ก ๆ ทั้งสองลูกกำลังกลิ้งไปมา ดูน่ากินเป็นอย่างมาก
“มันคืออะไร?” เขาเอ่ยถามหุ่นยนต์ขณะกลืนน้ำลาย
หัวของหุ่นยนต์เปล่งแสงสีเขียวออกมา ราวกับว่ามันกำลังวิเคราะห์คำถามดังกล่าว หลังจากครุ่นคิดแล้วไร้ประโยชน์ มันก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่รู้!”
เขามองดูด้านในอีกครั้ง ภายในห้องเห็นเพียงแต่แขนกลเท่านั้นที่ต้มน้ำซุปจนหยาดเหงื่อไหลริน ขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นกำลังจัดเรียงและวาดรูปบางอย่าง ส่วนเอลฟ์ผู้ชายหรือโอคาซีกำลังป้อนโปรแกรมให้กับแขนกล
ดูเหมือนกำลังทำอาหารอยู่หรือเปล่า?
“คุณมายืนทำอะไรตรงนี้?” พอลลี่ยังคงจ้องเขม็งเข้าไปด้านใน แต่ทันใดนั้นเสียงผู้ชายที่ฟังดูไพเราะก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง และทันทีที่เขาหันกลับไป ชิงเย่ก็จับแขนของเขาเอาไว้แน่น พร้อมกับจ้องมองมาอย่างไม่เต็มใจ
“คุณคิดที่จะขโมยใช่ไหม? จะบอกให้นะว่ามันผิดศีลธรรม!” ชิงเย่เลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า “แล้วอย่าคิดว่าจะซื้อผมได้ด้วยเงินล่ะ! เพราะผมจะไม่บอกคุณหรอกว่าต้องไปกินที่ไหน?!”
“แน่นอนว่าผมจะไม่บอกเด็ดขาด และผมมีอำนาจในการปิดซ่อนหม้อไฟสองน้ำซุปนั้น!”
พอลลี่จ้องมองมาที่เขา ขณะที่ชิงเย่จ้องมองเขาเช่นกัน
หลังจากนั้นไม่นาน พอลลี่ก็ดึงชิงเย่ไปมุมหนึ่งและหยิบเหรียญทองอินทนิลขึ้นมา “พี่ชาย ผมเอาสองเหรียญทองอินทนิลให้คุณได้ แต่หม้อไฟสองน้ำซุปนั่นต้องเป็นของผม!”
ชิงเย่ชั่งน้ำหนักเหรียญทองสีม่วงและรู้สึกปีติในใจ! ไม่คิดว่าเขาจะได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงแบบนี้! มีความสุขจังเลย!