ตอนที่ 417 ผมคุมร้านอาหารนี้แล้ว!
ตอนที่ 417 ผมคุมร้านอาหารนี้แล้ว!
ถามว่าเถ้าแก่ไปไหน?
เถ้าแก่กำลังยุ่งอยู่ในครัว!
หมั่นโถวสอดไส้เนื้อถูกนำออกมาจากหม้อนึ่ง แป้งดังกล่าวดูเรียบง่ายและไร้การตกแต่ง แต่ตราบใดที่ประกบมันเข้ากับเนื้อตุ๋น คุณจะได้รู้ซึ้งถึงสิ่งที่เรียกว่ากลิ่นหอมจนยากจะถอนลิ้นตัวเองเชียวล่ะ!
สวี่หลิงอวิ๋นกินแป้งหมั่นโถวเข้าไปหลายชิ้นแล้ว จนกระทั่งเธอไม่สามารถกินมันได้อีก…
เสี่ยวอ้ายก็เช่นกัน! มันไม่แสดงท่าทีว่าอิ่มด้วยซ้ำหลังจากกินเข้าไปห้าสิบถึงหกสิบชิ้น เพียงแต่มันเห็นแก่เจ้านาย หวังว่าเจ้านายจะสามารถทำเงินได้เยอะขึ้น ดังนั้นมันจึงห้ามปากของตัวเอง
ส่วนพ่อลูกจอมพลจากเผ่าพันธุ์ตานหยางน่ะเหรอ? ตอนนี้พวกเขาหยุดกินไม่ได้ด้วยซ้ำ!
พอลลี่กินแป้งหมั่นโถวไปสามสิบกว่าชิ้น จนถึงขั้นเรอออกมา!
แป้งดังกล่าวมีขนาดเท่ากับฝ่ามือ ด้านในประกบด้วยไข่ เนื้อตุ๋น หนังเต้าหู้ ฟองเต้าหู้ และของอื่น ๆ ที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!
ส่วนจอมพลเอเดนกินจนรู้สึกว่าไม่สามารถยัดเข้าไปได้อีก เขาจึงหยุดลง
เขารู้สึกพึงพอใจมาก! แน่นอนว่าลูกชายของเขาโตขึ้นแล้ว! ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเงินเพียงจำนวนเล็กน้อย!
สวี่หลิงอวิ๋นพูดแนะนำว่าทีหลังพวกเขาไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ด้วยตัวเองอีก ให้คนอื่นมารับอาหารแทนไม่ดีกว่าเหรอ?! ไม่ไม่! พวกเขาบอกว่าจะต้องมากินด้วยตัวเอง!
ใครจะรู้ว่าต้องกินเท่าไหร่ถึงจะพอ?!
แขกที่อยู่ด้านนอกเริ่มส่งเสียงเอะอะ ความเรียบร้อยและความสง่างามของชนชั้นสูงพวกนั้นหายไปไหนกันหมด?
ทุกคนต่างจ้องมองไปที่น้ำเดือด ‘ปุดปุด’ ในหม้อ แต่กลับไม่มีใครเข้ามาทักทายพวกเขา
หากไม่ใช่เพราะรู้สึกอับอาย พวกเขาคงจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน!
เผ่าพันธุ์บิลลี่สามารถอดทนได้ชั่วขณะหนึ่ง ทว่าเผ่าพันธุ์ตานหยางไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ทันทีที่พวกเขาริเริ่มเข้ามา หุ่นยนต์ก็ปรากฏตัวขึ้นทันใด!
“ทุกท่านโปรดเชิญนั่งก่อนครับ!” หุ่นยนต์ถือตะกร้าใบใหญ่ไว้ในมือ ตะกร้าเหล่านี้เต็มไปด้วยขนมปังหมั่นโถว และขนมปังหมั่นโถวเหล่านี้ล้วนถูกผ่าตรงกลาง
“ผมจะเตรียมแป้งหมั่นโถวให้พวกท่านทีละคน และส่งให้พวกท่านนะครับ”
หุ่นยนต์ทั้งหลายร้องตะโกนด้วยน้ำเสียงกลไกที่เรียบนิ่ง พวกมันเริ่มหยิบเนื้อออกมาหั่นสับ จากนั้นเอาเนื้อใส่ลงไปในแป้งหมั่วโถว และวางลงบนจาน
เหล่าชนชั้นสูงทั้งหลายถึงกับกลืนน้ำหลายเมื่อมองดูเนื้อที่ถูกสับ! อา! หอมจัง! ทำไมเนื้อถึงได้ดูน่ากินขนาดนี้?! เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้มีรูปลักษณ์สวยงามสักนิด!
น้ำซุปสีน้ำตาลแดงนี้จะเปลี่ยนเนื้อตุ๋นให้กลายเป็นสีแดงเข้ม เพียงแค่ได้กลิ่นก็รู้สึกดีแทบบ้า!
กลิ่นหอมของมันทำให้รู้สึกกระหายจะตายอยู่แล้ว!
หมั่นโถวสอดไส้เนื้อก้อนแรกถูกวางลงต่อหน้าลูกค้า ลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลินกับการหยิบหมั่นโถวเข้าไปในปากท่ามกลางสายตาของผู้คนที่อยากรู้
“อร่อยไหม?!” สายตาของลูกค้าคนอื่นเฝ้าถาม
ลูกค้าคนดังกล่าวจะมาใส่ใจสายตาของคนอื่นทำไม? เดิมทีเขากัดกินเพียงคำเล็ก ๆ แต่ตอนนี้กลับกัดกินคำใหญ่อย่างบ้าคลั่ง!
หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งนาที แป้งหมั่นโถวก็หมดเกลี้ยง แต่เมื่อเขาเห็นว่ายังมีน้ำซุปเหลืออยู่ในมือ เขาก็ใช้ลิ้นเลียเสียจนมันสะอาดหมดจดในทันที จากนั้นจึงมองจานเปล่าด้วยความเศร้าใจ!
ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันจะต้องอร่อยมากแน่ ๆ!
มือและเท้าของหุ่นยนต์ทั้งหลายทำงานด้วยความเรียบง่ายและว่องไว ภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที ลูกค้าในร้านอาหารก็ได้ลิ้มลองหมั่นโถวที่แสนอร่อย
เห็นได้ชัดว่าหมั่นโถวที่แสนธรรมดาไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไป และโดยปกติแล้ว ต่อให้มันถูกจัดวางบนจานคริสตัล พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะมองดูมัน
แต่ตอนนี้พวกเขาได้ยัดเข้าไปในปากคำโต!
หลังจากกินหมั่นโถวหมดแล้ว พวกเขากลับรู้สึกลังเลใจเมื่อมองดูน้ำซุปที่เหลืออยู่ เพราะฉะนั้นจะกินกินกิน! เลียให้สะอาด!
หลังจากเลียน้ำซุปจนหมด ชนชั้นสูงก็ตระหนักถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ เขากำลังทำอะไรอยู่? ทำไมจะต้องเลียจานด้วย?! เกิดบ้าอะไรขึ้นกับเขา?!
แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ จิตใจของเขาก็สงบลง! ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวสินะ! นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ!
ขณะเดียวกัน หมูตุ๋นในหม้อใบใหญ่ได้ลดฮวบไปถึงจุดต่ำสุด ทว่าชนชั้นสูงยังคงยื่นจานออกมาเรื่อย ๆ เตรียมพร้อมสำหรับหมั่นโถวอีกสองชิ้น แต่กลับกลายเป็นว่า…
“คุณว่าไงนะ? ไม่มีแล้ว?!”
ชาวตานหยางโกรธจัดจนแทบบ้า! ตบโต๊ะและร้องตะโกนว่า “แค่เอาหมั่นโถวมาให้เราคนละชิ้นไม่ได้หรือไง? ยังอยากจะเปิดร้านอยู่อีกไหม?!”
“ใช่! ไม่เชื่อหรอก พวกคุณมีอีกตั้งเป็นหม้อไม่ใช่เหรอ?”
“กลัวว่าเราจะมีเงินไม่พอหรือไง?! ฮึ่ม! คิดว่าพวกเราเป็นคนยังไงกัน?!”
…
ทุกคนเริ่มฉุนจัด!
อย่างน้อยพวกเขาก็ได้กิน แต่ผู้คนที่รอคอยอยู่ด้านนอกแทบจะอดทนรอไม่ไหวแล้ว!
เสียงร้องตะโกนดังมากขึ้น ราวกับเงินในกระเป๋าของพวกเขาไม่มีที่ให้ไป และต้องการใช้จ่ายเต็มทน!
สวี่หลิงอวิ๋นที่ซ่อนตัวอยู่หลังร้านได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก เธอจ้องมองไปที่จอมพลอย่างทำอะไรไม่ถูก “ท่านจอมพล คงจะขึ้นอยู่กับท่านแล้วนะคะ!”
จอมพลเอเดนกระแอมเบา ๆ และพูดว่า “ผมสามารถออกไปพูดได้ แต่คนละชิ้นมันไม่พอให้กินจริง ๆ!”
แค่ลูกชายของเขาคนเดียวก็กินหมั่นโถวไปตั้งกี่ชิ้นแล้ว?!
และในไม่ช้าคงจะมีชาวตานหยางมาออกันอยู่ด้านนอก ชายร่างสูงใหญ่พวกนี้มักจะมีความกระหายอยู่มาก เมื่อพวกเขาได้ลิ้มลองแล้ว พวกเขาจะหยุดกินอย่างง่ายดายได้อย่างไร?!
“ท่านจะมาตำหนิฉันไม่ได้นะคะ?!” สวี่หลิงอวิ๋นพูดอย่างเหลืออด “ฉันก็ทำพะโล้ไปตั้งหม้อนึงแล้ว แต่ตอนนี้กลับเกิดปัญหาขึ้นมาอีก แล้วฉันจะทำอะไรได้ล่ะ?!”
“เอาอย่างนี้นะคะ คราวหลังท่านจอมพลมีเรื่องหรือว่ามีอะไร ช่วยบอกฉันล่วงหน้าหน่อยนะคะ ฉันจะได้จัดเตรียมสักสิบโต๊ะให้ท่านไปเลย!”
หื้ม? จัดเตรียมโต๊ะ?! จะปันส่วนมาให้ด้วยเหรอ?!
อา! เอลฟ์ตัวนี้ช่างมีคุณธรรมเสียจริง!
ถือว่าเป็นของขวัญน้ำใจก็แล้วกัน!
สวี่หลิงอวิ๋นตั้งใจแน่วแน่ว่าจะผูกมิตรกับจอมพลคนนี้ แต่เธอจะสามารถทำได้อย่างไร? แน่นอนว่าจะต้องใช้ฝีมือการทำอาหารมาช่วย
“ฉันจะปันส่วนจัดโต๊ะอาหารให้ท่านจอมพลสักวันละห้าโต๊ะ ท่านคิดว่ายังไงคะ?”
อย่างไรงั้นเหรอ? แน่นอนว่ามันเยี่ยมมาก!
จอลพลพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ก็ได้! ผมเข้าใจแล้ว!”
จากนั้นเขาก็เดินออกไปด้านนอก ร้องตะโกนดังลั่น “เงียบหน่อย! ในเมื่ออาหารขายหมดแล้วก็คือหมดแล้ว พวกคุณจะมาเอาอะไรกัน? จะรื้อร้านหรือไง?!”
“พวกคุณไม่เห็นหรือไงว่าใครมาคุมร้านนี้!”
ผู้คนทั้งหลายยังคงทุบโต๊ะตีจานอยู่ด้านนอกราวกับฝูงเป็ดที่ถูกรัดคอ แต่ทันทีที่พวกเขาเห็นว่าท่านจอมพลเดินออกมาจากหลังร้าน พวกเขาก็ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่านจอมพลเป็นพ่อครัวเหรอ?!
“ดู ๆๆ ดูเข้า!” จอมพลเอเดนสะอึกขึ้นมา เนื่องจากเขารู้สึกอิ่มหลังจากที่เพิ่งกินเข้าไป เขากระแอมเล็กน้อยขณะมองดูผู้คนที่อยู่ด้านนอก
“ผมคุมร้านนี้อยู่ และจัดทำอาหารอย่างเดียวในแต่วันเท่านั้น พวกคุณกินได้ก็มา กินไม่ได้ก็ไม่ต้องมา!”
จากนั้นเขาก็จ้องเขม็งไปยังผู้คนที่ยืนและนั่งอยู่ “มีความเห็นยังไงกันงั้นเหรอ? ร้านอาหารปิดแล้ว ไม่ได้ยินกันหรือไง?!”
พวกเขาได้ยินแล้ว! แต่ว่ายังไม่อยากไป!
พวกเขายังคงได้กลิ่นหอมอันน่าหลงใหล และเห็นว่ายังมีน้ำซุปอยู่ในหม้อ ถ้าเกิดเอาน้ำซุปอันนี้กลับไปด้วย ไม่รู้ว่าจะสามารถทำอาหารแบบเดียวกันได้ไหม?!
พวกเขาสามารถจ่ายมันได้! จริง ๆ นะ!
เหตุการณ์เหล่านี้ดำเนินไป ในขณะที่หุ่นยนต์กำลังเก็บรวบรวมเงิน!