ตอนที่ 424 เยี่ยมชมตลาดมืด
ตอนที่ 424 เยี่ยมชมตลาดมืด
ตอนนี้จอมพลทั้งหลายได้ประจักษ์ถึงสีหน้าของเอเดน!
ใครจะคิดว่านี่คือเหตุผลที่เขาพาชายชรามากินอาหารเมื่อวานนี้!
และตอนนี้ต้องมาอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
อยากจะกินอาหารของเขา แต่ไม่อยากจะช่วยเหลือเอเดน
ไอ้สารเลวนี่อยู่ในเวทีการเมืองมานานมากแล้ว และถ้าเขาได้รับคะแนนเสียงข้างมากอีกครั้ง เขาจะไม่กลายเป็นผู้ครอบครองเคทเลอร์ทั้งหมดเลยหรือ?!
“ทำไมคุณถึงได้น่ารังเกียจนัก?” ชายชราพ่นประโยคนี้ออกมาเพราะไม่อาจอดกลั้น
เอเดนยืนอยู่อย่างสบายใจเฉิบ “งั้นก็เอาตามที่พวกคุณต้องการเถอะ!”
“เอ๊ ว่าแต่เช้าวันนี้มีอะไรให้กินนะ? ฮึ่ม! เหมือนจะเป็นปีกไก่ย่าง แล้วก็พุดดิ้งคาราเมล!”
“คุณยังไม่เคยลองชิมใช่มั้ย? หึหึ! รับประกันได้เลยว่ามันหอมอร่อยมากจนคุณกินอาหารอื่นไม่ได้เลยล่ะ!”
ทุกคนต่างเชื่อแบบนั้น! อย่างน้อยตอนที่พวกเขากินอาหารที่นี่เสร็จและกลับบ้านไป พวกเขาก็รู้สึกไม่อยากอาหารอีก ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนก็ตาม ในใจกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยขาหมูซอสซีอิ๊ว ปลาไนต้มผักดองเสฉวน ไก่ย่างที่ได้กินไปเมื่อวาน…
“เอาไว้คิดออกแล้วค่อยกลับมาแล้วกัน!” จอมพลเอเดนจ้องมองกลุ่มคนตรงหน้าขณะโบกมือ จากนั้นจึงเอามือไพล่หลังและกำลังจะเดินกลับไป
“เดี๋ยวก่อน! เอเดน! ผมเห็นด้วยกับคุณ!” คนที่พูดขึ้นเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด เขาเป็นคนริเริ่มและพูดต่อว่า “แต่ว่าผมอยากได้โต๊ะที่เหมาะสมและคงถาวร!”
“เหมาะสม?” เอเดนหันกลับมามองเขา “คงถาวร?!”
เขาเยาะเย้ย “ผมให้คุณได้แค่สิบวันเท่านั้นแหละ!”
จะเอาไม่เอา?
จอมพลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้างั้นเป็นหนึ่งเดือนไม่ได้เหรอ?”
“ก็ได้! ตกลง!” เอเดนหรี่ตาลง “ในเมื่อคุณเป็นคนแรกที่เห็นด้วย ผมจะมอบสิทธิพิเศษให้คุณก็แล้วกัน”
“แล้วพวกคุณล่ะ?! คิดยังไงกันครับ? ถ้าเกิดเห็นด้วยก็รีบหน่อยล่ะ เพราะอีกสองสามวันตารางโต๊ะคงเปลี่ยนไป”
“ผม! ผมอยากได้หนึ่งเดือนด้วย!”
“ไม่! ได้แค่ครึ่งเดือนเท่านั้น!” เอเดนพูดพลางขยี้หู “เพราะงั้นพวกคุณรีบคำนวณเข้าล่ะ”
จอมพลคนอื่นเริ่มตื่นตระหนก!
หลังจากนั้นไม่นาน จอมพลคนสุดท้ายก็ได้โต๊ะมาครองในระยะเวลาสามวัน ท้ายที่สุดก็ได้โต๊ะมาครอง! ไม่มีอย่างอื่นอีก!
เดิมทีจอมพลคนอื่นลังเลในตอนแรก เอาแต่ครุ่นคิดว่าเอเดนเป็นไอ้สารเลว พึ่งพาโต๊ะอาหารตลอดหนึ่งเดือนเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ของตัวเอง แต่เมื่อเห็นว่าทั้งห้าคนตอบรับว่าเห็นด้วย คนที่เหลือก็เริ่มรู้สึกลังเลเล็กน้อย
ชายชราจะไม่รู้หรือว่าเรื่องนี้จริงจังมากแค่ไหน? เพียงอาหารแค่ไม่กี่มื้อก็ทำให้พวกคุณก่อกบฏได้เชียวเหรอ?!
เป้าหมายของเอเดนสำเร็จแล้ว เขาจึงให้ชายชราพวกนี้จ่ายเงินและเข้าไปนั่งรอในห้องอาหาร
ผู้คนเข้ามาทีละคน รวมถึงผู้ที่ซื้อการ์ดไปเมื่อวานเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่าแซกเกอร์เป็นเผ่าพันธุ์ตานหยาง ทว่าท่าทางของเขากลับดูสง่างามราวกับนักกวี เป็นเหมือนกับกลุ่มโกต้าที่มีร่างกายเพรียวสูง
จอมพลทั้งหลายได้รู้ความจริงเกี่ยวกับอาหารตั้งแต่เมื่อวานนี้ พวกเขาจึงส่งข้อความไปหาญาติสนิทมิตรสหายให้มาลิ้มลองรสชาติอาหารที่แสนอร่อย พวกเขาสามารถลิ้มลองอาหารแสนอร่อยได้อย่างอิสระเสรี ไม่เหมือนกับเมื่อวานนี้ที่สามารถกินได้เฉพาะอาหารที่อยู่ในมือเท่านั้น
แต่ละคนที่ซื้อการ์ดไปเมื่อวานได้เข้ามานั่งประจำที่ของตัวเอง รอคอยอาหารมาเสิร์ฟใจจดใจจ่อ
วันนี้สวี่หลิงอวิ๋นก็ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังเช่นเคย
เนื้อซีอิ๊ว เนื้อผัดผงกะหรี่ ซุปพระกระโดดกำแพง หมูสับทอดตุ๋นผักกาดขาว และไก่ย่าง…
อาหารทั้งสิบจานถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว!
นอกจากนี้ ยังมีแกงเม็ดบัวเห็ดหูหนูขาวถ้วยเล็ก สวี่หลิงอวิ๋นไม่คาดคิดว่าเธอจะหาบางอย่างที่คล้ายคลึงกับเห็ดหูหนูขาวและเม็ดบัวได้ที่นี่ เธอต้มทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน เติมน้ำตาลกรวดลงไป กรรมวิธีไม่ได้ซับซ้อนนักแต่รสชาติกลับให้ความแตกต่างออกไป
แซกเกอร์สูดกลิ่นอาหาร ขณะที่ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
อาหารร้านนี้เกินความคาดหมายของเขาไปมาก เมื่อวานนี้เขาเห็นฝูงชนมายืนออกันอยู่หน้าร้าน เขาจึงซื้อการ์ดในราคาสูงมาด้วยความอยากรู้ นึกว่ามันจะเป็นเพียงมื้ออาหารที่ไม่สมกับชื่อร้าน แต่กลับกลายเป็นว่า…
เมื่อเขาได้ลิ้มลองอาหารทุกอย่างแล้ว ทุกจานมีรสชาติที่แตกต่างกัน ทั้งเค็ม ทั้งสดใหม่ ทั้งหวาน ทั้งหอม พ่อครัวแบบไหนจะสามารถทำอาหารที่หลากหลายรสชาติบนโต๊ะเดียวกันได้?!
ยิ่งไปกว่านั้น อาหารทุกจานสามารถขายความเป็นเอกลักษณ์ของร้านอาหารได้ ทว่าเจ้าของร้านอาหารนี้กลับวางอาหารทุกอย่างลงบนโต๊ะเดียวกันอย่างจงใจ ดูเหมือนว่าอาหารทุกจานจะเป็นจานหลัก แต่กลับไม่มีจานไหนด้อยกว่ากันเลย
เขาเดินทางไปมาจนทั่วแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายความน่าอัศจรรย์ใจนี้ได้
ลูกค้าคนอื่นก็เช่นกัน!
ดวงตาของพวกเขาพร่ามัว ปากไม่สามารถพูดออกมาได้ คิดแค่เพียง ‘กิน กิน และกินเท่านั้น!’
ดั่งคนที่ได้กินเนื้อเป็นครั้งแรกหลังจากทุกข์ทรมานมานาน ไม่อาจวางช้อนกับถ้วยลงได้
ทุกคนกินกันอย่างบ้าคลั่ง
โอคาซีกลับมาฝึกฝนเกี่ยวกับเทคโนโลยีอีกครั้ง!
เทคโนโลยีในที่แห่งนี้รัดกุมและก้าวหน้ากว่าชิงเหย้ามาก แต่ก็ไม่ได้รัดกุมจนเกินไป โอคาซีเริ่มเขียนโปรแกรมอย่างว่องไว จากนั้นจึงพยายามแฮกเข้าไปในฐานข้อมูลของรัฐบาล
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ว่าพวกเขาพบช่องโหว่ภายนอกห้วงดวงดาวหรือไม่?
มนุษย์ในเขตดาวต่างแดนแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน? หรือว่ารัฐบาลแอบกักขังมนุษย์เอาไว้กันแน่
โอคาซีหวังว่าตัวเองจะค้นหามันเจอ
สวี่หลิงอวิ๋นยุ่งอยู่กับการทำอาหารตลอดทั้งวัน ขณะที่โอคาซีกำลังยุ่งอยู่กับการเรียนรู้ด้านเทคนิค
บางครั้งชิงเย่พยายามจะเข้าไปดูว่าโอคาซีกำลังเรียนรู้อะไรอยู่ แต่เมื่อเขาเห็นจำนวนตัวเลขและตัวอักษรที่อัดแน่น เขาก็รู้สึกราวกับโดนทุบตีเข้าที่หัว ก่อนจะรีบออกไปทักทายลูกค้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ตอนนี้สวี่หลิงอวิ๋นซื้อบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกับโรงแรมไห่เว่ย สำหรับคนเชื้อสายจีนนั้น การได้ซื้อบ้านนับว่าเป็นความสุขที่สุดในชีวิต
มีเพียงบ้านเท่านั้นที่ทำให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัย
เมื่อไม่นานมานี้ชิงเย่ได้รับเงินมากมายจากสวี่หลิงอวิ๋น สวี่หลิงอวิ๋นไม่ใช่คนขี้เหนียว ทุกครั้งเธอมักจะแบ่งเหรียญทองอินทนิลจำนวนสิบเหรียญให้แก่เขา จนเขาสามารถนำไปจ่ายค่ากู้ยานอวกาศได้!
เขารู้สึกว่าทุกย่างก้าวของเขามั่นคงมากขึ้น!
หลังจากที่เห็นว่ายังมีเหรียญทองอินทนิลเหลืออยู่หลายสิบเหรียญ เขาก็ยิ้มออกมา และตั้งใจจะไปเดินเล่นที่ตลาดมืด!
อาจจะเจออะไรดี ๆ ก็เป็นได้! ไม่ว่าจะเป็นวัตถุโบราณ งานศิลปะต่าง ๆ
อา! ชีวิตช่างมีความสุขเหลือเกิน!
สวี่หลิงอวิ๋นได้ยินว่าชิงเย่กำลังจะไปตลาดมืดก็รู้สึกสนใจ จึงรีบพาแฟนหนุ่มและเสี่ยวอ้ายไปเที่ยวตลาดมืดด้วยกัน
ตอนนี้เธอรวยแล้ว และไม่ต้องรีรออีกต่อไป
ก็แค่เหรียญจักรกรินไม่ใช่หรือไง? เจ๊มีเงินเยอะแล้วจ้า!
ทว่าสิ่งที่แปลกประหลาดในครั้งนี้คือลุงหัวมังกรไม่ได้คิดค่าธรรมเนียมเธอเหมือนเมื่อคราวก่อน แต่หวังว่าเธอจะทำบาร์บีคิวให้เจ้านายของเขาอีกครั้ง
“คุณชายไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลยหลังจากกินบาร์บีคิวของคุณครั้งที่แล้ว เขาบอกว่าถ้าเจอคุณอีก หวังว่าคุณจะทิ้งข้อมูลการติดต่อให้เขาบ้าง เขายินดีจะควักเงินจำนวนมากจ่ายค่าอาหารของคุณ”
ประจวบเหมาะเลยสินะ?
สวี่หลิงอวิ๋นควักนามบัตรออกมาจากกระเป๋าโดยไม่ลังเล “นี่คือร้านอาหารของฉันค่ะ ให้ผู้จัดการเข้ามากินอาหารได้เลยค่ะ ถ้าเป็นไปได้ ฉันจะจองโต๊ะอาหารไว้ให้เขาเอง”