ตอนที่ 454 คืนชีพ
ตอนที่ 454 คืนชีพ
ชาวเน็ตทั้งหลายถูกคำว่า ‘สัตว์เลี้ยง’ กระแทกเข้าอย่างหนัก!
พวกเขานึกไม่ออกว่าจะถูกปฏิบัติให้เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาไม่มีขน?! สิ่งมีชีวิตที่มีขนมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงของเหล่ามนุษย์เสมอมา แต่แล้วพวกเขากลับกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาชนิดอื่น ทุกคนจึงรู้สึกแปลกใจ
ราวกับพวกเขาได้แลกเปลี่ยนอัตลักษณ์กับสัตว์ในกรมปศุสัตว์ สัตว์ทั้งหลายกลายมาเป็นเจ้านาย และพวกเขากลายเป็นเนื้อบนเขียง และนั่นทำให้พวกเขารู้สึกขบขัน!
“ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ” สวี่หลิงอวิ๋นพูดต่อ “มนุษย์ที่อยู่ในเขตดาวข้างนอกได้แต่หลบซ่อนตัวและไม่กล้าออกมา เมื่อไหร่ที่ถูกจับตัวได้ พวกเขาจะถูกคนพวกนั้นกักขังและขายให้กับชนชั้นสูง”
“ถ้าชนชั้นสูงคนไหนดีหน่อยก็อยากจะรักษาเลือดบริสุทธิ์ของเผ่ามนุษย์เอาไว้ โดยการให้มนุษย์สืบพันธุ์กับมนุษย์ด้วยกัน” สวี่หลิงอวิ๋นเน้นเสียงไปที่คำว่า ‘เลือดบริสุทธิ์’ เผยให้เห็นถึงการประชดประชัน “แต่ถ้าไปเจอคนใจร้ายเข้าละก็ มนุษย์จะต้องสืบพันธุ์กับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เพื่อให้กำเนิดสัตว์ประหลาด และนำออกไปขาย”
คำพูดที่แสนเรียบง่ายของสวี่หลิงอวิ๋นทำลายทัศนคติทั้งสามด้านอย่างมาก!
เมื่อฟังคำพูดดังกล่าวแล้ว พวกเขารู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนทุบตีพวกเขาด้วยไม้ท่อนหนาสองท่อนจนพวกเขารู้สึกมึนงง!
[อยากจะอ้วก!]
[ฉันคิดว่าฉันเริ่มกลัวพวกสัตว์ที่อยู่ในฟาร์มของฉันแล้วล่ะ!]
[ล้อกันเล่นใช่ไหม? ใครก็ได้บอกผมทีว่านี่มันแค่เรื่องล้อเล่นใช่ไหม?!]
[บัดซบ สมองของมนุษย์ต่างดาวพวกนั้นติดอยู่ในช่องของแม่หรือไง?! ทำไมถึงคิดอะไรที่น่าขยะแขยงแบบนั้นได้?]
[ฉันโชคดีมากเลยที่ได้ใช้ชีวิตสงบสุขและมั่นคงอยู่ที่นี่ ฉันนึกไม่ออกเลยว่าพวกมนุษย์ที่อาศัยอยู่ข้างนอกนั่นจะมีชีวิตอยู่กันยังไง]
…
สวี่หลิงอวิ๋นพูดต่ออีกว่า “หลังจากที่เวลาล่วงเลยผ่านมาหลายปี มนุษย์ที่อยู่ข้างนอกนี้ค่อย ๆ รวมตัวกันและพากันไปหลบซ่อนที่ดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง พวกเขาต่อสู้กับจักรวรรดิอื่นและคอยช่วยเหลือพวกมนุษย์ที่ถูกจับตัวไป”
ชาวเน็ตนั่งฟังเงียบ ๆ ขณะที่ในใจก็เริ่มหวาดหวั่น!
สวี่หลิงอวิ๋นจับจ้องไปที่ต้นไม้แห่งชีวิต ก่อนจะถอนหายใจ และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พวกคุณรู้ไหม? พวกเราได้เห็นต้นไม้แห่งชีวิตข้างนอกนั่นอีกต้นหนึ่งด้วย”
ชาวเน็ตตกตะลึงอีกครั้ง! ต้นไม้แห่งชีวิตอีกต้น? ต้นไม้แห่งชีวิตต้นนั้นอยู่ในกำมือของมนุษย์เหมือนกันหรือเปล่า?!
“เผ่าพันธุ์ชาญฉลาดเป็นคนปลูกต้นไม้แห่งชีวิตต้นนั้นไว้บนดาวเคราะห์อันแห้งแล้ง จนต้นไม้แห่งชีวิตต้นนั้นสูงใหญ่ขึ้น และเริ่มให้ผลผลิตที่มีสติปัญญาออกมา ผลผลิตพวกนั้นเป็นการให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ใหม่ นั่นก็คือเอลฟ์”
“พวกเอลฟ์ก่อตั้งจักรวรรดิเอลฟ์ จนได้กลายเป็นหนึ่งในสี่จักรวรรดิหลักบนจักรวาลรอบนอก และต้นไม้แห่งชีวิตก็ถือว่าเป็นพระแม่พฤกษาของพวกเขา เป็นที่เคารพนับถือ และมีรูปร่างแบบเดียวกับมนุษย์”
ผู้คนทั่วทั้งห้วงดวงดาวรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว!
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ต้นไม้แห่งชีวิต มันเหี่ยวเฉาราวกับกำลังจะตายลง หัวห้อยตกลงมา ไม่อยากจะคิดเลยว่าต้นไม้แห่งชีวิตอีกต้นหนึ่งมีชีวิตที่ดีอย่างไร ในขณะที่ต้นไม้แห่งชีวิตที่คอยปกป้องรักษาพวกเขามาหลายพันปีกำลังจะตายลง!
เมื่อไม่มีสิ่งเปรียบเทียบก็คงไม่มีวันรู้จักข้อบกพร่องของตัวเอง!
เมื่อมองดูต้นไม้แห่งชีวิตที่คอยปกป้องพวกเขากำลังสูญเสียพลังงาน และเสียโอกาสในการเจริญเติบโต ดวงตาของพวกเขาก็เปียกปอน!
[สรุปคือพวกเราเป็นคนที่ถูกปกป้องมาตลอดสินะ?]
[เมื่อก่อนฉันเคยบ่นว่าทำไมถึงมีแต่เอเลี่ยน ทำไมพระเจ้าไม่ช่วยพวกเราบ้าง แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ไม่ใช่ว่าพระเจ้าไม่ช่วยเรา แต่เพราะท่านกำลังป่วยหนักต่างหาก!]
[จะช่วยมันได้ยังไงบ้าง?]
[ฉันอยากให้มันมีชีวิตอยู่ต่อ! อยากให้มันเป็นเหมือนพระแม่พฤกษา มีชีวิตอยู่ต่อและให้กำเนิดสิ่งมีชีวิต!]
[จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อนะ! พระผู้เป็นเจ้า!]
ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนส่งกำลังใจผ่านคอมเมนต์!
ตอนนี้ความคิดของทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ละจักรวรรดิมีความเชื่อเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของทวยเทพที่แตกต่างกัน แต่ตอนนี้พวกเขาได้รวมความคิดเป็นหนึ่งเดียว!
ต้นไม้แห่งชีวิตต่างหากที่เป็นผู้เสียสละ!
มันเป็นถึงต้นไม้แห่งชีวิต! มันสามารถละทิ้งพวกเขาได้ตลอดเวลาหากคิดจะหาวิธีให้ตัวเองรอด! แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น! มันคอยปกป้องรักษามวลมนุษย์อย่างขันแข็ง ทั้งที่มีวิกฤตการณ์มากมายตั้งเท่าไหร่ที่มันสามารถละทิ้งพวกมนุษย์ไปได้?!
ถ้ามันไม่ใช่พระเจ้าของพวกเขา แล้วจะเป็นใครได้อีก?!
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูคอมเมนต์มากมาย ขณะที่มือก็คอยลูบต้นไม้แห่งชีวิต สัมผัสใบไม้สีเหลืองของมันเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “เห็นแล้วหรือยัง? ความพยายามของแกไม่ได้สูญเปล่านะ มนุษย์ทุกคนคิดว่าแกคือพระเจ้า แกคือวีรบุรุษ!”
ทุกคนวางเครื่องคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ลง ประกบฝ่ามือเข้าหากัน และสวดภาวนา
“พระผู้เป็นเจ้า! ได้โปรดอย่าทิ้งพวกเราไป!”
พรจากคนคนหนึ่งเป็นเหมือนกับจุดประกายไฟเล็ก ๆ ที่อาจไม่สะดุดตานัก แต่เมื่อจุดประกายไฟนับแสนล้านดวงจากการสวดภาวนาของเหล่ามนุษย์มารวมเข้าด้วยกัน พลังแห่งจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งก็ควบแน่นขึ้นบนพื้นดิน พวกมันส่องประกายแสงสีขาว ล่องลอยเข้าไปในต้นไม้แห่งชีวิตที่อยู่ในฝ่ามือของสวี่หลิงอวิ๋น!
ดวงตาของเสี่ยวอ้ายเบิกกว้าง!
“โฮ่ง! พลังแห่งคำอวยพร!”
ต้นไม้แห่งชีวิตทั้งสองดึงเถาวัลย์กลับมา หลังจากนั้นต้นไม้แห่งชีวิตในมือของสวี่หลิงอวิ๋นก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง มันค่อย ๆ ยืดตัวขึ้น!
ภายใต้การสวดภาวนาคำอวยพร มันแตกยอดอ่อนออกมาอย่างรวดเร็ว จนเกสรดอกไม้เริ่มผลิบาน!
มันฟื้นคืนชีพแล้ว!
เสี่ยวอ้ายน้ำตาไหลพราก ถึงกับถูหน้าเข้ากับบอนาร์ที่อยู่ด้านข้าง “โฮ่ง! มันยังมีชีวิตอยู่! เสี่ยวอวี๋ยังมีชีวิต!”
ต้นไม้แห่งชีวิตมีชื่อว่า ‘เสี่ยวอวี๋’ อย่างนั้นเหรอ?!
สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจด้วยความโล่งอก โอคาซีจับมือเธอเงียบ ๆ พวกเขาทั้งหมดกำลังรอคอยการฟื้นคืนชีพของต้นไม้แห่งชีวิต!
ต้นไม้แห่งชีวิตของสวี่หลิงอวิ๋นกับโอคาซีประสบความสำเร็จในการเข้ารับตำแหน่งแทน ‘เสี่ยวอวี๋’ เนื่องจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ในห้วงดวงดาวแห่งนี้เป็นผู้เพาะปลูกต้นไม้แห่งชีวิตรายย่อย เพราะฉะนั้นทารกที่เกิดใหม่ในอนาคตจะได้รับการดูแลจากต้นไม้แห่งชีวิต ‘เสี่ยวโอ’ กับ ‘เสี่ยวอวิ๋น’
ข้อดีของสิ่งนี้คือไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาสกัดกั้นพลังจิตของพวกเขา และยังสามารถฝึกฝนได้อย่างรวดเร็ว
ข้อดีอีกหนึ่งประการคือ ในขณะที่ผู้คนกำลังฝึกฝน ต่อให้ต้นไม้แห่งชีวิตทั้งสองต้นไม่ได้ทำอะไร ฐานการฝึกฝนของพวกเขาก็จะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ!
นอกจากนี้ในอนาคตพวกมันจะสามารถปกป้องตัวเองจากศัตรูต่างดาว และอสุรกายร้ายได้
‘เสี่ยวอวี๋’ ที่อยู่ภายใต้พลังแห่งคำอวยพรได้กลายเป็นต้นกล้าที่เกิดใหม่อีกครั้ง! ควบคู่ไปกับพลังจิตและความมีชีวิตชีวาที่เสี่ยวอวิ๋นกับเสี่ยวโอมอบให้ก่อนหน้านี้ เสี่ยวอวี๋ก็เกิดใหม่ขึ้นอีกครั้ง!
[ฉันอยากรู้จัง พระเจ้ายังมีชีวิตอยู่ไหม?]
[จะต้องไม่เป็นอะไร!]
[ใช่! จะต้องไม่เป็นอะไร! พระองค์ทรงปกป้องพวกเรามาตั้งหลายพันปี!]
[จะต้องไม่เป็นอะไรแน่!]
…
‘เสี่ยวอวี๋’ ค่อย ๆ ยืดร่างกายของมัน กิ่งและใบของมันเป็นสีเขียวชอุ่ม และมีดอกไม้สีม่วงผลิบานอยู่บนหัว ผิวของมันเนียนนุ่มละมุนเป็นอย่างมาก!
มันลอยตัวอยู่หน้าเสี่ยวอ้าย ใช้ใบไม้ถูเข้ากับอีกฝ่าย ขณะที่น้ำตาของเสี่ยวอ้ายไหลรินลงมา “โฮ่ง! ทำไมแกน่าสงสารจัง? ฉันคิดว่าจะไม่ได้เจอแกอีกแล้ว!”
เสี่ยวอ้ายรู้ว่าเสี่ยวอวี๋ได้รับบาดเจ็บ แต่มันไม่คิดว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรงขนาดนี้ และมันรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก