ตอนที่ 475 ลูกสมุนของอสุรกาย
ตอนที่ 475 ลูกสมุนของอสุรกาย
“ฉันไม่รังเกียจที่พวกมันเป็นสิบห้าดาวกันหรอกนะ!”
สวี่หลิงอวิ๋นพูดออกมาอย่างไร้ความเกรงใจ “พวกแกคิดว่าไงล่ะ?”
เสี่ยวอ้ายจ้องมองไปที่บอนาร์และให้สัญญา “นายท่านพูดว่าอะไรนะ? ลูกน้องของเราก็คือลูกน้องของนายท่าน เราจะหามาให้ตราบเท่าที่ท่านต้องการ รับประกันได้เลยว่าท่านจะต้องพอใจ!”
บอนาร์มองดูเสี่ยวอ้ายด้วยความน้อยใจ และพูดกับสวี่หลิงอวิ๋นว่า “เสี่ยวอ้ายพูดถึงลูกน้องของข้า ก็คือลูกน้องของท่าน ถ้ามีคำสั่งอะไรก็บอกมาได้เลย!”
“ฮ่า ๆๆ น่าละอายจัง มันไม่แย่ไปหน่อยเหรอที่ลูกน้องของแกต้องมารวมตัวกันทำงานเพื่อฉัน?” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขณะที่แววตาของเธอเป็นประกาย เธอลุกขึ้นยืนและตบโต๊ะ “ถ้าอย่างนั้น รวบรวมอสุรกายสิบห้าดาวห้าร้อยตัวหรือมากกว่านั้นมาเดินเที่ยวเล่นที่จักรวรรดิจื่อจินดู!”
“ความต้องการของเราไม่ได้มีอะไรมาก แต่อย่าให้เลยเถิดล่ะ ขอแค่สร้างความวุ่นวายจนจมดินก็พอ!”
“ให้คนพวกนั้นได้ลิ้มรสบ้างว่าการถูกทำลายบ้าน มันรู้สึกยังไง?!”
เสี่ยวอ้ายกับบอนาร์เริ่มทะยานออกไปจากยานรบ พวกมันส่งเสียงร้องคำรามทอดยาวไปยังส่วนลึกของจักรวาล มันร้องถามและได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิจื่อจินกำลังนั่งอยู่ในพระราชวัง รอฟังข่าวจากทหารแนวหน้า แต่หลังจากส่งคลื่นสัญญาณออกไปก็ไม่มีใครตอบกลับมา และนั่นทำให้เขาโมโหมาก
ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกวิตกกังวลและมีความสงสัย มีภัยอันตรายอยู่ข้างหน้านั่นจริงหรือ? เผ่ามนุษย์ได้สังหารครั้งใหญ่จริงหรือเปล่า? และเกิดบ้าอะไรกับต้นไม้แห่งชีวิตนั่นกันแน่?
ในใจยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเตือนจากบาเรียที่ปกคลุมดาวเคราะห์อยู่!
‘โปรดระวัง มีศัตรูจากภายนอก!’
‘โปรดระวัง มีศัตรูจากภายนอก!’
‘โปรดระวัง มีศัตรูจากภายนอก!’
‘โปรดระวัง มีศัตรูจากภายนอก!’
…
“เกิดอะไรขึ้น? ส่งคนไปตรวจสอบ!” จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิจื่อจินรีบออกคำสั่งทันทีที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากบาเรีย พอกันที!
ศัตรูจากภายนอกงั้นเหรอ?!
ไม่ต้องสั่งให้คนออกไปตรวจสอบอีกต่อไป แม้แต่การสืบสวนก็ไร้ประโยชน์ เพราะเขาถึงกับตกใจทันทีที่เห็นอสุรกายหลายร้อยตัวรวมตัวกันอย่างหนาแน่นที่นอกบาเรียของเมืองหลวง พวกมันจ้องมองพวกเขาราวกับอสรพิษ โจมตีเมืองหลวงจื่อจินอย่างดุดัน!
“เกิดอะไรขึ้นกับอสุรกายพวกนั้น? ทำไมมันถึงบุกมาโจมตีเมืองหลวงของเรา?!”
ประชากรรู้สึกหวาดกลัวกันแทบตาย และหลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดินครั้งแล้วครั้งเล่า เฝ้าดูฉากอันน่าสะพรึงกลัวด้านนอกด้วยความสยดสยอง
“พวกมันบ้าไปแล้วเหรอ? ยกโขยงมาโจมตีได้ยังไง?!”
“ทหาร! พวกทหารหายไปไหนหมด? ทำไมยังไม่ออกไปหยุดอสุรกายพวกนั้นอีก? จะปล่อยให้พวกมันโจมตีเมืองหลวงของเราหรือไง?”
ทุกคนในเมืองหลวงจักรวรรดิจื่อจินล้วนเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและอยู่ในตระกูลมั่งคั่ง พวกเขาคุ้นเคยกับการเสพสุข พวกเขาจะยอมตายภายใต้เท้าของอสุรกายยักษ์ได้อย่างไร?
“พวกเราจ่ายภาษีให้กับการคุ้มครองของจักรวรรดิไปตั้งเยอะแยะ แล้วตอนนี้พวกทหารหายไปไหนหมด? เวลาแบบนี้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน? ออกมาปกป้องพวกเราซะ!”
หากก่อนหน้านี้นักธุรกิจทั้งหลายพูดทักท้วง หน่วยงานเฉพาะทางจะต้องออกมายอมรับข้อเรียกร้องของพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ผู้คนทั้งหลายกำลังตื่นตระหนก บุคลากรในหน่วยงานเฉพาะทางต่างพากันหวาดกลัวและซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดิน พวกเขาขอรักษาชีวิตอันน้อยนิดของตัวเองไว้ ส่วนนักธุรกิจพวกนั้นจะทำอะไรก็ช่าง!
จักรพรรดิรีบวิ่งเข้าไปในห้องใต้ดินด้วยความตื่นตระหนก และสั่งให้ทหารออกไปตรวจสอบสถานการณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า ใช้กำลังสุดความสามารถเพื่อหยุดอสุรกายพวกนี้
จอมพลม่ายฮา ผู้บัญชาการสูงสุดที่รับผิดชอบดูแลความสงบในเมืองหลวงออกไปตรวจสอบสถานการณ์ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกหลังจากพบว่าอสุรกายทุกตัวอยู่ในระดับสิบห้าดาวขึ้นไป!
อสุรกายระดับสิบห้าดาวจำนวนห้าร้อยตัว และทั้งจักรวรรดิจื่อจินของเขามียอดฝีมือระดับสิบห้าดาวไม่ถึงห้าร้อยคนเลย!
เกิดอะไรขึ้นกับอสุรกายพวกนี้? ทำไมพวกมันถึงรวมกลุ่มกันมาโจมตีเมืองหลวงของเขา? อะไรคือสิ่งดึงดูดให้อสุรกายพวกนี้มาที่นี่?
นี่จะต้องไม่ใช่เหตุการณ์ธรรมดา มันผิดปกติเกินไป!
ถึงแม้ว่ามันจะผิดปกติหรือไม่ พวกเขาก็ยังต้องต่อสู้กับอสุรกายพวกนี้อยู่ดี!
ดูเหมือนว่านี่จะกลายเป็นการสู้แบบไม่คิดชีวิต!
จอมพลม่ายฮาถอนหายใจ ทิ้งจดหมายลาตายให้กับภรรยา โดยบอกเธอเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติและรหัสผ่านของบัญชีทั้งหมด ก่อนจะนำกองกำลังทหารออกไปด้านนอกบาเรียของจักรวรรดิจื่อจิน
กองทัพของจอมพลม่ายฮามีพลทหารอยู่จำนวนมาก และมีมากถึงสองแสนหรือสามแสนคน
ทว่าบางครั้งการต่อสู้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวน แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพต่างหาก เหล่าทหารขับเครื่องบินรบพ่นไฟใส่อสุรกายอย่างดุเดือด บางคนควบแน่นพลังดวงดาวเข้ากับอาวุธเพื่อต่อสู้กับอสุรกาย แต่ทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์! อสุรกายพวกนี้มีขนาดใหญ่เกินไป! เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันเงยหน้าและยกมือขึ้น พวกมันก็จะสามารถเอาชนะพวกเขาได้ง่ายดายราวกับแค่เดินเหยียบมดและยกมือตบยุง
ทหารจำนวนสองถึงสามแสนคนล้มตายลงภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เหลือเพียงทหารหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นนายเท่านั้น
สงครามโหดร้ายนัก แม้แต่สวี่หลิงอวิ๋นที่เป็นผู้ริเริ่มยังรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อย นับประสาอะไรกับผู้คนในจักรวรรดิจื่อจิน?
จอมพลม่ายฮาหลั่งน้ำตาอย่างขมขื่น ชายหนุ่มที่มีความสามารถในจักรวรรดิจื่อจินต้องมาจบชีวิตลงภายใต้การย่ำยีอย่างทารุณของอสุรกาย!
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือพวกเขาไม่รู้ว่าทำไมอสุรกายถึงเข้ามาโจมตีจักรวรรดิจื่อจินของพวกเขา!
“ใกล้แล้ว มีวิธีทำให้บาเรียแตกเร็วขึ้นไหม?”
สวี่หลิงอวิ๋นถามโอคาซี คำถามนี้เหมาะแก่เจ้าหน้าที่ทางด้านเทคนิคที่สุดแล้วหรือเปล่า?
“นายท่าน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันกับบอนาร์เถอะ แค่นี้ง่ายมาก!” เสี่ยวอ้ายตบหน้าอกและพูดว่า “บอนาร์จัดการบาเรียพวกนี้ได้เก่งมาก!”
บอนาร์ชะงักไปครู่หนึ่ง มันจัดการได้เหรอ? ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่เคยพังบาเรียเลยด้วยซ้ำ?
แต่ในเมื่อเสี่ยวอ้ายมองดูมันด้วยสายตาคาดหวัง มันก็ตบหน้าอกและให้คำมั่นสัญญา “ปล่อยเรื่องเล็กน้อยให้เป็นหน้าที่ข้าเถอะ ก็แค่พังบาเรียไม่ใช่หรือไง? รับประกันได้เลยว่ามันจะสำเร็จภายในสิบนาที!”
พูดจบ บอนาร์ก็รีบออกไปจากยานรบด้วยความปลื้มปีติ มันเล็งไปที่บาเรียแล้วเหวี่ยงหมัดใส่สุดแรงเกิด!
เพียงเท่านี้บาเรียก็กลายเป็นเกล็ดหิมะร่วงหล่นลงมาในทันที
ทว่าการโจมตีสุดแรงเกิดของบอนาร์ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงเท่านั้น พลังอันน่าสะพรึงกลัวของมันสั่นสะเทือนมาถึงพื้นจักรวรรดิจื่อจิน บ้านเรือนอาคารถูกตัดขาด พื้นดินถล่มลึกลงไปอย่างน่าสยดสยอง
แรงระเบิดดังกล่าวปกคลุมไปทั่วทั้งพระราชวัง! จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิจื่อจินหวาดกลัวจนแทบจะฉี่ราดกางเกง และรีบต่อสายสนทนาทางวิดีโอหาจอมพลม่ายฮา “ม่ายฮา เจ้ามัวทำบ้าอะไรอยู่? ตั้งนานแล้วทำไมยังเอาชนะอสุรกายพวกนั้นไม่ได้อีก? แล้วปล่อยให้พวกมันทำลายบาเรียงั้นเรอะ?”
จอมพลม่ายฮามองดูจักรพรรดิด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย “ขออภัยพ่ะย่ะค่ะ ท่านจักรพรรดิ พวกมันแข็งแกร่งเกินไป ตอนนี้ทหารสองแสนแปดหมื่นนายถูกฆ่าตาย เหลือกันอยู่แค่หนึ่งหมื่นกว่านายเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”