ตอนที่ 489 อัญเชิญอสุรกาย!
ตอนที่ 489 อัญเชิญอสุรกาย!
[พระเจ้าช่วย! มนุษย์พวกนี้ทำมาจากเหล็กหรือไง?!! สุดยอดอาวุธก็ทำอะไรพวกนั้นไม่ได้งั้นเหรอ? โจรสลัดคงจะโกรธแทบบ้าเลยสินะ?!]
[พวกคุณพูดบ้าอะไร? พวกโจรสลัดจะโกรธไปทำไม? ไม่เห็นจะสำคัญตรงไหน พวกมนุษย์ก็แค่พลิกสถานการณ์ได้ปะ?! ใคร ๆ ก็บอกว่าพวกโจรสลัดไม่กลัวความตายไม่ใช่เหรอ?! ขอแค่ทุกคนมีจิตใจผ่องใส ใครก็เป็นยอดชายได้ทั้งนั้น!]
[ไปให้พ้น! หยุดมาพูดอะไรไร้สาระที่นี่สักที! ต่อให้อยู่หรือตาย พวกโจรสลัดก็ไม่สนใจหรอก ถึงสุดยอดอาวุธจะใช้งานไม่ได้ แต่ก็ยังใช้ลูกกระสุนปืนใหญ่ได้อยู่ดี! แล้วพวกคุณล่ะมีอะไรบ้าง?! ฮ่าฮ่าฮ่า!]
…
ชาวเน็ตยังคงเหน็บแนมอย่างสนุกสนาน เยาะเย้ยว่าพวกโจรสลัดไร้ฝีมือ! เกือบทุกคนที่กำลังดูรายการถ่ายทอดสดอยู่สงสัยว่าเผ่ามนุษย์จะตอบโต้พวกโจรสลัดได้อย่างไร?!
[พวกมนุษย์ไม่มีอสุรกายแล้ว พวกคุณคิดว่าพวกมันจะโจมตีโจรสลัดได้ง่าย ๆ เหรอ?]
[ง่ายแน่นอน! อย่าลืมสิว่ามีสุดยอดอสุรกายบอนาร์อยู่! ไม่รู้ว่าพวกมนุษย์ไปสัญญาอะไรเอาไว้ บอนาร์ถึงได้เชื่อฟังพวกมันนัก!]
[ใครจะไปรู้ล่ะ! ตั้งแต่เผ่ามนุษย์ได้ยกระดับขึ้น ผมก็ไม่เข้าใจอะไรเลย! คนโง่กลายเป็นคนฉลาด แต่คนฉลาดกลับกลายเป็นคนโง่ ต่อให้วันหนึ่งอสุรกายกลายมาเป็นมนุษย์ ผมก็เชื่อ นับประสาอะไรกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้?]
[โธ่! ไม่ว่าใครจะชนะหรือแพ้ ยังไงก็มีค่าเท่าเดิมสำหรับพวกเรา! พวกหนึ่งเป็นโจรสลัดเดินได้ อีกพวกเป็นโจรสลัดในถ้ำ ไม่ว่าจะพวกไหน เราก็เอาชนะไม่ได้อยู่ดี!]
[คอมเมนต์บนพูดซะผมแสบจมูกเลย เกือบจะน้ำตาไหลแล้วนะเนี่ย! ไม่ได้การล่ะ! ผมจะต้องปลอบประโลมใจดวงน้อย ๆ ด้วยขนมฟองเต้าหู้หม่าล่าจากเคทเลอร์!]
[คอมเมนต์บนคือพวกคนรวยสินะ หาซื้อขนมฟองเต้าหู้หม่าล่าได้ยังไง?! น่าชื่นชมจริง ๆ!]
[คุณก็พูดเกินไป!]
…
เมื่อพวกโจรสลัดเห็นว่าเผ่ามนุษย์ยังมีชีวิตอยู่ก็รีบไปรายงานต่อองค์หญิงเหมยหลี่ในทันที และองค์หญิงเหมยหลี่ก็ตกตะลึงเช่นกัน!
เผ่ามนุษย์น่ากลัวขนาดนี้เชียวหรือ?!
นี่มันไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์สักนิด!
ถึงจะไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่การดำรงอยู่ของเผ่ามนุษย์ก็ถือว่าเป็นภัยคุกคาม! ควรทำอย่างไรดี?!
ชายชาวโจรสลัดที่เป็นนักการทูตขมวดคิ้วและพูดว่า “หรือไม่ พวกเราก็ทำตามอย่างที่พวกเขาพูด มอบเหรียญทองอินทนิลหนึ่งล้านล้านเหรียญให้พวกเขาดีไหมพ่ะย่ะค่ะ? ถ้าเอามาใช้จ่ายเพื่อซื้อความปลอดภัย มันก็ดีไม่น้อยนะพ่ะย่ะค่ะ!”
“มันคือทั้งหมดที่เราจะทำได้!”
เหมยหลี่ทั้งรู้สึกหวาดกลัวและเศร้าสลดในเวลาเดียวกัน
ถ้าเธอรู้ว่าผลลัพธ์จะเหมือนเดิมและต้องมอบเงินให้เผ่ามนุษย์แบบนี้ เธอจะเอาสุดยอดอาวุธออกไปใช้ทำไม? ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ยังสามารถใช้ได้อีกหนึ่งครั้ง!
เธอนั่งลงบนเก้าอี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ เกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่ พวกมนุษย์ครอบครองอาวุธลับอะไรอยู่ ทรงพลังมากกว่าสุดยอดอาวุธอีกเหรอ?
ชายชาวโจรสลัดติดต่อหาสวี่หลิงอวิ๋นอีกครั้ง
สวี่หลิงอวิ๋นตอบรับสายสนทนาทางวิดีโอ จ้องมองที่ชายหนุ่มตรงข้ามและยิ้มเยาะ “โย่ เพิ่งนึกขึ้นได้หรือไงว่าต้องติดต่อหาฉันอีกครั้ง อยากจะเปิดใช้งานสุดยอดอาวุธอีกครั้งไหมล่ะ?”
“ท่านตลกจังเลยนะครับ ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน องค์หญิงของเราตอบตกลงจะจ่ายหนึ่งล้านล้านเหรียญทองอินทนิลให้ท่าน!”
“หนึ่งล้านล้านเหรียญทองอินทนิล?” สวี่หลิงอวิ๋นหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนั้น หลังจากหัวเราะอยู่สักพักหนึ่ง เธอก็หันไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา “ท่านตลกนักเหรอ ราคาในอดีตก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอดีตสิ ตอนนี้เป็นเรื่องของราคาปัจจุบัน”
“ท่านยังคิดว่าชีวิตของพวกท่านซื้อได้ในราคาหนึ่งล้านล้านเหรียญทองอินทนิลอยู่อีกเหรอ? ท่านทำให้ฉันสูญเสียอสุรกายไปกว่าห้าร้อยตัว เงินเท่านี้ไม่พอสำหรับอสุรกายพวกนั้นหรอกนะ ฉันจะเรียกตัวล่ะหนึ่งแสนเหรียญทองอินทนิล จากนี้ท่านก็ไปคำนวณเอาเองแล้วกัน”
คำนวณได้เท่าไหร่? ได้ห้าสิบล้านเหรียญทองอินทนิล ราคานี้มากเกินไป พวกโจรสลัดไม่ได้สามารถจ่ายได้
อีกทั้งยังต้องรวมเข้ากับหนึ่งล้านล้านเหรียญทองอินทนิลก่อนหน้านี้อีก ทั้งหมดจะเป็นหนึ่งจุดห้าล้านล้านเหรียญ!
นี่เป็นเพียงตัวเลขทางดาราศาสตร์ที่พวกเขานึกไม่ถึงด้วยซ้ำ
“ราคานี้ค่อนข้างสูงไปหน่อยนะครับ ท่านพอจะลดให้พวกเราอีกหน่อยได้ไหมครับ?”
“ลดอีกหน่อย? ท่านคิดยังไงกับฉันกันแน่ คิดว่าทำการกุศลอยู่หรือไง?” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองเขาอย่างเย็นชาและพูดต่อ “เลือกมาเลยว่าจะต่อสู้หรือว่าจะยอมจ่ายเงิน!”
เป็นอะไรที่เลือกยากมาก…
ชายชาวโจรสลัดไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากหันไปพูดกับสวี่หลิงอวิ๋นว่า “ผมขอไปถามองค์หญิงก่อนนะครับ”
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า
ทันทีที่บนสนทนาทางวิดีโอจบลง สวี่หลิงอวิ๋นก็หันไปถามต้นไม้แห่งชีวิต เสี่ยวอ้าย และบอนาร์
“พวกแกมั่นใจแค่ไหนว่าจะรับมือกับอาวุธใหญ่ได้? เราจะต้องเริ่มโจมตีเดี๋ยวนี้ อย่าปล่อยให้พวกมันพลิกเกมกลับมาได้”
“มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์” บอนาร์ทุบหน้าอกและพูดว่า “ตอนนี้พวกมันไม่มีทางเปิดใช้งานสุดยอดอาวุธได้อีกครั้งแน่ เพราะการจะเปิดใช้งานสุดยอดอาวุธได้อีกครั้งจะต้องเว้นเวลาถึงสามวัน”
“และพวกโจรสลัดไม่กล้าเสี่ยงกับสถานการณ์ปัจจุบันหรอก”
พูดอีกก็ถูกอีก ดาวโจรสลัดไม่เข้าใจว่าทำไมพวกสวี่หลิงอวิ๋นถึงไม่เป็นอะไรเลย และแม้แต่สุดยอดอาวุธก็ไม่สามารถทำอะไรได้
องค์หญิงแห่งดาวโจรสลัดกำลังชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย ยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลดีกว่าทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง
“ความแข็งแกร่งของข้ากับเสี่ยวอ้ายทรงพลังที่สุดในหมู่อสุรกาย แค่พวกข้าสองตัวก็สามารถฆ่าดาวโจรสลัดไปได้ถึงครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีความช่วยเหลือจากต้นไม้แห่งชีวิต ดาวโจรสลัดจะต้องพังพินาศลง ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติตรงไหน”
คำพูดของบอนาร์ตรงประเด็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามมันเป็นอสุรกายที่มีชีวิตยืนยาวมากที่สุดในจักรวาลด้านนอกนี้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้หรือสิ่งอื่นใดย่อมเหนือกว่าคนอื่นเป็นธรรมดา
ไม่เช่นนั้น อวี้ซินที่เป็นหัวหน้ามนุษย์คงจะไม่ได้รับการฝึกฝน…
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า ถ้าเป็นแบบนี้ ทุกอย่างก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี!
ค่าชดใช้ทั้งหมดที่เธอพูดถึงก่อนหน้านี้ก็เพื่อหลอกลวงดาวโจรสลัด!
ในขณะเดียวกัน โอคาซีเริ่มออกความคิดเห็น
“ตีงูต้องตีให้ตาย เล็งไปที่จุดสำคัญ” โอคาซีพูด “ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เราจะต้องเริ่มจู่โจมในตอนที่พวกมันคิดไม่ถึง!”
เขาหันไปหาเสี่ยวอ้ายและบอนาร์ “พวกแกพอจะเรียกอสุรกายมาอีกครั้งได้ไหม? ไม่ต้องแข็งแกร่งมากก็ได้ ขอแค่มีจำนวนมากก็พอ!”
“ง่ายมาก! อสุรกายในห้วงจักรวาลนี้มีไม่มากนักหรอก แต่ก็มีไม่น้อย! ขอเวลาสิบนาที ข้าจะเรียกอสุรกายมาให้อย่างน้อยหนึ่งพันตัว!” บอนาร์ทุบหน้าอกและพูดตอบ
เสี่ยวอ้ายหยักหน้า “ฉันจะเรียกมาเพิ่มอีกห้าร้อยตัว”
“งั้นรบกวนพวกแกหน่อยนะ!”
เมื่อพูดจบ ลูกพี่ทั้งสองตัวก็เดินออกไปนอกยานรบ ส่งเสียงคำรามขึ้นไปบนอากาศ และดูเหมือนว่าอสุรกายที่อยู่ภายในส่วนลึกของจักรวาลจะได้ยินเสียงเรียกหาของราชา พวกมันรีบวิ่งออกมาจากทั่วทุกมุมและตรงดิ่งไปที่ทางเชื่อมมิติ มุ่งทะยานสู่น่านฟ้าของดาวโจรสลัด
กลุ่มอสุรกายที่อัดแน่นยืนตระหง่านอยู่เหนือดาวโจรสลัด ไม่ต้องกล่าวถึงคุณภาพ แค่ปริมาณเท่านี้ก็สามารถทำให้ขนหัวลุกขึ้นได้อย่างแน่นอน!
บอนาร์ถ่อมตนด้วยการบอกว่าจะเรียกอสุรกายมาหนึ่งพันตัว! แท้จริงแล้วสหายตัวนี้เรียกมาถึงหนึ่งหมื่นตัว!
ขณะที่เสี่ยวอ้ายเรียกมาเกือบสองสามพันตัว!