หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า [超级奶爸] – บทที่ 42 สี่วิธีในการรักษา

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า [超级奶爸]

บทที่ 42 สี่วิธีในการรักษา

บทที่ 42 สี่วิธีในการรักษา

โจวอี้จับชีพจรของเธอและพูดอย่างใจเย็นว่า “พลังปราณหยุดนิ่ง เลือดชะงัก และพิษจากความร้อนก็รุนแรง คุณควรจะเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน!”

ควร?

ชายวัยกลางคนพูดอย่างโกรธเคือง “ใช่ ๆ! เอ๊ย! ไม่ใช่ ๆ! คุณหมายถึงอะไร ที่ว่า ‘ควรจะ’ นี่คุณวินิจฉัยไม่ถูกต้องเหรอ”

“คุณ…ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด…” เหลียนซานรีบอธิบาย

“หุบปาก!” โจวอี้จ้องไปที่เหลียนซาน

จากนั้น โจวอี้ก็มองไปที่ชายวัยกลางคนและพูดว่า “ผมมีความมั่นใจในการวินิจฉัยของผม ถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณสามารถไปเอกซ์เรย์ได้ เหลียนซาน ส่งพวกเขาไปอัลตราซาวด์เดี๋ยวนี้”

เหลียนซานโกรธมากที่ถูกดุ และอีกฝ่ายยังสั่งเหมือนเธอเป็นเพียงเบี้ยล่าง แต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมทำตาม

ขณะที่คู่สามีภรรยาวัยกลางคนเดินออกจากคลินิกไป เหลียนซานก็กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หมอโจว ฉันหวังว่าการวินิจฉัยของคุณจะถูกต้อง ไม่เช่นนั้นเธอจะต้องเสียเงินไปกับการตรวจโดยเสียเปล่า ซึ่งไม่เพียงแต่จะเสียเงินเท่านั้น แต่ยังเสียเวลาด้วย”

โจวอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากที่เหลือบมองอีกฝ่าย เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

จากนั้นก็มีผู้ป่วยอีกสองคนที่เข้ามายังคลินิกของโจวอี้ คนหนึ่งมีอาการเจ็บคอ บวมน้ำ และปอดบวมเล็กน้อย ส่วนอีกคนเป็นกลากเกลื้อน

หลังจากที่โจวอี้วินิจฉัยแล้ว เขาก็ให้ใบสั่งยาทันที และขอให้พวกเขากลับบ้านเพื่อซื้อยาสำหรับใช้ภายใน

หนึ่งชั่วโมงต่อมา สามีภรรยาวัยกลางคนก็กลับมาที่คลินิกพร้อมกับรายงานผลการตรวจ ในเวลานี้สีหน้าของชายวัยกลางคนดูค่อนข้างกระดากอาย และยังรีบเอ่ยปากขอโทษขอโพย

“ผมยังเด็ก ผมเข้าใจว่าคุณตัดสินคนจากรูปร่างหน้าตา คุณนั่นแหละที่ใช้เงินอย่างผิด ๆ อย่างการที่จะต้องไปอัลตราซาวด์และตรวจร่างกายอีก ผมไม่เสียอะไร ผมแค่หวังว่าต่อไปคุณจะเชื่อคำวินิจฉัยของหมอ” โจวอี้กล่าว

“ใช่ครับ มันเป็นความผิดของเราเอง แล้วคุณหมอคิดว่าภรรยาของผมสามารถผ่าตัดได้เมื่อไหร่?” ชายวัยกลางคนถาม

“ผ่าตัด?” โจวอี้สงสัย

“ใช่! ภรรยาผมเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ไม่ต้องผ่าตัดเหรอ?”

“ใครบอกคุณว่าต้องผ่าตัด?” โจวอี้ส่ายหัว ก่อนจะชี้ไปที่หญิงวัยกลางคน แล้วพูดว่า “เธอไม่มีไข้ และเธอสามารถทนความเจ็บปวดได้ ดังนั้นมีสี่วิธีในการรักษาเธอ”

“สี่วิธีอะไร?” ชายวัยกลางคนถามอย่างใจร้อน

เหลียนซานที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็แสดงความประหลาดใจออกมา

เธอได้พบกับผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันมาหลายราย และเธอรู้วิธีรักษาพวกเขา เธอรู้ว่ามีสามวิธีด้วยกัน แต่จู่ ๆ โจวอี้ก็บอกว่ามีสี่วิธี?

“อย่างแรก…กินยาจีน”

“อย่างที่สอง…ทายาบริเวณด้านนอก”

“อย่างที่สาม…การฝังเข็มบำบัด”

“อย่างที่สี่…การผ่าตัด”

“เอาล่ะ คุณต้องเลือกวิธีในการรักษา และผมเคารพการตัดสินใจของคุณ” โจวอี้กล่าว และมองดูคู่สามีภรรยาวัยกลางคนอย่างเงียบ ๆ

ชายวัยกลางคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “การรักษาแบบไหนดีที่สุด?”

“การฝังเข็มและยาจีนแบบรับประทาน สามารถบรรเทาอาการปวดของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และลดเวลาในการรักษาได้ด้วย” โจวอี้ตอบ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายวัยกลางคนก็ยินยอมที่จะทำตามวิธีนั้น

“คนไข้นอนลง…” โจวอี้พูด และจู่ ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ชายหนุ่มหันไปหาเหลียนซานและถามว่า “ต้องการให้พวกเขาจ่ายค่ารักษาก่อนไหม?”

“ใช่!” เหลียนซานมองโจวอี้ด้วยสายตาแปลก ๆ แต่ก็ยังคงพยักหน้า

“คุณเขียนบิล ส่วนคนไข้ถอดเสื้อและรองเท้าออก ไปนอนรอบนเตียง” โจวอี้เอ่ยสั่ง

เหลียนซานทำอะไรไม่ถูก เห็นได้ชัดว่าโจวอี้เป็นผู้รักษา ส่วนเธอต้องเขียนใบเรียกเก็บเงิน?

นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?

โจวอี้ไม่ได้คิดเรื่องนี้มากนัก หลังจากที่ผู้ป่วยนอนลงบนเตียงและรอการรักษา ชายหนุ่มก็หยิบเข็มเงินออกมา แล้วปักลงไปที่จุดเหอกู่*[1] ชวีฉือ*[2] และจุดอื่น ๆ ซึ่งกระบวนการฝังเข็มนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ครั้งนี้เขาไม่ได้อัดพลังปราณเข้าไปในทุกจุดฝังเข็ม แต่ใช้จุดหลักเพียงสามจุดเพื่อเปิดประตูชีพจร ก่อนที่เข็มเงินจะถูกดึงออกมา

โจวอี้ถูเบา ๆ บริเวณจุดที่ผู้ป่วยรู้สึกปวดท้อง และใส่พลังปราณเล็กน้อยเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย

ไม่กี่นาทีต่อมา…

โจวอี้ก็ดึงเข็มเงินออกแล้วโบกมือให้ผู้ป่วยลุกขึ้น จากนั้นเช็ดเข็มด้วยสำลีแอลกอฮอล์ ก่อนจะเก็บกลับเข้าไปในกล่องไม้

เหลียนซานเฝ้าสังเกตการฝังเข็มของโจวอี้ตลอดเวลา เธอประหลาดใจที่โจวอี้มีทักษะในการฝังเข็ม และตำแหน่งของจุดนั้นก็แม่นยำจริง ๆ

ในระหว่างการฝังเข็ม ผู้ป่วยไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ ในระหว่างการฝังเข็มของโจวอี้

“ผมจ่ายค่ารักษาไปแล้ว ภรรยาของผมจะเริ่มฝังเข็มได้เมื่อไหร่?” ชายวัยกลางคนกลับมาพร้อมใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล

“ผมฝังเข็มเสร็จแล้ว…” โจวอี้ตอบ

เร็วมาก!!!

ชายวัยกลางคนถึงกับชะงักงันจนตาค้าง…

โจวอี้มองไปที่หญิงวัยกลางคน และถามว่า “ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”

“ไม่เจ็บมาก และรู้สึกว่าท้องส่วนล่างของฉันอุ่นขึ้น รู้สึกสบายกว่าเมื่อก่อนมาก”

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมเขียนใบสั่งยาให้คุณ ให้คุณกลับบ้านไปต้มยาตามใบสั่งยา กินตอนเช้าหนึ่งครั้ง และตอนเย็นหนึ่งครั้ง ชงดื่มต่อไปอีกสามวัน…”

โจวอี้ยิ้มพลางจดใบสั่งยาอย่างรวดเร็วแล้วยื่นให้

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ คุณเก่งจริง ๆ” หญิงวัยกลางคนกล่าวด้วยความชื่นชม

“ด้วยความยินดี” โจวอี้ยิ้ม และมองดูคู่สามีภรรยาเดินออกจากห้อง

เหลียนซานยืนอยู่ข้างโจวอี้ แววตาของเธอเป็นประกาย

ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงสิ่งที่คุณยายพูดเมื่อคืนนี้

เหตุผลที่โรงพยาบาลแห่งนี้รับโจวอี้เข้าทำงานย่อมมีเหตุผลบางอย่าง โรงพยาบาลไม่ใช่สนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก และผู้อำนวยการเฉินก็ไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมมีเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกโจวอี้เข้ามาทำงาน

ตอนนี้เหลียนซานมีความรู้สึกคลุมเครือต่อชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้านี้

ก๊อก ๆ

ประตูห้องถูกเคาะอีกครั้ง และเฉินเจี้ยนหรงก็เดินเข้ามาอย่างมีความสุข

“โจวอี้ ผมเพิ่งเห็นคนไข้ออกไป แล้วเป็นยังไงบ้าง? การวินิจฉัยโรคเป็นไปด้วยดีไหม?”

“ทุกอย่างราบรื่นมาก ถึงมีปัญหาก็มีเพียงเรื่องเล็กน้อย” โจวอี้ตอบ

“แล้วคนไข้ที่เพิ่งออกไป เธอเป็นโรคอะไรเหรอ?”

“ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน”

“แล้วคุณได้รักษาหรือเปล่า?”เฉินเจี้ยนหรงยังคงถาม

“เธอได้รับยากินและฝังเข็ม เธอจะสบายดีหลังจากกินยาสักสองสามวัน” โจวอี้ยิ้มขณะตอบ

“โฮ่ ๆ! นั่นเป็นปัญหาเล็กน้อยสำหรับคุณ แต่ไม่ใช่สำหรับหมอท่านอื่น เอาล่ะ ผมไม่รบกวนคุณแล้ว” เฉินเจี้ยนหรงยิ้มและหันหลังเดินจากไป

“รองผู้อำนวยการเฉิน ไม่ต้องกังวลไป! ตอนนี้ผมไม่มีผู้ป่วย เรานั่งคุยกันได้!” โจวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เดี๋ยวจะมีผู้ป่วยเข้ามาอีก” เฉินเจี้ยนหรงโบกมือและก้าวออกไปทันที

เฉินเจี้ยนหรงยังตระหนักดีว่าเพราะอายุของโจวอี้ยังน้อย จึงดูเหมือนว่าจะมีผู้ป่วยเพียงไม่กี่รายที่ต้องการเข้ารักษา เขาจึงไปที่สำนักงานทะเบียนเพื่อให้ผู้ป่วยบางรายมารักษากับโจวอี้

สิบเอ็ดโมง…

ผู้ป่วยคนหนึ่งมาที่ห้องรักษาของโจวอี้

“คุณซี คุณมาที่นี่ทำไม?” เหลียนซานดูประหลาดใจเมื่อเห็นผู้ป่วยรายใหม่

“หมอเหลียนอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ! ฉันมาพบหมอโจวเพื่อรับการรักษาค่ะ” ซีชิงอิ่งชี้ไปที่โจวอี้

“มาพบหมอโจว…!” เหลียนซานตกตะลึง

เธอและซีชิงอิ่งเป็นคนรู้จักกัน และเหลียนซานก็รู้ว่าซีชิงอิ่งเป็นโรคอะไร ทุกคนในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิงไม่สามารถรักษาโรคแปลกประหลาดของซีชิงอิ่งได้!

“ใช่…เธอมาหาผม” โจวอี้พูดอย่างผ่อนคลาย เขาชี้ไปที่เตียงแล้วพูดว่า “ถอดเสื้อคลุมและเสื้อกันหนาวออก แล้วนอนบนนั้น”

“ได้!”

ซีชิงอิ่งได้ยินแล้วก็ทำตามทันที

เกิดอะไรขึ้น?!!

เหลียนซานสับสนเล็กน้อย และเกาศีรษะอย่างงุนงง

[1] จุดหนึ่งของเส้นลำไส้ใหญ่ อยู่บริเวณหลังมือ ตรงตำแหน่งกึ่งกลางของกระดูกฝ่ามือ ใช้รักษาอาการปวดฟัน ปวดศีรษะ ตาอักเสบ เลือดกำเดาไหล หูตึง หูหนวก เจ็บคอ ประจำเดือนไม่มา ภาวะคลอดยาก โรคหลอดเลือดสมอง อัมพาตใบหน้า โรคจิตซึมเศร้า คลุ้มคลั่ง และไข้หวัด อีกทั้งยังเป็นจุดฝังเข็มที่ช่วยระงับความรู้สึก ซึ่งใช้บ่อยในการผ่าตัดโรคตา หู คอ จมูก และปาก

[2] จุดหนึ่งของเส้นลำไส้ใหญ่ อยู่บริเวณข้อศอก ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างฉื่อเจ๋อ ของกระดูกต้นแขน ใช้สำหรับรักษาโรคที่มีไข้ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หูตึง หูหนวก ตาแดง เจ็บคอ ปวดฟัน ปวดบวมมือ อัมพาตแขน ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ วัณโรคต่อมน้ำเหลืองที่คอ โรคผิวหนังอื่น ๆ ที่เกิดจากลม ลมชัก โรคจิตซึมเศร้า และคลุ้มคลั่ง

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า [超级奶爸]

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า [超级奶爸]

Status: Ongoing
หลังจากอยู่บนภูเขามานานนับปี แต่ทันทีที่เห็นภาพลูกสาวผู้น่ารักที่เกิดกับภรรยาที่พรากจากกันไป ใจของเขาก็ละลายจนอยากทำหน้าที่ ‘ป๊ะป๋า’ ขึ้นมา!โจวอี้ ชายหนุ่มอัจฉริยะแพทย์แผนจีนและอาศัยอยู่บนภูเขาชางหลางมานานตัดสินใจลงจากเขาทันทีที่รู้ว่าตัวเองมีลูกสาวตัวน้อยน่ารักกับศรีภรรยาคนสวย แต่เมื่อพบกับทั้งภรรยาและลูกแล้ว ดูเหมือนภรรยาจะไม่ต้อนรับเขาสักเท่าไหร่เนี่ยซิ!นอกจากนี้ เขายังได้ค้นพบว่าการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่มันช่างต่างกับอยู่บนภูเขานัก แต่โจวอี้ก็ไม่ยอมแพ้ เขาจะใช้สารพัดวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดจากสุดยอดปรมาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนจีน การวาดภาพและเขียนพู่กันมาสร้างความมั่งคั่ง และทำให้ภรรยาของเขาและลูกยอมรับและภูมิใจให้ได้!!โจวอี้จะทำสำเร็จหรือไม่?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท