บทที่ 195 การยอมรับความผิดพลาด
บทที่ 195 การยอมรับความผิดพลาด
ในประเทศจีนมีการสอนด้านการแพทย์อยู่สองแบบ ได้แก่ การแพทย์แผนจีน และการแพทย์แผนตะวันตก
การแพทย์แผนตะวันตกเป็นหลักสูตรในมหาวิทยาลัย ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานสร้างบุคลากรทางการแพทย์ขนาดใหญ่ หลังจากการร่ำเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว นักเรียนแพทย์จะถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพื่อฝึกงาน โดยมีเหล่าแพทย์อาวุโสที่มากประสบการณ์มีฝีมือ ซึ่งแพทย์อาวุโสเหล่านี้ถูกเรียกว่าครู
ส่วนการแพทย์แผนจีนนั้นเป็นการเรียนในสถาบันแพทย์โบราณ ซึ่งจะรับสมัครแต่ผู้ที่มีพรสวรรค์เป็นเลิศ หลังจากได้รับการสอนอย่างดีจากอาจารย์ที่มีชื่อเสียงแล้ว เมื่อพวกเขาสำเร็จการศึกษาและได้รับการประเมินอย่างเป็นทางการ พวกเขาจะสามารถเข้าทำงานในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ หรือเปิดคลินิกเอกชนเป็นของตัวเองเพียงอย่างเดียวก็ได้ ลูกศิษย์แพทย์แผนจีนประเภทนี้เรียกอาจารย์ของพวกเขาว่า ‘ซือฟู’
สรุปย่อ ๆ ก็คือการแพทย์แผนตะวันตกเคารพครู ในขณะที่แพทย์แผนจีนเคารพซือฟู(อาจารย์)
จ้าวไป่ฉวนคือผู้ร่ำเรียนแพทย์แผนจีน ความคิดที่หยั่งรากลึกของเขาคืออาจารย์นั้นเหมือนกับพ่อของเขาเอง และเตียฉวนเป็นอาจารย์ของเขา ดังนั้นเขาจึงเคารพอีกฝ่ายเหมือนเป็นพ่อ
ในความเห็นของเขา ลำดับอาวุโสเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
แม้ว่าโจวอี้จะขอให้เขาคุยแบบปกติ แต่เขาก็ไม่อาจทำได้ ถ้าไม่ใช่เพราะโจวอี้ยังเด็ก เขาคงไม่กล้าแม้แต่จะเติมคำว่า ‘น้อย’ ตามหลังคำว่าลุง
โจวอี้รู้สึกได้ถึงความแน่วแน่ของจ้าวไป่ฉวน หลังจากพยายามเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จหลายครั้ง เขาก็ปล่อยให้อีกฝ่ายเรียกเขาแบบนั้นไป
“คุณเป็นแพทย์จีน ดังนั้นเขาก็เลยมาหาคุณเพื่อให้คลายจุดฝังเข็มใช่ไหม?” หลังจากซื้อของเสร็จ โจวอี้ก็อารมณ์ดี
แต่หลังจากเห็นอวี้ชิงเหอ เขาก็แสดงสีหน้าระอาเล็กน้อย และถามอีกครั้งว่า “คุณรู้จักเขาไหม?”
“ผมไม่รู้จัก ฉินซานเฉียงพาเขามาหาผมเพื่อให้รักษา แต่ผมรักษาไม่ได้” จ้าวไป่ฉวนส่ายหัวด้วยความอับอาย
“ไม่เป็นไร ในเมื่อไม่รู้จักเขาก็ดี ปล่อยให้เขาทรมานไป” โจวอี้กล่าวอย่างไม่แยแส
อวี้ชิงเหอกำลังเสียใจ เขาคิดว่าโจวอี้เป็นเพียงไอ้หนุ่มยากจนในภูเขา ซึ่งต่อให้จะรู้กังฟูอยู่บ้าง ก็ไม่ต่างจากขยะ แต่ใครจะไปคิดว่าโจวอี้ไม่เพียงแต่จะมีความสามารถลึกลับในการแทงจุดฝังเข็มเท่านั้น ทว่าแม้แต่แพทย์จีนอาวุโสชื่อดังก็ยังเรียกชายหนุ่มคนนี้ว่าลุงน้อย!
ในที่สุดตอนนี้อวี้ชิงเหอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนที่จ้าวไป่ฉวนได้ยินว่าโจวอี้มาจากภูเขาชางหลางแล้วถึงกลัวจนต้องขับไล่พวกเขาออกไป อีกฝ่ายไม่กล้าที่จะล่วงเกินโจวอี้นั่นเอง!
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาหยุดหัวเราะไม่ได้เลย และอีก 1-2 ชั่วโมง เขาก็จะต้องร้องไห้ หลังจากร้องไห้ เขายังต้องแบกรับความรู้สึกที่ว่ามีชีวิตอยู่แย่กว่าความตาย หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงอยู่อย่างเสียสติแม้ว่าเขาจะไม่ตายก็เถอะ
เขาอยู่อย่างสุขสบายมาโดยตลอด ดังนั้นย่อมไม่เต็มใจที่จะแบกรับความเจ็บปวดสาหัสขนาดนั้น!
เขาอยากจะขอความเมตตา
แต่เขาทำไม่ได้เพราะไม่อาจหยุดหัวเราะ! สิ่งนี้ทำให้เขากำลังจะเป็นบ้า!
เมื่อเห็นว่าโจวอี้กำลังจะจากไป เขาก็นึกอะไรบางอย่างออก เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันทีและพิมพ์ประโยคอย่างรวดเร็ว
[คุณโจว โปรดยกโทษให้ในความผิดพลาดของผมเถอะ!]
[ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ขาดเงิน แต่ถ้าหากคุณให้อภัยผมได้ ผมก็อยากจะขอขมาด้วยการให้ซื้อวัตถุดิบยาล้ำค่าสิบชนิดจากตลาดยานี้มอบให้คุณเป็นของขวัญ]
พิมพ์เสร็จแล้วเขาก็ก้าวมาอยู่ข้างหน้าโจวอี้ และชี้หน้าจอมือถือของเขาให้อีกฝ่ายดู
สีหน้าของโจวอี้เปลี่ยนไป เดิมทีเขาคิดว่าอวี้ชิงเหอไม่สำนึกผิดและยังต้องการหาเรื่องอีกรอบ แต่หลังจากอ่านประโยคบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายจบ ทันใดนั้นเขาก็แสดงสีหน้าตลก ๆ ออกมา
ยอมรับความผิดพลาด? ให้ของขอขมา?
วัตถุดิบยาล้ำค่า?
โจวอี้หรี่ตาและนึกถึงวัตถุดิบยาล้ำค่าหลายอย่างที่เขายังขาดอยู่ จากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณแน่ใจนะ?
“ช..ใ..ช่ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” อวี้ชิงเหอพยักหน้าอย่างสิ้นหวังแม้ปากยังคงหัวเราะไม่หยุด
“เพื่อเห็นแก่การยอมรับผิดอย่างจริงใจของคุณ ผมจะยกโทษให้สักครั้ง แต่ผมไม่ต้องการวัตถุดิบยาถึงสิบชนิดหรอก แค่ไปตามหาสามหรือสี่ชนิดที่ผมต้องการมาให้ได้ก็พอ” โจวอี้หยิบเข็มเงินออกมาทันทีและแทงอวี้ชิงเหออย่างรวดเร็วถึงเก้าครั้ง
หลังจากที่อีกฝ่ายหยุดหัวเราะ โจวอี้ก็พูดต่อ “ผมให้เวลาคุณสามวัน ภายในสามวันวันนี้ ถ้าผมได้วัตถุดิบยาที่ต้องการ ผมจะถือว่าบุญคุณความแค้นของเราจบกัน แต่ถ้าไม่ได้ของละก็ หึหึ คุณจะตายภายในสิบวันเพราะเส้นเลือดทั่วร่างของคุณจะระเบิด และก่อนที่คุณจะตาย คุณจะต้องทนเจ็บปวดปางตายอย่างน้อยสามวันสามคืน”
ดวงตาของอวี้ชิงเหอเบิกกว้างเพราะความกลัว
แพทย์หนุ่มแผนจีนแซ่โจวตรงหน้าเขาได้ล้มล้างความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนไปอย่างสิ้นเชิง ชัดเจนแล้วว่าเหล่าแพทย์แผนจีนนั้นทรงพลังในการช่วยชีวิตผู้คน แต่วิธีการฆ่าผู้คนนั้นโหดเหี้ยมยิ่งกว่า
ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ด้วย
อวี้ชิงเหอเคยรับรู้การมีอยู่ของพวกผู้ฝึกยุทธ์และเคยได้พบมาบ้างสองสามคน แม้แต่พ่อของเขาก็ยังต้องพูดจานอบน้อมให้เกียรติเหล่าผู้ฝึกยุทธ์
“ผ..ผมจะทำให้ดีที่สุด! ถ้าผมหามันเจอ ต่อให้ต้องเสียเงินหมดตัว ผมก็ยอม!” อวี้ชิงเหอกล่าวด้วยความกลัว
“ดี!”
โจวอี้พยักหน้าและกำลังจะจากไป แต่เมื่อเขาได้ยินจ้าวไป่ฉวนขอข้อมูลติดต่อของเขา เขาก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากอีกฝ่ายเรียกว่า ‘ลุงน้อย’ สุดท้ายเขาจึงไม่ปฏิเสธ เขาได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อกับอีกฝ่ายก่อนจะพาซุนเหมาไฉออกไป
ขณะนี้ในร้านยาเหลือเพียงจ้าวไป่ฉวนและโจวไฉ่เซีย
โจวไฉ่เซียขมวดคิ้วและมองตามแผ่นหลังของโจวอี้ที่กำลังเดินจากไป แม้เธอจะคิดว่ามันแปลก แต่ก็มีบางคำในใจที่ไม่สามารถลบล้างได้
‘ยาอายุวัฒนะ’
ผู้หญิงให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตา และเธอเองก็เช่นกัน
แม้ว่าเธอจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แต่เธอก็ยังไม่สามารถต่อสู้กับความร่วงโรยตามกาลเวลาได้
จากบทสนทนาของจ้าวไป่ฉวนและโจวอี้ทำให้เธอรู้ว่ามียาที่สามารถชะลอความแก่ของรูปลักษณ์ได้ ซึ่งมันทำให้เธอตื่นเต้นมาก
“ลุงจ้าว คุณมีความเกี่ยวข้องกับเขาจริง ๆ งั้นเหรอ?” โจวไฉ่เซียถาม
“มีความเกี่ยวข้องมากกว่าคนทั่วไปแน่นอน” จ้าวไป่ฉวนยิ้มก่อนจะมองไปที่โจวไฉ่เซีย เขาส่ายหัวและพูดอย่างเอือมระอา “เธอพลาดโอกาสไปแล้ว”
“โอกาสอะไร”
จ้าวไป่ฉวนลังเล
เขาและพ่อของโจวไฉ่เซียเป็นเพื่อนสนิทกัน และเขามองว่าโจวไฉ่เซียไม่ต่างจากหลานสาวของตัวเอง หลายปีมานี้ทั้งสองตระกูลสนิทสนมกันมาก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่หลังจากที่เขามาถึงตลาดวัตถุดิบยาในเมืองฉู่
แต่ตัวตนของโจวอี้…
เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และในที่สุดก็รู้สึกว่าควรเตือนหลานสาวคนนี้สักหน่อย เพื่อที่ในอนาคตเธอจะได้ไม่พลาดไปล่วงเกินโจวอี้
“เขาเป็นศิษย์สำนักโอสถ”
สำนักโอสถ?
ใบหน้าของโจวไฉ่เซียเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจ้าวไป่ฉวนถึงแสดงท่าทีต่ำต้อยต่อหน้าโจวอี้
สำนักโอสถ!
แพทย์จีนทั่วไปคงไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่พ่อของเธอและปู่ของเธอก็เป็นแพทย์จีนโบราณ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าสำนักโอสถคืออะไร
เธอรู้ว่าถ้าเธอสามารถผูกมิตรกับคนของสำนักโอสถได้ มันจะดีสำหรับเธออย่างยิ่งยวด
ฉันไม่น่าคิดค่าวัตถุดิบยาทั้งสามชนิดนั้นเลย!
โจวไฉ่เซียรู้สึกเสียใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
“ลุงจ้าว ยาอายุวัฒนะที่คุณเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ … ”
“อย่าเอ่ยชื่อนี้อีก ยานี้มีอยู่ในสำนักโอสถจริง แต่ไม่ใช่ว่าใครจะซื้อได้ง่าย ๆ” จ้าวไป่ฉวนขัดจังหวะ
ยาอายุวัฒนะ
พูดได้ว่ามันคือของวิเศษ
หากผู้หญิงสนใจรูปร่างหน้าตา ผู้ชายเองก็สนเหมือนกันนั่นแหละ!
แม้แต่เขาก็ยังเต็มใจที่จะแลกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาเพื่อแลกกับยาอายุวัฒนะสักเม็ด!
โจวไฉ่เซียเงียบงัน
เธอต้องการที่จะได้ยานั้นมา จึงแอบตัดสินใจว่าต่อให้ไม่มีโอกาสก็ตาม เธอก็ยังจะสร้างโอกาสผูกมิตรกับโจวอี้ให้ได้ เพื่อหาทางรับยาอายุวัฒนะนั่นมา!