เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล – ตอนที่ 146 แม่สื่อ

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

วันนี้​เป็น​วันที่​ตระกูล​หวง​มา​วาง​ของหมั้น​เล็ก​ที่​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว

หรือ​จะ​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​?

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​สบตา​กัน​ครั้งหนึ่ง​ ​ต่าง​มองเห็น​ความกังวลใจ​จาก​ดวงตา​ของ​อีก​ฝ่าย

“​รีบ​ไป​กัน​เถอะ​!​”​ ​หวัง​ซีก​ล่าว​ ​ยก​กระโปรง​แล้วก็​วิ่ง​ตามห​มัว​มัว​ผู้​นั้น​ไป​ที่​สวน​ซิ่ง​อย่าง​รีบร้อน​พร้อมกับ​ฉัง​เคอ

นาย​หญิง​สาม​กำลัง​เดิน​ขึ้น​เดินลง​อยู่​ตรง​บันได​ของ​เรือน​หลัก​ ​เมื่อ​เห็น​ทั้งสอง​คน​ ​ก็​รีบ​ก้าว​ออกมา​ต้อนรับ

“​ในที่สุด​พวก​เจ้า​ก็​กลับมา​แล้ว​”​ ​นาย​หญิง​สาม​จับมือ​ของ​ฉัง​เคอ​เอาไว้​พลาง​กล่าว​กับ​หวัง​ซี​ว่า​ ​“​ตอนบ่าย​สือฮู​หยิน​มาหา​ ​บอกว่า​มาก​ล่าว​ขอโทษ​ ​ยัง​บอก​ด้วยว่า​เรื่อง​นี้​เป็นความ​ผิด​ของ​นาง​ทั้งหมด​ ​ทิ้ง​เทียบ​เชิญ​ใบ​หนึ่ง​เอาไว้​ ​พรุ่งนี้​เชิญ​พวกเรา​ไป​เดิน​ซื้อของ​ที่​ห้อง​เสื้อ​เมฆา​คำนึง​”

เกรง​ว่า​เดิน​ซื้อของ​คง​เป็น​ข้ออ้าง​ ​น่าจะเป็น​เพราะ​มีเรื่อง​อยาก​คุย​กับ​พวก​นาง​มากกว่า​ ​แต่​ก็​ไม่​อาจมา​เยี่ยมเยือน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​อย่าง​เอิกเกริก​ ​ด้วย​กลัว​ว่า​จะ​มี​คน​รู้​หรือไม่ก็​วิพากษ์วิจารณ์​เรื่อง​ที่​ตระกูล​หวง​มาดู​ตัว​น้องสาว​แต่กลับ​หมั้น​หมาย​กับ​พี่สาว​กระมัง

หวัง​ซี​เอ่ย​ถาม​ ​“​นาย​หญิง​สาม​ ​ท่าน​คิดเห็น​เช่นไร​เจ้า​คะ​”

นาย​หญิง​สาม​กัด​ปาก​ด้วย​น้ำตา​คลอ​หน่วย​ ​กล่าวว่า​ ​“​พวก​นาง​เป็น​คน​เสนอ​งานแต่ง​นี้​ขึ้น​มา​ ​และ​ก็​เป็น​พวก​นาง​ที่​เปลี่ยนตัว​คนกลาง​อากาศ​ ​เห็นชัด​ว่า​ไม่​ให้เกียรติ​พวก​ข้า​เลย​ ​พูด​กันตา​มห​ลัก​แล้ว​ ​ข้า​ควรจะ​ให้​จบ​แต่เพียง​เท่านี้​ ​แต่​หัวใจ​ดวง​นี้​ของ​ข้า​กลับ​ข้าม​หลุม​นี้​ไป​ไม่ได้​ ​ยังคง​อยาก​จะ​ไป​สอบถาม​ให้​ชัดเจน​สักครั้ง​หนึ่ง​ ​ดู​ว่า​พวก​ข้ามี​ตรงไหน​ที่​สู้​ผู้อื่น​ไม่ได้​ ​พวก​ข้า​ไม่เคย​ปิดบัง​อะไร​ ​ไม่ว่า​ดี​หรือ​ร้าย​ ​เพียง​สืบ​ดู​ครั้งหนึ่ง​ก็​ทราบ​แล้ว​ ​เหตุใด​พวกเขา​ถึง​กระทำ​เรื่อง​ไม่​รักษาคำพูด​เช่นนี้​ออกมา​ได้​”​

หวัง​ซี​เอง​ก็​เป็น​คน​หนึ่ง​ที่​หาก​ไม่​ถาม​ให้​ชัดเจน​ก็​นอนหลับ​ไม่ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​สือฮู​หยิน​เป็น​คน​มา​อธิบาย​กับ​พวก​นาง​ก่อน​ด้วย

“​ได้​!​”​ ​นาง​กล่าว​ ​“​เช่นนั้น​พรุ่งนี้​พวกเรา​ไป​เจอ​พวก​นาง​ที่​ห้อง​เสื้อ​เมฆา​คำนึง​กัน​”

นาย​หญิง​สาม​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก

ว่า​กันตาม​จริง​แล้ว​หวัง​ซี​เป็น​คน​รุ่น​ลูก​ของ​นาง​ ​ตัวเล็ก​กว่านาง​เสียอีก​ ​แต่​ไม่รู้​เพราะเหตุใด​ ​นาง​รู้สึก​เชื่อมั่น​และ​วางใจ​ใน​ตัว​หวัง​ซี​เป็นอย่างมาก​ ​รู้สึก​ว่า​หาก​นาง​เห็นด้วย​ ​แสดงว่า​เรื่อง​นี้​ก็​นับว่า​ใช้ได้​แปด​ถึง​เก้า​ใน​สิบ​ส่วน​ ​นาง​จะ​ทำ​อะไร​ก็​รู้สึก​มี​ความมั่นใจ​เพิ่มมากขึ้น​หลาย​ส่วน

นาง​ลาก​ฉัง​เคอ​กลับ​ไป​เตรียม​เสื้อผ้า​ของ​วันพรุ่งนี้​ ​ต้องการ​ทำให้​สือฮู​หยิน​รู้สึก​เสียใจ​ภายหลัง

หวัง​ซีก​ลับ​ถึง​สวน​ร่ม​หลิว​ก็ได้​เจอ​กับ​คุณหนู​พาน​ที่มา​เยี่ยม​นาง​พอดี

คุณหนู​พาน​มีแวว​เหยียดหยัน​เต็มดวง​หน้า​ ​กล่าวว่า​ ​“​โชคดี​ที่​เจ้า​กับ​น้องสาว​สี่​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​ไม่อย่างนั้น​หาก​ได้​เห็น​สีหน้าท่าทาง​ของ​ตระกูล​หวง​กับ​บ้าน​รอง​ล่ะ​ก็​ ​เกรง​ว่า​คง​กินข้าว​ไม่​ลง​เป็นแน่​”

หวัง​ซี​ถาม​อย่าง​ใคร่รู้​ว่า​ ​“​ทำไม​หรือ​ ​เจ้า​ไปดู​พิธี​ด้วย​หรือ​”

“​ข้า​จะ​ทำ​เรื่อง​ประเภท​นั้น​ออกมา​ได้​อย่างไร​”​ ​คุณหนู​พาน​กล่าว​อย่าง​รังเกียจ​ ​“​ข้า​ได้ยิน​มาจาก​พานห​มัว​มัว​ ​บอกว่า​คุณชาย​หวง​ผู้​นั้น​มาส​่ง​ปิ่น​ด้วยตัวเอง​ ​เมื่อ​เข้าไป​ใน​ห้อง​ ​ขณะที่​ผู้​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พร​ทุก​ประการ​ของ​ตระกูล​หวง​ปักปิ่น​ให้​คุณหนู​สาม​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เสมือน​กับ​ติด​อยู่​บน​เรือนร่าง​ของ​คุณหนู​สาม​ ​สลัด​อย่างไร​ก็​สลัด​ไม่​ขาด​ ​ส่วน​คุณหนู​สาม​ผู้​นั้น​ ​ทั้งที่​ปกติ​ดู​เป็น​คน​สง่างาม​มาก​ผู้​หนึ่ง​ ​แต่​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​จะ​ไม่ต้องการ​หน้าตา​อะไร​แล้ว​ ​ก้ม​ศีรษะ​ลง​ ​หน้าแดง​เรื่อ​ ​ขัดเขิน​ประหนึ่ง​ไม่รู้​ว่างาน​แต่ง​ของ​นาง​ครั้งนี้​ได้มา​อย่างไร​ ​เจ้า​พูด​ถูก​แล้ว​จริงๆ​ ​มูล​สุนัข​กอง​นี้​ผู้ใด​อยากได้​ก็​ให้​ผู้​นั้น​เอา​ไป​ ​แต่​อย่า​มา​หมิ่น​เกียรติ​คน​อย่าง​พวกเรา​”​

เล่า​ราวกับ​นาง​ไป​เห็นด้วย​ตา​ตัวเอง​มาก​็​ไม่​ปาน

ต้อง​มี​เกิน​จริงอยู่​บ้าง​เล็กน้อย

แต่​ความ​เกิน​จริง​นี้​ทำให้​หวัง​ซีช​อบ​ใจ

นาง​หัวเราะ​คิก​ ​ถอนหายใจ​กล่าวว่า​ ​“​วันนี้​ลำบาก​โหวฮู​หยิน​แล้ว​ ​ไหน​จะ​ต้อง​รับรอง​แขก​จาก​ตระกูล​หวง​อีก​”

โหวฮู​หยิน​เป็น​คนดู​แลบ​้าน​ ​บ้าน​รอง​ก็​ไม่ได้​แยก​บ้าน​ ​โหวฮู​หยิน​จึง​ต้อง​เป็น​คนดู​แล​เรื่อง​ต้อนรับ​แขกบ้านแขกเมือง​เหล่านี้​ทั้งหมด

คุณหนู​พาน​ได้ยิน​แล้ว​กลับ​หันไป​ขยิบตา​ให้​หวัง​ซี​ ​กล่าวว่า​ ​“​ไหน​เลย​จะ​เรียกว่า​ลำบาก​ได้​ ​ใช่​ว่า​ไม่เคย​มี​งาน​เช่นนี้​เกิดขึ้น​มาก​่อน​ ​ตอน​งาน​หมั้น​ของ​พี่สาว​ใหญ่​ทำ​อย่างไร​ ​งาน​หมั้น​ของ​พี่สาว​สาม​ก็​ย่อม​ต้อง​ทำ​อย่างนั้น​เช่นกัน​ ​เพียงแต่ว่า​ฤดูกาล​นี้​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​ปลา​เอย​หมู​เลย​ล้วน​เก็บ​ได้​ไม่นาน​ ​ของ​ทะเล​ต่างๆ​ ​ยิ่ง​หายาก​ ​ถึงแม้​งานเลี้ยง​จะ​มีผล​ไม้​แห้ง​สี่​อย่าง​ ​กับข้าว​เย็น​สี่​อย่าง​ ​กับข้าว​ร้อน​หนึ่ง​อย่าง​ ​และ​น้ำแกง​หนึ่ง​อย่าง​เหมือนกัน​ ​แต่​อย่างไร​ก็​สู้​เดือน​สี่​ที่​มี​ปลา​ตะลุมพุก​และ​เดือน​เก้า​ที่​มี​เนื้อ​แกะ​ไม่ได้​อยู่ดี​”

หรือว่า​โหวฮู​หยิน​จะ​เชือด​บ้าน​รอง​ด้วย​เรื่อง​อาหาร

ถ้า​เป็น​เช่นนั้น​จริง​ ​นั่น​ย่อม​เป็นผล​งาน​ของ​คุณหนู​พาน

หวัง​ซี​มอง​คุณหนู​พาน​ด้วย​อาการ​ตกตะลึง

คุณหนู​พาน​เม้มปาก​หัวเราะ​ ​กล่าวว่า​ ​“​แน่นอน​ว่า​ไม่​ทำให้​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​เสียชื่อ​ ​เพียงแต่ว่า​เวลานี้​ถ้า​ต้องการ​เตรียม​อาหาร​ใน​งานเลี้ยง​ดี​ๆ​ ​สัก​สอง​สาม​โต๊ะ​ ​ก็​ต้อง​จ่าย​หนัก​หน่อย​ ​หาก​บ้าน​รอง​ต้องการ​มีหน้ามีตา​ ​ก็​ต้อง​อุดหนุน​เงิน​บางส่วน​เอง​อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​ ​นี่​ก็​ทำ​เพื่อให้​พี่สาว​สาม​มีหน้ามีตา​ต่อหน้า​ครอบครัว​สามี​ ​ยาม​ออกเรือน​จะ​ได้​ไม่​ถูก​ผู้อื่น​ดูแคลน​!​”

หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ตาหยี​ ​รู้สึก​ว่า​คุณหนู​พาน​ผู้​นี้​ ​ยิ่ง​มอง​ก็​ยิ่ง​ชวน​ให้​คน​รู้สึก​ชื่นชอบ

นาง​อด​กล่าว​ไม่ได้​ว่า​ ​“​ได้ยิน​ว่า​อีก​ไม่​กี่​วัน​พานฮู​หยิน​ก็​จะ​เดินทาง​มา​เมืองหลวง​แล้ว​ ​เจ้า​อย่า​ลืม​บอก​ข้า​ล่วงหน้า​สัก​คำ​หนึ่ง​ ​ถึง​เวลา​ข้า​จะ​ได้​ไป​ต้อนรับ​พานฮู​หยิน​พร้อมกับ​เจ้า​ด้วย​ ​พอดี​ว่า​หลาย​วันก่อน​ข้า​ให้​ร้านขายยา​เพื่อม​วล​ชน​ช่วย​ทำ​ยาเม็ด​ปรับ​เลือด​ลม​มา​หลาย​กล่อง​ ​ยัง​มี​โสม​แก่​อายุ​สามสิบ​ปี​เหลือ​อีก​ต้นหนึ​่​งด​้วย​ ​จะ​ได้​มอบให้​พานฮู​หยิน​เอา​ไป​บำรุง​ร่างกาย​”

คุณหนู​พาน​ประหลาดใจ​เป็นอย่างมาก

หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​อีกว่า​ ​“​ครอบครัว​เดียวกัน​ไม่​พูด​เหมือน​เป็นอื่น​ ​เจ้า​เอง​ก็​อย่า​ปฏิเสธ​ข้า​เลย​ ​ดู​เหินห่าง​กับ​ข้า​เกินไป​แล้ว​”

คุณหนู​พาน​คิด​ครู่หนึ่ง​ ​กล่าว​อย่างกระตือรือร้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ขอบใจ​เจ้า​มาก​!​ ​มารดา​ข้ามา​เมืองหลวง​เมื่อไร​จะ​บอก​เจ้า​ล่วงหน้า​ก่อน​อย่างแน่นอน​”

หวัง​ซียั​งคิด​ว่า​ถึง​เวลา​จะ​จัด​อาหาร​ดี​ๆ​ ​ให้​สัก​โต๊ะ​และ​ส่ง​อาจารย์​หญิง​ไป​เล่านิทาน​สัก​สอง​คน​เป็นการ​ต้อนรับ​พานฮู​หยิน​ ​ถือโอกาส​ประจบ​พานฮู​หยิน​ดี​ๆ​ ​สักครั้ง​หนึ่ง​ ​แน่นอน​ว่า​ทั้งหมด​นี้​เป็นเรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ภายหลัง​ ​แต่​ตอนนี้​คุณหนู​พาน​เล่า​รายละเอียด​ว่า​โหวฮู​หยิน​ไม่​ให้​ความใส่ใจ​อย่างไรบ้าง​ให้​หวัง​ซีฟั​งอย​่า​งมี​ชีวิตชีวา​ ​ในที่สุด​หวัง​ซีก​็​รู้สึก​เบิกบานใจ​ขึ้น​มา​เมื่อ​พบ​ว่า​เพื่อ​ไม่​ให้​เกิดเหตุ​ไม่คาดฝัน​ขึ้นกับ​งานแต่ง​ของ​บุตรสาว​แล้ว​ ​นาย​หญิง​รอง​ต้อง​กล้ำกลืน​ฝืนทน​มาก​เพียงใด

วันรุ่งขึ้น​ ​นาง​ตื่นขึ้น​มา​อย่าง​กระปรี้กระเปร่า​ตั้งใจ​แต่งหน้า​แต่ง​ตา​อย่างดี​ ​ไป​คารวะฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กับ​นาย​หญิง​สาม​และ​ฉัง​เคอ​ด้วย​ความแจ่มใส

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เห็น​ทั้ง​สาม​คน​แต่งกาย​อย่าง​งดงาม​สดใส​ ​ถาม​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​นี่​พวก​เจ้า​กำลังจะ​ไป​ไหน​หรือ​”

นาย​หญิง​สาม​เปลี่ยนท่าที​ให้​เป็น​ดั่ง​เงา​เหมือน​อย่างที่​เคย​เป็น​ยาม​อยู่​ต่อหน้าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​กล่าว​ด้วย​ใบหน้า​อม​ทุกข์​ว่า​ ​“​บัดนี้​งานแต่ง​ของ​คุณหนู​รอง​กับ​ของ​คุณหนู​สาม​ต่าง​กำหนด​ลงมา​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ​มี​เพียง​งานแต่ง​อา​เคอ​ของ​พวก​ข้า​เท่านั้น​ที่​ยัง​ไร้​วี่แวว​ ​ข้า​คิด​ว่า​ระยะนี้​ต้อง​พานา​งอ​อก​ไป​เดินเล่น​ข้างนอก​ให้​มากขึ้น​ ​ตัด​อาภรณ์​สวย​ๆ​ ​สัก​สอง​สาม​ตัว​ ​และ​ทำ​เครื่องประดับ​ใหม่​อีก​สัก​สอง​สาม​ชุด​ให้​อา​เคอ​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มอง​ปิ่น​ดอก​เบญจมาศ​ก้ามปู​ทองคำบริสุทธิ์​ที่​ระยิบระยับ​อยู่​บน​มวยผม​ของ​ฉัง​เคอ​ ​ยั้ง​ตัวเอง​เอาไว้​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ​ในที่สุด​ก็​ไม่​ห้ามปราม​เรื่อง​พวก​นาง​จะ​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​เพียง​ถาม​หวัง​ซี​ว่า​ ​“​เจ้า​ก็​จะ​ตาม​พวก​นาง​ไป​ตัดเสื้อ​ผ้า​ทำ​เครื่องประดับ​ด้วย​หรือ​”

นาย​หญิง​สาม​ป้อง​หวัง​ซี​ ​รุด​ไป​อยู่​หน้า​หวัง​ซีพ​ลาง​กล่าว​ ​“​ท่าน​เอง​ก็​ทราบ​ว่า​ทั่วทั้ง​จิง​เฉิง​นี้​ ​นอกจาก​คุณหนู​หก​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​แล้ว​ ​ก็​มีคุณ​หนู​ต่าง​สกุล​ของ​พวกเรา​คน​นี้​ที่​สายตา​มีแวว​ที่สุด​ ​ข้า​คิด​ว่า​ในเมื่อ​จะ​ใช้​เงิน​แล้ว​ ​ก็​ต้อง​ใช้​อย่าง​คุ้มค่า​ ​จึง​ขอให้​คุณหนู​ต่าง​สกุล​ช่วย​ไป​ให้​คำแนะนำ​พวก​ข้าเจ้า​ค่ะ​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​พยักหน้า​ ​อนุญาต​ให้​พวก​นาง​ออกจาก​บ้าน

เพียงแต่ว่า​พวก​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​กล่าว​อำลาฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​นาย​หญิง​รอง​ก็​พา​ฉัง​เหยี​ยน​มาคา​รวะฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ยัง​มี​ซือ​จู​ร่วมทาง​มาด​้ว​ยอี​กคน

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​แลกเปลี่ยน​สายตา​กัน​ครั้งหนึ่ง​ ​อยาก​ดู​ว่า​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ฉัง​เหยี​ยน​จะ​พูด​อะไร​บ้าง​ ​จึง​ไม่​เร่งรีบ​ออก​ไป​ ​รอ​พวก​นาย​หญิง​รอง​เดิน​เข้ามา

สุดท้าย​แล้ว​ฉัง​เหยี​ยน​ก็​ยัง​หน้าบาง​ ​พอ​เห็น​ฉัง​เคอ​ ​หน้าแดง​ก่ำ​คล้าย​จะ​หลั่ง​โลหิต​ออกมา​ได้​ ​ทว่า​นาย​หญิง​รอง​กลับ​ไม่​ยี่หระ​ ​กล่าว​ทักทาย​พวก​นาย​หญิง​สาม​ราวกับ​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​ยัง​มีกะใจ​ชวน​ฉัง​เคอ​คุย​ด้วยว่า​ ​“​วันนี้​ปิ่น​ดอกไม้​ของ​คุณหนู​สี่​งดงาม​มาก​ ​ไม่รู้​ว่า​สั่งทำ​จาก​ที่ใด​ ​มี​เวลาว่าง​เมื่อไร​ ​ข้า​เอง​ก็​ต้อง​ไป​ทำ​บ้าง​แล้ว​”

ฉัง​เคอ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เมื่อวาน​ติดตาม​น้องสาว​สกุล​หวัง​ออก​ไป​ข้างนอก​ด้วย​ก็​เลย​ซื้อ​มา​เจ้าค่ะ​”​

ทุกคน​ต่าง​ทราบ​กัน​ดี​ว่า​เหตุใด​เมื่อวาน​นาง​ถึง​ไม่อยู่​จวน​ ​แต่​นาย​หญิง​รอง​หน้าหนา​พอควร​ ​ทำ​เสมือน​ฟัง​ไม่เข้าใจ​ ​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​หลง​จู๊​ใหญ่​ของ​ตระกูล​หวัง​เป็น​พ่อค้า​ใหญ่​ ​สายตา​จึง​เฉียบแหลม​ไม่มี​เหมือน​ใคร​”

ฉัง​เหยี​ยน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​เห็น​มารดา​ยัง​คิด​จะ​คุย​กับ​คน​ของ​บ้าน​สาม​ต่อไป​เรื่อยๆ​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​มารดา​เบา​ๆ​ ​เปล่งเสียง​เรียก​บางเบา​ครั้งหนึ่ง​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​”

นาย​หญิง​รอง​ไม่​พูด​อะไร​อีก

ซือ​จู​กลับ​ปรายตา​มอง​พวก​หวัง​ซี​อย่างดูแคลน​เหลือ​จะ​กล่าว​ครั้งหนึ่ง​ ​คล้าย​ดูถูก​ว่า​พวก​นาง​ไร้ความสามารถ​มาก​ก็​ไม่​ปาน

พวก​หวัง​ซีค​ร้าน​จะ​สนใจ​นาง​ ​กล่าว​อำลาฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​แล้ว​เดินทาง​ไป​ห้อง​เสื้อ​เมฆา​คำนึง

พวก​นาง​จงใจ​มาก​่อน​เวลา​ ​อยาก​ดู​ว่า​ห้อง​เสื้อ​เมฆา​คำนึง​มี​แบบ​ชุด​อะไร​ใหม่​ๆ​ ​บ้าง​ ​จะ​ได้​ถือโอกาส​ตัด​ชุด​สำหรับ​ฤดูใบไม้ร่วง​และ​ฤดูหนาว​สัก​สอง​สาม​ชุด

ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​สือฮู​หยิน​มาถึง​เร็ว​กว่า​พวก​นาง​เสียอีก​ ​ทำให้​พวก​นาง​ต้อง​พับ​แผนการ​เดิน​ดู​ห้อง​เสื้อ​เมฆา​คำนึง​เอาไว้​ก่อน

“​พวก​เจ้า​ดู​ ​ข้า​อายุ​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่ายัง​จะ​ได้​พานพบ​กับ​เรื่อง​เช่นนี้​อยู่​อีก​”​ ​ดวง​หน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความเสียใจ​ ​พานาย​หญิง​สาม​ไป​นั่ง​ที่​ห้องส่วนตัว​ของ​ห้อง​เสื้อ​เมฆา​คำนึง​ด้วยตัวเอง​ ​กล่าว​ขอโทษ​ขอ​โพย​นาย​หญิง​สาม​ด้วย​กระบอก​แดงก่ำ​ ​“​คุณหนู​สี่​ถูก​ปฏิบัติ​อย่าง​อยุติธรรม​ขนาด​นี้​ ​ข้า​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ชดเชย​นาง​อย่างไร​ดี​แล้ว​”

แน่นอน​ว่านาย​หญิง​สาม​ย่อม​รู้สึก​ขุ่นแค้น​สือฮู​หยิน​อยู่​ใน​ใจ​ ​แต่​เรื่อง​ก็​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​ต่อให้​นาง​พูด​อะไร​มากกว่า​นี้​ก็​ไม่มี​ประโยชน์​ ​นาง​คิด​ว่า​ควร​ทำ​อย่างที่​หวัง​ซีก​ล่าว​มา​ ​คือ​ชดเชย​อะไร​ให้​ฉัง​เคอ​ได้​บ้าง​ถึง​จะ​ดีที​่​สุด​ ​นาง​ถอนใจ​พลาง​ส่าย​ศีรษะ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​เพียง​อยากรู้​ว่า​ ​เหตุใด​ตระกูล​หวง​ถึง​เปลี่ยนใจ​อย่างกะทันหัน​ ​เรื่อง​ที่​พวกเขา​เปลี่ยนใจ​ ​ท่าน​ทราบ​หรือไม่​”

เหตุใด​ถึง​เปลี่ยนใจ​นั้น​ ​ใน​งาน​วัน​หมั้น​เล็ก​ทุกคน​ล้วน​ดูออก​กัน​หมด​แล้ว​ ​สือฮู​หยิน​เอง​ก็​ไม่มี​หน้า​ไป​เอ่ยถึง​อีก​ ​จึง​ตอบ​แค่​คำถาม​ครึ่งหลัง​อย่าง​คลุมเครือ​ไป​ว่า​ ​“​หาก​ข้า​รู้​ว่า​พวกเขา​จะ​เปลี่ยนใจ​อย่างกะทันหัน​ ​เมื่อวาน​ตอนที่​พวกเขา​ไป​วาง​ของหมั้น​เล็ก​ ​ข้า​จะ​ไม่​ไป​ได้​อย่างไร​”

กล่าวถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ลังเล​ครู่หนึ่ง​ ​จับมือ​นาย​หญิง​สาม​เอาไว้​ ​กล่าว​อย่างจริงใจ​ว่า​ ​“​บอก​ท่าน​ด้วย​ความสัตย์จริง​ ​ข้า​กับ​ตระกูล​หวง​ก็​ไม่​ค่อย​สนิทสนม​กัน​เท่าไร​นัก​ ​ที่​ข้า​ไป​ทาบทาม​งานแต่ง​ที่​บ้าน​พวก​เจ้า​ ​ก็​เพราะ​ได้รับ​การ​ไหว้วาน​มาจาก​ตระกูล​หวง​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​คนที​่​ถูกใจ​คุณหนู​สี่​ของ​พวก​เจ้า​เป็น​คน​แรก​สุด​ก็​มิใช่​คน​ตระกูล​หวง​ ​แต่​เป็น​คนอื่น​ ​ที่​ข้า​ยอม​เป็น​แม่สื่อ​ให้​ตระกูล​หวง​ใน​ครั้งนี้​ ​ก็​เพราะ​เห็นแก่หน้า​ของ​คน​ผู้​นี้​ ​วันนี้​ที่​เชิญ​พวก​เจ้า​มา​ห้อง​เสื้อ​เมฆา​คำนึง​ ​ก็​เป็นความ​คิด​ของ​คน​ผู้​นั้น​เช่นกัน​ ​เพราะ​อยาก​กล่าว​ขอโทษ​พวก​เจ้า​ด้วยตัวเอง​สักครั้ง​หนึ่ง​”

หวัง​ซี​ ​นาย​หญิง​สาม​และ​ฉัง​เคอ​ต่าง​ตกใจ​มาก

สือฮู​หยิน​กลับ​เหมือน​คน​ได้​ปลด​ภาระ​อัน​หนักอึ้ง​ออก​ไป​ ​จูงมือ​นาย​หญิง​สาม​พลาง​กล่าว​ ​“​พวก​เจ้า​ตาม​ข้ามา​”

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​เดินตาม​สือฮู​หยิน​ผ่าน​เลี้ยว​หลาย​เลี้ยว​ด้วย​ความไม่สบายใจ​ ​ไป​ยัง​ห้องส่วนตัว​อีก​ห้อง​หนึ่ง​ที่ตั้ง​อยู่​ห่างไกล​และ​เงียบสงบ​กว่า

“​เหตุใด​ถึง​เป็น​พวก​ท่าน​!​”​ ​เพียง​เห็น​สตรี​สอง​ท่าน​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ห้องส่วนตัว​หวัง​ซีก​็​พลั้งปาก​โพล่ง​ออก​ไป​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่

นัยน์ตา​ของ​สตรีที​่​สูงวัย​กว่า​เจือ​ความรู้สึกผิด​เอาไว้​ ​กล่าว​อย่าง​ขออภัย​ว่า​ ​“​ล้วน​เป็น​ข้า​กับ​สะใภ้​ของ​ข้า​ที่จับ​คู่​ผิดฝาผิดตัว​ ​สร้าง​ความวุ่นวาย​ให้​พวก​เจ้า​มากมาย​ขนาด​นี้​”

สตรี​งดงาม​อ่อนหวาน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ผู้​นั้น​ก็​เต็มไปด้วย​ความรู้สึกผิด​เช่นกัน​ ​กล่าวว่า​ ​“​ตระกูล​หวง​เป็น​ญาติ​ของ​ตระกูล​เดิม​ของ​ข้า​ ​ข้า​เห็น​ญาติ​ผู้​น้อง​คน​นี้​ของ​ข้ามา​ตั้งแต่​เด็ก​ ​รู้สึก​ว่า​เขา​จริงใจ​เป็น​คน​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​เขา​กลับ​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ออกมา​ได้​ ​ข้า​ ​ข้า​ละอาย​จริงๆ​ ​ที่​ต้อง​มา​เจอ​พวก​เจ้า​สอง​พี่น้อง​”

สตรี​สอง​ท่าน​นี้​คือ​คนที​่​นาง​บังเอิญ​เจอ​ตรง​ทางเดิน​ขนาดเล็ก​ที่​งาน​ชม​บุปผา​ของ​วัง​หลวง​ใน​วันนั้น

สือฮู​หยิน​กล่าว​แนะนำ​พวก​นาง​ให้​หวัง​ซี​ ​นาย​หญิง​สาม​และ​ฉัง​เคอ​ได้​รู้จัก​ ​“​สอง​ท่าน​นี้​คือ​มารดา​และฮู​หยิน​ของ​ใต้เท้า​เหยี​ยน​ ​เหยี​ยน​เจิ​้ง​”

นาย​หญิง​สาม​เข้าใจ​เรื่องราว​ขึ้น​มา

ต่อให้​เป็น​แม่สื่อ​ ​ก็​ไม่​แปลกที่​แม่​สามี​กับ​ลูกสะใภ้​อย่าง​พวก​นาง​จะ​ออกหน้า​ด้วยตัวเอง​ไม่ได้

หลาย​ปี​มานี​้​เหยี​ยน​เจิ​้ง​สร้าง​ผลงาน​อยู่​นอกเมือง​ ​ไม่รู้​ว่า​ทั้ง​ใน​และ​นอก​ราชสำนัก​มี​คน​คอย​จับจ้อง​อยู่​มากมาย​เพียงใด​ ​ตระกูล​เหยี​ยน​จะ​ทำ​อะไร​ก็​ยิ่ง​ต้อง​สงวนท่าที​และ​ถ่อมตน​มากขึ้น​ ​นอกจาก​ญาติมิตร​และ​สหาย​เก่าแก่​เหล่านั้น​แล้ว​ ​สตรี​ของ​พวกเขา​ก็​แทบจะ​ไม่​ไปมาหาสู่​กับ​ตระกูล​ชั้นสูง​ที่​เมื่อก่อน​ไม่ได้​สนิทสนม​ด้วย​เลย

…………………………………………………………………..

ตอนต่อไป

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

Status: Ongoing
เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล นางเติบโตมาท่ามกลางความรักและอบอุ่น ส่วนเขามีแต่ความเย็นชาและหวาดระแวง หัวใจของเขาพลันหลอมละลายเมื่อได้พบนาง…หวังซี บุตรสาวจากตระกูลพ่อค้าแสนร่ำรวยเดินทางมาพักอาศัยชั่วคราวที่บ้านญาติ ณ เมืองหลวงที่นั่นนางได้พบกับ เฉินลั่ว ชายหนุ่มแสนเย็นชาที่พักอยู่ข้างบ้านนางและเขามีนิสัยราวกับเป็นขั้วตรงข้าม นางสดใส เขากลับเย็นชา ชอบทำหน้าปั้นปึ่งทั้งวันแต่ด้วยเหตุบังเอิญหลายอย่างทำให้นางได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับเฉินลั่วและเรื่องราวซับซ้อนในวังหลวงหลายครั้งพานพบ จากคนแปลกหน้ากลายเป็นผู้รู้ใจท่ามกลางคลื่นลมมากมายในเมืองหลวง บุปผางดงามกลับค่อยๆ ผลิบานในใจของคนทั้งคู่…เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท