เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล – ตอนที่ 203 ผลกรรม

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

นาย​หญิง​รอง​โกรธ​จน​ก่น​ด่า​อยู่​ใน​ใจ​ไม่​หยุด​ ​ทว่า​ไม่กล้า​พูด​ออกมา

หวัง​ซีย​่​อม​ไม่รู้​เรื่อง​พวก​นี้

นาง​หมุน​กาย​กลับ​เข้ามา​พร้อม​เสียง​ปิดประตู​ของ​ไป๋​กั่ว​ ​ทั้ง​ร่าง​พลัน​รู้สึก​ผ่อนคลาย​ลงมา​ ​ทิ้งตัว​นั่งลง​บน​เก้าอี้​มี​เท้าแขน​ด้านหลัง​ ​พนมมือ​ทั้งสอง​ข้างขึ้น​สวด​เสียง​หนึ่ง​ว่า​ ​“​อมิตต​พุทธ​”​ ​กล่าว​กับ​ฉัง​เคอ​ที่​มีท​่า​ทาง​ผ่อนคลาย​ ​สีหน้า​แต้ม​ความดีใจ​ที่​เหมือน​ได้​กลับมา​มีชีวิต​ใหม่​อีกครั้ง​ดุจ​เดียวกัน​ว่า​ ​“​ในที่สุด​ก็​นับว่า​จัดการ​เรื่อง​นี้​ให้​ผ่านพ้น​ไป​ได้​แล้ว​ ​จะ​ว่า​ไป​ ​เรื่อง​นี้​ต้อง​ขอบคุณ​เจ้า​!​”

“​เจ้า​กับ​ข้า​เป็น​พี่น้อง​กัน​ ​จะ​พูด​เรื่อง​นี้​ไป​เพื่อ​อัน​ใด​”​ ​ฉัง​เคอ​กล่าว​ถ่อมตัว​ ​ทว่า​สายตา​กลับ​สอดส่าย​ไปมา​ ​พลาง​กล่าว​ ​“​คุณชาย​รอง​เฉิน​ซ่อนตัว​อยู่​ที่ใด​หรือ​ ​เจ้า​เอง​ก็​มีไหวพริบ​ดียิ่ง​!​ ​เมื่อ​ครู่​ข้า​กังวล​ไป​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​แต่​แล้วก็​ไม่มีใคร​เห็น​ความผิดปกติ​อะไร​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​เขา​ซ่อนตัว​อยู่​ที่ใด​เหมือนกัน​”

ฉัง​เคอ​ตะลึงงัน

หวัง​ซีก​ล่าว​ ​“​คนที​่​มา​ผู้ใด​ไม่ใช่​คน​สายตา​แหลมคม​บ้าง​ ​ข้า​กลัว​หาก​ข้า​รู้​ว่า​ใต้เท้า​เฉิน​ซ่อนตัว​อยู่​ที่ไหน​แล้ว​จะ​เผย​พิรุธ​ออกมา​ ​ก็​เลย​ไม่ได้​ถาม​เขา​”

ฉัง​เคอ​หัวเราะ​เสียงดัง​ ​จิ้ม​หน้าผาก​หวัง​ซี​เบา​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​นี่​น้า​!​ ​ให้​ข้าว​่า​อะไร​เจ้า​ดี​!​ ​เอาละ​ ​หาก​พวก​นาง​ย้อนกลับ​มา​โจมตี​คง​ไม่ดี​แน่​ ​ข้า​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ก่อน​ ​เจ้า​รีบ​ส่ง​คน​ออก​ไป​เสีย​ ​หาก​มี​คน​ถามถึง​เจ้า​ ​ข้า​จะ​บอกว่า​เจ้า​อยาก​เปลี่ยน​ชุด​ ​ก็​เลย​ล่าช้า​สักหน่อย​ ​ข้า​จะ​ล่วงหน้า​ไป​จองที่​นั่ง​ให้​เจ้า​ด้วย​”

หวัง​ซี​ขอบคุณ​แล้ว​ขอบคุณ​อีก​ ​ส่ง​ฉัง​เคอ​ออกจาก​ประตู​และ​ปิดประตู​บ้าน​ใหม่​อีกครั้ง​หนึ่ง​แล้ว​ถึง​ได้​พรู​ลมหายใจ​ยาว​ออกมา​ครั้งหนึ่ง​พลาง​ยืน​เด่น​เป็น​สง่า​อยู่​กลาง​ลานบ้าน​

ตอนนั้น​นาง​ถูก​เฉินลั​่​วลา​กตั​ววิ​่​งมา​อย่างรวดเร็ว​ ​สมอง​ว่างเปล่า​ไป​ชั่วขณะ​ ​จึง​คิด​ไม่ทัน​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ยัง​ชนกับ​ฉัง​เคอ​ที่​วิ่งไล่​ตามมา​เข้า​อย่าง​จัง​อีกด้วย​ ​ฉัง​เคอ​ร้อง​ แย่​แล้ว​ จากนั้น​กล่าวว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ต้องหา​ทาง​ไป​ซ่อนตัว​ ​คำ​นินทา​ว่าร้าย​ของ​คน​น่ากลัว​นัก​ ​ข้า​รู้จัก​นิสัย​ของ​ซือ​จู​ผู้​นั้น​ดี​ ​หาก​นาง​หัวรั้น​ขึ้น​มา​ ​ตัวเอง​บาดเจ็บ​หนึ่ง​พัน​ก็​ต้อง​ทำให้​ผู้อื่น​บาดเจ็บ​ด้วย​ห้า​ร้อย​”

เฉินลั​่ว​คิด​ครู่หนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​เช่นนั้น​ไป​ซ่อนตัว​ที่​สวน​ร่ม​หลิว​”

หวัง​ซียัง​ไม่ได้​สติ​คืน​กลับมา​เต็มที่​ ​กล่าวว่า​ ​“​หรือ​เจ้า​จะ​กลับ​จวน​จ่าง​กง​จู่​ดี​?​”

จาก​สวน​ร่ม​หลิว​ไป​จวน​จ่าง​กง​จู่​ก็​ใกล้​มาก​เช่นเดียวกัน

เฉินลั​่ว​ส่าย​ศีรษะ​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​คิดได้​ ​ผู้อื่น​ก็​ย่อม​คิดได้​เหมือนกัน​ ​แทนที่จะ​วิ่ง​พล่าน​ไป​ทั่ว​ ​ไม่​สู้​ซ่อนตัว​อยู่​ที่​เรือน​ของ​เจ้า​ดีกว่า​”

ที่​สำคัญ​คือ​เขา​ไป​สวน​ร่ม​หลิว​บ่อย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ล้วนแล้วแต่​เป็นการ​แอบ​ไป​ลับหลัง​ผู้อื่น​ทั้งสิ้น​ ​ที่ไหน​ซ่อนตัว​ได้​ ​ตรง​ที่ใด​เป็น​มุม​อับ​ ​เขา​รู้จัก​และ​คุ้นเคย​ดีกว่า​สถานที่​อื่น

หวัง​ซีนึก​ถึง​คำ​ที่ว่า​สถานที่​ที่​อันตราย​ที่สุด​คือ​ที่​ที่​ปลอดภัย​ที่สุด​แล้วก็​เห็นด้วย

ทั้ง​สาม​คน​วิ่ง​มาต​ลอด​ทาง​จน​กลับมา​ถึง​สวน​ร่ม​หลิว​ ​เฉินลั​่ว​ไป​ซ่อนตัว​แล้วจึง​ไม่จำเป็น​ต้อง​กล่าวถึง​ ​หวัง​ซีที​่​ได้สติ​คืน​กลับมา​แล้ว​กลับ​รู้สึก​ว่า​หาก​มี​คน​ผ่าน​มา​จริง​ ​ยิ่ง​พวก​นาง​ดูป​กติ​มาก​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​ดู​สมจริง​ ​ยิ่ง​ทำให้​คน​ไม่​เจอ​พิรุธ​มาก​เท่านั้น​ ​จึง​ลาก​ฉัง​เคอ​ไป​แสดง​งิ้ว​ด้วยกัน​ฉาก​หนึ่ง

เพียงแต่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​แสดง​งิ้ว​เรื่อง​นี้​ได้​สมจริง​ยิ่งนัก

ไม่​เพียง​หลอก​จ่าง​กง​จู่​ได้​เท่านั้น​ ​ยัง​ทำให้​สตรีที​่​ตาม​จ่าง​กง​จู่​มาด​้วย​รู้สึก​ว่า​คำพูด​ของ​ซือ​จู​ไร้เหตุผล​ ​ต่อให้​เฉินลั​่ว​หนี​เข้ามา​ใน​เรือน​ชั้นใน​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​แต่​ก็​สมควร​ไป​ซ่อนตัว​ยัง​สถานที่​อื่น

ยัง​มีส​ตรี​ที่​จำ​เรื่อง​เก่า​ก่อน​ได้​อยู่​กระซิบ​กล่าวว่า​ ​“​ดู​ที​แล้ว​คุณหนู​ซือ​คง​ยัง​อาลัย​เฉิน​ชาย​รอง​เฉิน​อยู่​ ​ไม่อย่างนั้น​ก็​คง​ไม่​รนหาที่​ตาย​ปรักปรำ​คุณชาย​รอง​เฉิน​เช่นนี้​ ​น่าเสียดาย​ ​บุปผา​มีใจ​เด็ด​กลีบ​ทิ้ง​ลง​สายน้ำ​ ​ทว่า​สายน้ำ​ไร้​ใจ​ปล่อย​กลีบ​บุปผา​ไหลผ่าน​ไป​ตาม​สายชล​”

“​พอ​ไม่ได้​มาก​็​ต้องการ​ทำลาย​ ​คุณหนู​ของ​ตระกูล​ซือ​ท่าน​นี้​จิตใจ​โหดเหี้ยม​จริงๆ​”ยัง​มีส​ตรี​ทอดถอนใจ​กล่าว​อีกว่า​ ​“​คุณชาย​รอง​เฉิน​เอง​ก็​นับว่า​โชคร้าย​เหมือนกัน​ ​การ​เป็น​คน​หน้าตา​ดี​หา​ใช่​ความผิด​ของ​เขา​ ​เขา​เอง​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ต้องการ​เป็น​คน​รูปงาม​ขนาด​นี้​!​”

ทุกคน​ต่าง​ยิ้ม​อย่าง​สลด​หดหู่

ยัง​มี​คน​กล่าว​ขึ้น​อีกว่า​ ​“​ไม่เข้าใจ​จริงๆ​ ​ว่า​ท่านกั​๋​วก​งคิ​ดอย​่าง​ไร​ ​หาก​ข้ามี​บุตร​รูปงาม​ขนาด​นี้​ ​ก็​คง​ตามใจเขา​ทุกอย่าง​ ​ยก​ทรัพย์สมบัติ​ให้​เขา​แล้ว​จะ​เป็น​อะไร​ไป​?​ ​ยัง​ให้กำเนิด​เด็กชาย​เด็กหญิง​ตัว​น้อย​ๆ​ ​ที่​หน้าตา​งดงาม​ไม่​แพ้​กัน​มา​ให้​เลี้ยง​ ​รอ​เติบใหญ่​ขึ้น​ ​ยัง​ได้​เห็น​คุณชาย​และ​คุณหนู​คนอื่นๆ​ ​มา​ให้ความสนใจ​ ​ไม่รู้​ว่าน​่า​สนุก​มาก​เพียงใด​!​”

“​อาจ​เป็น​เพราะ​ใจแคบ​ไป​หน่อย​”​ ​สตรี​เหล่านั้น​กล่าว​วิพากษ์วิจารณ์​ ​“​ขอ​เพียง​ได้​กด​อยู่​บน​ศีรษะ​ของ​จ่าง​กง​จู่​ถึง​รู้สึก​สบายใจ​”

กลับ​ไม่มีใคร​สงสัย​เลย​ว่า​หวัง​ซี​อาจ​ซ่อนตัว​เฉินลั​่ว​เอาไว้

หลัก​ๆ​ ​คง​เป็น​เพราะ​หวัง​ซีดู​สงบ​และ​มีท​่า​ที​เปิดเผย​ตรงไปตรงมา

ฟาก​เฉินลั​่ว​ ​เดิน​ออกมา​จาก​ห้องน้ำ​ชา​ของ​หวัง​ซี

หวัง​ซีป​ระ​หลาด​ใจ​ก่อน​เป็นอัน​ดับ​แรก​ ​จากนั้น​หัวเราะ​เสียง​ลั่น​ออกมา​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ฉลาด​จริงๆ​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​ไป​ซ่อน​อยู่​ใน​ห้องน้ำ​ชา​ ​เช่นนั้น​ตอนแรก​สุด​เจ้า​ไป​หลบ​อยู่​ตรง​ที่ใด​หรือ​!​”

เมื่อ​ครู่​ห้องน้ำ​ชาคือ​ห้อง​แรก​ที่​พวก​นาง​เข้าไป​ดู

เฉินลั​่ว​เห็น​หวัง​ซี​หัวเราะ​จน​ดวง​หน้า​สุกใส​เหมือน​แดด​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ก็​อด​หัวเราะ​ตาม​ไป​ด้วย​ไม่ได้

เขา​ชี้​หลังคา​บ้าน​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ช่าง​สร้างบ้าน​หลัง​นี้​ได้ดี​ยิ่ง​ ​แค่​ห้องน้ำ​ชา​เล็ก​ๆ​ ​ห้อง​หนึ่ง​ ​ก็​ยัง​ทำ​ฝ้า​เอาไว้​ ​ข้า​ซ่อนตัว​อยู่​บน​ฝ้า​”

ปกติ​ห้องน้ำ​ชาคื​อส​ถาน​ที่​สำหรับ​จุด​เตาไฟ​ต้ม​น้ำชา​และ​เก็บ​ใบชา​ ​นอกจาก​เล็ก​และ​แคบ​แล้ว​ ​โดยทั่วไป​มักจะ​เรียบง่าย​มาก​อีกด้วย

ก็​ไม่​แปลกที่​สตรี​ชั้นสูง​เหล่านั้น​จะ​ไม่​ตั้งใจ​ดู​อย่างละเอียด

หวัง​ซีก​ล่า​วอ​ย่าง​ภูมิใจ​ว่า​ ​“​เป็น​เช่นนั้น​จริง​ ​เวลา​ทำ​อะไร​ข้า​ต้อง​ทำให้​ดี​ให้​สวยงาม​ที่สุด​ ​ถึง​จะ​เป็น​แค่​ห้องน้ำ​ชา​เล็ก​ๆ​ ​ห้อง​หนึ่ง​ ​แต่​ก็​เป็น​ของกิน​ที่​ต้อง​เอา​เข้า​ปาก​ ​ไม่​อาจ​ทำ​อย่าง​ลวกๆ​ ​ได้​”

เฉินลั​่ว​พยักหน้า​ให้​อย่าง​ไม่​จริงจัง​นัก​ ​ตบ​ฝุ่น​บน​ร่าง​เบา​ๆ​ ​พลาง​กล่าวว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ไป​นั่ง​ใน​งาน​ที่​เรือน​ชั้นนอก​ก่อน​ ​เกรง​ว่า​คงมี​คน​เริ่ม​นับ​จำนวน​คน​แล้ว​”

นี่​พวกเขา​ต้องการ​บีบ​ให้​เฉินลั​่ว​ยอมรับ​ว่า​ตัวเอง​ไม่ได้​อยู่​ใน​งานเลี้ยง​นี่​นา​!

หวัง​ซี​ร้อนใจ​เล็กน้อย​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ไป​ทัน​หรือไม่​ ​หาก​ไม่ทัน​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​หาวิ​ธี​ไป​ยื้อ​เวลาเริ่ม​งานเลี้ยง​เอาไว้​”

“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​เฉินลั​่ว​โบกมือ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​เคย​อยู่​กองพล​ม้า​ทะยาน​มาก​่อน​ ​บัดนี้​ยัง​เป็น​ผู้ดูแล​กองพล​ทองคำ​ด้วย​ ​คน​โดยมาก​ล้วน​ชอบ​พูด​เรื่อง​หา​สาระ​ไม่ได้​ ​ย่อม​มี​คน​ช่วย​ยืนยัน​ให้​ได้​ว่า​เมื่อ​ครู่​ข้า​อยู่​กับ​พวกเขา​ ​ไม่มีปัญหา​อะไร​อย่างแน่นอน​”

นี่​ก็​จริง

หวัง​ซี​เม้มปาก​หัวเราะ

เฉินลั​่​วก​ล่าว​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ไป​ก่อน​ ​เจ้า​ต้อง​ระวังตัว​ด้วย​ ​ที่นั่น​ยัง​มี​ซือ​จู​อยู่​อีก​คน​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​ทำ​แล้วก็​ไม่ต้อง​สนใจ​อะไร​ด้วย​ ​รอ​ข้ามี​เวลาว่าง​แล้ว​ ​ค่อย​มา​อธิบาย​รายละเอียด​ให้​เจ้า​ฟัง​”

หวัง​ซี​เอง​ก็​มีเรื่อง​อยาก​ถาม​เฉินลั​่ว​มากมาย​เช่นกัน​ ​แต่​ตอนนี้​ยัง​ไม่ใช่​เวลา​ที่​เหมาะสม​ ​ทั้งสอง​คน​พากัน​แยกย้าย​ ​หวัง​ซี​แต่งกาย​และ​เปลี่ยน​อาภรณ์​ตัวใหม่​เสร็จ​แล้วก็​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ที่​ห้องโถง

แต่​ไม่เห็น​จ่าง​กง​จู่​อยู่​ใน​งานเลี้ยง

หวัง​ซีก​ระ​ซิบ​ถาม​พานห​มัว​มัว​ว่า​ ​“​จัด​ให้​จ่าง​กง​จู่​ไป​นั่ง​ที่อื่น​หรือ​”

พานห​มัว​มัว​ส่าย​ศีรษะ​ ​กล่าว​เสียง​ค่อย​ว่า​ ​“​จ่าง​กง​จู่​กลับ​ไป​แล้ว​!​ ​งานเลี้ยง​กำลังจะ​เริ่ม​ ​แต่​จ่าง​กง​จู่​บอกว่า​นาง​มีธุระ​ ​แล้วก็​กลับ​ไป​ทั้งอย่างนั้น​ ​โหวฮู​หยิน​กับ​นาง​หญิง​รอง​อับอาย​เหลือ​จะ​กล่าว​ ​ประเดี๋ยว​ท่าน​เอง​ก็​อย่า​เอ่ย​ถาม​ให้​ผู้อื่น​หัวเราะเยาะ​เชียว​”​

นี่​กำลัง​ตบหน้า​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​อยู่​กระมัง

หวัง​ซี​เขย่ง​เท้า​ขึ้น​มอง​เข้าไป​ด้านใน​ ​เห็น​นาย​หญิง​เจ็ด​จวน​ชิง​ผิง​โหว​ที่นั่ง​อยู่​ใน​งานเลี้ยง​แล้ว

นาย​หญิง​เจ็ด​เอง​ก็​เห็น​หวัง​ซีที​่​งดงาม​และ​สดใส​ประหนึ่ง​มุก​ดุจ​ดอก​โบตั๋น​ท่ามกลาง​ผู้คน​แล้ว​เช่นกัน

นาง​หันมา​กวักมือ​ให้​หวัง​ซีด​้วย​รอยยิ้ม​แย้ม​ ​เป็น​สัญญาณ​บอก​ให้​ตน​ไป​นั่ง​ข้าง​นาง​ ​ยัง​จับมือ​หวัง​ซี​เอาไว้​เอ่ย​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​เมื่อ​ครู่​ตอน​ไป​เรือน​เจ้า​ ​เห็น​กล้วยไม้​กะ​เรกะ​ร่อน​นิล​ของ​เจ้า​บาน​ได้​งาม​นัก​ ​เจ้า​ได้มา​จาก​ที่ใด​หรือ​ ​แนะนำ​ให้​ข้า​รู้จัก​บ้าง​ ​ข้า​เอง​ก็​จะ​ได้​ซื้อ​กลับ​ไป​สำหรับ​วัน​ขึ้นปีใหม่​”

หวัง​ซี​บอก​แหล่งที่มา​ของ​มัน​ด้วย​รอยยิ้ม

นาย​หญิง​เจ็ด​ให้​สาวใช้​ข้าง​กาย​จด​เอาไว้​ ​จากนั้น​ก็​กล่าว​ชม​เสื้อผ้า​เครื่องประดับ​ของ​นาง

คุย​กัน​เช่นนี้​อยู่​ครึ่ง​ค่อนวัน​ให้​แขก​ที่มา​ร่วมงาน​ได้​เห็น​กัน​ถ้วน​ทั่ว​แล้ว​ ​ถึง​ได้​ปล่อย​นาง​กลับ​ไป​นั่ง​ยัง​ที่นั่ง​ของ​ตัวเอง

ฉัง​เคอ​ยิ้ม​พลาง​ริน​น้ำชา​ให้​หวัง​ซี​ ​กระซิบ​กล่าวว่า​ ​“​ไม่เห็น​ซือ​จู​ ​ไม่รู้​ว่านาง​ไป​อยู่​ไหน​ ​ถึงแม้​คุณหนู​รอง​อู๋​จะ​ไม่อยู่​จิง​เฉิง​แล้วก็​ตาม​ ​แต่​นาย​หญิง​เจ็ด​จวน​ชิง​ผิง​โหวก​็​ยังคง​ดูแล​เจ้า​เป็น​อย่างดี​ ​ยาม​ว่าง​เจ้า​ก็​ไป​เยี่ยมเยียน​นาง​ให้​มาก​”

แค่​เรื่อง​ที่​ตระกูล​หวัง​อยาก​รับ​งาน​ดูแล​เรื่อง​ขนส่ง​เสบียง​ให้​จวน​ชิง​ผิง​โหว​ ​นาง​ก็​ต้อง​ไปมาหาสู่​กับ​จวน​ชิง​ผิง​โหว​ให้​บ่อย​ขึ้น​แล้ว​!

นอกจากนี้​นาย​หญิง​เจ็ด​ก็​เป็น​คน​ความคิด​เฉียบแหลม​ ​พูดจา​หรือ​กระทำ​สิ่งใด​ก็​เข้ากับ​นาง​ได้ดี​ยิ่ง​ ​การคบค้าสมาคม​กับ​สตรี​ตระกูล​อู๋​จึง​ไม่ใช่​เรื่อง​ยากเย็น​อะไร

หลังจาก​รับประทาน​มื้อ​เที่ยง​เสร็จ​ ​นาย​หญิง​รอง​เชิญ​ทุกคน​ไปดู​สิน​เจ้าสาว​ของ​เจ้าสาว​ ​ส่วน​ผู้​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พร​ทุก​ประการ​ที่​ตระกูล​หัน​เชิญ​มาก​็​เริ่ม​ปู​เตียง​ให้​เจ้าสาว

ตระกูล​หัน​ทุ่มทุน​กับ​การ​ออกเรือน​ของ​บุตรสาว​เป็นอย่างมาก​ ​หาก​บอกว่า​มีสิน​เจ้าสาว​ยาว​สิบ​ลี้​ก็​ไม่​เกิน​จริง​แม้แต่น้อย

ทุกคน​ต่าง​กล่าว​ชมพระ​พุทธรูป​องค์​พระโพธิสัตว์กวนอิม​หินอ่อน​สีขาว​หนึ่ง​คู่​นั้น​ไม่​หยุด

ทว่า​ฉัง​เคอ​กลับ​บอก​นาง​ว่า​ ​“​เจิ​้​นกั​๋​วก​งกิน​เลี้ยง​เสร็จ​ก็​กลับ​เลย​ ​บอกว่า​พรุ่งนี้​มีธุระ​ ​คงมา​ร่วมงาน​ไม่ได้​แล้ว​ ​เจิ​้​นกั​๋​วกง​เพิ่ง​กลับ​ออก​ไป​ ​เฉินลั​่​วก​็​ตาม​ออก​ไป​ด้วย​ ​มี​เพียง​ซือ​จู​ ​ถูก​ขัง​ไว้​ที่​เรือนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​อยาก​สอบสวน​ซือ​จู​ก็​ไม่รู้​จะ​เอ่ยปาก​อย่างไร​ ​ประเดี๋ยว​พวกเขา​คง​ไป​ที่​เรือนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กัน​ ​พวกเรา​ควร​ไป​ฟัง​ด้วย​หรือไม่​”

หวัง​ซี​อยาก​ไปมาก​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​คำพูด​ของ​เฉินลั​่ว​ ​นาง​ก็​ส่าย​ศีรษะ​ ​ยัง​กล่าว​โน้มน้าว​ฉัง​เคอ​ว่า​ ​“​ที่​ซือ​จู​ทำ​เช่นนี้​ต้อง​มีเหตุผล​เป็นแน่​ ​ข้า​คิดไปคิดมา​แล้ว​ ​คง​ไม่มี​อะไร​นอกเหนือ​ไป​จาก​เรื่อง​ที่ว่า​นาง​คงได้​ประโยชน์​อะไร​บางอย่าง​ ​แต่​สถานการณ์​ของ​นาง​เป็น​เช่นนี้​ ​ประโยชน์​อะไร​ที่​ทำให้​นาง​ยอม​คล้อยตาม​ได้​?​ ​และ​ใคร​ที่​ให้​ประโยชน์​เช่นนั้น​กับ​นาง​ได้​?…

…​หย่ง​เฉิง​โหว​สอบถาม​ยัง​ถาม​อะไร​ออกมา​ไม่ได้​ ​เหตุใด​พวกเรา​ต้องตาม​ไป​สร้าง​ปัญหา​เพิ่ม​ด้วย​ ​ถึง​เวลา​หาก​ถูก​ผู้อื่น​ระบาย​ความโกรธ​ใส่​คง​ไม่ดี​แน่​”

ฉัง​เคอ​คิด​พิจารณา​ครู่หนึ่ง​ ​สุดท้าย​ตัดสินใจ​ไม่​ไป​ด้วย​อีก​คน

ทั้งสอง​คน​แอบ​ออกมา​จาก​เรือนหอ​และ​กลับมา​ที่​สวน​ร่ม​หลิว​อย่างเงียบเชียบ

แดด​กำลังดี​ ​พวก​นาง​จึง​นั่ง​อยู่​ใต้​ชายคา​พลาง​มอง​พวก​สาวใช้​เด็ก​นั่ง​อาบแดด​ทำงาน​เย็บ​ปัก​ไป​ด้วย​ ​พูดคุย​เรื่องส่วนตัว​ไป​ด้วย

หวัง​ซีก​ล่าว​ ​“​ไม่รู้​ว่า​พรุ่งนี้​จ่าง​กง​จู่​จะ​มาร​่ว​มงาน​หรือไม่​”

ฉัง​เคอ​กล่าว​ ​“​พี่ชาย​สาม​แต่งงาน​ ​จ่าง​กง​จู่​คือ​แขก​สูงศักดิ์​ที่สุด​ที่​เชิญ​มา​แล้ว​ ​แม้แต่​โหวฮู​หยิน​จวน​เซียง​หยาง​โหว​ยัง​มาร​่ว​มงาน​เพราะ​เห็นแก่หน้า​ของ​จ่าง​กง​จู่​ ​หาก​พรุ่งนี้​จ่าง​กง​จู่​ไม่​มา​ ​เช่นนั้น​ก็​เป็นเรื่อง​ตลก​ให้​ผู้คน​ได้​ขบขัน​กัน​แล้ว​…

…​ยัง​มี​เฉินลั​่​วอี​กคน​ ​ตอนนี้​เขา​เป็น​ผู้บังคับบัญชา​ของกอง​พล​ทองคำ​ทั้ง​สี่​กองพล​ ​หาก​พี่ชาย​สาม​อยาก​ประสบความสำเร็จ​ใน​หน้าที่​การงาน​ที่​กองพล​ทองคำ​ ​การ​มี​เฉินลั​่ว​ช่วย​แนะนำ​ก็​เหมือน​พยัคฆ์​ติดปีก​ ​พี่ชาย​สาม​แต่งงาน​ครานี​้​ ​เขา​จึง​ไป​เชิญ​เฉินลั​่ว​ด้วยตัวเอง​ ​เพื่อให้​เฉินลั​่ว​มา​เป็นเกียรติ​แก่​เขา​…

…​ซือ​จู​สร้างเรื่อง​วุ่นวาย​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่านาย​หญิง​รอง​คง​โมโห​จน​เกือบ​สิ้น​แล้ว​กระมัง​”

“​หว่าน​อะไร​ก็​เก็บเกี่ยว​สิ่ง​นั้น​”​ ​หวัง​ซี​ไม่เห็น​ใจ​นาย​หญิง​รอง​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​“​พวกเขา​หัวสูง​ขนาด​นั้น​ ​ตระกูล​ซือ​เกิดเรื่อง​ ​พวกเขา​ป่าวร้อง​อย่าง​มีชีวิตชีวา​ที่สุด​มิใช่​หรือ​ ​ซือ​จู​จะ​ไว้หน้า​พวกเขา​ได้​อย่างไร​ ​แต่กระนั้น​ก็ตาม​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​ซือ​จู​ ​ต่อให้​นาย​หญิง​รอง​ดี​กับ​นาง​เพียงใด​ ​ใน​ยาม​คับขัน​ ​นาง​ก็​ยังคง​คิดถึง​แต่​ตัวเอง​อยู่ดี​”

“​ไม่รู้​ว่า​ซือ​จู​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​ฉัง​เคอ​กล่าว​ด้วย​ความเป็นห่วง​เล็กน้อย

ซือ​จูนั​่​งอยู​่​บน​ตั่ง​เตี้ย​หน้า​แหย่ง​หลัว​ฮั่น​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​ไม่ว่า​หย่ง​เฉิง​โหวกับ​โหวฮู​หยิน​พูด​อย่างไร​ ​นาง​ก็​ปิดปาก​แน่น​สนิท​เหมือน​หอย​กาบ​ ​อย่างไร​ก็​ไม่ยอม​ปริปาก

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ทน​ดู​ต่อไป​ไม่ได้​ ​จึง​กล่าว​โน้มน้าว​นาง​ด้วย​อีก​คน​ ​“​เจ้า​มีเรื่อง​ลำบากใจ​อะไร​ก็​เล่า​ให้​อา​ของ​เจ้า​ฟัง​ ​หาก​พวกเขา​ไม่​ตัดสินใจ​ให้​เจ้า​ ​ข้า​จะ​ทำให้​เจ้า​เอง​”

ซือ​จู​ถึง​ได้​เปิดปาก​กล่าว​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ ​“​พวก​ท่าน​ทำให้​ข้า​ไม่ต้อง​แต่ง​กับ​เฉิน​อิง​ได้​หรือ​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ได้ยิน​แล้ว​ทั้ง​ตกใจ​ทั้ง​โมโห​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่รู้​ความ​ขนาด​นี้​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​เจ้า​หมั้น​หมาย​กับ​เฉิน​อิง​ ​เจ้า​คง​ถูกขาย​ไป​ที่​กอง​สังคีต​นาน​แล้ว​ ​เจ้า​ยัง​จะ​ได้​นั่ง​เถียง​กับ​ข้า​อยู่​ที่นี่​อย่างปลอดภัย​อยู่​หรือ​ ​ข้าว​่า​เพราะ​เจ้า​ยัง​ไม่ได้​เป็น​นาย​หญิง​ดูแล​บ้าน​ก็​เลย​ไม่รู้​ว่า​ค่า​อาหาร​ฟืน​ไฟ​แพง​เพียงใด​ ​ไม่เคย​ลำบาก​ก็​เลย​ไม่รู้​ว่า​ชีวิต​ทุกวันนี้​ได้มา​ยากเย็น​เพียงใด​…​”

ผู้ใด​จะ​รู้​ว่านาง​ยัง​พูด​ไม่​จบ​ประโยค​ ​ซือ​จู​ก็​ลุกขึ้น​มา​อย่าง​เดือดดาล​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ยอม​ตายดี​กว่า​ยอม​มีชีวิต​เช่นนี้​”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ตอนที่​นาง​เห็น​เงา​หลัง​ของ​เฉินลั​่​วจั​บมือ​หวัง​ซี​วิ่งหนี​ไป

เฉินลั​่ว​ต้อง​ชอบ​หวัง​ซี​อย่างแน่นอน

ต่อให้​หวัง​ซี​ไป​เป็น​อนุภรรยา​ของ​เฉินลั​่ว​ ​แต่​ก็​เป็น​อนุอัน​เป็น​ที่รัก

นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​หัวเด็ดตีนขาด​อย่างไร​นาง​ก็​ไม่​อยาก​เห็น

……………………………………………………………

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

Status: Ongoing
เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล นางเติบโตมาท่ามกลางความรักและอบอุ่น ส่วนเขามีแต่ความเย็นชาและหวาดระแวง หัวใจของเขาพลันหลอมละลายเมื่อได้พบนาง…หวังซี บุตรสาวจากตระกูลพ่อค้าแสนร่ำรวยเดินทางมาพักอาศัยชั่วคราวที่บ้านญาติ ณ เมืองหลวงที่นั่นนางได้พบกับ เฉินลั่ว ชายหนุ่มแสนเย็นชาที่พักอยู่ข้างบ้านนางและเขามีนิสัยราวกับเป็นขั้วตรงข้าม นางสดใส เขากลับเย็นชา ชอบทำหน้าปั้นปึ่งทั้งวันแต่ด้วยเหตุบังเอิญหลายอย่างทำให้นางได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับเฉินลั่วและเรื่องราวซับซ้อนในวังหลวงหลายครั้งพานพบ จากคนแปลกหน้ากลายเป็นผู้รู้ใจท่ามกลางคลื่นลมมากมายในเมืองหลวง บุปผางดงามกลับค่อยๆ ผลิบานในใจของคนทั้งคู่…เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท