หลินมั่นหรูที่ถูกถอดเสื้อผ้าออกจนหมด เธอรีบคว้าผ้าห่มมาห่อตัวเองเอาไว้ มองไปที่ถังเฮ่าด้วยความโมโหและหวาดกลัว “คุณอย่าทำอะไรฉันนะ ถ้าคุณกล้าแตะต้องตัวฉัน ฉันจะฆ่าตัวตาย!”
“ฮ่าๆๆ…” ถังเฮ่าหัวเราะเสียงดัง “คุณเป็นดอกกุหลาบที่มีพิษจริงๆ ทั้งตัวคุณไม่ได้มีแค่ยาพิษแต่ยังมีหนามแหลมคมอีกด้วย ครับๆ ผมไม่แตะต้องตัวคุณ เรามาคุยกันดีกว่า” ถังเฮ่ากอดหลินมั่นหรูเอาไว้ จากนั้นเอนตัวลงนอนบนเตียง มือหนาลูบจับใบหน้าของเธอ “ตัวเล็ก บอกผมมา คุณทำงานอะไรกันแน่”
“ขายยา” หลินมั่นหรูเริ่มสร้างเรื่องขึ้นมา
เห็นได้ชัดว่าถังเฮ่าไม่เชื่อ เขาหัวเราะในลำคอ “ขายยาอะไร ยาพิษ?”
หลินมั่นหรูรู้ว่าเขาไม่เชื่อ เธอจึงไม่พูดอะไรต่อ ทำเพียงแค่กรอกตามองบนแล้วนอนเงียบๆ
ถังเฮ่าเองก็ไม่ได้บีบบังคับเธอ เขามองใบหน้าสวยๆ ด้วยความสนใจ นิ้วมือเรียวยาวลูบไปที่ใบหน้าของเธอ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความลุ่มหลง เขาไม่ได้แตะต้องผู้หญิงมานานแล้ว พอได้แตะเนื้อต้องตัวกับผู้หญิงที่ตนชอบ ความต้องการของร่างกายก็วิ่งพล่านขึ้นมาทันที หลังจากนั้นหนึ่งนาที เขาก้มหน้าลงแล้วจูบเธอ
ริมฝีปากบางของเธอมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบ ทั้งยังชุ่มช่ำและงดงาม ทำให้เขารู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
หลินมั่นหรูไม่เคยจูบกับผู้ชายคนไหนมาก่อน นี่ถือว่าเป็นจูบแรกของเธอ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเธอ หลินมั่นหรูสั่นเทาไปทั้งตัว หัวใจเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ ถึงแม้ภายในใจจะปฏิเสธเขา แต่ร่างกายกลับจูบตอบเขา เพราะรสชาติของผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ตอนแรกถังเฮ่านึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ผ่านโลกมาเยอะ เขาไม่คิดว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แต่รสจูบของเธอมันแสดงออกมาอย่างชัดเจน นี่เป็นการจูบกับผู้ชายครั้งแรก ความรู้สึกดีใจพุ่งทะยานขึ้นมาในใจ หลังจากจูบกับเธอแล้ว เขาก็พูดด้วยความหลงใหล “คุณไม่เคยจูบกับผู้ชายมาก่อน?”
หลินมั่นหรูตกใจ เธอทั้งเขินและโมโห “เหลวไหล ตอนที่ฉันเล่นกับพวกผู้ชาย ไม่รู้ว่าตอนนั้นคุณกำลังเรียนอยู่ชั้นไหน!”
“ฮ่าๆๆ…” ถังเฮ่าหัวเราะเสียงดัง มือหนาจับใบหน้าและคอระหงส์ของเธอ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมเป็นผู้ชายของคุณ?”
หลินมั่นหรูกำลังจะโมโห ทว่าดวงตาของเธอกลับกะพริบไปมา แล้วยิ้มยั่วยวนเขาอีกครั้ง “ได้ค่ะ ฉันยอมรับ ฉันไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายคนไหนมาก่อน แต่นั่นเป็นเพราะฉันยังไม่เจอผู้ชายที่คู่ควรให้ฉันเสียพรหมจรรย์ คุณชายถังถือว่าเป็นผู้ชายที่โอเค แต่คุณจะทำเรื่องอย่างว่ากับฉันทั้งแบบนี้ก็คงไม่ดีเท่าไหร่มั้งคะ คุณควรไปอาบน้ำสักหน่อยรึเปล่า”
แววตาของเธอฉายความเจ้าเล่ห์ออกมาทันที ถังเฮ่าตกหลุมพรางเธอแล้ว เขายิ้มกรุ้มกริ่ม “ไปอาบน้ำด้วยกัน”
“ไม่เอาค่ะ ฉันเขิน”
“ถึงยังไงเดี๋ยวคุณก็กลายเป็นผู้หญิงของผมแล้ว ยังจะมีอะไรให้อาย”
“ก็จริงอย่างที่คุณพูด แต่เราก็ควรจะค่อยเป็นค่อยไปรึเปล่า คุณไปอาบน้ำก่อนสิคะ เดี๋ยวฉันรอคุณที่นี่”
ถังเฮ่าเลิกคิ้วขึ้น “ได้ครับ แต่ผมขอเตือนคุณเอาไว้ก่อนนะ อย่าคิดหนี ไม่อย่างนั้นคราวหน้าถ้าผมจับตัวคุณได้อีก ผมไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆ แน่”
“ค่ะๆ รู้แล้ว” หลินมั่นหรูเบะปากเล็กน้อย
ถังเฮ่ารู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านในร่างกาย เขากลืนน้ำลายลงคอ “บอกผมมาก่อน คุณชื่ออะไร”
“เสี่ยวหรู”
ถังเฮ่าหัวเราะอีกครั้ง “ครับ เสี่ยวหรูเป็นเด็กดีนะ เดี๋ยวผมก็ออกมาแล้ว หื้ม?”
“ค่ะ เข้าใจแล้ว”
ถังเฮ่าตบหน้าของเธอเบาๆ เขาลุกขึ้นหยิบกุญแจแล้วล็อคประตูห้อง จากนั้นกวาดเสื้อผ้าของเธอไป เขาไม่เชื่อว่าเธอจะสามารถออกไปจากห้องนี้ได้ อีกทั้งยังออกไปทั้งๆ ที่กำลังโป๊เปลือย
หลังจากป้องกันทุกวิถีทางแล้ว ถังเฮ่าเข้าไปอาบน้ำด้วยความสบายใจ
ตอนที่เสียงน้ำดังขึ้น หลินมั่นหรูเลิกคิ้วขึ้น เธอดึงผ้าปูที่นอนออกมาแล้วพันเป็นเสื้อ จากนั้นเดินไปที่ประตูห้องน้ำ พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “คุณชายถังคะ ต้องอาบให้สะอาดนะ นี่เป็นครั้งแรกของฉัน”
ถังเฮ่าตอบกลับด้วยความตลก “ครับ!”
หลินมั่นหรูเบะปาก เธอถอดกิ๊บบนศีรษะลงมา กิ๊บนี้เป็นอาวุธลับ มีตะขอแหลมซ่อนเอาไว้ หลินมั่นหรูใช้มันสอดเข้าไป มือเรียวยาวหมุนเล็กน้อย ประตูก็เปิดออก
เธอเปิดประตูด้วยเสียงที่เบามาก อีกทั้งในห้องน้ำยังมีเสียงอาบน้ำอีก ถังเฮ่าจึงไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ดังนั้น หลินมั่นหรูจึงหนีออกไปได้สำเร็จ ก่อนที่จะออกไปเธอเขียนข้อความเอาไว้ที่ประตู “ไม่เอาไหน!”
เธอกำลังเย้ยหยันว่าถังเฮ่าไม่เอาไหน
ถังเฮ่าอาบน้ำและออกมาอย่างรวดเร็ว ทว่าในห้องกลับไม่มีใครแล้ว เขารู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที หันไปมองที่ประตู เห็นกิ๊บสอดเอาไว้ อีกทั้งที่ประตูยังมีตัวหนังสือขนาดใหญ่เขียนคำว่า “ไม่เอาไหน” ความโมโหของเขาเหมือนไฟที่ลุกพรึ่บขึ้นมา ถังเฮ่าโยนผ้าขนหนูลงกับพื้นด้วยความโมโห กัดฟันกรอด “ดูสิคราวหน้าถ้าผมจับตัวคุณได้อีก ผมจะจัดการคุณยังไง!”
*****
เหลิ่งรั่วปิงนอนอยู่ในห้องของซือคงอวี้ตามคำสั่งของเขา เธอไม่รู้ว่าเวลานี้หนานกงเยี่ยกำลังตามหาเธอแทบเป็นแทบตาย เธอนึกว่าหนานกงเยี่ยจะอยู่กับอวี้หลานซี คิดว่าพวกเขากำลังสวีทหวานกันอยู่
ทางด้านซือคงอวี้นั้นไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน เพราะเขามาเมืองหลงโดยที่ปิดบังทุกคนเอาไว้ เขาแอบมาที่นี่ ดังนั้นงานในแต่ละวันต้องจัดการให้เสร็จตามเวลา เพื่อกันไม่ให้พ่อของเขาและเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อสุญญตาเอ้าสงสัย ถ้าหากสุญญตาเอ้ารู้ว่าเขาออกนอกประเทศอย่างบุ่มบ่ามเพราะผู้หญิงคนนั้น เขาต้องฆ่าเหลิ่งรั่วปิงอย่างแน่นอน สำหรับประเทศและหญิงงามนั้น สุญญตาเอ้าต้องให้ตนเลือกประเทศอย่างแน่นอน
ก่อนที่เขาจะมาเมืองหลง ซือคงอวี้คิดอยากจะฆ่าเหลิ่งรั่วปิง เขาไม่สามารถทนเห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นได้ แต่วินาทีที่เจอเธอ ความคิดที่จะฆ่าธอกลับหายไป รูปลักษณ์ของเหลิ่งรั่วปิง นิสัยใจคอของเหลิ่งรั่วปิง ทุกอย่างของเธอ เขารักมานานกว่าหกปีแล้ว แค่คิดว่าต้องทำลายเธอด้วยมือตนเอง เขาก็ทำไม่ได้แล้ว ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะอภัยให้เธอ ขอแค่เธอกลับมาอยู่ข้างกายเขา เขาก็ยินดีที่จะอภัยให้กับทุกความผิดที่ทำเอาไว้
ท้องฟ้าค่อยๆ สว่าง เวลานี้ฝนหยุดตกลง แต่ยังคงมืดครึ้ม คล้ายว่าฝนกำลังจะตก
ซือคงอวี้มองดูท้องฟ้า เขาวางเอกสารในมือลง เหยียดตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องนอน เหลิ่งรั่วปิงกำลังนอนหลับสนิท เขายืนมองเธอเงียบๆ อยู่นาน จากนั้นก้มตัวลงประทับริมฝีปากบนแก้มของเธอ
เหลิ่งรั่วปิงสะดุ้งตื่น เธอลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเป็นซือคงอวี้ จึงสงบสติอารมณ์ลง
เห็นได้ชัด ซือคงอวี้คิดไม่ถึงว่าการกระทำของเขาจะทำให้เธอตื่น เขารู้สึกผิดเล็กน้อย เหยียดตัวลงนั่งแล้วขยับเข้าไปใกล้เธอ “ผมทำให้คุณตกใจ?”
“เปล่าค่ะ เป็นเรื่องความเคยชินของร่างกายมากกว่า” เป็นจริงตามนั้น เมื่อก่อนเธอได้รับการฝึกฝนมาหลากหลายรูปแบบ ทำภารกิจเสี่ยงอันตรายมามาก เธอจึงต้องคอยระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา
ซือคงอวี้โอบกอดเธอเอาไว้ด้วยความปวดใจ “เมื่อก่อนผมทำให้คุณต้องลำบาก หลังจากนี้จะไม่มีอีกแล้วนะครับ”
“ฉันเข้าใจในความหวังดีของคุณค่ะ ฉันไม่เสียใจที่ตนเองเคยได้รับการฝึกฝนมาแบบนั้น” เพราะได้รับการฝึกฝนมาอย่างหนัก เธอจึงกลายเป็นคนที่เข้มแข็งและมีความกล้าในการกลับมาแก้แค้นที่เมืองหลง
“คุณต้องการคนคอยทะนุถนอม ผมเองก็ต้องการคนรัก หลังจากนี้ พวกเราอย่าแยกจากกันอีกเลยนะ” น้ำเสียงของซือคงอวี้เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาปล่อยให้เธอทำตามใจตนเองแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนี้เขาจะให้เธออยู่ข้างกายเขา ไม่มีวันปล่อยให้เธอไปไหนอีก
“…” เหลิ่งรั่วปิงเงียบ ความตื้นตันใจก็ส่วนตื้นตันใจ แต่เธอก็ยังคงอยากมีอิสระมากกว่า
หลังจากเงียบไปหลายนาที เหลิ่งรั่วปิงก็พูดขึ้นมา “ฉันต้องกลับไปที่ห้องของตนเองก่อนที่ฟ้าจะสว่างค่ะ”
แค่คิดว่าเธอจะต้องกลับไปอยู่กับหนานกงเยี่ย สีหน้าของซือคงอวี้ก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที “คุณต้องกลับไปอยู่กับเขาจริงๆ หรอ เคยคิดถึงความรู้สึกของผมบ้างไหม”
เหลิ่งรั่วปิงปรับอารมณ์ของตนเอง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย “เขาหวั่นไหวกับสิ่งที่ว่าที่เจ้าสาวของเขาทำแล้วค่ะ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาน่าจะกลับไปคืนดีกัน คงไม่ได้ต้องการฉันแล้ว ฉันกลับไปเพื่อจบกับเขาก็เท่านั้น จากนั้นฉันก็จะทำการแก้แค้นต่อ อีกไม่กี่วัน สิ่งที่ฉันวางแผนเอาไว้ทั้งหมดก็จะจบลงแล้ว”
เงียบอยู่นาน ซือคงอวี้พูดขึ้น “รั่วปิง จำเอาไว้ ผมอนุญาตให้คุณเอาแต่ใจตัวเองแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น คุณต้องอยู่ที่ซีหลิงตลอดไป ต้องอยู่กับผมตลอดไป!”
“…ค่ะ” เธอหนีกรงทองที่เขาสร้างเอาไว้ให้ไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ยอมจำนน
อย่างไม่ทันตั้งตัว ซือคงอวี้เชยคางเธอขึ้น “สาบานกับผม หลังจากจบเรื่องที่เมืองหลง คุณจะรีบกลับซีหลิงทันที”
“หลังจากจบเรื่องที่เมืองหลง ฉันจะไปจากคุณหนานกงเยี่ยและไปจากเมืองหลงค่ะ” เหลิ่งรั่วปิงตอบกลับอย่างเฉลียวฉลาด ใช่ เธอจะไปจากเมืองหลง แต่เธอไม่อยากกลับซีหลิง
ซือคงอวี้ยกมุมปากขึ้นด้วยความพอใจ “ครับ ผมจะให้อาเธอร์และหลินมั่นหรูอยู่ช่วยคุณที่นี่”
“ไม่ค่ะ ฉันต้องการแค่อาเธอร์ ส่วนหลินมั่นหรูอย่าเลยดีกว่า”
“ครับ” ซือคงอวี้ตอบตกลง เขารู้ว่าเหลิ่งรั่วปิงไม่ชอบหลินมั่นหรู
*****
เมื่อหาเหลิ่งรั่วปิงไม่เจอ หนานกงเยี่ยจึงไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน คนของเขาตามหาเหลิ่งรั่วปิงตั้งแต่ชั้นหนึ่งตลอดจนถึงชั้นห้า แต่ก็ยังคงหาเธอไม่เจอ บนชั้นห้าเป็นห้องพักของคนชั้นสูงในเมืองหลง ทุกคนต่างให้เกียรติเขา ไม่ว่าคนของหนานกงเยี่ยจะเข้าไปค้นห้องไหน ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่ชั้นหก เป็นชั้นของบริษัทประมูลฮั่นไห่ มีบอดี้การ์ดที่พกปืนเฝ้าเอาไว้มากมาย ถ้าไม่มีคำสั่งของหนานกงเยี่ย ไม่มีใครกล้าเสียมารยาทขึ้นไป
หนานกงเยี่ยนั่งอยู่บนโซฟาภายในห้องของเหลิ่งรั่วปิง กำลังนั่งฟังรายงานของก่วนอวี้ สีหน้าของเขาเคร่งขรึม น้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไปหาเธอที่ชั้นหก”
มู่เฉิงซีไม่เห็นด้วย “หนานกง อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม บริษัทประมูลฮั่นไห่มีความลึกลับมาโดยตลอด ต้องมีคนที่มีอำนาจคอยหนุนหลังอย่างแน่นอน ห้ามมีเรื่องกับพวกเขาเด็ดขาด”
“ใช่ หนานกง แกต้องคิดดีๆ ก่อนจะทำอะไร การเป็นศัตรูกับคนที่ยิ่งใหญ่เพราะผู้หญิงแค่คนเดียว มันไม่คุ้ม” อวี้ไป่หันรีบพูดโน้มน้าวทันที
ทางด้านถังเฮ่ากลับนั่งเงียบ เขากำลังโมโหหลินมั่นหรู
เวินอี๋นั่งสะอื้นร้องไห้แล้วพูดขึ้น “พี่รั่วปิงไปไหนกันแน่คะ เธอจะตกอยู่ในอันตรายรึเปล่า”
มู่เฉิงซีรีบปลอบ “พอได้แล้วๆ ไม่ต้องร้องไห้ เหลิ่งรั่วปิงเป็นคนเก่ง เธอไม่มีวันตกอยู่ในอันตรายหรอก เธอคงไปหาใครสักคน อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ว่าเธออาจจะเหมาเรือไปที่อื่นแล้วก็ได้”
นัยน์ตาของหนานกงเยี่ยสั่นเทา เขาเคยคิดว่าเธออาจจะไปจากเรือยอร์ชนี้ นั่งเรือกลับไปเมืองหลงด้วยตนเอง ตราบใดที่แผนการแก้แค้นของเธอยังไม่สำเร็จ เธอต้องกลับไปที่เมืองหลง แต่เขาโทรกลับไปที่วิลล่าหย่าเก๋อและโรงแรมวั่นเหาแล้ว เธอไม่ได้กลับไป นอกจากสองที่นี่ เขาคิดไม่ออกว่าเธอจะไปที่ไหน ดังนั้น เธอน่าจะยังอยู่บนเรือยอร์ชลำนี้
ท้ายที่สุด หลังจากที่หนานกงเยี่ยตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย เขาจับปืนของตนเองเอาไว้ “ฉันจะขึ้นไปหาเธอที่ชั้นหก” พูดจบ เขาก็เดินออกไปจากห้อง ตรงไปที่ลิฟต์ทันที
“หนานกง!”
“หนานกง!”
“หนานกง!”
“คุณชายเยี่ย!”
มู่เฉิงซี อวี้ไป่หัน ถังเฮ่าและก่วนอวี้รีบวิ่งตามเขาออกไปจากห้องทันที