บทที่ 694 ข้าขอร้องท่าน รีบฆ่าเสียประเดี๋ยวนี้เลย!
พระอมิตาภะพุทธเจ้าปวดเศียรเวียนเกล้า เหตุใดจึงมีผู้ที่ ‘ไร้เดียงสา’ ถึงเพียงนี้อยู่ด้วย
เขารำพึงกับตนเองภายในใจว่า เหตุใดพวกลั่วสุ่ยจึงต้องพาต้าเต๋อมาที่นี่ด้วย!
นี่อาจเป็นจุดพลิกผันสถานการณ์ทั้งหมด
ความจริงแล้ว ต้าเต๋อเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย
เขายังมีลูกประคำที่คุณชายมอบให้ อีกทั้งพวกลั่วสุ่ยเองก็ยังอยู่ที่นี่ ดังนั้นจะมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นกับเขาได้อย่างไร?
ไม่มีทางอยู่แล้ว
แม้ว่าเข้าจะเข้าไปในส่วนลึกของภพเซียนก็ไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นกับเขาอยู่ดี
เณรน้อยทะยานร่างไปถึงตรงที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าอยู่อย่างรวดเร็ว
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในภพเซียนต่างเดือดพล่าน พวกมันไม่คิดมาก่อนเลยว่าต้าเต๋อจะมาหาพวกเขาถึงที่จริง ๆ!
สำเร็จแล้ว!
พวกเขามีเบี้ยอยู่ในกำมือเรียบร้อยแล้ว!
พวกเขาต่างก็ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
พระอมิตาพุทธเห็นต้าเต๋อขยับเข้ามาพร้อมยิ้มให้เข้าก็พลันรู้สึกปวดหัว ท่าทางราวกับไม่รู้ผลของการมายังพื้นที่ตรงนี้อย่างสิ้นเชิง
“พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่น่าแปลกใจเลยที่ท่านไม่เคยกลับไปดูพระพุทธศาสนาแม้แต่น้อย ที่แท้ก็เพราะมีหญิงงามมากมายรายล้อม เช่นนั้นแล้วท่านจะทิ้งหญิงงามเหล่านี้แล้วกลับไปได้อย่างไร! เปลี่ยนเป็นข้าเองก็จะไม่กลับไปอย่างแน่นอน!”
ต้าเต๋อกล่าวพร้อมรอยยิ้มเริงร่า ที่แห่งนี้มีหญิงงามมากเกินไปแล้ว แค่มองเขาก็รู้สึกลายตา!
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังสมกับเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า!
มีหญิงงามมากมายถึงเพียงนี้ก็ยังสามารถต้านทานได้อย่างสมบูรณ์!
หัวใจพุทธของพระอมิตาพระพุทธเจ้านั่นมั่นคงมาโดยตลอด ไม่เกิดความผันผวนขึ้นอย่างง่ายดาย แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเณรน้อยผู้นี้ หัวใจพุทธอันมั่นคงของเขาก็ถูกท้าทายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้อยากสงบใจก็ไม่อาจทำได้!
“พูดไร้สาระอันใดกัน!”
เขากัดฟันเอ่ยออกมา อดยกมือขึ้นมาเคาะหัวเล็ก ๆ แวววับของต้าเต๋อไม่ได้!
ต้าเต๋อนั้นไม่เหมือนสาวกของพระพุทธศาสนาสักนิด ท่าทางเหมือนกับเป็นเพียงแค่อันธพาลตัวน้อยคนหนึ่ง ไม่มีความเป็นพุทธสาวกอยู่เลย
ทว่าภายในใจของเขาก็มีเรื่องให้ต้องตื่นตะลึง
ต้าเต๋ออายุเพียงเท่าไหร่กันเชียว? เป็นเพียงแค่เด็กน้อยอายุไม่กี่ขวบปี แต่กลับก้าวเข้าสู่ขั้นเทียนตี้แล้ว อีกทั้งเขายังสามารถสัมผัสได้ว่า ต้าเต๋อนั้นมาถึงจุดสูงสุดของขั้นเทียนตี้แล้ว เท้าครึ่งหนึ่งเหยียบขึ้นมาบนขอบเขตเซียนเรียบร้อย!
กล่าวอย่างไม่เกินจริงเลย ต้าเต๋อในตอนนี้กลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอย่างสมบูรณ์!
เขารู้สึกเหลือเชื่อสุด ๆ!
เด็กคนนี้อายุเพียงไม่เท่าไหร่ แม้จะเริ่มฝึกตนตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาก็ไม่อาจมาถึงขอบเขตที่สูงถึงเพียงนี้ได้!
จินตนาการไม่ออกจริง ๆ ว่าต้าเต๋อมาถึงขอบเขตนี้ได้อย่างไร!
ตู้ม!
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังมาจากทางลั่วสุ่ยและลู่อู๋ การต่อสู้ตรงนั้นเกิดการพลิกผันครั้งใหญ่!
“อันใดกัน!”
“ลู่อู๋ถูกสยบลงแล้วจริง ๆ!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในภพเซียนมองไปทางลั่วสุ่ยและลู่อู๋ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น!
นั่นคือลู่อู๋เชียวนะ!
ไร้คู่ต่อกรในหมู่จักรพรรดิเซียนรุ่นใหม่ กระทั่งจักรพรรดิเซียนรุ่นเก่าบางคนยังไม่ใช่คู่มือ แต่ผลออกมากลับถูกสยบโดยราชันแห่งเซียนอย่างลั่วสุ่ย…
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ จะกล้าเชื่อลงได้อย่างไร!
ภายในใจของพวกเขาตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง อารมณ์มากมายหลากหลายยากจะบรรยาย ไม่เข้าใจโดยสิ้นเชิงว่าเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้ความสนใจทั้งหมดของพวกเขาเบนไปอยู่ที่ต้าเต๋อ ไม่เห็นว่าลู่อู๋ถูกลั่วสุ่ยสงบลงได้อย่างไร!
โฮกกกกก!
ลู่อู๋ส่งเสียงคำรามด้วยความกราดเกรี้ยว ดวงตาเป็นสีแดงฉาน มันถูกสยบลงได้อย่างไรกัน? มันไม่อาจยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้ พลังสายเลือดของมันระเบิดออกมาอย่างเต็มที่!
ขนาดร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้น ราวกับจะล้นทะลักทำให้ดินแดนแกนกลางพังทลายลง มันอ้าปากพ่นสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา ต้องการจะพลิกเปลี่ยนสถานการณ์!
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาอยู่ภายใต้มวยไทเก๊กของลั่วสุ่ย ทุกอย่างล้วนไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้!
ลั่วสุ่ยฝึกมวยไทเก๊กจนถึงขีดสุดแล้ว หนึ่งหมัดชกออกพลันเกิดความสั่นสะเทือนด้วยวิถีเต๋าอันเหนือชั้น กฎเกณฑ์ของภพเซียนพังทลายลงภายในพริบตา
สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาถูกหมัดของลั่วสุ่ยชักนำ พลังอันรุนแรงดุร้ายที่อยู่ในสายฟ้าพลันสลายหายไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นพลังนุ่มนวลอย่างถึงที่สุด ไม่มีอำนาจในการทำล้ายล้างอีกต่อไป
ใบหน้าของลู่อู๋ทั้งดุร้ายทั้งอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก
นี่มันวิชามวยอันใดกัน สามารถสลายพลังทั้งหมดไปจนสิ้นได้!
มันถูกสยบก็เพราะวิชามวยนี้ พอมันเข้าประมือ พลังทั้งหมดล้วนไม่อาจปะทุออกมาได้เลย ก่อนหน้านี้มันก็ถูกวิชามวยเล่นงานจนพลังหายไปสิ้น
“อย่าคิดว่าจะสยบข้าได้!”
ลู่อู๋ระเบิดพลังออกมาอีกรั้ง ในใจไม่เต็มใจจะพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้จริง ๆ มันสำแดงวิชาลับสุดยอดออกมาอีกครั้ง หางทั้งเก้าที่อยู่ด้านหลังสาดประกายเจิดจ้า พลังมหาศาลสะท้านฟ้าแผ่ออกมา!
ตู้ม!
มันไม่ธรรมดาจริง ๆ ทรงพลังอย่างถึงที่สุด การปะทุพลังครั้งนี้ทำให้ทั้งดินแดนแกนกลางสั่นสะเทือนเล็กน้อย เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว!
น่าเสียดาย ที่ครั้งนี้คู่มือของมันคือลั่วสุ่ยที่ไม่ธรรมดาเสียยิ่งกว่า!
ลั่วสุ่ยลอยอยู่กลางอากาศรายล้อมด้วยประกายแสงเซียนระยิบระยับ ทั้งแวววาวและสว่างพร่างพราย มวยไทเก๊กถูกแสดงออกมาจนถึงกระบวนท่าท้าย ๆ พริบตาเดียวกับที่ลู่อู๋ระเบิดพลังออกมา นางก็พุ่งเข้าไปประชิดย่นระยะห่างกับลู่อู๋
หลังจากเข้าประชิดแล้ว พลังของมวยไทเก๊กก็ห่อหุ้มร่างของลู่อู๋เอาไว้ ทำให้มันสูญเสียการควบคุมพลังทั้งหมด พลังของมันล้วนถูกมวยไทเก๊กสลายหายไปสิ้น!
ฟึ่บ!
มันถูกลั่วสุ่ยควบคุมอย่างสมบูรณ์ราวกับว่าวที่ทำได้เพียงลอยตามลมไป ลั่วสุ่ยดูแล้วตัวไม่ใหญ่ กำปั้นก็ยังดูอ่อนโยน แต่เมื่อหมัดนั้นตกลงบนร่างของมันแล้ว กลับน่ากลัวยิ่งกว่าการมีอสนีบาตฟาดใส่ร่างของมันเสียอีก ร่างกายของมันระเบิดออกทันที เศษเนื้อและเลือดปลิวว่อนกระจัดกระจาย น่าเวทนาเกินกว่าจะมองโดยตรง!
เสียงตู้มดังขึ้น ลั่วสุ่ยโจมตีใส่ร่างของลู่อู๋อีกครั้ง ร่างของมันปลิวกระเด็นออกไปทันที จากนั้นก็ระเบิดออกกลายเป็นเพียงกลุ่มหมอกละอองเลือด!
ใช้เวลานานพอสมควร ลู่อู๋จึงสามารถรวมร่างตนเองกลับมาใหม่ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีกำลังพอจะต่อสู้แล้ว ลมหายใจของมันอ่อนแรง สภาพย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง
“สบายยิ่งนัก!”
ลั่วสุ่ยยิ้ม รู้สึกเบิกบานสบายใจยามได้ปล่อยหมัด
นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ร่ายมวยไทเก๊กจนจบในการต่อสู้ มันทำให้นางรู้สึกเบิกบานสบายใจเป็นอย่างมาก!
“แพ้…แพ้แล้ว!”
“จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!”
สิ่งมีชีวิตในภพเซียนต่างพากันหวาดเกรงอย่างมาก ภายในใจเต็มไปด้วยความผวา เหงื่อเย็นหลั่งไหลออกมาเต็มแผ่นหลังจนเปียกชื้นบนเสื้อผ้า
เป็นไปได้อย่างไรกัน!
ราชันเซียนผู้หนึ่งกลับสามารถเอาชนะจักรพรรดิเซียนได้ แถมยังไม่ใช่จักรพรรดิเซียนธรรมดา หากพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเองแล้ว เกรงว่าต่อให้ตีจนตายก็เชื่อไม่ลง!
อีกทั้ง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเห็นสิ่งเหล่านี้ด้วยตาของตนเอง แต่ก็ยังคงเชื่อไม่ลง เกิดความสงสัยว่าตนเองมองผิดหรือเป็นภาพลวงตาเสียด้วยซ้ำ!
ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้การต่อสู้ครั้งนี้ดูเหมือนฝันไม่สมจริงเช่นนี้กัน แม้ได้เห็นด้วยตาตนเองก็ไม่อาจเชื่อได้ลง!
จักรพรรดิเซียนอาวุโสจากตระกูลเซียวและกองกำลังอื่น ๆ ต่างมีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก แววตาทอประกายแปลกประหลาด
พวกเขาเองก็ไม่คาดคิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ เดิมทีต้องการให้ลู่อู๋สำแดงศักดิ์ศรีภพเซียนออกมา สุดท้ายกลับไม่ได้ผล อีกทั้งลู่อู๋ยังถูกทุบตีอย่างน่าเวทนา!
นอกจากนี้แล้ว สิ่งนี้ยังทำให้พวกเขาสนใจพลังในร่างของลั่วสุ่ยมากยิ่งขึ้น รวมถึงวิชามวยนี่ด้วย ความโลภที่มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น!
พวกเขากระจ่างแจ้งเป็นอย่างดี ว่าสาเหตุที่ทำให้ลั่วสุ่ยสามารถเอาชนะลู่อู๋ได้ ก็เพราะพลังในร่างของลั่วสุ่ย และวิชามวยที่นางใช้ออกมา!
พลังและวิชามวยเหล่านี้ต่างก็ไม่ธรรมดาเหนือชั้นเป็นอย่างยิ่ง!
พวกเขามองไปทางต้าเต๋อที่อยู่ทางฝั่งพวกเขา จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ยังดี ยังดีที่มีเด็ก ‘ไร้เดียงสา’ อย่างต้าเต๋ออยู่ พวกเขายังสามารถใช้ต้าเต๋อเพื่อเจรจากับลั่วสุ่ยได้
“ทุกท่านโปรดหลีกทาง ผลถูกตัดสินแล้ว ตามที่กล่าวกันไปก่อนหน้านี้ ศพมังกรตกเป็นของพวกข้าแล้ว”
ลั่วสุ่ยเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“พวกข้าพูดเช่นนั้นหรือ? ดูเหมือนจะไม่ได้พูดนะ!”
“ใช่แล้ว! เมื่อครู่เป็นลู่อู๋ที่เอ่ยคำเหล่านั้น มันไม่อาจเป็นตัวแทนของพวกข้าได้ มันสามารถพูดส่วนของมันเท่านั้น”
เหล่าจักรพรรดิเซียนอาวุโสพูดขึ้นมา
หลังจากนั้นจักรพรรดิเซียนตระกูลเซียวก็ไปยืนอยู่ด้านข้างต้าเต๋อ วางมือข้างหนึ่งลงบนไหล่ของต้าเต๋อพร้อมมองไปทางลั่วสุ่ยด้วยรอยยิ้ม
“เพียงแค่ซากมังกรตัวหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างใด แม่นาง พวกเรามาพูดคุยกันดี ๆ เถิด ขอเพียงแค่สามารถเจรจากันได้ ศพมังกรนั่นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดเลย พวกแม่นางอยากได้มากเท่าไหร่ก็เอาไปได้เต็มที่!”
เขากล่าวกับลั่วสุ่ย
มือของเขายังวางอยู่บนไหล่ต้าเต๋อระหว่างคุยกับลั่วสุ่ย เจตนาข่มขู่ที่อยู่ด้านในนั้นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่ง
เห็นได้ชัดว่าต้องการจะใช้ต้าเต๋อมาข่มขู่ลั่วสุ่ย
“ใช่แล้ว!”
จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลกู่เองก็เดินขึ้นมาเช่นเดียวกัน นางวางมือลงบนไหล่อีกข้างของต้าเต๋อ
จากนั้นนางก็เอ่ยต่อ “เจรจาได้ย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หลังจากที่พวกเราพูดคุยเสร็จแล้ว พวกเราจะมอบศพมังกรทั้งหมดให้กับน้องชายตัวน้อยผู้นี้ จากนั้นค่อยปล่อยให้เขาเอาศพมังกรกลับไปให้”
คราวนี้นางเอ่ยถึงต้าเต๋อโดยตรง การข่มขู่ที่แสดงออกมาชัดเจนและหนักกว่าเป็นอย่างมาก
แม้ว่านางจะอายุไม่น้อยแล้ว แต่ก็ยังคงเปี่ยมเสน่ห์ ผิวก็ยังคงดีเป็นอย่างมาก เมื่อครั้งที่นางยังสาวจะต้องงดงามอย่างถึงที่สุดแน่นอน
“นี่มัน…ข้ารู้ว่าพวกท่านต้องการจะทำสิ่งใด ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่พวกท่านเปลี่ยนคนที่มาจับไหล่ข้าดีหรือไม่?”
ต้าเต๋อไม่เกิดความกลัวเกรงขึ้นมาแม้แต่น้อย ทั้งยังเอ่ยร้องขอเรื่องเช่นนี้ออกมา
“เปลี่ยนเป็นสองคนตรงนั้นเถิด หากเป็นคนนั้นละก็ ข้าก็ยินดีเต็มใจให้ความร่วมมือเสียยิ่งกว่านี้!”
เขาชี้นิ้วไปยังผู้ฝึกตนหญิงสองคน พวกนางทั้งคู่มีรูปร่างเร่าร้อนเป็นอย่างมาก รูปลักษณ์เองก็โดดเด่น งดงามไร้ที่ติ
จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลกู่และจักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวเมื่อได้ฟังคำพูดของต้าเต๋อแล้ว ก็ถลึงตาใส่ต้าเต๋อทันที
นี่มันเด็กอันใดกัน กระทั่งเวลาเช่นนี้ ภายในหัวยังสามารถคิดเรื่องแบบนี้ออกมาได้!
“บาปหนอ บาป!”
พระอมิตาภะพุทธเจ้าทนมองต่อไปไม่ได้ ภายในใจรีบท่องบทสวดขึ้นมาอย่างเงียบงัน หัวใจพุทธะของเขาถูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้งแล้ว!
“เปลี่ยนคนเถิด ถูกท่านทั้งสองข่มขู่เช่นนี้ ข้านั้นไม่สบายใจจริง ๆ คนหนึ่งก็เป็นชายชรา อีกคนก็…อืม ข้าไม่พูดดีกว่า ท่านน่าจะรู้ดี!”
ต้าเต๋อหันไปเอ่ยพร้อมหันไปมองจักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียว หลังจากนั้นก็หันไปมองจักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลกู่
จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวไม่ได้รู้สึกอันใด แต่จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลกู่โกรธมากจนแทบจะระเบิดโทสะออกมาด้วยคำพูดของต้าเต๋อ
แม้ต้าเต๋อจะกล่าวไม่จบ แต่นางจะไม่รู้เลยหรือว่าต้าเต๋อต้องการจะพูดสิ่งใดต่อ!
…หญิงชรา!
ต้าเต๋อต้องการจะเรียกนางว่าเป็นหญิงชรา!
เจ้าเด็กน่าตายนี่ นางต้องการจะฉีกต้าเต๋อออกเป็นชิ้น ๆ น่าเกลียดเกิดไปแล้ว จะมีคนต่ำทรามเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!
“เจ้าหุบปากไปเสีย! หากกล้าพูดอีกละก็ ข้าจะตัดลิ้นของเจ้าทิ้ง!”
นางอดเอ่ยขึ้นมากับต้าเต๋อด้วยความดุร้ายไม่ได้
หลังจากนั้นนางก็ไม่สนใจต้าเต๋ออีกเลย ยิ่งมองต้าเต๋อภายในใจของนางก็ยิ่งรู้สึกแย่ ต้องการจะลงมือทำให้ต้าเต๋อกลายเป็นเพียงก้อนเนื้อ!
“ยังจะไม่คิดเจรจากันอีกหรือ?”
นางหันไปกล่าวกับลั่วสุ่ย “น้อยชายผู้นี้ยังรอให้เจ้ามาหาอยู่ตรงนี้!”
“ข้าขอร้องท่าน รีบฆ่าเขาเสียประเดี๋ยวนี้เลย อย่าได้มัวรีรอ อืม ฆ่าทิ้งเสียตอนนี้ อย่าได้ลังเลแม้แต่น้อย!”
อ้ายฉานตะโกนมาจากอีกฝั่ง “เจ้าโล้นตรงนั้นช่างไม่คู่ควร ท่านช่วยฆ่าเขาแทนพวกข้าที นอกจากนี้พวกเรายังต้องขอบคุณพวกท่านเสียด้วยซ้ำ!”
“???”
จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลกู่ตกตะลึงนิ่งค้าง
สถานการณ์นี้มันอันใดกัน!
เหตุใดจึงไม่เหมือนที่นางคิดเอาไว้?