The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1013 – ด้ายแดงแห่งโชคชะตา

ตอนที่ 1013 - ด้ายแดงแห่งโชคชะตา

ศิษย์พี่ใหญ่ตะโกนการออกนอกแผนของซือหยูทำให้หลายคนไม่ทันระวัง
ซือหยูมิได้แตกตื่นเขามองดูสวนบุพผาเบื้องล่าง
“แน่นอนข้าจะให้บางคนได้ลิ้มรสชาติของโอสถตัวเองยังไงล่ะ”
ยู่เหลียงตกตะลึง
“ซือหยูเซี่ยนเจ้าจะทำให้พวกข้าตาย!”
พวกเขาได้ล่วงเกินอสูรบุพผาและนางไม้ในเมืองสวนบุพผาแต่หลานสาวของจ้าวสวนบุพผากลับถูกซือหยูลักพาตัวไปคนเดียว!
“หึหึพวกเจ้าตายก็ยังดีกว่าข้าตายไม่ใช่หรือ?”
ซือหยูหัวเราะ
ศิษย์พี่ใหญ่เบิกตากว้าง
“ศิษย์น้องซือเจ้าจะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเรอะ? เอาตัวหลานสาวกลับมา เรายังเป็นสหายกันได้!”
พวกเขาไม่คิดว่าพวกเขาทำร้ายอะไรซือหยูเลยแต่มันก็เป็นแค่ความเห็นของพวกเขา
“เห็นแก่ตัวเรอะ?ข้าลืมบอกเจ้าไปอย่างนึง แม้ข้าจะขาดพรสวรรค์ ข้าก็รู้ภาษาดอกไม้อยู่บ้าง จากที่ข้าได้ฟังอสูรบุพผากับนางไม้คุยกันในเมือง ข้าบังเอิญได้ยินเรื่องที่ไม่ควรจะรู้”
ซือหยูกล่าว
ภาษาดอกไม้กับภาษาไม้นั้นมาจากระบบการพูดที่คล้ายกันแม้ว่าซือหยูจะเชี่ยวชาญภาษาไม้มากกว่า เขาก็รู้พื้นฐานของภาษาดอกไม้อยู่บ้าง
ทีแรกเขาคิดว่าการจับตัวหลานสาวจะทำให้จ้าวสวนให้พวกเขาใช้ประตูเคลื่อนย้าย แต่เมื่อได้ฟังชาวเมืองพูด ซือหยูก็ได้รู้ว่าเงื่อนไขในการใช้ประตูเคลื่อนย้ายของผู้มาเยือนก็คือต้องแต่งงานกับหลานสาวของจ้าวสวน นี่คือกฎที่จ้าวสวนตั้งขึ้นมาเอง!   ศิษย์พี่ใหญ่ได้บิดเบือนเรื่องราวและพูดว่าคนตระกูลบูรพาใช้ประตูเคลื่อนย้ายได้เพราะลักพาตัวหลานสาวแน่นอนว่าด้วยพลังของอสูรเนรมิตร การทำแค่ลักพาตัวหลานสาวมิอาจทำให้นางหมดทางสู้ นางมีหลายร้อยวิธีที่จะช่วยหลานสาวกลับมาอย่างง่ายดาย ทำไมนางจะต้องยอมกับข้อต่อรองของผู้ลักพาตัวด้วยเล่า?
แน่นอนว่าผู้ที่แต่งงานกับหลานสาวนางจะต้องอยู่ในสวนบุพผาไปตลอดชีวิตและไม่มีทางได้ก้าวออกจากแดนมณี
และก็แน่นอนเช่นกันว่าสำนักช่างสวรรค์ได้วางแผนให้คนแปลกหน้าอย่างซือหยูเป็นคนที่อยู่ในสวนบุพผาไปตลอดกาล
“ถ้าเจ้าจะหาคนอยู่ในสวนบุพผาหาลูกเขยให้จ้าวสวน เจ้าก็ไปหาคนอื่นซะ ข้าจะไม่ร่วมมือกับเจ้าอีกแล้ว”
ซือหยูกระชากผ้าคลุมออกและปล่อยตัวหลานสาวเขายิ้มให้นาง
“ขอโทษเจ้าด้วยข้าไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินเจ้า!”
เมื่อเจอกับการทรยศของซือหยูศิษย์พี่ใหญ่ไม่ได้กังวลนัก เขากลับหัวเราะ
“ฮ่าๆๆๆเจ้ามันรู้มากนัก แต่โชคไม่ดีซะเลย…เจ้าไม่ได้รู้ทุกอย่าง!”
“ผ้าคลุม!จับมัน!”
ศิษย์พี่ใหญ่ชี้ดัชนีมาที่ผ้าคลุม
ทันใดนั้นเองผ้าคลุมขังภูติที่ถูกแก้ได้เข้ารัดมือของซือหยู ส่วนปลายอีกด้านก็รัดตัวหลานสาวไว้ด้วยกัน
ซือหยูเจ็บปวดแสบปวดร้อนที่ฝ่ามือทั้งผ้าคลุมกำลังเผาไหม้และกลายเป็นด้ายแดงเพลิงรัดทั้งคู่เข้าด้วยกัน
ซือหยูชักสีหน้าเขาพยายามจะฉีกด้ายแดงให้ขาด
ด้ายแดงที่เกิดจากเพลิงได้กลายเป็นสิ่งที่โปร่งใสมิอาจสัมผัสได้สิ่งที่จับต้องได้จะทะลวงมันราวกับอากาศ
แต่ซือหยูก็สัมผัสพันธนาการที่มือได้ซึ่งปลายด้ายแดงก็คือหลานสาวนั่นเอง!
ศิษย์พี่ใหญ่ยิ้ม ไอลีนโนเวล
“ผ้าคลุมแดงทำงานแล้วยินดีกับศิษย์น้องซือด้วยที่ได้สาวงามไปครอง สำนักช่างสวรรค์ขออวยพรให้เจ้า!”
ซือหยูตกใจผ้าคลุมขังภูตินี่มันอะไรกัน?
“ผ้าคลุมขังภูติมีด้ายแดงแห่งโชคชะตาที่บรรพบุรุษสำนักช่างสวรรค์ได้มาจากทวีปบูรพาในอดีต ตระกูลบูรพาได้ใช้วิธีนี้จับตัวหลานสาวของจ้าวสวนและใช้ประตูเคลื่อนย้ายได้”
“หากด้ายแดงแห่งโชคชะตาเชื่อมต่อกันแล้วพลังจากภายนอกจะทำให้มันขาดไม่ได้ อย่าเสียแรงเลย ทำใจให้สบายแล้วอยู่เป็นหลานเขยจ้าวสวนไปซะเถอะ!”
คนสำนักช่างสวรรค์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ความจริงเบื้องหลังมิใช่การลักพาตัวหลานสาวแต่เป็นการผูกด้ายแดงระหว่างซือหยูกับหลานสาวให้ทั้งสองแต่งงานกัน นี่คือทางเดียวที่จะเปิดประตูเคลื่อนย้ายได้อีกครั้ง
พวกเขาย่อมไม่สละคนของตัวเองและซือหยูก็เป็นตัวเลือกเดียว
การถูกขังในสวนบุพผาไปตลอดกาลจะต่างอะไรกับความตายกัน?
ซือหยูจ้องมองศิษย์สำนักช่างสวรรค์ด้วยความแค้น
“หากข้าจำไม่ผิดข้าเป็นที่ช่วยชีวิตศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เพิ่งผ่านมาไม่กี่วันแต่ก็วางอุบายใส่ข้าแล้ว พวกเจ้าคิดดีแล้วหรือ?”
หากไม่มีซือหยูศิษย์สำนักช่างสวรรค์ทั้งหมดก็ยังคงติดอยู่ในปัญหาใหญ่ ตัวศิษย์พี่ใหญ่เองก็ด้วย ต่อให้ยู่เหลียงกลับมาก็มิอาจช่วยทุกคนได้
“ว่ากันว่าศิษย์สำนักอสูรสวรรค์เจ้าเล่ห์โดยสันดานแต่เจ้ามันโง่เกินกว่าจะชั่งตวงได้แล้ว!”
ยู่เหลียงส่ายหน้า  ซือหยูหันไปหายู่เหลียงอย่างไร้อารมณ์
“เจ้าคิดแบบนั้นสินะ?”
ศิษย์พี่ใหญ่กับยู่เหลียงตกใจกับความสุขุมเยือกเย็นของซือหยู
“ศิษย์น้องซือหนทางแห่งการบ่มเพาะล้วนเต็มไปด้วยกองกระดูก อย่ามาหาว่าข้าทำลายอนาคตเจ้า! เจ้าโทษวิถีทางแห่งพลังซะเถอะ! ยอมรับโชคชะตาได้แล้ว”
ศิษย์พี่ใหญ่กล่าว
เขาทะยานขึ้นฟ้าและมองรอบๆ
“จ้าวสวนออกมาได้แล้ว! ข้าแต่งหลานสาวท่านกับบุรุษที่ดีให้แล้ว ถึงเวลารักษาสัญญาแล้วไม่ใช่เรอะ!”
สวนบุพผายังคงเงียบอสูรบุพผาและนางไม้บนพื้นไม่พูดแม้สักคำ
ศิษย์พี่ใหญ่ได้รับคำตอบเพียงแค่เสียงของตัวเองที่สะท้อนบนฟากฟ้า
“เกิดอะไรขึ้น?”   คนสำนักช่างสวรรค์พบสิ่งผิดปกติ
ศิษย์พี่ใหญ่ตะลึง
“เจ้าคนตระกูลบูรพานางโกหกงั้นเรอะ?”
พวกเขาทำตามที่นางบอกและเตรียมด้ายแดงมาเป็นพิเศษทั้งยังนำพาหลานเขยมาให้ แล้วทำไมจ้าวสวนถึงยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก?
ในตอนนั้นเองเสียงอันไม่รีบร้อนได้ดังจากที่ห่างไกล
“แม่หนูน้อยตระกูลบูรพาน่ะพูดถูกที่ให้พาหลานเขยมาแลกกับการใช้ประตูแต่…ไม่ใช่การหาสามีให้ข้า!”
คนที่พูดคือคนที่ถูกด้ายแดงเชื่อมต่อ!นางไม่ใช่หลานสาวของจ้าวสวน แต่นางคือจ้าวสวนบุพผา จักรพรรดินีแห่งบุพผาทั้งมวล ราชินีบุพผาดารา!!
อะไรนะ?ทุกคนหันไปมอง ‘หลานสาวคนสุดท้อง’ ข้างกายซือหยูด้วยความตกตะลึง
‘หลานสาวคนสุดท้อง’ยังดูไร้เดียงสาใบหน้าไร้ที่ติที่กำลังโมโหนั้นทำให้นางดูน่าหลงใหลไปกว่าเดิม
คนสำนักช่างสวรรค์งุนงงยิ่งกว่าจ้าวสวนบุพผาคือสัตว์ประหลาดที่มีชีวิตมาหลายแสนปี นางจะยังดูไร้เดียงสาและบริสุทธิ์เช่นนี้ได้ยังไง?
“พวกเจ้ามันน่ารังเกียจ!”
จ้าวสวนหน้ามุ่ยนางโมโหร้าย นางกดมืองดงามราวหยกลงบนด้ายแดงแห่งโชคชะตา และด้ายแดงนั้นก็คลายอย่างง่ายดาย
ตัวตนของนางถูกยืนยันโดยไม่ต้องสงสัยมีเพียงอสูรเนรมิตรเท่านั้นที่จะคลายด้ายแดงได้เช่นนั้น!!
ศิษย์พี่ใหญ่กลืนน้ำลายแห้งเหือด
“จะ…จ้าวสวนศิษย์สำนักช่างสวรรค์คารวะท่านใต้เท้า! มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด! พวกเราไม่เคยคิดล่วงเกินท่าน!”
จ้าวสวนผู้น่ารักน่าหลงใหลใช้มือเท้าเอวและพูดด้วยความแค้น  “นางคนนั้นคือหลานสาวข้า!”
นางชี้ไปยังสตรีตัวเขียวด้านหลังนั่นคือหลานสาวคนสุดท้องตัวจริง!!

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท