ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 730 ข่าวสารจากแดนไกล (กลาง)

ตอนที่ 730 ข่าวสารจากแดนไกล (กลาง)

เมื่อ​ผลสอบ​ออกมา​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​อยู่​ใน​อันดับ​ที่​สิบ​ของ​ระดับ​ที่สอง​ ​สอบ​ติด​ราชบัณฑิต

ไม่เพียงแต่​สกุล​สวีที​่​เฉลิมฉลอง​ ​แม้แต่​จวน​หย่ง​ชัง​โหว​ ​จวน​เว​่ย​เป่ย​โหว​ ​จวน​จง​ฉินปั​๋​วที​่​เป็น​ดอง​ก็​มีความสุข​เช่นกัน​ ​ให้​ผู้ดูแล​ใช้​รถลาก​ใส่​ประทัด​มา​จุด​ที่​หน้า​ประตู​จวน​สกุล​สวี​ ​บิดา​ของฮู​หยิน​สาม​ได้​เดินทาง​มา​เยี่ยม​สวี​ซื่อ​อวี​้​โดยเฉพาะ

สวี​ลิ่ง​อี๋​แสดง​รอยยิ้ม​ที่​พึงพอใจ​ต่อหน้า​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ปิดปาก​หัวเราะ​ ​“​คนที​่​ไม่รู้​คงจะ​คิด​ว่า​เป็น​ท่าน​ที่​สอบ​ติด​ราชบัณฑิต​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​กอด​แล้ว​หอม​แก้ม​นาง​แรง​ๆ​ ​หนึ่ง​ที

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​พลาง​พยายาม​ผลัก​ตัว​เขา​ออก​ ​ทั้งสอง​คน​กอด​กัน​กลม​…

ส่วน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​กินเลี้ยง​ไม่หยุดหย่อน​ ​หาก​ไม่ใช่​ไป​เยี่ยม​สหาย​ร่วม​ชั้นเรียน​ ​ก็​ไป​เยี่ยม​อาจารย์​ ​หรือไม่ก็​มี​คน​เชิญ​ไป​กินเลี้ยง​แสดงความยินดี​ ​ยาก​ที่จะ​ได้​เห็น​เงา​ ​ไม่​ง่าย​เลย​ที่ฮู​หยิน​สอง​จะ​หา​โอกาส​พาส​วี​ซื่อ​อวี​้​มา​พูดคุย​ ​“​แค่​สนุก​เดี๋ยวเดียว​ก็​พอแล้ว​ ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​คือ​การ​สอบ​ราชบัณฑิต​หลวง​ครั้ง​ถัดไป​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​มา​พบ​สือ​อี​เหนียง​ใน​วันรุ่งขึ้น

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​เขา​คำนับ​อย่างนอบน้อม​ ​“​ข้า​อยาก​ไป​ทำงาน​ต่างเมือง​ขอรับ​!​”

หมายความว่า​เขา​ไม่ได้​เตรียม​ที่จะ​สอบ​ราชบัณฑิต​หลวง​!

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เป็นอย่างมาก

“​พ่อ​ของ​เจ้า​รู้​หรือไม่​”​ ​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ถาม​ออกมา

“​ยัง​ไม่ได้​คุย​กับ​ท่าน​พ่อ​เลย​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พูด​อย่าง​มีนัย​ยะ​ ​“​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​ยังอยู่​ ​ไม่​ควร​ไป​ไหน​ไกล​ ​สามารถ​อยู่​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ได้​นั้น​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ ​แต่​ข้า​อยาก​ไป​เจียง​หนา​นมา​กก​ว่า​”​ ​มุม​ปาก​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​ที่​อ่อนโยน​ ​“​โชคดี​ที่​ใน​เรือน​มีน​้​อง​สี่​คอย​ปรนนิบัติ​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​แทน​ข้า​ ​ข้า​ก็​จะ​ได้​พา​เซี่ยง​ซื่อ​กับ​ลูก​ๆ​ ​ออก​ไป​เปิดโลก​ ​ชม​ทิวทัศน์​ภายนอก​ ​”​ ​เขา​ก้าว​มา​ข้างหน้า​ ​ค่อยๆ​ ​คุกเข่า​ลง​ตรงหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​”​ ​เงยหน้า​มอง​นาง​ด้วย​แววตา​เศร้าสร้อย​เล็กน้อย​ราวกับ​ทำใจไม่ได้​ ​แต่​ก็​เจือ​ด้วยความยินดี​เล็กน้อย​ ​“​ขอ​ท่าน​โปรด​ให้อภัย​ที่​ข้า​อกตัญญู​ด้วย​ขอรับ​”​ ​ขณะที่​พูด​ขอบตา​พลัน​แดงก่ำ​ ​หยาดน้ำ​ตา​ค่อยๆ​ ​ริน​ไหล​ออกมา

เมื่อ​เขา​สอบผ่าน​ราชบัณฑิต​ก็​ถือว่า​อยู่​เหนือ​สวี​ซื่อ​จุน​แล้ว​ ​จึง​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​คอย​ปรนนิบัติ​ดูแล​บิดา​มารดา​แทน​เขา​ ​ส่วน​เขา​ก็​พา​เซี่ยง​ซื่อ​และ​ลูก​ๆ​ ​เดินทาง​ไป​เจียง​หนา​นที​ไกล​แสน​ไกล​ ​กระทั่ง​ตัดสินใจ​ไป​เป็น​ปี​ ​ให้​นาง​อภัย​ที่​เขา​อกตัญญู​…​เขา​คิด​จะ​ใช้​วิธี​นี้​บอก​กับ​จุน​เกอ​ว่า​เส้นทาง​ที่​เขา​เลือก​นั้น​จะ​ไม่​ไป​ขวางทาง​จุน​เกอ​อย่างนั้น​หรือ​ ​ไม่​สิ​!​ ​บางที​เขา​อาจจะ​อยาก​บอก​สวี​ลิ่ง​อี๋​!

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ใจหาย​อยู่​ชั่วขณะหนึ่ง​ ​“​พ่อ​ของ​เจ้า​ให้ความสำคัญ​กับ​เจ้า​เสมอ​ ​มิเช่นนั้น​ก็​คง​ไม่เกี่ยว​ดอง​กับ​สกุล​เซี่ยง​…​”

“​ข้า​รู้ดี​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พยักหน้า​ ​รอยยิ้ม​ดู​ผ่อนคลาย​มากขึ้น​ ​“​ดังนั้น​ข้า​จึง​ได้​อยาก​ไป​เจียง​หนาน​!​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​ลุกขึ้น​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​คิด​ว่าที่​ไหน​ดี​ ​รอ​ให้​ข้า​ลง​หลัก​ปัก​ฐาน​ได้​แล้ว​ท่าน​ค่อย​ไป​พัก​กับ​ข้า​สัก​สอง​สาม​วันดี​หรือไม่​ ​ข้า​จะ​พาท​่าน​ไป​เดินเล่น​ ​ไปดู​เปิดหูเปิดตา​ ​จะ​ไป​พาย​เรือ​ใน​ทะเลสาบ​ ​หรือ​จะ​ไป​ฟัง​เล่า​หนังสือ​ที่​โรงน้ำชา​ก็ได้​…​”​ ​เขา​ยืน​ขึ้น​ด้วย​ท่าทาง​สง่างาม​ ​สีหน้า​ยิ้มแย้มแจ่มใส​ดั่ง​พระจันทร์​เจิดจ้า​และ​สายลม​ที่​เบา​สบาย​ ​ดั่ง​ต้นอ่อน​ที่พึ่ง​งอกงาม​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ไร้​ซึ่ง​หมอก​ควัน​บาง​ๆ​ ​เหมือน​ใน​อดีต​…

สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ผ่อนคลาย​ลง​ ​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​อัน​อ่อนโยน

การ​จากไป​ไม่ใช่​จุดสิ้นสุด​ ​บางครั้ง​มัน​คือ​จุดเริ่มต้น​ของ​การ​สยาย​ปีก​!

******

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ถึง​เรือน​ก็​เป็นเวลา​จุด​โคมไฟ​แล้ว

โคมไฟ​สีแดง​พลิ้วไหว​ไป​ตาม​สายลม​ ​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​จู่ๆ​ ​ก็​แฝง​ไว้​ด้วยความยินดี

เข้า​ห้อง​มาด​้ว​ยอา​การ​มึนเมา​เล็กน้อย​ ​สาวใช้​หัน​เซี่ยว​กับ​เห​ลิ่ง​เซียง​ยิ้ม​พลาง​เข้าไป​ช่วย​เขา​เปลี่ยน​ชุด

เขา​ไป​เช็ดหน้า​ที่​ห้อง​ชำระ​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​เคี้ยว​ใบชา​สอง​สาม​ที​เพื่อ​กำจัด​รส​สุรา​ใน​ปาก

“ฮู​หยิน​เล่า​”

“​อ่านหนังสือ​อยู่​ที่​ห้อง​ด้านใน​เจ้าค่ะ​”​ ​เห​ลิ่ง​เซียง​เป็น​คน​เจียง​หนาน​ ​มา​อยู่​จวน​สวี​ได้​หนึ่ง​ปีก​ว่า​แล้ว​ ​แม้ว่า​จะ​พูด​ภาษากลาง​ได้​ ​แต่​สำเนียง​ของ​นาง​ยังคง​มี​ความนุ่มนวล​เฉพาะตัว​ของ​เจียง​หนาน​เมือง​สายน้ำ

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​เป็น​คน​เจียง​หนาน​ ​แต่​นาง​กลับ​ออกเสียง​ถูกต้อง​และ​ชัดเจน​ ​พูด​ภาษากลาง​ได้​ไพเราะ​กว่า​คนที​่​เป็น​ชาว​เยี​่​ยน​จิง​แต่กำเนิด​อย่าง​เขา​เสียอีก

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​เขา​ก็​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​ศีรษะ​ตัวเอง

เมื่อ​แต่ง​เข้ามา​สือ​อี​เหนียง​ก็​พูด​ภาษากลาง​ ​ดื่ม​น้ำแกง​เปรี้ยว​เผ็ด​ได้​ ​ไม่มีความรู้​สึก​ว่า​ปรับตัว​ไม่ได้​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ราวกับว่า​พอ​เกิด​มาก​็​เติบโต​อยู่​ใน​จวน​ของ​พวกเขา​ ​นี่​ใช่​คำพูด​ที่ว่า​ ​‘​ไม่ใช่​คน​เรือน​เดียวกัน​ ​ไม่​เข้า​ประตู​เรือน​เดียวกัน​’​ ​หรือไม่​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​เข้าไป​ที่​ห้อง​ด้านใน​ ​ไอ​ร้อน​ปะทะ​เข้ากับ​ใบหน้า​ของ​เขา

สือ​อี​เหนียง​ร่างกาย​อ่อนแอ​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ครอบครัว​อื่น​จะ​เริ่ม​จุด​เตาผิง​ใน​ช่วงต้น​ฤดูหนาว​ ​แต่​ครอบครัว​ของ​เขา​จะ​เริ่ม​จุด​เตาผิง​เพียงแค่​มีน​้ำ​ค้าง​แข็ง

นาง​ห่ม​ผ้าห่ม​สีแดง​ที่​ปัก​ลาย​แจกัน​ ​พิง​หมอนอิง​ใบ​ใหญ่​สีเหลือง​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ ​เปิด​หนังสือ​อ่าน​ด้วย​ท่าทาง​ที่​เกียจคร้าน​ ​พลอย​ทำให้​เขา​นึกถึง​ลูก​แมว​ที่​ขดตัว​ข้าง​เตา​เพื่อ​หาความ​อบอุ่น​…​ฉับพลัน​ก็​รู้สึก​อบอุ่น​ใน​หัวใจ​ ​เดิน​ไป​ที่​ขอบ​เตียง​เตา​แล้ว​นั่งลง​ ​ยื่นมือ​เข้าไป​แตะ​ผิว​เปลือยเปล่า​นุ่ม​ละเอียด​ที่อยู่​ใต้​ผ้าห่ม​…

สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​พลิก​หน้า​หนังสือ​อย่างตั้งใจ​ ​สะดุ้งโหยง​ด้วย​ความตกใจ​ ​ขด​เท้า​เข้ามา​ตาม​สัญชาตญาณ​ ​แต่​ก็​ถูก​ดึง​กลับ​ไป​เหมือนเดิม

นาง​ยิ้ม​พลาง​จ้อง​เขา​ ​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​หรือ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​เพียง​ ​“​อืม​”​ ​ใช้​นิ้วโป้ง​ลูบ​ที่​หลัง​เท้า​อัน​นุ่มนวล​ของ​นาง​ ​ทำให้​นาง​ใจสั่น​ ​นั่ง​หลัง​เหยียด​ตรง​ ​รีบ​ยื่น​หนังสือ​ใน​มือ​ไป​ให้​ ​“​ท่าน​โหว​คิด​ว่า​หยาง​โจว​เป็น​สถานที่​แบบ​ใด​เจ้า​คะ​”

มัน​คือ​หนังสือ​เก้า​แคว้น​แห่ง​ต้า​โจว

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​อ่านหนังสือ​เล่ม​นี้​มานาน​แล้ว

เขา​หรี่​ตาลง​ ​“​หยาง​โจว​ถือว่า​ไม่เลว​เลย​ ​เป็น​เมือง​เขียวชอุ่ม​ ​มี​อาหาร​อร่อย​มากมาย​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เหตุใด​จู่ๆ​ ​จึง​ได้​ถามถึง​หยาง​โจว​เล่า​”

“​อวี​้​เกอ​บอกว่า​เขา​อยาก​พา​เซี่ยง​ซื่อ​และ​ลูก​ๆ​ ​ไป​ทำงาน​ที่​เจียง​หนาน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จับจ้อง​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​มือ​ที่อยู่​ใต้​ผ้าห่ม​กลับ​หยุดชะงัก​ลง

เห​ลิ่ง​เซียง​ยก​ชา​เข้ามา

ฮู​หยิน​กับ​ท่าน​โหว​นั่ง​อยู่​ด้วยกัน​อย่างใกล้ชิด​ ​แต่​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​กลับ​ดู​อึมครึม

นาง​หด​คอก​่อน​จะ​รีบ​เดิน​ออก​ไป​อย่างเงียบเชียบ​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​หนึ่ง​อึก​ ​“​เขา​บอกว่า​อะไร​อีก​”

“​บอก​ให้​ข้า​ไปเที่ยว​เล่น​ใน​เมือง​ที่​เขา​ไป​ทำงาน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​เขา​ด้วย​ความเห็นใจ​ ​“​พา​ข้า​ไป​พาย​เรือ​ ​ไป​ฟัง​คนเล​่า​หนังสือ​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบ​ไป​นาน​ก่อน​จะ​ถอนหายใจ​ยาว​ ​วาง​ถ้วย​ชาลง​แล้ว​เอนกาย​พิง​หมอนอิง​ใบ​ใหญ่​ข้าง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ไป​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดเสี​ยง​เบา​ราวกับ​ยุง​ว่า​ ​“​เช่นนี้​ก็ดี​…​หาก​เจ้า​เคารพ​ข้า​หนึ่ง​ฉื่อ​ ​ข้า​ก็​จะ​เคารพ​เจ้า​หนึ่ง​จั้ง​…​จุน​เกอ​ก็​ไม่ใช่​เด็ก​ที่​แยกแยะ​ถูก​ผิด​ไม่​เป็น​…​”

สือ​อี​เหนียง​กอด​แขน​แล้ว​พิง​ไหล่​ของ​เขา​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​ก็​หา​สถานที่​ดี​ๆ​ ​ให้​เขา​ดี​หรือไม่​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​พวกเรา​ก็​จะ​ได้​พา​เด็ก​ๆ​ ​ไป​ส่ง​อวี​้​เกอ​ขึ้น​เรือ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​เพียง​ ​“​อืม​”​ ​ด้วย​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ส่งจดหมาย​ไป​ถึง​ผู้ว่าการ​มณฑล​หูก​่​วง

ใต้เท้า​เซี่ยง​ไม่ได้​รู้สึก​เสียดาย​หรือ​ทอดถอนใจ​กับ​การตัดสินใจ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​แต่​วางแผน​อาชีพ​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​อย่างใจ​เย็น​และ​มีเหตุผล​ ​วง​พื้นที่​จัดเก็บ​ภาษี​ที่​สำคัญ​อย่าง​ไท่​ชัง​ ​เกา​ฉุน​ จ​ยา​ซิ่ง​หรือ​สถานที่​ที่​เป็น​ถนนสายหลัก​ของ​การคมนาคม​อย่างเฝิน​โจว​ ​เต​๋อ​โจว​ ​ฉัง​โจว​ ​“​…​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ได้​เป็น​หัวหน้า​ขุนนาง​เลย​ ​ไป​ฝึก​ประสบการณ์​ที่​เขต​ใหญ่​ๆ​ ​เช่นนี้​ก่อน​ ​จากนั้น​ค่อย​ไป​อำเภอ​เล็ก​ๆ​ ​ที่​ร่ำรวย​อย่างถง​เซียง​ ​ซิ่ว​สุ่ย​ ​ผิง​หู​ ​เพื่อ​เป็น​ขุนนาง​ที่นั่น​ ​เมื่อ​ภาษี​สูง​ขึ้น​ก็​จะ​มีโอกาส​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​มากกว่า​คนอื่น​มากมาย​…​หรือ​จะ​เลือก​อีก​ทาง​หนึ่ง​ ​ไป​เป็น​นายอำเภอ​ที่​อำเภอ​แร้นแค้น​อย่างเช่น​เสิ่น​ชิว​ ​เป่า​เซิง​ ​หนาน​จ้าว​ ​ซึ่ง​เป็นเรื่อง​ง่าย​ที่จะ​ทำ​ผลงาน​ได้​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พิจารณา​เรื่อง​นี้​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​เป็นเวลา​สอง​สาม​วัน​ ​ในที่สุด​ก็​ตัดสินใจ​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไป​สถานที่​อย่าง​ไท่​ชัง​ ​เกา​ฉุน​ จ​ยา​ซิ่ง

ใน​ช่วง​ตรุษจีน​เขา​ได้​เดินทาง​ไป​บ้านเกิด​ของ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​โดยเฉพาะ​ ​หลังจาก​ตรุษจีน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้รับ​ตำแหน่ง​เป็น​ขุนนาง​ระดับ​เจ็ด​ที่​เมืองจ​ยา​ซิ่ง

ตั้งแต่​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​ไป​เข้าร่วม​การ​สอบ​ราชบัณฑิต​หลวง​ ​ก็​มี​ข่าวลือ​ทุก​แบบ​เกิดขึ้น​มา​ใน​จวน​สวี​ราวกับ​ต้น​หญ้า​ที่​งอกเงย​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ก็​ไม่​ปาน​ ​เมื่อ​ข่าวลือ​กระจาย​ออก​ไป​ ​ไท่ฮู​หยิน​นิ่งเงียบ​อยู่นาน​ก่อน​จะ​กำชับ​ลู่​จู​ผู้ดูแล​กุญแจ​หีบ​ของ​ ​“​ไป​เอา​เครื่องประดับ​ของ​ข้ามา​ ​ข้า​จะ​มอบให้​ใคร​สัก​คน​”

อิง​เหนียง​อิจฉา​เป็นอย่างมาก​ ​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​กำลัง​กล่อม​บุตร​ว่า​ ​“​หาก​ท่าน​แม่​จะ​ไป​เยี่ยม​พี่​สอง​ ​พวกเรา​ก็​โวยวาย​ขอ​ไป​ด้วย​เถิด​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หัวเราะ​ ​“​ข้า​ไม่กล้า​หรอก​ ​หาก​จะ​พูด​ ​เจ้า​ก็​ไป​พูด​เอง​เถิด​!​”

“​ข้า​พูด​เอง​ก็ได้​เจ้าค่ะ​”​ ​อิง​เหนียง​จ้อง​เขา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ท่าน​อย่า​มารั​้ง​ข้า​ก็แล้วกัน​”

มีสาว​ใช้​น้อย​วิ่ง​เข้ามา​รายงาน​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​มา​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยส​่ง​จวง​เกอ​ให้​อิง​เหนียง​ ​อธิบาย​ว่า​ ​“​พี่​สี่​บอกว่า​จะ​ชวน​ข้า​ไป​ส่ง​พี่​สอง​ด้วยกัน​ ​พวกเรา​เตรียม​จะ​ไป​กินเลี้ยง​ที่​หอ​ชุน​ซี​”

“​เช่นนั้น​ท่าน​ก็​รีบ​ไปรี​บก​ลับ​เถิด​!​”​ ​อิง​เหนียง​ส่ง​เขา​ออกจาก​เรือน​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​บุตร​แล้วไป​ที่​เรือน​เจียง​ซื่อ

เจียง​ซื่อ​อยู่​ใน​ห้องเก็บของ

เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​อิง​เหนียง​มาหา​ ​ก็​วาง​ม้วน​ผ้า​เอาไว้​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​

อิง​เหนียง​ให้​แม่นม​พาบุ​ตร​ไป​เล่น​กับ​ถิง​เกอ​ ​ส่วน​นาง​ก็​ปรึกษา​กับ​เจียง​ซื่อ​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​จะ​ไปจ​ยา​ซิ่ง​แล้ว​ ​พวกเรา​จะ​มอบ​อะไร​ให้​นาง​ดี​”

“​ข้า​กำลัง​ดู​ของ​ใน​ห้องเก็บของ​อยู่​เลย​!​”​ ​อิง​เหนียง​มีบุ​คลิก​ร่าเริง​เลย​เข้ากับ​บรรดา​สะใภ้​ได้ดี​ ​เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ที่นั่น​ต้อง​มี​วัสดุ​ผ้า​มากมาย​อย่างแน่นอน​ ​ส่วน​ท่าน​ย่า​กับ​ท่าน​แม่​อาจจะ​มอบ​พวก​เครื่องประดับ​ให้​ ​ข้า​เลย​อยาก​จะ​มอบ​เครื่องลายคราม​จาก​เตาเผา​ทางการ​ ​ที่​หนาน​เจียง​คงจะ​ไม่มี​หรอก​กระมัง​”

“​ดีเจ​้า​ค่ะ​!​”​ ​อิง​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ก็​จะ​มอบ​เครื่องลายคราม​เหมือน​พี่สะใภ้​สี่​ด้วย​!​”

หลังจาก​ทั้งสอง​คน​ตกลง​กัน​เรียบร้อย​ ​ก็​พากัน​ไป​ที่​เรือน​ของ​เซี่ยง​ซื่อ

ใน​ห้อง​มีเสียง​ดัง​เอะอะ​ ​ผู้ดูแล​หญิง​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​สอง​สาม​คน​กำลัง​ถือ​รายการ​พร้อม​อ่าน​ชื่อ​สิ่งของ​ ​ส่วน​สาวใช้​ใหญ่​สอง​สาม​คน​พาสาว​ใช้​น้อย​ไป​จัดการ​เก็บของ​ ​สิ่งของ​ทั้งหมด​ถูก​เก็บ​ไป​แล้ว​ครึ่งหนึ่ง​ ​ชิ่ง​เกอ​เห็น​ว่าที่​นี่​คน​พลุกพล่าน​จึง​งอแง​อยาก​จะ​ไป​เล่น​ที่​ห้อง​หลัก​ ​เห็น​ใคร​หยิบ​แจกัน​ดอก​เหมย​มาก​็​อยาก​จะ​ไป​จับ​ ​พอ​มี​คน​หยิบ​ถ้วย​ชาก​็​อยาก​จะ​ไปดู​ ​แม่นม​ไม่กล้า​คลาด​สายตา​จาก​เขา​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​สาวใช้​และ​หญิง​เฒ่า​ทั้งหลาย​ที่​กำลัง​เก็บของ​ด้วย​ความเหนื่อย​ล้า​เอาแต่​ตะโกนเรียก​ ​“​คุณชาย​น้อย​”​ ​ไม่​หยุด​ปาก​ ​แต่กลับ​ไม่เห็น​เซี่ยง​ซื่อ​อยู่​ที่นั่น

เจียง​ซื่อ​กับ​อิง​เหนียง​มองหน้า​กัน

ป้า​รับใช้​คนสนิท​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​รีบ​เชิญ​ทั้งสอง​คน​ไป​นั่ง​ที่​ห้องโถง​บุปผา​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​“​คุณนาย​น้อย​สอง​ถูกฮู​หยิน​สอง​เรียก​ไป​ที่​เรือน​เสา​หวา​ตั้งแต่​เช้าตรู่​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

******

แตกต่าง​จาก​เสียง​เอะอะโวยวาย​ใน​เรือน​ของ​เซี่ยง​ซือ​ ​ที่​เรือน​เสา​หวานั​้น​เงียบสงบ​ ​เนื่องจากว่าฮู​หยิน​สอง​ย้าย​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​เหลือ​แค่​ป้า​รับใช้​งาน​หยาบ​คอย​ดูแล​เรือน​สอง​คน​ ​และ​มีสาว​ใช้​ที่​คอย​รับผิดชอบ​ทำความสะอาด​ห้อง​หนังสือ​สอง​คน​ต่าง​ก็​อยู่​ที่​เรือน​พักผ่อน​ของ​เรือน​เสา​หวา​ ​มี​เพียง​เจี​๋ย​เซียง​ที่อยู่​ใน​ห้อง​คอย​ปรนนิบัติ​ริน​น้ำชา

“​ตอนที่​เจ้า​ยัง​เด็ก​น่าจะ​เคย​ได้ยิน​แม่​ของ​เจ้า​บอกว่า​ ​ย่า​ของ​เจ้า​เอา​หนังสือ​ล้ำค่า​ของ​สกุล​เซี่ยง​ทั้งหมด​แอบ​มา​เป็น​สินสอดทองหมั้น​ให้​ข้า​”​ ฮู​หยิน​สอง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​หลัว​ฮั่น​ใน​ห้อง​หนังสือ​ ​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​ทำให้​เซี่ยง​ซื่อ​ไม่เข้าใจ​เจตนา​ของ​นาง​อย่างชัดเจน

“​ข้า​เคย​ได้ยิน​ท่าน​แม่​พูด​มาบ​้าง​”​ ​นาง​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ ​“​เนื่องจาก​เป็นเรื่อง​ระหว่าง​ผู้อาวุโส​ ​ผู้น้อย​อย่าง​พวกเรา​ได้​ฟัง​ก็​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​นัก​…​”​ ​ไม่​รอ​ให้​นาง​พูด​จบ​ ​ทันใดนั้นฮู​หยิน​สอง​ก็​ลุกขึ้น​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​พลาง​พูดว่า​ ​“​เจ้า​มากับ​ข้า​!​”​ ​ตัดบท​สนทนา​ของ​นาง

เซี่ยง​ซื่อ​ไม่กล้า​รีรอ​ ​รีบ​ตาม​ไป​ทันที

ด้าน​ทิศตะวันออก​ของ​ห้อง​หนังสือ​ ​บน​ชั้นวางหนังสือ​โบราณ​นั้น​ว่างเปล่า​ ​แต่กลับ​มี​กล่อง​ไม้​การบูร​สอง​สาม​กล่อง​ที่​แกะสลัก​ด้วย​ลวดลาย​คำมงคล

“​นี่​คือ​หนังสือ​ที่​ข้า​นำมา​จาก​สกุล​เซี่ยง​”​ ฮู​หยิน​สอง​ก้าวเดิน​อย่าง​ช้าๆ​ ​มือ​ลูบ​ลูก​พลับ​ลาย​แกะสลัก​บน​กล่อง​ไม้​การบูร​อย่าง​แผ่วเบา​ ​ท่าทาง​ราวกับ​ทำใจไม่ได้​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​“​ทั้งหมด​อยู่​ใน​นี้​ ​ข้าม​อบ​ทั้งหมด​ให้​เจ้า​ ​เจ้า​ส่ง​คน​มา​ขน​ไป​เถิด​!​”

เซี่ยง​ซื่อ​ประหลาดใจ

ฮู​หยิน​สอง​เดิน​ออกจาก​ห้อง​หนังสือ​ไป​โดย​ไม่​แม้แต่​หันหลัง​กลับมา​มอง

เซี่ยง​ซื่อ​รีบ​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​…​ข้า​ควร​ทำ​อย่างไร​ดีเจ​้า​คะ​”

“​ในเมื่อ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สอง​มอบให้​ ​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​รับเอา​ไว้​เถิด​!​”

นี่​เป็น​ทรัพย์สิน​ของฮู​หยิน​สอง​ ​นาง​ย่อม​มีสิทธิ์​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​ยก​ให้​ใคร

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท