เสียงของชายเสื้อแดงผู้นั้นค่อนข้างแปลกประหลาด ฟังดูเหมือนเสียงของอมนุษย์ที่ถูกบีบจนทุ้มต่ำเกินความเป็นจริง หลังจากนิ่งฟังสักพัก โจวเหว่ยชิงก็ตระหนักได้ในที่สุดว่านี่เป็นเจตนาของเขา เมื่อทำเช่นนี้ควบคู่ไปกับการสวมหน้า กากผ้า ทั้งหมดจึงสามารถช่วยปิดบังตัวตนของเขาเอาไว้ได้อย่างเต็มที่ เห็นได้ชัดว่าบุคคลนี้มีอีกตัวตนอยู่ภายนอกสนามประลอง มิฉะนั้นเขาคงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เพื่อซ่อนเร้นตนเอง โจวเหว่ยชิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสนามประลองใต้ดินแห่งนี้มากขึ้นไปอีก
แน่นอนว่าความอยากรู้อยากเห็นเป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนการลงมือตรวจสอบจริงๆ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โจวเหว่ยชิงไม่โง่เง่าถึงขนาดพยายามสอดรู้สอดเห็นเรื่องของสถานที่ลึกลับที่สามารถจบชีวิตของจ้าวมณีสวรรค์ระดับเทวะขั้นสูงได้อย่างง่ายดายเช่นนี้แน่นอน อย่างน้อยสำหรับเขาในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหาทางทำให้ตนจะชนะการเดิมพันที่กำลังจะมาถึงนี้ให้ได้
หลังเอาชนะหยุนหลี่และได้อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ผู้นี้มาเป็นผู้ติดตาม หากเขาแพ้การต่อสู้ครั้งนี้ นั่นจะทำให้ทุกอย่างที่เขาทำมาทั้งหมดสูญเปล่าไปทั้งหมด แม้กระทั่งสูญเสียอิสรภาพของตนเองไปอีกด้วย
“ใช่ เราต้องการทำสัญญา…” หลินเทียนอ้าวกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“เอาล่ะ ได้โปรดลงชื่อ…” เมื่อเขาพูดเช่นนั้น ชายชุดแดงก็หยิบกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งออกมาวางไว้บนโต๊ะข้างๆพวกเขา หลินเทียนอ้าวเดินไปข้างหน้าและเขียนข้อตกลงบนกระดาษอย่างรวดเร็วตามที่พวกเขาพูดคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากตรวจสอบแล้ว โจวเหว่ยชิง หยุนลี่ และหลินเทียนอ้าวต่างก็ลงนามบนกระดาษพร้อมกัน
หลังจากตรวจสอบสัญญาแล้ว ชายชุดแดงก็เก็บกระดาษและพูดว่า “ตอนนี้พวกท่านสามารถเริ่มการต่อสู้ได้เลย”
จากนั้นโจวเหว่ยชิงก็เริ่มตรวจสอบพื้นที่สำหรับการต่อสู้
สนามประลองเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งกว้างขวางโอ่อ่า มีแสงสว่างสาดส่องมาจากทุกทิศทุกทางของสนามแม้ว่าจะมองไม่เห็นแหล่งกำเนิดแสงก็ตาม บนสนามรูปวงกลมมีคราบเลือดแห้งกรังติดอยู่ค่อนข้างมาก บนผนังและพื้นมีแสงสะท้อนจากโลหะแวววาวออกมาเล็กน้อย
ห้องทรงกลมนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 เมตร เมื่อมันกลายเป็นพื้นที่ต่อสู้จึงถือว่ามีขนาดมหึมามาก
หลินเทียนอ้าวเดินไปที่ใจกลางห้อง ทันทีที่เขาเข้าไปยืนอยู่ตรงนั้นพลางยืดเส้นยืดสาย กลิ่นอายของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ขณะนี้ดูเหมือนว่าร่างของเขาจะกลมกลืนกลายเป็นส่วนหนึ่งของห้องนี้ไปได้อย่างสิ้นเชิง ราวกับเป็นรูปปั้นหินแกะสลัก ไม่ใช่มนุษย์คนหนึ่ง ดวงตาของเขาทอแสงประกายเจิดจ้าขึ้นมาจากภายใน
“เชิญ” หลินเทียนอ้าวร้องบอกพวกเขาทั้งสองคนเบาๆ มองเห็นกล้ามเนื้อที่นูนออกมาชัดเจนภายใต้เสื้อคลุมของเขา ความแข็งแกร่งและพลังที่น่าทึ่งของอีกฝ่ายแทบจะทำให้ฝั่งตรงข้ามหายใจไม่เต็มปอด
หยุนลี่มองไปที่โจวเหว่ยชิงด้วยสายตาแฝงคำถาม โจวเหว่ยชิงเลิกคิ้วและพูดว่า “เจ้าทดสอบการป้องกันของเขาก่อน”
ในขณะนั้นชายชุดแดงก็กล่าวอย่างเย็นชา “เมื่อพวกท่านทั้งคู่เริ่มการโจมตี เวลาสำหรับการเดิมพันก็จะเริ่มนับทันที เวลาที่กำหนดคือหนึ่งก้านธูป” ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น ธูปก็ปรากฏขึ้นมาในมือเจ้าตัวทันที
หยุนลี่สูดหายใจเข้าลึกและก้าวไปข้างหน้า มณีสวรรค์ของเขาพลันปรากฏขึ้นรอบข้อมือพร้อมกับส่องแสงเป็นประกายแวววาว ไพฑูรย์ตาแมวสีเขียวทองและหยกหินมังกรเรืองรองขึ้นมาตามลำดับ เขาใช้เท้าขวากระแทกพื้นส่งให้ทั้งร่างพุ่งทะยานออกไปข้างหน้าราวกับลูกศรที่ยิงจากคันธนู เนื่องจากความเร็วขณะทะยานตัดผ่านอากาศ เสียงลมหวีดร้องโหยหวนจึงเกิดขึ้นขณะที่เขาโผเข้าใส่หลินเทียนอ้าว
“ย่าห์….” หลินเทียนอ้าวตะโกนเบาๆ ขณะที่เขายกมือซ้ายขึ้น หยกเหลือง 5 ดวงส่องแสงเรืองรองออกมาทันที หยกเหลืองคือมณียุทธ์ประเภทเพิ่มความอึดหรือการป้องกัน ในวินาทีนั้น จู่ๆ มณีดวงแรกก็ค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นศาสตรามณียุทธ์ชิ้นแรกของเขา
มันเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่โจวเหว่ยชิงต้องการมาโดยตลอด
โล่ของหลินเทียนอ้าวมีรูปร่างเป็นวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางเกือบ 1 ฟุต 5 นิ้ว โล่นี้ไม่ได้รับการตกแต่งหรือมีรูปแบบที่ซับซ้อนใดๆ ตรงกลางของโล่มีหลุมบรรจุมณีอยู่เพียงหลุมเดียว
มณียุทธ์ของหยุนลี่คือหยกหินมังกรที่มีคุณสมบัติเพิ่มความว่องไว เมื่อเขาปรากฏตัวต่อหน้าหลินเทียนอ้าว มณีดวงแรกของเขาพลันส่องแสงเจิดจ้าขึ้นมา ทันใดนั้นกำปั้นขวาก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเงินซึ่งมีความหนาเกือบหนึ่งฟุต ด้วยความได้เปรียบด้านความเร็ว ในขณะที่หยุนลี่กำลังจะไปถึงตัวหลินเทียนอ้าว เขาก็หายตัวไปทันที ไม่นานก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งเหนือศีรษะของหลินเทียนอ้าว หมัดของเขากำลังจะพุ่งกระแทกเข้าใส่ศีรษะอีกฝ่ายอย่างจัง
ตอนนี้โจวเหว่ยชิงไม่ใช่พวกหน้าใหม่เหมือนเมื่อหลายปีก่อนแล้ว มองเพียงปราดเดียว เขาก็จดจำทักษะธาตุมิติที่หยุนลี่ใช้ได้ทันที
แสงสีเงินที่เรืองรองอยู่รอบๆ หมัดขวาของเขาเป็นทักษะที่เรียกว่าทักษะปืนใหญ่บีบอัดธาตุมิติ ทักษะนี้เป็นทักษะโจมตีที่ทรงพลังมาก ในแง่ของการสร้างความเสียหายให้เป้าหมาย มันอาจแข็งแกร่งกว่าทักษะระดับ 7 ดาวด้วยซ้ำ ข้อเสียเปรียบเพียงอย่างเดียวก็คือต้องใช้ในการต่อสู้ระยะประชิดเท่านั้น แต่เมื่อรวมกับคุณสมบัติด้านความเร็วและความคล่องตัวที่หยุนลี่ได้รับจากมณียุทธ์ของเขา นั่นย่อมเป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นการเลือกใช้ทักษะดังกล่าวจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับหยุนลี่
พลังปราณสวรรค์ระดับมณี 4 ชุดถูกใส่เข้าไปพร้อมกับการโจมตีของทักษะปืนใหญ่บีบอัดธาตุมิติด้วย แม้แต่ก้อนหินหนัก 1,000 จินก็อาจกลายเป็นเศษผงได้อย่างง่ายดายด้วยแรงระเบิดครั้งนี้ การใช้ทักษะนี้เป็นการบีบอัดอากาศทั้งหมดจากบรรยากาศรอบๆ ในเสี้ยววินาที สร้างแรงระเบิดขนาดใหญ่รวมถึงคลื่นกระแทกติดต่อกัน ทั้งหมดนั้นก่อให้เกิดพลังทำลายล้างอย่างรุนแรง
แม้ว่าน้ำเสียงของหลินเทียนอ้าวก่อนหน้านี้จะไม่ได้ฟังดูหยิ่งผยองนัก แต่เงื่อนไขของเขาที่อนุญาตให้โจวเหว่ยชิงและหยุนหลี่โจมตีพร้อมกันโดยที่ไม่ยอมตอบโต้ก็ทำให้หยุนลี่รู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะหลังจากพ่ายแพ้ให้กับโจวเหว่ยชิงก่อนหน้านี้และยังหลงเหลือความเกรี้ยวกราดอยู่ข้างใน ด้วยเหตุนี้เขาจึงทุ่มเทใช้พละกำลังทั้งหมดของตนเองออกมาอย่างเต็มที่ในการโจมตีครั้งนี้
นอกเหนือจากการกรุ่นคิดสั้นๆ เกี่ยวกับการโจมตีของหยุนลี่แล้ว ความสนใจส่วนใหญ่ของโจวเหว่ยชิงก็มุ่งไปที่หลินเทียนอ้าวเพียงผู้เดียว
เมื่อหยุนลี่พุ่งไปยังด้านหน้าของอีกฝ่าย หลินเทียนอ้าวก็ได้ยกมือซ้ายไพล่ไปไว้ด้านหลังแล้ว นั่นเป็นการส่งสัญญาณบอกว่าเขาจะไม่ใช้มือข้างนั้นในการต่อสู้ แต่แน่นอนว่าการไม่ใช้มือข้างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สามารถใช้ทักษะธาตุใดๆ ได้
เมื่อเผชิญหน้ากับความเร็วและการเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหันของหยุนลี่ หลินเทียนอ้าวก็มีวิธีการที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมาในการจัดการกับมัน เขายกแขนขวาขึ้น โล่กลมชิ้นนั้นจึงถูกยกขึ้นเหนือศีรษะอย่างรวดเร็วในเวลาเดียว กัน โจวเหว่ยชิงสามารถมองเห็นแสงสีเหลืองเข้มข้นที่สาดส่องออกมาจากโล่ได้อย่างชัดเจน ตรงกลางหลุมบรรจุมณียังปรากฏเพชรสีทองอร่ามฝังอยู่หนึ่งดวง นั่นคือมณีธาตุประเภทเพชร ทักษะธาตุดิน
*ปัง* ปืนใหญ่บีบอัดธาตุมิติกระแทกเข้าที่โล่อย่างรุนแรง จากนั้นร่างของหยุนลี่ก็ถูกส่งให้ลอยละลิ่วกลับไปทางเดิมเพราะแรงต้านจากโล่ของอีกฝ่าย สำหรับหลินเทียนอ้าว เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเคลื่อนไหว สีหน้าท่าทางของเขายังคงไร้การเปลี่ยนแปลง
ชายชุดแดงที่ดูแลห้องหมายเลข 7 จุดธูปในมือของเขาแล้ว การเดิมพันจึงได้เริ่มขึ้นด้วยการปะทะกันครั้งแรกของพวกเขาทั้งคู่นั่นเอง
ร่างของหยุนลี่พลิกตัวกลางอากาศขณะที่เขาถูกส่งให้กระเด็นกลับขึ้นไปบนเพดาน เขาใช้การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเพื่อปรับทิศทาง หยกหินมังกรดวงแรกบนมือขวาของเขาพลันสว่างไสวขึ้นชั่วขณะ วินาทีนั้นเดือยแหลมชิ้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในอุ้งมือของเขา เห็นได้ชัดว่านั่นคือศาสตรามณียุทธ์ชิ้นแรกของหยุนลี่
เมื่อดูมาจนถึงตอนนี้ โจวเหว่ยชิงก็อดจะขมวดคิ้วไม่ได้ หลังจากมองเห็นอาวุธของหยุนลี่ โจวเหว่ยชิงก็ตระหนักถึงปัญหาของพวกเขาได้ทันที
หยุนลี่อยู่ในสถานะเดียวกันกับเขา ทั้ง 2 คนมีแบบร่างในตำนาน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่หยุนลี่จะไม่วางแผนหลอมรวมเข้ากับชุดศาสตรามณียุทธ์ตำนานของเขา! นั่นหมายความว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่หยุนลี่จะยอมหลอมรวมศาสตรามณียุทธ์กับมณีทั้ง 4 ดวงของตนทั้งหมด อย่างมากก็หลอมรวมเพียงแค่ 2 ชิ้นเท่านั้น อย่างไรเขาก็ต้องสำรองโอกาสเหล่านั้นไว้สำหรับชุดศาสตรามณียุทธ์ในตำนานที่ยังสร้างไม่สำเร็จ นี่เป็นปัญหาเดียวกับโจวเหว่ยชิง มณีดวงที่ 3 ของเขาก็ยังไม่ได้หลอมรวมกับศาสตรามณียุทธ์ใดๆ เช่นกัน
หยุนลี่พุ่งทะยานออกไปเป็นครั้งที่ 2 อย่างรวดเร็ว คราวนี้เขาเร่งความเร็วให้มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ไพฑูรย์ตาแมวสีเขียวทอง 3 ใน 4 ดวงของเขาพลันส่องสว่างเจิดจ้าขึ้น แสงสีเงินหนาทึบตรงเข้าห่อหุ้มทั้งร่างของเขาเอาไว้ทันที
ชั่วพริบตานั้นเดือยแหลมในมือของหยุนลี่เปลี่ยนเป็นสีเงินเช่นกัน อากาศรอบตัวของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่เขาเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดสีหน้าของหลินเทียนอ้าวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาร้องออกมาว่า “บีบอัดพลัง 2 เท่า!”
แท้จริงแล้วหยุนลี่กำลังใช้ทักษะธาตุมิติ 3 ชนิดซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘ทักษะบีบอัดพลัง 2 เท่า’ โดยปกติแล้วทักษะปืนใหญ่บีบอัดธาตุมิติจะต้องถูกนำมาใช้อีกครั้ง แต่คราวนี้มันถูกใช้ร่วมกับทักษะสนับสนุนธาตุมิติอันทรงพลังอย่างทักษะบีบอัด 2 เท่า ทั้งหมดหลอมรวมกันกลายเป็นเดือยแหลมในมือของเขา ไม่เพียงแค่นั้น ทักษะที่ 3 ที่หยุนหลี่นำออกมาใช้ยังเป็น ‘ทักษะเร่งระเบิดธาตุมิติ’
‘ทักษะเร่งระเบิดธาตุมิติ’ เป็นทักษะสนับสนุนที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง ทักษะนี้ใช้แรงกระแทกแบบลูกโซ่เพื่อเร่งความเร็วในการระเบิด ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ใช้ได้เกือบ 3 ใน 10 ส่วน ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นทักษะที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการโจมตีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้สำหรับหลบหนีด้วย
อย่างไรก็ตาม หยุนลี่ก็เป็นเพียงจ้าวมณีสวรรค์ที่มีมณีเพียง 4 ชุดและกักเก็บทักษะธาตุมิติไว้เพียง 4 ทักษะ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การที่เขาเลือกทักษะสนับสนุนทั้ง 2 ออกมาใช้แสดงให้เห็นว่าทักษะเหล่านี้ทรงพลังและมีประโยชน์เพียงใด ขณะเห็นอีกฝ่ายนำทักษะทั้ง 2 ออกมาใช้ร่วมกัน โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย
ทั้งทักษะบีบอัดพลัง 2 เท่าและทักษะเร่งระเบิดธาตุมิติเป็นทักษะระดับ 7 ดาวที่ทรงพลังมาก ด้วยคุณสมบัติของทักษะสนับสนุนทั้ง 2 ชนิดนี้ การโจมตีของหยุนลี่อาจกล่าวได้ว่าขยายขีดความสามารถขึ้นไปจนทะลุขีดจำกัดสูงสุดที่เป็นไปได้แล้ว การเดิมพันเพิ่งเริ่มต้น แต่เขากลับแสดงพลังทั้งหมดของตนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ยอมยั้งมือเอาไว้แม้แต่น้อย ความตั้งใจของเขาคือการจบการต่อสู้ครั้งนี้ให้เร็วที่สุด ส่วนอีกนัยหนึ่งก็คือลงมือให้เร็วที่สุดโดยไม่ให้หลินเทียนอ้าวทันตั้งตัว
“ดี!” หลินเทียนอ้าวตะโกนเสียงดังลั่น ทว่าครั้งนี้เขาก็ยังคงใช้มือข้างเดียวรับการโจมตี เท้าทั้งสองข้างยังคงยืนอยู่บนพื้นได้อย่างมั่นคง แต่โล่กลมในมือของเขากลับเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จู่ๆ โล่นั้นก็มีแสงสว่างเจิดจ้าออกมา
ภายใต้แสงสีเหลืองเจิดจ้าจากมณีทั้ง 2 ดวง โล่กลมที่แต่เดิมมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุต 5 นิ้วก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปโดยสิ้นเชิง มันกลายเป็นโล่รูปสามเหลี่ยมที่มีความกว้างประมาณ 2 ฟุตและสูง 5 ฟุต
เมื่อเห็นภาพดังกล่าว ไม่เพียงแต่หยุนลี่ที่อยู่ในระหว่างการโจมตีเท่านั้น แม้แต่โจวเหว่ยชิงที่เฝ้ามองจากด้านข้างก็ยังต้องรู้สึกประหลาดใจ ทั้งคู่เป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ พวกเขาย่อมรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร
แสงสีเหลือง 2 ดวงที่หลอมรวมเข้ากับโล่กลมนั้นมีต้นกำเนิดมาจากมือขวาของหลินเทียนอ้าว นั่นเป็นมณียุทธ์ของเขา หมายความว่าเขาเพิ่งเรียกใช้ศาสตรามณียุทธ์อีก 2 ชิ้น ทว่าทั้ง 2 ชิ้นนั้นกลับไม่ใช่อุปกรณ์ที่นำมาใช้กับร่างกายของเขาเพราะมันถูกนำมาใช้กับโล่กลมดั้งเดิมในมือของเขาต่างหาก! อุปกรณ์ทั้ง 3 ชิ้นได้หลอมรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นโล่ชิ้นเดียวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร!
………………………