The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1073 – กระบี่เล่มถัดไป

ตอนที่ 1073 - กระบี่เล่มถัดไป

  ปิงหวูชิงถอนหายใจด้วยความอ่อนล้า

   ใยเจ้าต้องมาขวางทางข้าทุกครั้งไป? 

  ความคับข้องใจและความโมโหแสดงชัดในน้ำเสียง

  ในฐานะของเทพชีวิตผู้คนในจิวโจวเป็นเพียงแมลงในสายตานาง มนุษย์ไม่เคยทำให้นางเกิดความรู้สึกใด ซือหยูคือผู้เดียวที่ทำได้

  ซือหยูกำไม้เท้าเซียนมณีต่อไปเขาตอบด้วยเสียงไร้อารมณ์

   ถ้าอย่างนั้นท่านเทพอสูรพร้อมหรือยังเล่า? เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว! ข้าหวังว่าเจ้าจะทนไหว! 

  ฮั่นเฟยกู้ไทซู และปี้หลิงเทียนระเบิดพลังพร้อมกัน แม้แต่ตงฟางเถียนเฟิงก็ร่วมวงด้วยหลังจากผ่านไปช่วงสั้น ๆ นางปล่อยพลังได้มากเมื่อใช้สมบัติของตระกูล

  ในตอนนั้นเองท้องฟ้าเต็มไปด้วยคลื่นพลังเซียน แสงกระจ่างชัดพร้อมพลังรุนแรงที่สามารถทำลายทั้งโลกได้

  เมื่อเสียพลังชำระล้างของไม้เท้าเซียนปิงหวูชิงรับพลังทั้งหมดโดยตรง

  แต่เมื่อฝุ่นควันสลายไปพวกเขาทุกคนก็ได้เห็นภาพที่ทำให้ใจหาย ปิงหวูชิงบาดเจ็บเพียงผิวเผินอย่างน่าตกใจ! แม้พวกเขาจะใช้พลังเต็มที่โดยไม่ออมมือก็ตาม!

  พลังกายภาพของนางเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิด

  สิ่งที่พวกเขาเห็นในตอนนี้ทำให้ฮั่นเฟยและคนที่เหลือยืนนิ่งด้วยความลังเลถ้าหากการทำเต็มที่มิอาจได้ผลลัพธ์อันน่าพอใจ เวลาครึ่งชั่วโมงก็คงไม่พอ ไม่ต้องพูดถึงเวลาเพียงเล็กน้อยที่มีตอนนี้

  ความสิ้นหวังถาโถมในหัวใจทั้งหมดมันสูญเปล่าหรือ? ถ้าหากจะล้มเหลวถ้าจู่โจมต่อไป พวกเขาอาจยอมแพ้และหนีไปในตอนนี้ ความคิดมากมายแล่นผ่านจิตใจ  ในตอนนั้นเสียงมั่นใจดังขึ้น

   ไม่ให้ข้าลองดูบ้างเล่า? 

  แม้แต่กู้ไทซูก็มิอาจปฏิเสธว่าเสียงของซือหยูทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความหวัง

  ปิงหวูชิงที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหลือบมองซือหยูอย่างหยุดไม่ได้นางอาจไม่สนใจพวกฮั่นเฟยได้ แต่นางคิดกับซือหยูต่างออกไป เขายังมีวิธีอื่นซ่อนอยู่หรือ?

  แต่ปิงหวูชิงไม่ได้กังวลมากนัก

   ซือหยูเซี่ยนข้านับถือในสติปัญญาเจ้า เจ้ามีพลังและสมบัติที่ยอดเยี่ยม แต่หากจะสังหารข้า เจ้ายังทำไม่ได้หรอกนะ 

   ถ้าเจ้ารู้ว่าข้ามีพลังและสมบัติเจ้าจะแน่ใจหรือว่าข้ายังไม่เหลือสิ่งอื่นให้ใช้? 

  ซือหยูหายใจเข้าเบาๆ ถึงเวลาที่เขาจะต้องแบไพ่ออกมาแล้ว

  ขณะนี้สถานการณ์อันตรายกว่าที่เขาคิดไปมาก ถ้าปิงหวูชิงไม่ถูกฆ่า พวกเขาจะต้องตายในอีกไม่นานแน่นอน   เจ้าคิดจะบอกว่าเจ้ายังมีสิ่งที่ทำลายจิตวิญญาณเทพของข้าได้รึ? 

  ปิงหวูชิงไม่ใส่ใจนักนางหัวเราะเบา ๆ ราวกับเล่าเรื่องตลก

  มีเทพเพียงหนึ่งเดียวเพียงจิวโจวและนั่นคือเทพจิวโจว…เทพกิเลน

  ส่วนตระกูลใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างตระกูลบูรพาได้พบเจอเศษเขาเทพเพียงหนึ่งเดียวในโลกทั้งใบมันคืออาวุธเดียวบนโลกที่ฆ่านางได้ ไม่มีโอกาสเป็นอื่น

  แต่เมื่อซือหยูเรียกสิ่งหนึ่งออกมาจากมุกวิญญาณเก้าหยกรอยยิ้มสงบใจของปิงหวูชิงได้หายไปอย่างรวดเร็ว แทนที่ด้วยสีหน้าดำมืด

  แม้แต่เทพกิเลนก็ผงะเขามองซือหยูอย่างลึกซึ้ง

  ซือหยูถือกล่องหยกในมือมีผนึกมากกว่าสิบชั้นปิดมันเอาไว้

  ด้านในกล่องหยกมีชิ้นใบไม้สีเป็นเอกลักษณ์มันมีสีทองทั้งใบราวกับถูกสลักด้วยทองคำบริสุทธิ์ ใบไม้นี้มีขนาดเท่าฝ่ามือ เส้นใบของมันแสดงให้เห็นชัดเจน หยดวารีทองคำไหลเวียนอยู่ในใบไม้ทั้งใบ

  กล่องหยกมีไว้เพื่อเป็นม่านพลังป้องกันฮั่นเฟยกับคนอื่น ๆ จึงไม่รู้ถึงความพิเศษของใบไม้นี้ แต่เมื่อได้มองใบหน้าของปิงหวูชิงและเทพกิเลน พวกเขาก็สามารถบอกพลังระดับสัตว์ประหลาดของใบไม้ใบนี้ได้

  เงียบอยู่นานปิงหวูชิงหายใจเข้าลึกมองซือหยูอย่างหมองหม่น นางพูดเบา ๆ

   ซือหยูเซี่ยนเจ้าจะทำแบบนี้กับข้าจริง ๆ ใช่ไหม? ข้าไม่เคยทำร้ายเจ้า ข้าไม่เคยทำร้ายคนรอบกายเจ้า แม้แต่คนที่มาจากต่างทวีปก็ตาม 

  ซือหยูใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดของนาง!นางพบคนที่มาจากเฉินหลงแล้วงั้นรึ? ถ้านางรู้ หมายความว่าราชาเขตกลางจะรู้ด้วยใช่หรือไม่?

  เขาตื่นตระหนกในใจถึงเวลาที่เขาจะไปเขตกลางและหาที่หลบภัยที่คนเฉินหลงอยู่แล้ว

  ผู้เฒ่าเหลียวหายตัวไปนานไม่มีข่าวคราวใดจากเขาเลย เขาอาจจะตามหาตำแหน่งอย่างยากลำบากอยู่ก็ได้

  แต่ซือหยูแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็นในเบื้องหน้าแม้แต่พวกฮั่นเฟยก็มองเขาด้วยสีหน้าประหลาด

   เจ้าไม่เคยทำแต่นั่นก็เพราะเจ้าทำไม่ได้ เมื่อเจ้าได้พลังเทพอสูรกลับมาแล้ว สิ่งที่เจ้าพูดจะยังคงเดิมหรือ? 

  ซือหยูไม่สนใจ

   ข้าไม่คิดจะเสียใบไม้นี้เพียงเพราะเจ้าหากเจ้าเลิกคิดฟื้นคืนพลังเทพอสูร ข้าจะยอมสงบศึก… 

  ซือหยูต่อรอง

  แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้

   ข้าคือเทพอสูรข้าถูกมนุษย์ต่ำต้อยในจิวโจวจองจำ มันไม่ต่างจากพญาช้างสารที่ถูกมดปลวกกักขัง! ข้าไม่อยากมีชีวิตเช่นนี้! ข้าต้องเอาพลังเทพอสูรกลับมา! 

   ถึงใบไม้ทองคำของเจ้าจะเป็นของจากเทพแต่เทพนั่นคงจะไร้พลังในตอนนี้ไม่ใช่หรือ? ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่ได้เป็นมากไปกว่าจิตวิญญาณเทพน้อย ๆ! 

  ปิงหวูชิงพูดอย่างเยือกเย็น

  ซือหยูพยักหน้าช้าๆ

   เจ้าพูดถูกใบไม้ใบนี้มีภัยเพียงกับอสูรเนรมิตร แต่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำอันตรายกับเซียน! แต่มันก็มากพอที่จะฆ่าเจ้า! พลังเทพในใบไม้ทองคืออาวุธอย่างดีในการทำลายจิตวิญญาณเทพของเจ้า! 

  อาวุธของมนุษย์ย่อมมิอาจเทียบกับสมบัติของยอดฝีมือได้แม้อย่างนั้น อาวุธของมนุษย์ก็ทำให้หัวใจที่เต้นอยู่หยุดเต้นได้

  พลังเทพในใบไม้ทองคำนั้นอ่อนแอแต่มันสามารถเอาชนะจิตวิญญาณเทพได้ แม้พลังจะลดลงไปสักหน่อย มันก็มากพอที่จะสังหารปิงหวูชิงที่หมดทางสู้

  เมื่อพูดจบซือหยูขว้างใบไม้ออกไปด้านหน้าโดยไม่พูดสักคำ

  ใบไม้โบกปลิวตามแรงลมแสงสีทองเปล่งประกายอย่างงดงามไปยังบ่าของปิงหวูชิง

  ในเสี้ยววินาทีนั้นแสงจากใบไม้ทองคำเปล่งประกายไปทั้งแดนมณี

  ทุกชีวิตที่ได้อาบแสงทองคำสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณสงบของธรรมชาติบรรยากาศอันดี ทุกคนรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังตัวเอง มีเพียงปิงหวูชิงที่ต่างออกไป

  ใบไม้ทองคำประทับที่ร่างของนางสายสีทองถูกดูดออกจากร่างของนางโดยมีใบไม้ดูดซับเข้าไป

  แมกไม้ดูดซับอากาศเสียพร้อมปล่อยอากาศดีแก่มนุษย์กลับคืนเช่นเดียวกับใบไม้ทองคำของเทพไม้ที่มีพลังดูดซับพิเศษ ความต่างเดียวคือมันไม่ได้ดูดซับอากาศเสีย แต่เป็นจิตวิญญาณเทพ!   ในวินาทีอันรวดเร็วจิตวิญญาณเทพที่ถูกดูดซับไปนั้นมากกว่าที่นางให้จักรพรรดิกลืนอสูรเกินสิบเท่า!

  เส้นผมสีดำของปิงหวูชิงสูญเสียประกายในความเร็วที่เห็นได้ด้วยตามันกลายเป็นสีเทาและหงอกขาวราวเกล็ดหิมะในเวลาต่อมา

  ดวงตางดงามดั่งแก้วของนางถูกปกคลุมด้วยม่านดำริมฝีปากแดงดั่งกุหลาบม่วงคล้ำ

  พริบตาเดียวใบหน้างดงามเป็นพิเศษได้ดูดุร้ายแปลกตา

  มีส่วนของเทพอสูรปรากฏให้เห็นหลังจากสูญเสียจิตวิญญาณเทพ นางไม่มีพลังจะแปลงกายเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป มันเผยร่างแท้จริงของอสูรออกมา

  เทพกิเลนระเบิดเสียงหัวเราะ

   น่าขัน!น่าขันจริง ๆ! เจ้าไม่ได้ตายด้วยน้ำมือเทพอย่างข้า เจ้าไม่ได้ตายหลังจากผ่านเวลาหลายแสนปี 

  มันพูดพล่อยไปเรื่อยๆ   แต่ตอนนี้เวลานี้เจ้ากำลังจะตายเพราะเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้า จิตวิญญาณเทพถูกดูดออกมาทั้งเป็น! 

   หลินหลางโอ้ หลินหลาง เจ้าไม่คิดว่ามันน่าเศร้าหรือ? 

  เส้นผมขาวปลิวไสวในอากาศปิดบังหน้าผากเอาไว้แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่ปิดบังดวงตาที่มีแสงทมิฬได้ เสียงของนางเปลี่ยนไป ไร้ซึ่งความอ่อนโยนและสัมผัสนุ่มละมุนอีกแล้ว มันเป็นเสียงแก่เฒ่าแหบพร่า

   เจ้าบังคับข้า 

  ปิงหวูชิงถอนหายใจดวงตานางมองทะลุทะลวงทุกอย่างไปไกลโพ้น ราวกับว่านางทำใจแล้ว

  เทพกิเลนขมวดคิ้ว

   อะไรกัน?ถึงตอนนี้เจ้ายังมีสิ่งที่ไม่ได้ทำอีกเรอะ? 

  ปิงหวูชิงเงียบนางมองปิงหวูชิงแห่งเขาอสูรที่อยู่ห่างออกไปอย่างลึกซึ้ง นางสิ้นหวัง   ข้าไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาลงเอยที่นี่ 

  ซือหยูตะโกนเมื่อตระหนักได้ถึงอันตราย

   หวูชิงออกไปจากสวนสุสานเดี๋ยวนี้! 

  แต่ก็สายไปแล้ว

  ปิงหวูชิงหายใจเข้าลึกตะโกนจนโลกสะเทือนไปถึงสวรรค์

   ทุกสิ่งจากแหล่งเดียวกันจงรวมเป็นหนึ่ง! 

  เมื่อนางตะโกนร่างของปิงหวูชิงจากเขาอสูรได้เปลี่ยนแปลงอย่างมิอาจควบคุมได้

  ผมขาวนัยน์ตาดำ ริมฝีปากสีม่วง…

  มันคือภาพสะท้อนของปิงหวูชิงที่เป็นเทพอสูร!

  สิ่งเดียวที่ต่างก็คือใบหน้าของปิงหวูชิงจากเขาอสูรนั้นมุ่งมั่นที่จะโต้กลับ

   เจ้าคิดจะผิดคำสัญญารึ?ถ้าเจ้าทำ ท่านแม่จะทำลายเจ้าด้วยหาทางที่โหดร้ายที่สุด!     ข้าหมดทางเลือกแทนที่จะนั่งรอความตาย ข้าขอเอาจิตวิญญาณเทพอีกครึ่งดวงคืนมาเสียดีกว่า 

  ปิงหวูชิงพูดอย่างไม่แยแส

  นางได้เข้าไปรวมตัวกับทารกน้อยปิงหวูชิงในครรภ์ของเจี๋ยนอู๋เชิงในความผิดพลาดจิตวิญญาณเทพอีกครึ่งดวงของนางจึงอยู่ที่ปิงหวูชิง ดังนั้นทั้งสองจึงมีพลังวิญญาณที่เหมือนกัน

  แต่ปิงหวูชิงก็มีความเหนือกว่านางมีพลังที่จะควบคุมปิงหวูชิงแห่งเขาอสูรเมื่อใดก็ได้

  ปิงหวูชิงแห่งเขาอสูรตกอยู่ในสภาพกึ่งอสูรเก้าเงาพลังปรากฏด้านพลังนางพร้อมกัน

  นี่คือกายากระบี่สวรรค์!

  เงากระบี่ทั้งเก้ามีรูปร่างที่ดูจับต้องได้มันเพิ่มพลังขึ้นมาเรื่อย ๆ

  เมื่อเล่มที่สี่ปรากฏซือหยูใบหน้าเปลี่ยนไป ตามปกติ ซือหยูสามารถก่อร่างกระบี่ได้เพียงสามเล่ม นางไม่เคยสร้างเล่มที่สี่ที่ใช้พลังได้มาก่อน

   พวกเราเกิดมาจากต้นกำเนิดเดียวกันหากนางคือกระบี่ ข้าก็คือฝัก! ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพราะข้า นางคงใช้เล่มที่ห้าได้ไปแล้ว! ตอนนี้เมื่อฝักหายไป นางจะเปล่งประกายขึ้นมาได้! 

  ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ!

  การกำเนิดของกระบี่หยุดลงเมื่อถึงเล่มที่ห้าเป็นเพราะเทพอสูรปิงหวูชิงมิอาจควบคุมปิงหวูชิงจากเขาอสูรได้เต็มที่

  ซือหยูมองกระบี่เล่มที่สี่และห้าพร้อมกับสัมผัสอันตรายจากมันได้!กระบี่เล่มที่ห้านี้มิใช่สิ่งที่อสูรเนรมิตรจะรับมือได้เลย บางทีเซียนอาจจะตอบโต้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!

   ไม่นะ!นางถูกเทพอสูรควบคุมอยู่ กายาวิญญาณนางถูกปลดปล่อย ถ้านางไม่หยุดตอนนี้ พวกเราทุกคนจะตาย! 

  กู้ไทซูตะโกนเสียงแข็งเขากระโจนไปยังปิงหวูชิงจากเขาอสูรทันที เขาหมายมั่นจะฆ่านาง

  กิ่งไม้ในมือของเขาปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่พลังระดับเซียนซัดปิงหวูชิงด้วยพลังที่ล้างโลกได้ ซือหยูเพ่งสมาธิอยู่กับการกำจัดเทพอสูรปิงหวูชิงอยู่ เขาไม่มีพลังจะหยุดกู้ไทซู

  เมื่อเห็นว่าปิงหวูชิงกำลังจะตายด้วยพลังเซียนกระบี่เล่มที่สี่และห้าด้านหลังนางได้แหวกทะลวงเมฆา

  กิ่งไม้ที่มีพลังยิ่งใหญ่กระเด็นหายบาดแผลลึกจนถึงกระดูกเกิดที่ลำตัวกู้ไทซู ตามด้วยควันดำดั่งเถ้าถ่าน

  กระบี่แดงเพลิงบินกลับแหวกนภามาที่แผ่นหลังปิงหวูชิง

  กระบี่ไม่เพียงแต่ทำลายพลังมหาศาลจากกิ่งไม้แต่มันยังทำให้กู้ไทซูบดาเจ็บ

  แม้แต่พลังจากกิ่งไม้ระดับเซียนก็สลายไปกระบี่นางมีพลังสูงมาก!

  แต่นี่เป็นเพียงแค่เล่มที่สี่เล่มที่ห้านั้นเล็งตรงไปที่เทพกิเลน!   เทพกิเลนถูกเทพทะลุกะโหลกหน้าไปถึงหลังร่างสามสิบศอกของเทพกิเลนล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท