หลังจากคิดถี่ถ้วนดีแล้ว รอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินเทียนอ้าว สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสำหรับพวกเขา เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ใช่แค่โจวเหว่ยชิงที่จะมีความสัมพันธ์อันดีกับวังสวรรค์ไพศาล ทว่าแม้แต่อาณาจักรเฟยหลี่ก็จะได้รับประโยชน์มากมายจากการเป็นพันธมิตรของอาณาจักรจ้งเทียน
ในฐานะผู้ติดตามของโจวเหว่ยชิง เขาต้องระลึกถึงความสำคัญของโจวเหว่ยชิงเป็นลำดับแรก แต่ในฐานะพลเมืองของอาณาจักรเฟยหลี่ เขากลับยิ่งมีความสุขมากกว่ากับสถานการณ์ที่มีแต่ได้กับได้เช่นนี้
เขาเข้าใจว่าวันนี้โจวเหว่ยชิงเปิดเผยพรสวรรค์ของตนเองออกมามากเกินไปและมันก็น่าประหลาดใจเกินไป อย่างไม่โบราณว่าไว้ ต้นไม้ที่โตสูงย่อมต้องถูกโค่นลงก่อน การดึงดูดความสนใจมากเกินไปก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เขารู้ว่าด้วยนิสัยของโจวเหว่ยชิง เหตุผลเดียวที่เขาจะทำเช่นนั้นย่อมเป็นเพราะซ่างกวนปิงเอ๋อร์ ทว่าหากพวกเขาไม่มีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่ง พรสวรรค์ที่โดดเด่นเช่นนี้อาจหมายถึงความตายในช่วงเริ่มต้นก็เป็นได้
โลกใบนี้ไม่เคยขาดผู้มีพรสวรรค์ แต่ผู้มีพรสวรรค์ที่สามารถอยู่รอดและเติบโตถึงจุดสูงสุดได้นั้นมีน้อยมาก
หลินเทียนอ้าวกรุ่นคิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็โค้งคำนับให้ซ่างกวนหลงหยินอย่างนอบน้อมพลางกล่าวว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสซ่างกวนที่ดูแลพวกเรา เหว่ยชิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่านช่วยประคองอาการปีศาจน้อยเซินไว้สักครู่ เราจะให้น้ำผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แก่โจวเหว่ยชิงเพื่อเร่งการฟื้นตัวของเขา เช่นนี้เขาจะได้ช่วยรักษาแม่นางเซิน ดีหรือไม่?”
ซ่างกวนหลงหยินทั้งอายุมากและประสบการณ์โชกโชน เขารู้ได้ทันทีว่าหลินเทียนอ้าวยอมรับการผูกไมตรีจากเขาแล้ว เชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ พยักหน้าพลางมองชายหนุ่มผู้มั่นคงคนนี้อย่างประทับใจ
หลินเทียนอ้าวบีบจมูกของโจวเหว่ยชิง รินน้ำจากผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์และบังคับให้เขากลืนลงคอ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรต่อ ซ่างกวนหลงหยินก็ก้าวเข้ามาใกล้ ในความเป็นจริง ชายหนุ่มไม่อาจทำสิ่งใดเพื่อประคองอาการของปีศาจน้อยเซินต่อไปได้อีก พิษของสายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดนั้นทรงพลังและมีอำนาจมากเกินไป ทันทีที่เขาพยายามทำบางอย่าง มันก็จะเร่งพิษทันที นอกจากนี้ เขายังต้องการให้โจวเหว่ยชิงติดหนี้บุญคุณตนเองด้วย
ซ่างกวนหลงหยินก้าวไปหยุดข้างโจวเหว่ยชิงก่อนจะวางมือทั้งสองข้างที่ร่างกายของเขา ในขณะที่แผ่พลังปราณสวรรค์ขั้นบรรลุวิถีให้เคลื่อนที่ไปรอบๆร่างของโจวเหว่ยชิง มือของชายหนุ่มเต็มไปด้วยแสงสีขาวแวววาวราวกับหยกเคลือบ ภายใต้การชี้นำของปราณสวรรค์ขั้นบรรลุวิถี น้ำจากผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์จึงกระจายไปทั่วร่างกายของโจวเหว่ยชิงอย่างรวดเร็วและไหลเวียนอยู่ภายใน
ขณะลงมือทำ ซ่างกวนหลงหยินก็แอบตกใจไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้บนเวทีการประลองเขาได้ตรวจดูอาการบาดเจ็บของโจวเหว่ยชิงและรู้ว่าเด็กหนุ่มบาดเจ็บหนักแค่ไหน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน เขาได้ตรวจสอบร่างกายของโจวเหว่ยชิงอีกครั้งและต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเส้นชีพจรของเด็กหนุ่มเริ่มสมานเข้าด้วยกันแล้ว นี่เป็นความเร็วที่เหนือกว่าอัตราการฟื้นฟูปกติของร่างกายมนุษย์อย่างแน่นอน แม้กระทั่งจ้าวมณีระดับเทวะก็ยังไม่อาจทำได้ มีเพียงผู้ที่ไปถึงขั้นบรรลุวิถีอย่างเขาเท่านั้นที่พอจะฟื้นฟูได้เช่นนี้
เด็กหนุ่มคนนี้ช่างเป็นผู้ที่มีความสามารถอันน่าทึ่งจริงๆ! ซ่างกวนหลงหยินคิดอย่างประหลาดใจกับตัวเอง แน่นอนว่าเขาไม่ได้เปิดเผยอะไรออกไปภายนอก การแสดงออกของเขายังคงไม่ยินดียินร้ายและเยือกเย็นเช่นเดิม ผ่านไปไม่นาน น้ำจากผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ไหลเวียนไปทั่วเส้นลมปราณของโจวเหว่ยชิง และกลิ่นหอมจางๆ ก็ลอยอบอวลออกมาจากร่างกายของเขาพร้อมกับหมอกสีขาว และอาการหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนก็สงบลงในที่สุด
ผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เป็นของล้ำค่าที่ได้หายากและน่าอัศจรรย์มาก ในความเป็นจริงมันเป็นถูกใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าด้วย
ผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เติบโตในสภาพแวดล้อมเฉพาะเจาะจงเท่านั้น แน่นอนว่ามังกรเป็นๆ นั้นหาได้ยากมากในแผ่นดินไร้พรมแดน โดยปกติแล้วจะพบพวกมันได้เฉพาะในส่วนลึกของภูเขาเท่านั้น มังกรที่โตเต็มวัยเปรียบได้กับยอดฝีมือระดับราชาด้วยซ้ำ ทว่าพวกมันกลับไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์เนื่องจากพวกมันมักจะอาศัยอยู่ด้วยกันและไม่เข้ามาเยือนถิ่นของมนุษย์ง่ายๆ
ในเวลาเดียวกัน มังกรทุกก็ตัวถือเป็นขุมทรัพย์อันล้ำค่าของมนุษย์ พวกมังกรมีนิสัยชอบสะสมสมบัติและเป็นเรื่องปกติที่แหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมันจะมีทรัพย์สมบัติอยู่มากมายเช่นทองคำและอัญมณี ไม่เพียงแค่นั้น ร่างกายทุกส่วนของมังกรก็ยังถือว่าเป็นขุมทรัพย์ในตัวเอง เกล็ดของพวกมันมีความทนทานอย่างยิ่งและเหมาะสำหรับการสร้างชุดเกราะ เลือดมังกรและกระดูกมังกรเป็นวัตถุดิบสร้างศาสตรามณียุทธ์คุณภาพสูง ในขณะที่แก่นพลังของพวกมันคือแก่นพลังสวรรค์ที่มีคุณภาพสูงสุด อาจกล่าวได้ว่าร่างกายทุกส่วนของพวกมันเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับมนุษย์ก็ว่าได้!
ผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เหมือนกับชื่อของมัน ผลไม้นี้เชื่อมโยงกับแหล่งที่อยู่อาศัยของมังกรและสามารถเติบโตได้ในเฉพาะถิ่นของมังกรเท่านั้น น้ำลายของมังกรจะหยดลงบนพื้นและหลังจากผ่านไปหลายร้อยปี พื้นที่นั้นก็จะเหมาะสำหรับการเติบโตของผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ พวกมันถือได้ว่าเป็นยารักษาคุณภาพเยี่ยม และยังให้ผลในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย หากมนุษย์ธรรมดาดื่มน้ำที่คั้นจากผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่คนๆ นั้นยังอายุไม่เกิน 30 ปี เพียงแค่หยดเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะปลุกมณีพลังของพวกเขาให้กลายเป็นจ้าวมณี! สำหรับจ้าวมณีทั่วไป มันสามารถรักษาบาดแผลทางร่างกายได้เกือบทั้งหมดในทีเดียว
ด้วยความช่วยเหลือของน้ำผลมังกรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ความสามารถในการฟื้นฟูที่น่าอัศจรรย์ของโจวเหว่ยชิงจึงได้รับการเพิ่มพลังอย่างเต็มที่ เส้นชีพจรของเขาพลันฟื้นฟูด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง เมื่อชางกวนหลงหยินถอนมือออก พลังปราณสวรรค์ของเขาก็กลับมาหมุนเวียนอย่างเหมาะสมอีกครั้งทันที
ซ่างกวนหลงหยินที่ยืนอยู่ข้างโจวเหว่ยชิงแสดงท่าทางครุ่นคิดอย่างไม่มั่นใจ ก่อนจะนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“ผู้อาวุโสซ่างกวน หัวหน้าทนได้ไม่นานแล้ว” เมื่อหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มนักรบตันตุ้นโพล่งออกมาอย่างรีบร้อน ซ่างกวนหลงหยินก็พลันหลุดออกจากภวังค์ของตนเองทันที
เขาวางฝ่ามือบนศีรษะของโจวเหว่ยชิงเบา อีกฝ่ายสั่นเทาเล็กน้อย ก่อนเด็กหนุ่มจะลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นซ่างกวนหลงหยินอยู่ตรงหน้าตนเอง โจวเหว่ยชิงก็ชะงักไป ในเวลาต่อมาเขาก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในร่างกายของเขา
แม้ว่าเขาจะยังรู้สึกเจ็บตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ก็ดีกว่าความเจ็บปวดที่แทบทนไม่ไหวก่อนที่เขาจะหมดสติไป ในเวลาเดียวกันเขายังรู้สึกถึงพลังปราณที่ได้รับจากหลุมดำพลังปราณทั้ง 14 แห่งของเขา พวกมันกำลังไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงร่างกายจนรู้สึกได้ว่าเส้นลมปราณของเขากำลังสมานกันอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยรักษาข้า” ด้วยความฉลาดของโจวเหว่ยชิง เขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร
ชางกวนหลงหยินพยักหน้าให้เขาโดยไม่ปิดบังความชื่นชอบที่มีต่อเด็กต่อหน้าแม้แต่น้อย
หลินเทียนอ้าวรีบก้าวไปหาโจวเหว่ยชิงและบอกเขาเกี่ยวกับสัญญาของซ่างกวนหลงหยิน โจวเหว่ยชิงมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย และเมื่อเห็นหลินเทียนอ้าวพยักหน้าให้เขา เด็กหนุ่มก็เข้าใจทันทีว่าสหายของตนไม่ได้ขัดขวางการช่วยเหลือปีศาจน้อยเซิน และเขารู้ว่าการทำเช่นนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาทั้งหมดอย่างแน่นอน
“เนื่องจากผู้อาวุโสให้คำมั่นแก่พวกเราแล้ว พวกเราจึงไม่มีอะไรต้องกังวลอีก อย่างไรก็ตาม ในการช่วยแม่นางเซินนั้น ข้าก็ยังไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองนัก ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ใช้ทักษะนั้น ดังนั้นข้าจะลองดู”
ซ่างกวนหลงหยินพยักหน้ากล่าวว่า “ข้าเข้าใจดี หากแม้แต่เจ้าก็ยังไม่สามารถช่วยนางได้ เช่นนั้นก็คงไม่มีทางเลือกอื่นเหลือไว้ให้นางแล้ว” ขณะที่เขาพูด เขาก็หันไปหาสมาชิกกลุ่มนักรบตันตุ้นและโบกมือให้พวกเขา
แม้ว่ากลุ่มนักรบตันตุ้นจะเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเคียดแค้นต่อกลุ่มนักรบเฟยหลี่ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าจะแสดงท่าทีคุกคามหรือแม้แต่มัวชักช้า เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เกี่ยวกับความอยู่รอดของผู้นำของพวกเขา ดังนั้นทุกคนจึงรีบอุ้มหญิงสาวเข้าไปข้างในทันที
ปกติแล้วเรือนพักหลังหนึ่งเพียงพอสำหรับคนกลุ่มเดียวเท่านั้น เวลานี้ภายในเรือนจึงมีผู้คนอยู่อย่างหนาแน่นเนื่องจากทั้งสองกลุ่มเข้าไปรวมตัวกันอยู่ข้างใน เมื่อมองไปยังปีศาจน้อยเซินที่หน้าซีดและตัวสั่น ทั้งยังมีแสง 3 สีเปล่งประกายวูบวาบตามลำตัวอยู่ตลอดเวลา โจวเหว่ยชิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ ในใจของเขา
แน่นอนว่าความรู้สึกนั้นไม่ได้เป็นเพราะรูปลักษณ์ของปีศาจน้อยเซิน แต่เป็นเพราะสายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืด แม้ก่อนหน้านี้เขาจะบอกว่าจะไม่ใช้มันอีกต่อไปหากไม่มีเหตุจำเป็น แต่เด็กหนุ่มก็ยังรู้สึกกระหายใคร่รู้ในพลังที่น่าเหลือเชื่อของมันอย่างแท้จริง หากโจวเหว่ยชิงสามารถควบคุมทักษะ 3 ธาตุนี้ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะกลายเป็นอาวุธที่อันตรายอย่างยิ่งในคลังอาวุธของเขา โดยเฉพาะกับคู่ต่อสู้ที่มีระดับสูงกว่า
ในขณะที่โจวเหว่ยชิงคิดเรื่องนั้น เขาก็ไตร่ตรองกับตัวเองเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า “โปรดวางนางลงบนพื้น”
สมาชิกของกลุ่มนักรบตันตุ้นรีบวางหญิงสาวลงทันที แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าจะปฏิบัติต่อเด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้อย่างไรเนื่องจากอีกฝ่ายเป็นคนทำให้ผู้นำของพวกเขาบาดเจ็บเองแท้ๆ แต่ซ่างกวนหลงหยินก็อยู่ข้างๆพวกเขาและโจว เหว่ยชิงก็ตกลงที่จะรักษาผู้นำของพวกเขาเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องปฏิบัติตามข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม การกระทำต่อมาของโจวเหว่ยชิงก็ทำให้ทุกคนเผยความกราดเกรี้ยวออกมาอย่างรุนแรง
โจวเหว่ยชิงยกเท้าขวาขึ้นวางบนหน้าอกของปีศาจน้อยเซิน
“เจ้ากำลังทำอะไร?!” หลานเฟิงกำลังจะพุ่งไปข้างหน้า แต่ก็ถูกหยุดไว้ด้วยมือของซ่างกวนหลงหยิน
ซ่างกวนหลงหยินกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เขาปล่อยการโจมตีนั้นจากขาขวา ถ้าข้าเดาไม่ผิด มีเพียงขาขวาของเขาเท่านั้นที่ทนต่อพลังของมันได้”
สมาชิกของกลุ่มนักรบตันตุ้นหยุดชะงักอย่างลังเล แต่ดวงตาของพวกเขากลับยังคงแสดงความโกรธแค้นและความอัปยศอดสู ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ปีศาจน้อยเซินก็ยังคงถูกโจวเหว่ยชิงเหยียบย่ำอยู่ดี และความอับอายนั้นก็ทำให้ใบหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ
โดยธรรมชาติแล้วโจวเหว่ยชิงไม่ได้สนใจพวกเขาอยู่แล้ว สิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดของเขาตอนนี้คือ คัพ 35D…เวลาเหยียบแล้วให้รู้สึกนุ่มนวล…และเด้งดึ๋งมาก!
แน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นเด็กหนุ่มเลือดร้อนไม่รอบคอบเหมือนเมื่อสองปีก่อนอีกต่อไป และเขาก็ไม่มีวันพูดออกมาเสียงดังแน่ ดังนั้นภายนอกโจวเหว่ยชิงจึงมีท่าทีคล้ายสุภาพบุรุษที่เคร่งขรึมและสงบนิ่ง
เมื่อหมุนเวียนพลังปราณสวรรค์ของเขา โจวเหว่ยชิงก็กดฝ่าเท้าเข้ากับหัวใจของหญิงสาวและเติมพลังปราณสวรรค์ของเขาเข้าไปในร่างกายของเธอ
อย่างไรก็ตาม การถ่ายพลังเช่นนี้ก็ทำให้เขาต้องรู้สึกมึนงงเพราะแม้ว่าเขาจะรู้สึกถึงพลังปราณทั้ง 3 ชนิดที่อาละวาดอยู่ภายในร่างกายของเธอ แต่เด็กหนุ่มกลับไม่สามารถดึงมันออกมาด้วยขาขวาอันทรงพลังของตนเองได้
จู่ๆ เขาก็นึกบางอย่างออก โจวเหว่ยชิงก้มลง มณีสวรรค์รอบข้อมือของเขาพลันปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็วางฝ่ามือลงบนหน้าอกของเธอ
คราวนี้ไม่ใช่แค่กลุ่มนักรบตันตุ้นเท่านั้น แต่สมาชิกกลุ่มนักรบเฟยหลี่ทุกคนต่างก็จ้องด้วยความตกใจ ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างและอ้าปากค้าง อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ใครจะได้ตะโกนสั่งให้เขาหยุด สภาพอาการของปีศาจน้อยเซินก็เปลี่ยนไปในพริบตา
สีดำ สีเทา และสีฟ้า แสง 3 ดวงกะพริบอยู่รอบฝ่ามือของโจวเหว่ยชิงทันที แสงที่วูบวาบรอบๆ ร่างของปีศาจน้อยเซินถูกดึงเข้าหาฝ่ามือของเขาเหมือนกับที่เขาได้กลืนกินพลังปราณสวรรค์ของเธอบนเวทีการประลอง
แท้จริงแล้วเด็กหนุ่มต้องปลดปล่อยทักษะกลืนกินผ่านฝ่ามือของเขาต่างหาก
การได้เห็นว่าสิ่งที่โจวเหว่ยชิงทำมีผลกับผู้นำของพวกเขาเป็นสิ่งเดียวที่หยุดสมาชิกกลุ่มนักรบตันตุ้นไม่ให้พุ่งไปข้างหน้า ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังกำหมัดแน่นและกัดฟันกรอด การรักษาเช่นนี้คือสิ่งใดกันแน่? โจวเหว่ยชิงทำสิ่งนี้โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้พวกเขาอับอายใช่หรือไม่?
โจวเหว่ยชิงกำลังรู้สึกสนุกกับตัวเอง แต่เดิมเมื่อเขาลงมือรักษา เขาก็ไม่ได้มีความคิดที่สกปรกแม้แต่น้อย เหตุผลที่เขาเลือกบริเวณหน้าอกเพื่อก็เพราะว่านั่นคือจุดที่สายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดฟาดลงไป
ทว่าเมื่อมือของเขากดลงไปและเริ่มกลืนกินพลังปราณสวรรค์ ความรู้สึกในฝ่ามือของเขากลับช่างให้สัมผัสอ่อนนุ่มทว่ายืดหยุ่น มันช่างเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์จริงๆ! ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพลังปราณสวรรค์ทั้ง 3 ธาตุถูกดึงเข้ามาในตัวเขา มันก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นพลังปราณสวรรค์ของเขาเอง ทำให้โจวเหว่ยชิงรู้สึกว่าแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาในทันที นั่นเพราะถึงอย่างไรมันก็ถูกสร้างขึ้นจากพลังปราณสวรรค์ของเขาเอง!