Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 107-3 ทะลวงผ่านจุดตาย! ปราณสวรรค์ขั้นทะลวงพิภพระดับ 3! (3)

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่มีวันปล่อยให้วิชาเทพอมตะนี้ตกอยู่ในมือของผู้อื่น โดยเฉพาะนิกายปีศาจสวรรค์ แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงในแง่ของการซื้อขายหรือมอบให้เป็นของขวัญ หากเจ้ามีลูกศิษย์ของตัวเองในอนาคต นั่นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง”

โจวเหว่ยชิงรู้สึกสับสนไปชั่วขณะ แต่หลังจากครุ่นคิดสักครู่ เขาก็เข้าใจทันทีว่าซ่างกวนเทียนหยางหมายถึงอะไร

พวกเขาต้องคิดว่าที่เขาสำเร็จวิชาเทพอมตะเป็นเพราะสถานะปีศาจกลายร่างและกลัวว่าหากนิกายปีศาจสวรรค์ได้ครอบครองวิชาเทพอมตะนี้ นี้พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ซ่างกวนเทียนหยางจะร้องขอเช่นนั้น

หากโจวเหว่ยชิงไม่พยายามทำกำไรให้มากกว่าเดิมจากสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็คงจะไม่ใช่โจวเหว่ยชิงแล้ว ทันทีที่เขาเข้าใจความหวาดกลัวของซ่างกวนเทียนหยาง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงลังเลและท้อแท้ทันที “ท่านลุง นั่นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของข้อตกลงเดิมของเรา…เนื่องจากมันเป็นคำขอเพิ่มเติม…”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ซ่างกวนเทียนเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าเด็กเหลือขอนี่ ด้วยวิชาที่ไร้ประโยชน์ของเจ้า พวกเรามีความกรุณามากพอแล้วที่ทำการค้ากับเจ้าต่อไป แต่เจ้ากลับยังคงพยายามจะต่อรองกับเรา อีกรึ?!”

โจวเหว่ยชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงหดหู่ทันที “ท่านพ่อตาในอนาคต อย่าคิดว่าข้ากำลังเอาเปรียบพวกท่านเลย ในทางกลับกัน ข้าเองก็ต้องสูญเสียครั้งใหญ่ด้วย เดิมทีท่านบอกว่าหากข้าเอาชนะซ่างกวนเสว่เอ๋อร์ได้ ท่านจะให้ปิงเอ๋อร์แต่งงานกับข้า ตอนนี้กลายเป็นว่าข้าต้องทะลวงผ่านจุดตายทั้ง 30 จุดก่อน…ข้าเต็มใจที่จะสละผลกำไรทั้งหมดจากการค้านี้และยอมรับคำขอของท่านหากท่านยินยอมให้ข้าพาปิงเอ๋อร์ไปกับข้า เมื่อเทียบกับปิงเอ๋อร์แล้ว ชุดศาสตรามณียุทธ์ในตำนานจะเป็นประโยชน์อันใดได้”

“เจ้า…” ซ่างกวนเทียนเยว่พูดไม่ออกไปชั่วขณะ

ซ่างกวนเทียนเยว่ยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “เช่นนั้นเจ้าต้องการอะไร?”

โจวเหว่ยชิงยิ้มและกล่าวว่า “วังสวรรค์ไพศาลนั้นยิ่งใหญ่ที่สุดในมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์และได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินใหญ่ โดยธรรมชาติแล้วต้องเป็นสถานที่ที่ร่ำรวยที่สุด ดังนั้นข้าย่อมไม่โลภมากเกินไปและทำเรื่องยุ่งยากให้กับท่านลุงแน่นอน เอาเป็นว่าให้คัมภีร์หลุมบรรจุมณีข้าสักเล็กน้อยได้หรือไม่? ข้าไม่ขอมากหรอก ร้อยชิ้นก็พอ”

ซ่างกวนเทียนเยว่แทบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดด้วยความโกรธ เขาตะโกน “หนึ่งร้อยชิ้น?! ทำไมไม่ขอสักพันไปเลยล่ะ? เจ้าคิดว่าคัมภีร์หลุมบรรจุมณีงอกขึ้นมาข้างทางได้รึ!?”

ถึงอย่างไรคัมภีร์หลุมบรรจุมณีก็มีค่ามากกว่าม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับปรมาจารย์ แม้ว่าจะไม่แพงเท่าการสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะ แต่ในแง่ของมูลค่าตามตลาด มันก็ค่อนข้างเท่าเทียมกันเนื่องจากมันมีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนส่วนใหญ่ ส่วนโจวเหว่ยชิง การขอ 100 ชิ้นในครั้งเดียวจึงเป็นราคาที่สูงเกินจริงไปมาก

ซ่างกวนเทียนหยางยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “10 ชิ้น เหว่ยชิง หากโลภมากเกินไปก็อาจส่งผลในทางตรงกันข้ามได้”

ทันใดนั้นโจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “เอาล่ะ สิบชิ้นก็ฟังดูดี ข้าตกลง!”

เพียงแค่นี้ก็ยังถือว่าใช้การได้สำหรับโจวเหว่ยชิง เมื่อนานมาแล้วเขาได้ใช้คัมภีร์หลุมบรรจุมณีเพียงแผ่นเดียวเพื่อเพิ่มหลุมบรรจุมณีบนธนูราชันย์ของเขา นั่นทำให้เขาสามารถใช้ทักษะได้ 2 ชนิดขณะยิงลูกศรออกไป ช่วยเพิ่มความพลังในการต่อสู้เป็นอย่างมาก แม้ว่าในที่สุดธนูราชันย์จะถูกจำกัดด้วยระดับของมัน และไม่ว่าเขาจะเพิ่มหลุมบรรจุมณีเข้าไปเท่าไหร่ มันก็ย่อมไม่ไปถึงระดับเดียวกับระดับเทพเจ้า แต่ด้วยไพฑูรย์ตาแมวสองสีของโจวเหว่ยชิงและทักษะธาตุมากมายของเขา เมื่อรวมกับทักษะมีระดับดาวสูงๆ ยิ่งธนูราชันย์สามารถฝังทักษะลงไปได้มากเท่าไหร่ ความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น นี่ยังไม่พูดถึงความยืดหยุ่นในการใช้งานด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าด้วยระดับพลังปราณสวรรค์ของโจวเหว่ยชิงในปัจจุบัน จริงๆ แล้วการใช้หนึ่งทักษะต่อลูกศรหนึ่งดอกก็เหมาะสมแล้ว นั่นก็เพื่อมิให้พลังปราณสวรรค์ของเขาหมดเร็วเกินไป

“หลงหยิน นำเขาไปที่ศาลาศาสตรามณียุทธ์” ซ่างกวนเทียนหยางโบกมือให้พวกเขาและออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว ยิ่งต่อรองกับจอมเจ้าเล่ห์น้อยคนนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแต่จะทำให้เขาปวดหัวมากเท่านั้น

อันธพาลน้อยผู้นี้เจ้าเล่ห์มาก แต่ก็รู้ขีดจำกัดของตัวเองและไม่เซ้าซี้จนน่ารำคาญ ดูเหมือนว่าจะสามารถผลักดันข้อตกลงไปสู่จุดที่เขาได้รับประโยชน์มากที่สุดได้ นี่ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถกระทำได้แน่นอน

ซ่างกวนหลงหยินก้มหน้าตอบรับด้วยความเคารพ และก่อนที่โจวเหว่ยชิงจะได้ทันตอบสนองสิ่งใด ซ่างกวนหลงหยินก็ได้พาเขาจากไปด้วยการเคลื่อนย้ายมิติอีกครั้ง

ซ่างกวนเทียนหยางกล่าวว่า “พี่รอง โปรดส่งคนไปแจ้งสาวกมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวังสวรรค์ไพศาลและหุบเขาหลงใหลของเราว่าห้ามใครดำเนินการใดๆ กับกลุ่มนักรบเฟยหลี่ โดยเฉพาะโจวเหว่ยชิง”

ซ่างกวนเทียนเยว่ชะงักไปชั่วขณะ มองไปที่พี่ใหญ่ของเขาด้วยความสงสัย

ซ่างกวนเทียนหยางกล่าวอย่างเคืองๆ “หึ จัดการตามนั้นเสีย ทำอย่างกับว่าเจ้าจะไม่ทำแบบเดียวกันหากข้าไม่บอก? คิดว่าข้าไม่รู้ใจเจ้าหรือ? แค่จากการกระทำของเจ้าเมื่อสักครู่นี้ ข้าก็บอกได้แล้วว่าเจ้าชมชอบลูกเขยน้อยเจ้าเล่ห์ของเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ หึ ทำราวกับว่าข้าจะไม่รู้ การที่เจ้ารั้งอยู่ต่อก็เพื่อช่วยเขาทั้งนั้น”

ซ่างกวนเทียนเยว่ยิ้มอย่างขัดเขินและไม่พูดจาอะไรต่ออีก จากนั้นเขาก็หมุนตัวหายท่ามกลางแสงสีทอง

การเดินทางออกจากวังสวรรค์ไพศาลเป็นเรื่องง่ายมาก เป็นอีกครั้งที่โจวเหว่ยชิงผ่านประตูมิติทั้ง 2 ไปกับซ่างกวนหลงหยิน และในไม่ช้าพวกเขาก็กลับมาที่บริเวณพื้นที่หมอกสีขาว

หลังจากออกจากวังสวรรค์ไพศาลแล้ว ซ่างกวนหลงหยินก็ตบไหล่โจวเหว่ยชิงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า “เหว่ยชิง อย่าทำให้ท่านจ้าววังทั้งสองผิดหวังในความเมตตาของพวกเขา”

โจวเหว่ยชิงยิ้มตอบและกล่าวว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วังสวรรค์ไพศาลก็จะเป็นบ้านของปิงเอ๋อร์เสมอ…”

ระหว่างคนฉลาดทั้งสอง ไม่จำเป็นต้องพูดมากเกินไป

ไม่นานซ่างกวนหลงหยินก็ได้พาโจวเหว่ยชิงไปที่ศาลาศาสตรามณียุทธ์บนเกาะมณีสวรรค์อีกครั้ง…คราวนี้พวกเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่ชั้นล่างสุด แต่กลับมุ่งหน้าไปยังชั้นบนสุดของศาลาศาสตรามณียุทธ์โดยตรง

ซ่างกวนหลงหยินกล่าวว่า “ข้าจะให้คนไปเรียกหัวหน้ากลุ่มนักรบเฟยหลี่ของเจ้ามาที่นี่ ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าของเขาน่าจะยากกว่าของเจ้า 3 เท่าเพราะต้องออกแบบเองทั้งหมด เมื่อเทียบกันส่วนของเจ้าน่าจะง่ายกว่ามาก เนื่องจากเจ้ามีแบบร่างอยู่แล้วและเราไม่ได้ขาดวัตถุดิบ ไม่ว่าในกรณีใด ทั้งหมดนี้ควรใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นข้าจะให้เวลาสมาชิกกลุ่มนักรบเฟยหลี่ทุกคนสามารถอยู่ในเกาะมณีสวรรค์ได้ในระยะนี้ ข้าจะหาคนจัดอาหารและที่พักให้พวกเจ้าด้วย ส่วนเจ้าสามารถอยู่ที่นี่ ในศาลาศาสตรามณียุทธ์นี้ได้ โดยเหล่าอาจารย์ตกลงที่จะให้เจ้ารับชมและเรียนรู้ขณะที่พวกเขาสร้างศาสตรามณียุทธ์ของเจ้าแล้ว

สำหรับอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานนั้น การออกแบบม้วนคัมภีร์และสร้างม้วนคัมภีร์ล้วนมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แต่สำหรับผู้อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับเทพเจ้า การออกแบบม้วนคัมภีร์กลับมีความสำคัญและยากที่สุด

นี่เป็นสาเหตุที่ผู้ก่อตั้งนิกายอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ของโจวเหว่ยชิงเหนื่อยล้าจนเสียชีวิตหลังจากออกแบบชุดศาสตรามณียุทธ์ในตำนานเสร็จสิ้น

ไม่ว่าในกรณีใด เนื่องจากโจวเหว่ยชิงมีแบบร่างอยู่แล้ว การสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ 3 ชิ้นจึงง่ายกว่ามาก อย่างไรก็ตาม โจวเหว่ยชิงไม่ได้บอกซ่างกวนหลงหยินว่าในการสร้างม้วนคัมภีร์ให้เขา เพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่จำเป็นและไม่ต้องใช้ถึง 10 ชิ้น สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดวัตถุดิบจำนวนมาก แต่ยังช่วยประหยัดเวลาได้มากอีกด้วย เหตุผลที่เขายังไม่ได้กล่าวถึงมัน ประการแรกเพื่อรักษาความลับของตัวเอง และประการต่อมาก็เพื่อเก็บบางอย่างไว้ในมือเพื่อต่อรองกับอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าด้วย

โจวเหว่ยชิงนั้นมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าแม้ว่าอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าเหล่านี้จะยังคงอยู่ในเกาะมณีสวรรค์ แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในวังสวรรค์ไพศาล และวังสวรรค์ไพศาลก็ไม่ได้ควบคุมพวกเขามากนัก เนื่องจากความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นแบบการร่วมมือกันมากกว่าความสัมพันธ์แบบเจ้านายและลูกน้อง ด้วยเหตุนี้ อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าเหล่านี้จึงมีสถานะที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นอิสระในเกาะมณีสวรรค์

ศาลาศาสตรามณียุทธ์ชั้นที่ 4 นั้นแตกต่างจากชั้นล่างๆ มาก ที่นี่ไม่มีห้องโถงกว้างและร้านค้า มีเพียงทางเดินทอดยาวออกไปทางเดียว ตามทางเดินมีประตูทั้งหมด 4 บานที่ดูเรียบง่ายและไร้การตกแต่งใดๆ ทั้งหมดมีทหารชุดขาว 10 คนซึ่งอายุมากกว่า 60 ปียืนเฝ้าประตูพวกนั้นอยู่

เมื่อเห็นซ่างกวนหลงหยิน ผู้คุมทั้ง 10 ก็โค้งคำนับเล็กน้อย แต่ใบหน้าของพวกเขาก็ยังคงไม่ยินดียินร้ายดังเดิม

ในบรรดาผู้คุมชุดขาว 10 คนนั้น โจวเหว่ยชิงจดจำได้ไม่กี่คน พวกเขาเป็นเหล่าจ้าวมณีสวรรค์ระดับเทวะที่รับผิดชอบเปิดประตูเข้าสู่เขตแดนมิติสะท้อนนั่นเอง กล่าวคือทหารเฝ้ายามทั้ง 10 คนที่นี่เป็นยอดฝีมือระดับมณี 9 ชุด!

แม้ว่าจะไม่มียอดฝีมือระดับราชาอยู่ในหมู่พวกเขาด้วย แต่นี่ก็เป็นถึงเกาะมณีสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น…ยังเป็นจ้าวมณีสวรรค์ระดับเทวะขั้นสูงสุดกว่า 10 คน! นั่นคือพลังประเภทไหนกันแน่? บนแผ่นดินใหญ่ แค่เพียง 10 นี้ก็สามารถบุกยึดเมืองด้วยตัวเองได้แล้ว

จ้าวมณีสวรรค์ระดับเทวะขั้นสูงสุด ยอดฝีมือที่สามารถต่อสู้กับกองพันทหารที่ผ่านการฝึกฝนและมีประสบการณ์โชกโชนได้ แม้ว่าเหล่าทหารอาจจะทำงานประสานกันได้ดี แต่หากพวกเขาไม่มีจ้าวมณีสวรรค์อยู่ด้วยเลย จ้าวมณีสวรรค์ระดับเทวะขั้นสูงสุดเหล่านี้ก็จะสามารถทำลายกองพันทั้งหมดโดยไม่มีปัญหาใดๆ

ซ่างกวนหลงหยินหันไปหาหัวหน้าผู้คุมชุดขาวและถามว่า “อาจารย์ทั้ง 3 คนอยู่ที่นี่หรือไม่?”

ชายชราพยักหน้าและพูดว่า “พวกเขาอยู่ในห้องทดลองของตนเอง”

ซ่างกวนหลงหยินกล่าวว่า “ข้าขอรบกวนพี่จี้รายงานต่อเหล่าอาจารย์ได้หรือไม่ บอกพวกเขาว่าข้าได้นำแบบร่างที่กล่าวถึงมาแล้ว”

ผู้คุมชุดขาวพยักหน้าก่อนจะหมุนตัวเข้าไปในประตูบานหนึ่ง

จากท่าทางที่ซ่างกวนหลงหยินมีต่อผู้คุมคนนั้น โจวเหว่ยชิงตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าการคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขาผิดพลาดและผู้คุมชุดสีขาวคนนี้น่าจะเป็นยอดฝีมือระดับราชา ในโลกของจ้าวมณีสวรรค์ พลังคือสถานะ ยกเว้นแต่ผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ไม่เช่นนั้นผู้ที่มีพลังต่างกันจะไม่พูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเท่าเทียม แท้จริงแล้ว…บนเกาะมณีสวรรค์แห่งนี้ วังสวรรค์ไพศาลนั้นเป็นสถานที่ที่มีเสือหมอบมังกรซ่อนโดยแท้

ใช้เวลาไม่นาน ผู้คุมระดับราชาก็เดินกลับออกมาและกล่าวว่า “อาจารย์ทั้งสามเชิญน้องซ่างกวนเข้าไปข้างใน”

“ขอบคุณมาก” จากนั้นซ่างกวนหลงหยินก็พาโจวเหว่ยชิงเดินเข้าไปในประตูบานเดียวกัน

เมื่อพวกเขาเดินเข้าประตูไป โจวเหว่ยชิงก็เห็นพื้นที่ปูด้วยหินไม่ทราบชนิด หินนั้นแวววาวและโปร่งแสงราวกับแกะสลักจากหยกขาว เมื่อเข้ามาภายใน เขาก็ได้กลิ่นแปลกประหลาด ราวกับว่าเป็นกลิ่นพืชหลายชนิดผสมผสานกัน

นี่คือห้องโถงอีกห้องที่กว้างขวางมาก โดยทั้งหมดมีขนาดเกือบ 500 ตารางเมตร ที่ใจกลางห้องโถงมีโต๊ะขนาดใหญ่กว้างเกือบ 5 เมตรและยาว 10 เมตรซึ่งเต็มไปด้วยวัตถุต่างๆ มากมายตั้งอยู่ รอบๆ ห้องโถงยังมีพืชและแร่หายากหลายประเภทเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด

ผู้ที่กำลังยืนอยู่รอบโต๊ะมีจำนวน 3 คน ดูเหมือนพวกเขาจะคุยอะไรบางอย่างและไม่มีใครเงยหน้าขึ้นมองขณะที่โจวเหว่ยชิงและซ่างกวนหลงหยินเดินเข้าไปภายใน

ซ่างกวนหลงหยินโค้งคำนับต่อทั้งสามด้วยความเคารพ จากนั้นกระซิบบอกโจวเหว่ยชิงว่า “ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกทุกอย่างเกี่ยวกับข้อตกลงของเรากับอาจารย์ทั้งสามแล้ว ตอนนี้เจ้าก็สามารถมอบแบบร่างของเจ้าให้กับอาจารย์ทั้งสามคนได้ และข้าก็ได้ส่งคนไปนำหัวหน้ากลุ่มของเจ้ามาที่นี่แล้วเช่นกัน”

“ขอบคุณขอรับท่านอาวุโส” โจวเหว่ยชิงประทับใจซ่างกวนหลงหยินอย่างมากและคำขอบคุณนี้ก็กล่าวออกมาจากใจจริง

ซ่างกวนหลงหยินถอยออกจากห้องอย่างเงียบๆ ในขณะที่โจวเหว่ยชิงก้าวไปข้างหน้าช้าๆ เขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าเป็นอย่างมากและสงสัยเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้า เมื่อเทียบกับความสุขที่ได้รับจากชุดศาสตรามณียุทธ์ในตำนาน 3 ชิ้นแล้ว โจวเหว่ยชิงกลับรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่จะได้เป็นสักขีพยานและเรียนรู้จากอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าทั้ง 3 คนนี้มากกว่า นั่นย่อมเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดที่เขาจะได้รับอย่างแท้จริง

……………………………………………………

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Status: Ongoing
นี่คือโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร อัปเดตวันละ 2 ตอนในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอมีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตาไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขามันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใครมาร่วมหัวเราะและร้องไห้ไปกับผลงานชิ้นใหม่ของ Tang Jia San Shao ผู้เขียน ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท