ปัจจุบันโจวเหว่ยชิงดูหนักแน่นและเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่กว่าเวลานั้นมาก เขารู้สึกได้ถึงแสงเยียบเย็นเป็นครั้งคราวในดวงตาของโจวเหว่ยชิง และนั่นก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง แม้ว่าดวงตาคู่นั้นจะไม่ได้จับจ้องมาที่เขาโดยตรงก็ตาม
เดิมทีหม่าฉุนคิดว่าในการก้าวผ่านไปสู่ระดับมณี 2 ชุดครั้งนี้ เขาจะสามารถปิดช่องว่างระหว่างตัวเองกับโจว เหว่ยชิงได้แล้ว อนิจจา ตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าสิ่งที่คิดไม่เป็นความจริงเลย จากแรงกดดันที่เขาสัมผัสได้จากโจวเหว่ยชิง ช่องว่างนั้นไม่ได้แคบลงเลย ทว่ามันกลับตรงกันข้าม ช่องว่างระหว่างพวกเขากลับขยายใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหนาวสั่นอยู่ในใจ ความหวาดกลัวเล็กน้อยที่มีต่อผู้นำของเขาถูกเพิ่มไปจนถึงระดับที่รู้สึกเคารพยำเกรง
โจวเหว่ยชิงยืนอยู่ที่ทางเข้าประตู และมองออกไปที่ลานเล็กๆ ด้านนอก มือของเขาไพล่หลัง ยืนเงียบๆ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่
พลังปราณสวรรค์ระดับที่ 16 หลุมดำพลังปราณของเขาหมุนอย่างเงียบๆ พลังในบรรยากาศถูกดึงดูดเข้าสู่ร่างกายของเขา ในขณะนั้นโจวเหว่ยชิงก็รู้สึกราวกับว่าเขาเป็นหนึ่งเดียวกับบรรยากาศโดยรอบ ราวกับว่าพลังของโลกเป็นส่วนหนึ่งของเขา
นี่คือความรู้สึกของผู้ครอบครองมณีระดับปรมะหรือ? โจวเหว่ยชิงคิดกับตัวเองอย่างสงสัย อย่างไรก็ตาม เมื่อจิตใจของเขาเริ่มหลุดลอย ความรู้สึกของการได้หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติก็หายไป
จู่ๆ ดวงตาของเขาก็เปิดขึ้น สายตาของเด็กหนุ่มจับจ้องไปยังจุดที่อยู่ไกลออกไป เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “หากมาถึงที่นี่แล้ว ทำไมถึงต้องซ่อนเร้นกายด้วยเล่า?”
ราวกับตอบสนองต่อคำพูดของเขา ชาย 6 คนจึงกระโดดออกมาจากทั่วทุกมุมบ้าน กลายเป็นครึ่งวงกลมล้อมรอบโจวเหว่ยชิงเอาไว้
พวกเขาทุกคนแต่งกายด้วยชุดสีดำ มีผ้าสีดำโพกปิดใบหน้า ทุกคนมองไปที่โจวเหว่ยชิงด้วยจิตสังหารชัดเจน
เมื่อได้ยินเสียงข้างนอก หม่าฉุนก็รีบวิ่งออกมา เมื่อมองผ่านแผ่นหลังของโจวเหว่ยชิงไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นๆ เข้าปอดเมื่อเห็นชายทั้ง 6 คน จริงๆ แล้วชายชุดดำทั้งหมดเป็นจ้าวมณีสวรรค์ พวกเขาอยู่ในระดับมณี 6 ชุดทั้งนั้น เห็นได้ชัดเจนจากมณียุทธ์สีบริสุทธิ์ที่หมุนรอบข้อมือขวาของพวกเขา
จ้าวมณีสวรรค์ระดับปรมะขั้นสูงสุดที่มีมณี 6 ชุด ในอาณาจักรธรรมดาๆ สิ่งนี้ถือเป็นขุมพลังที่ทุกคนต้องคำนึงถึง แต่ในเวลานี้ กองกำลังนี้กลับอยู่ตรงหน้าพวกเขาและเป้าหมายของพวกเขาก็คือโจวเหว่ยชิงอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้หม่าฉุนเคยคิดว่าโจวเหว่ยชิงพูดเกินจริงเกี่ยวกับอันตรายจึงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการคาดการณ์ของเขากลับแม่นยำเกินไป ในความเป็นจริงศัตรูของพวกเขาลงมือเร็วกว่าที่โจวเหว่ยชิงคิดและปรากฏตัวขึ้นไม่นานหลังจากที่พวกเขากลับมาถึงบ้าน
ในบรรดาชายชุดดำ 6 คนที่กำลังล้อมรอบพวกเขา คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเป็นสายเลือดที่เหลืออยู่ของอาณาจักรเกาทัณฑ์สวรรค์ โจวเหว่ยชิง?”
โจวเหว่ยชิงเม้มริมฝีปากอย่างเหยียดหยามและพูดอย่างดูถูกว่า “เจ้าเป็นขยะของอาณาจักรป่ายต้า หนูสกปรก 6 ตัวที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด?”
หัวหน้าชายชุดดำพูดอย่างเย็นชา “ส่วนเจ้าก็มีกลิ่นลมหายใจของคนใกล้ตาย”
โจวเหว่ยชิงหัวเราะอย่างเต็มที่ “ขยะอย่างเจ้าคิดว่าจะฆ่าข้าได้รึ?”
“ลงมือ!” ราตรีที่ยาวนาน ความฝันอันมากหลาย [1] ถึงอย่างไร ที่นี่ก็คืออาณาจักรเฟยหลี่และพวกเขาก็ไม่ต้องการเสี่ยงกับความล้มเหลว ด้วยคำสั่งนั้น ชายชุดดำทั้ง 6 จึงพุ่งเข้าลงมือ ตรงไปที่โจวเหว่ยชิงพร้อมๆ กัน
การกระทำแรกของโจวเหว่ยชิงไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นการเตะกวาดไปที่หน้าอกของหม่าฉุนแล้วส่งให้เขาทะยานกลับเข้าไปในห้อง เด็กหนุ่มหันหน้าไปทางยอดฝีมือระดับมณี 6 ชุดจำนวนมากตรงหน้า หม่าฉุนย่อมไม่อาจช่วยเหลือใดๆได้ และจะกลายเป็นการวิ่งเข้ามาตายโดยเปล่าประโยชน์
ชายชุดดำทั้ง 6 คนทำงานเป็นกลุ่มได้ดีมากเนื่องจากได้ร่วมมือกันมาเป็นเวลานาน ในการส่งจ้าวมณีสวรรค์ระดับปรมะขั้นสูงสุดจำนวนมากเพื่อกำราบโจวเหว่ยชิง พวกเขาตั้งสถานะของเด็กหนุ่มไว้สูงมากอย่างแท้จริง
ชายชุดดำที่อยู่ตรงกลาง 2 คนพุ่งไปข้างหน้าเพื่อตรงเข้าหาโจวเหว่ยชิง ในขณะที่อีก 2 คนกระโดดขึ้นไปบนอากาศเพื่อฟาดฟันลงมาจากด้านบน ส่วน 2 คนสุดท้ายยังคงอยู่ในระยะที่ห่างออกไปโดยมีไม้เท้าอยู่ในมือ หนึ่งในนั้นโบกไม้เท้า จากนั้นก็มีแสงสีเขียวพุ่งออกมาทางโจวเหว่ยชิง นั่นเป็นทักษะที่คุ้นเคยอย่างยิ่งสำหรับเด็กหนุ่ม เป็นทักษะที่เขาเองกักเก็บไว้เช่นกัน นั่นก็คือทักษะโซ่ตรวนวายุ ส่วนชายอีกคนก็ยื่นไม้เท้าออกมาบ้าง เปลวไฟพลันลามเลียออกมาจากปลายด้ามและลูกไฟจำนวนมากพุ่งตรงเข้าหาโจวเหว่ยชิง
การต่อสู้ระยะประชิด การต่อสู้ระยะไกล การต่อสู้กลางอากาศ ในขณะนั้นโจวเหว่ยชิงกำลังเผชิญกับการโจมตีจากทุกมุม
หากเป็นเด็กหนุ่มในอดีต เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังมากมายเช่นนี้ สัญชาตญาณของเขาจะต้องเร่งคิดแผนว่าจะหลบหนีอย่างไร ทว่าโจวเหว่ยชิงในปัจจุบันนั้นแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง พลังของเขาไม่เพียงอยู่ในระดับใหม่ยกชุดเท่านั้น แต่ความเกลียดชังที่มีต่ออาณาจักรคาลิเซและอาณาจักรป่ายต้าก็มาถึงจุดสูงสุดแล้วเช่นกัน เด็กหนุ่มจึงจะไม่ยอมถอยง่ายๆ โดยไม่ตอบโต้
เขาขยับตัวอย่างรวดเร็ว โจวเหว่ยชิงไม่ได้ถอยหนี แต่กลับก้าวขาไปข้างหน้า เด็กหนุ่มทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงใส่ศัตรู 2 คนซึ่งเน้นต่อสู้ในระยะประชิดทั้งสอง
ในช่วงเวลาต่อมา ม่านแสงบิดเบี้ยวก็ปรากฏขึ้นรอบตัวของโจวเหว่ยชิงในเวลาเดียวกันกับที่ทักษะโซ่ตรวนวายุพุ่งเข้าใส่เขาและทำให้มันสูญเสียพลังไปในทันที นั่นคือทักษะธาตุกาลเวลาอันทรงพลังของโจวเหว่ยชิง ทักษะปั่นป่วนเวลา
สำหรับชายชุดดำทั้ง 6 คน เมื่อเทียบกับคู่ต่อสู้เพียงคนเดียว พวกเขาทั้งหมดย่อมมีระดับพลังปราณที่สูงกว่า ดังนั้น ทางเลือกเดียวที่เหลือสำหรับโจวเหว่ยชิงย่อมเป็นการถอยกลับเข้าไปในบ้านเพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่จำกัดของห้องในการหลบหนี ความจริงนี่คือสิ่งที่พวกเขาคาดการณ์และวางแผนไว้เพราะกลุ่มที่ถูกส่งมาในครั้งนี้คือชาย 8 คนไม่ใช่ 6 คน! จ้าวมณีสวรรค์เหล่านี้ล้วนมาจากอาณาจักรป่ายต้า เนื่องจากการแสดงพลังที่น่าตกใจของโจวเหว่ยชิงในงานประลองมณีสวรรค์ พวกเขาจึงมีแต่ต้องฆ่าเด็กหนุ่มทิ้ง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงส่งจ้าวมณีสวรรค์ที่ทรงพลัง 8 คน โดยผู้ที่มีระดับพลังสูงที่สุดอยู่ในขั้นมณี 7 ชุด! เมื่อโจวเหว่ยชิงถอยกลับเข้าไปในบ้านและหนีออกไปอีกด้านหนึ่ง ชายชุดดำ 2 คนที่กำลังซุ่มอยู่บริเวณด้านหลังของบ้านก็พร้อมที่จะจัดการกับเขาด้วยการโจมตีปิดฉาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถฆ่าโจวเหว่ยชิงได้ทันที แต่พวกเขา 2 คนก็สามารถจับตัวเด็กหนุ่มเอาไว้ได้อย่างง่ายดายเพื่อปล่อยให้อีก 6 คนที่เหลือรุมจัดการเขาในช่วงเวลาที่สั้นที่สุด
อนิจจา สิ่งต่างๆ กลับไม่เป็นไปตามแผนของพวกเขา แม้จะเผชิญหน้ากับยอดฝีมือ 6 คน แต่โจวเหว่ยชิงกลับเลือกที่จะเผชิญหน้ากับชายชุดดำอย่างตรงไปตรงมา ใครจะคาดคิดว่าเขาจะทำเช่นนี้แทนตัวเลือกที่สมเหตุสมผลกว่า?
หยกน้ำแข็ง 4 ดวงพลันปรากฏขึ้นรอบข้อมือขวาของโจวเหว่ยชิง และเมื่อทักษะปั่นป่วนเวลาปิดกั้นทักษะโซ่ตรวนวายุเอาไว้ได้ ทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกันแล้ว
ชาย 2 คนนี้มีทักษะยุทธ์ที่ค่อนข้างน่าสนใจ คนหนึ่งเป็นประเภทความแข็งแกร่งและอีกคนเป็นประเภทความยืดหยุ่น คนทางด้านซ้ายที่มีทักษะยุทธ์ยืดหยุ่นพุ่งเข้ามาใกล้โจวเหว่ยชิง มีดสั้นในมือแต่ละข้างพุ่งเข้าหาจุดสำคัญส่วนต่างๆ ของเด็กหนุ่มทันที สำหรับชายอีกคน เขาพุ่งเข้าหาโจวเหว่ยชิงโดยเบี่ยงไหล่ลงต่ำ บริเวณไหล่ส่วนนั้นล้วนล้อมรอบไปด้วยเกราะศาสตรามณียุทธ์ที่หนาและหนัก ในเวลาเดียวกัน ชายชุดดำอีก 2 คนกลางอากาศก็ถลาลงมาที่เขาอย่างเต็มที่และปิดกั้นทางหนีไว้ทุกทาง
ทันใดนั้น ร่างกายที่ใหญ่โตและแข็งแกร่งของโจวเหว่ยชิงก็ปูดโปนขึ้นมาในพริบตาขณะที่เขาเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่าง การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดคือบริเวณแขนและขาของเขา บริเวณแขนเสื้อและกางเกงของเขาเกือบจะปริแยกออกจากกัน เผยให้เห็นลายเสือดำบนผิวหนังและกล้ามเนื้อที่ดูน่าหวาดกลัวของเจ้าตัว
ในขณะนี้ เมื่อประสบการณ์การต่อสู้ของโจวเหว่ยชิงรวมเข้ากับทักษะอันดับต้นๆ ของเขา เด็กหนุ่มก็ได้แสดงให้เห็นถึงพลังที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้
ทักษะคำสาปลงทัณฑ์ส่งผลต่อชายชุดดำที่ใช้ไหล่พุ่งเข้าใส่เขาทันที ในเวลาเดียวกัน มือขวาของโจวเหว่ยชิงก็ฟาดออกไปที่อีกฝ่ายด้วย
ทว่าเป้าหมายของโจวเหว่ยชิงก็ทรงพลังอย่างแท้จริง มณีธาตุของเขาคือธาตุดิน และเมื่อโจวเหว่ยชิงปล่อยทักษะคำสาปลงทัณฑ์ใส่เขา ชายหนุ่มก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยทักษะผิวหนังหุ้มหิน
อนิจจา โจวเหว่ยชิงก็ยังเป็นโจวเหว่ยชิง และในช่วงเวลาถัดมา แสงสีทองเหลือบดำที่คุ้นตาของเกราะป้องกันเทพเจ้าก็พุ่งออกมาล้อมรอบตัวเขาทันที
จู่ๆ ลูกไฟที่พุ่งเข้ามาจากศัตรูในระยะไกลดวงอื่นๆ ก็ปะทะเข้ากับเกราะป้องกันเทพเจ้าอย่างไร้ประสิทธิภาพ นั่นเป็นเพราะความแตกต่างระหว่างระดับพลังปราณของพวกเขาไม่เพียงพอจะทำให้บอลอัคคีทะลวงผ่านเข้าไปได้ เสี้ยว วินาทีสั้นๆ นั้นก็เพียงพอที่จะตัดสินชะตากรรมของชายชุดสีดำผู้มีทักษะยุทธ์ประเภทความแข็งแกร่งแล้ว
………………………………..
[1] ราตรีที่ยาวนาน ความฝันอันมากหลาย夜长梦多 เป็นการเปรียบเปรยว่า ถ้าเรื่องราวยังยืดเยื้อต่อไป อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ดีได้ โดยทั่วไปหมายความว่ายิ่งล่าช้านานเท่าไหร่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหา / สิ่งที่ผิดพลาดมากขึ้น