Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 114-3 พลังของสาวน้อยจอมมึน (3)

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

โจว​เหว่​ย​ชิงถอน​ลมหายใจ​ที่​เขา​กลั้น​เอาไว้​ก่อนหน้านี้​ หลังจาก​พัก​ฟื้นฟู​พลัง​ปราณ​เป็นเวลา​สั้น​ๆ ในที่สุด​หลุมดำ​พลัง​ปราณ​ของ​เขา​ก็​สามารถ​ขับ​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ภายนอก​ส่วนใหญ่​ออก​ไป​ได้​และ​กลับมา​หมุน​วน​ตามปกติ​อีกครั้ง​ อย่างไรก็ตาม​ สิ่งนี้​ก็​กำลัง​เตือน​เขา​ว่า​แม้แต่​ทักษะ​กลืน​กิน​อัน​แสน​ทรงพลัง​ก็​ไม่สามารถ​อยู่ยงคงกระพัน​ได้​ตลอดไป​และ​ทุกอย่าง​ก็​มีขีดจำกัด​ของ​มัน​อยู่​เสมอ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เมื่อ​เขา​เผชิญหน้า​กับ​ศัตรู​หลาย​คน​หรือ​ยอด​ฝีมือ​ที่​ทรงพลัง​มาก​ๆ เขา​หาก​ไม่ระมัดระวัง​ให้​ดี​ นั่น​อาจ​หมาย​ถึงชีวิต​ของ​ตัวเอง​ก็​เป็นได้​

“แค่​บาดเจ็บ​เล็กน้อย​ ข้า​สบายดี​” ด้วย​สายเลือด​ของ​พยัคฆ์​เทพ​อสูร​มืด​ อัตรา​การฟื้นฟู​ของ​เขา​จึงแข็งแกร่ง​มาก​ และ​เนื่องจาก​อาการ​บาดเจ็บ​ก็​ไม่ได้​ร้ายแรง​เกินไป​ พักผ่อน​เพียง​ไม่กี่​วัน​ก็​เพียง​พอให้​เขา​ฟื้นตัว​กลับคืน​มาได้​เต็ม​ที่แล้ว​

หลิน​เทียน​อ้าว​ขมวดคิ้ว​แน่น​ก่อน​จะพูดว่า​ “ป่าย​ต้า?”​

โจว​เหว่​ย​ชิงพยักหน้า​แล้ว​เงียบ​สักครู่​ก่อน​จะพูด​อย่าง​เย็นชา​ “อาจจะ​”

ที่​ด้าน​ข้าง​ สี่น้อย​พูด​อย่าง​สงสัย​ “นอกจาก​พวกเขา​แล้ว​ยัง​จะมีใคร​อีก​?”

หลิน​เทียน​อ้าว​ถอนหายใจ​และ​ส่าย​หัว​เบา​ๆ แต่​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​

โจว​เหว่​ย​ชิงมอง​ไป​ที่​อีก​ฝ่าย​ ริมฝีปาก​ของ​เขา​กระตุก​ขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​เย็นชา​ขณะที่​พูดว่า​ “ท่าน​ก็​คิด​เหมือนกัน​สิ นะ​…”

หลิน​เทียน​อ้าว​พยักหน้า​อย่าง​เคร่งขรึม​ “ไม่เช่นนั้น​ข้า​ก็​คง​ไม่อาจ​คิด​หา​เหตุผล​อธิบาย​สิ่งที่​เกิดขึ้น​ใน​วันนี้​ได้​แล้ว​ หยุ​น​ลี่​บอก​ข้า​แล้ว​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​เจ้าใน​โรงเรียน​ทหาร​เฟยห​ลี่​ แม้ข้า​ไม่อยาก​จะเชื่อ​ว่า​นี่​เป็น​เรื่องจริง​ แต่​ข้า​ก็​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​สงสัย​เขา​ เฮ้อ​…ถึงอย่างไร​เขา​ก็​เคย​ผ่าน​ความเป็นความตาย​มากับ​เรา​ และ​ข้า​ก็​ไม่อาจ​เข้าใจ​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ได้​เลย​”

โจว​เหว่​ย​ชิงยักไหล่​และ​กล่าวว่า​ “ไม่เป็นไร​ ทุกคน​ย่อม​มีความคิด​และ​ทางเดิน​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ท้ายที่สุด​เขา​ก็​เป็นตัวแทน​ของ​เหล่า​ชนชั้นสูง​ และ​สำหรับ​เขา​ เรา​ทุกคน​ล้วน​เป็น​เพียง​สามัญชน​ ที่​สำคัญ​กว่า​นั้น​คือ​หาก​เขา​ทำ​เพียง​เพราะ​เห็นแก่​อาณาจักร​เฟยห​ลี่​ สิ่งที่​เขา​เลือก​ก็​ย่อม​ไม่ผิด​อะไร​ ส่วน​ความ​อิจฉาริษยา​มีส่วน​ใน​การตัดสินใจ​ของ​เขา​หรือไม่​…ข้า​ก็​ยาก​ที่จะ​พูด​ เป่า​เปา​ที่รัก​ของ​ข้า​ บางที​ครั้ง​ต่อไป​ที่​พบกัน​ พวกเรา​อาจจะ​ไม่ใช่สหาย​กัน​อีกต่อไป​แล้ว​ นอกจากนี้​ยัง​จะเป็น​ศัตรู​กัน​อีกด้วย​”

ไม่ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงหรือ​หลิน​เทียน​อ้าว​ ทั้งคู่​ต่าง​ก็​สงสัย​เย่​เป่า​เปา​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​ข่าว​ที่​เย่​เป่า​เปา​นำ​กลับมา​ราย​ งาน​ล่วงหน้า​ ราชวงศ์​เฟยห​ลี่​จะรู้​ได้​อย่างไร​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงทำให้​หุบเขา​อเวจี​สีเลือด​บัน​ดาลโทสะ​ระหว่าง​งาน​ประลอง​มณีสวรรค์​ หรือ​กระทั่ง​ข่าว​อื่นๆ​เกี่ยวกับ​หุบเขา​หลงใหล​และ​วัง​สวรรค์​ไพศาล​ เป็น​เพียง​เพราะ​ข่าว​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงช่วย​อาณาจักร​วั่น​โซ่ว​ต่อต้าน​วัง​สวรรค์​ไพศาล​และ​หุบเขา​หลงใหล​นั้น​เอง​ที่​ทำให้​อาณาจักร​เฟยห​ลี่​ทำตัว​ไร้เหตุผล​และ​ขับไล่​เขา​ออกจาก​อาณาจักร​ แม้ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงจะช่วย​พวกเขา​ให้​ได้รับ​ชัยชนะ​ใน​งาน​ประลอง​มณีสวรรค์​ก็ตาม​

ยิ่งไปกว่านั้น​ โจว​เหว่​ย​ชิงและ​คนอื่นๆ​เพิ่งจะ​กลับ​มาถึงที่นี่​ แต่​เพียงแค่​กลับ​เข้าไป​ใน​บ้าน​ของ​ตัวเอง​ พวกเขา​ก็​ถูก​จู่โจมทันที​ นั่น​หมายความว่า​อย่างไร​? แม้ว่า​ชาย​ใน​ชุด​ดำ​จะมาจาก​อาณาจักร​ป่าย​ต้า​จริงๆ​ แต่​การ​ที่​พวกเขา​จะสามารถ​มาถึงที่นี่​ได้​อย่าง​ถูกต้อง​เหมาะเจาะ​เช่นนี้​ นั่น​อาจ​หมายความว่า​พวกเขา​ต้อง​ได้รับ​ข่าว​เกี่ยวกับ​ที่อยู่​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงมาก่อน​ล่วงหน้า​…และ​ก็​มีเพียง​ไม่กี่​คน​เท่านั้น​ที่​สามารถ​ช่วย​พวกเขา​ได้​

นอกจาก​เย่​เป่า​เปา​ก็​แทบจะ​ไม่มีคำอธิบาย​อื่นๆ​ อีกแล้ว​ ไม่ว่า​ชาย​ชุด​ดำ​เหล่านี้​จะมาจาก​อาณาจักร​ป่าย​ต้า​หรือ​เป็น​กองกำลัง​ของ​อัครมหาเสนาบดี​ นั่น​ก็​ไม่สำคัญ​สำหรับ​พวกเขา​อีกต่อไป​

หลิน​เทียน​อ้าว​ถามโจว​เหว่​ย​ชิง “พวกเรา​จะทำ​อย่างไร​ต่อไป​? แผน​ของ​เจ้าเป็น​อย่างไร​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าวว่า​ “เรา​จะออกเดินทาง​ต่อ​ใน​คืนนี้​ อย่าง​น้อย​ราชวงศ์​เฟยห​ลี่​และ​พวก​ขุนนาง​ก็​ไม่มีแผน​จะสังหาร​ข้า​ พวกเขา​ย่อม​ไม่ห้าม​ให้​พวกเรา​ออกจาก​เมือง​แน่​ พวกเรา​ทั้งหมด​จะจากไป​ใน​ตอนกลางคืน​ แต่​ข้า​ต้อง​รอ​กลุ่ม​รุ่นพี่​จาก​โรงเรียน​ของ​ข้า​ก่อน​ กำลังคน​ที่​เพิ่ม​เข้ามา​คือ​ความ​แข็งแกร่ง​ที่​เพิ่มขึ้น​ พวกเขา​มีความสำคัญ​อย่างยิ่ง​ต่อ​ความก้าวหน้า​ในอนาคต​ของ​เรา​”

ในขณะที่​พวกเขา​กำลัง​พูด​กัน​นั้น​เอง​ จู่ๆ ทุกคน​ก็​ถูก​ขัดจังหวะ​ด้วย​น้ำเสียง​โกรธเกรี้ยว​อย่าง​ฉับพลัน​ “หม่า​ฉุน​! เจ้าสารเลว​! เจ้าอยู่​ที่นี่​จริงๆ​!!”

*ตูม​* เกิด​เสียงดัง​อื้ออึง​ ทุกคน​จึงจ้อง​ไป​ยัง​ที่มา​ของ​เสียง​อย่าง​สับสน​

ภาพ​ที่​เข้ามา​ทักทาย​สายตา​พวกเขา​คือ​ร่าง​อัน​ใหญ่โต​ของ​หม่า​ฉุน​ที่​กำลัง​ถูก​อู่​ห​ยา​จับ​ตรึง​ด้วย​แขน​ข้างเดียว​ก่อน​จะกด​เข้ากับ​กำแพง​

ในแง่​ของ​ขนาด​และ​รูปร่าง​ หม่า​ฉุน​มีขนาด​ใหญ่โต​และ​บึกบึน​กว่า​อู่​ห​ยา​ อย่างไรก็ตาม​ ในแง่​ของ​ความ​แข็งแกร่ง​และ​พลัง​ เขา​ยังอยู่​ห่างไกล​จาก​หญิงสาว​มาก​ทีเดียว​ หลัง​ถูก​อู่​ห​ยา​ผลัก​ชน​กำแพง​ ชายหนุ่ม​ก็​ดูจะ​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​ ใบหน้า​ของ​หม่า​ฉุน​กลายเป็น​สีเหลือง​ซีด​ และ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ราวกับว่า​อยาก​จะร้องไห้​แต่​ร้อง​ไม่ออก​

โจว​เหว่​ย​ชิงชะงัก​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ ใน​วินาที​ถัดมา​ รอยยิ้ม​ซุกซน​ที่​ห่างหาย​ไป​นาน​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ เด็กหนุ่ม​พูด​อย่าง​ชั่วร้าย​ “เดี๋ยวก่อน​อู่​ห​ยา​”

อู่​ห​ยา​หันหน้า​ไป​มอง​โจว​เหว่​ย​ชิง สำหรับ​ชายหนุ่ม​ที่​อายุ​ยัง​น้อย​แต่​ความ​แข็งแกร่ง​กลับ​พัฒนา​ขึ้น​พรวดพราด​จน​แซงหน้า​เธอ​ไป​ได้​ เพื่อน​ที่​แสน​น่ากลัว​คน​นี้​จึงได้รับ​ความเคารพ​จาก​อู่​ห​ยา​อย่าง​แท้จริง​ นอกจากนี้​หญิงสาว​ยัง​ปฏิบัติ​ต่อ​โจว​เหว่​ย​ชิงใน​ฐานะ​สหาย​ที่​แสน​ล้ำค่า​ของ​ตน​เสมอ​ ด้วยเหตุนี้​ เธอ​จึงคลาย​มือ​ที่​กำ​แน่น​ออก​ชั่วขณะ​ แต่​ก็​ยัง​ไม่ได้​ปล่อย​หม่า​ฉุน​ออก​ไป​ซะทีเดียว​

โจว​เหว่​ย​ชิงจ้องมอง​อู่​ห​ยา​ จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​หม่า​ฉุน​ซึ่งกำลัง​ร้องไห้​โอดครวญ​ “หัวหน้า​ เห็นแก่​ความ​เป็น​พี่น้อง​ของ​เรา​ โปรด​ช่วย​ข้า​ด้วย​!”

โจว​เหว่​ย​ชิงลูบ​หลัง​อู่​ห​ยา​และ​พูดว่า​ “อู่​ห​ยา​ อย่า​บอก​นะ​ว่า​หม่า​ฉุน​เป็น​คู่หมั้น​ที่​หนี​จาก​งานแต่ง​ของ​เจ้า?”

อู่​ห​ยา​พยักหน้า​อย่าง​รุนแรง​และ​ขบ​ฟัน​แน่น​ขณะที่​เธอ​พูดว่า​ “นอกจาก​ไอ้​สารเลว​นี่​แล้ว​จะมีใคร​อีก​ล่ะ​? เดิมที​ครอบครัว​ของ​เรา​ได้​จัดเตรียม​งานแต่งงาน​ของ​พวกเรา​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ แต่​เมื่อ​เขา​พบ​ข้า​ เขา​ก็​หนี​ไป​โดย​ไม่บอกกล่าว​กับ​ใคร​ ทั้ง​ยัง​ไม่มีผู้ใด​ล่วงรู้​ว่า​เขา​หาย​ไป​ไหน​ ข้า​ใช้เวลา​ค้นหา​สักพัก​ก่อน​จะพบ​ร่องรอย​ว่า​เขา​อยู่​ใน​เมือง​เฟยห​ลี่​ วันนี้​ในที่สุด​ข้า​ก็ได้​เจอ​ไอ้​สารเลว​คน​นี้​แล้ว​ หม่า​ฉุน​ พูด​มา ทำไม​เจ้าถึงหนี​ไป​? เป็น​เพราะ​ข้า​ขี้เหร่​หรือ​อย่างไร​!!?”

แม้จะเผชิญหน้า​กับ​ศัตรู​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ อู่​ห​ยา​ก็​สามารถ​ประจันหน้า​กับ​พวกเขา​ได้​อย่าง​กล้าหาญ​โดย​ไม่เปลี่ยน​สีหน้า​ อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​คู่หมั้น​ที่​หนี​จาก​งานแต่ง​ของ​ตัวเอง​ไป​ ใบหน้า​ของ​เธอ​ก็​พลัน​แดงก่ำ​ด้วย​ความโกรธ​

เมื่อ​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​อู่​ห​ยา​ใน​สภาพ​เช่นนี้​ หม่า​ฉุน​จึงทำได้​เพียงแค่​จ้องมอง​อีก​ฝ่าย​อย่าง​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​และ​ไม่รู้​จะเอ่ย​อะไร​ออกมา​ดี​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เมื่อ​เขา​มอง​ไป​ยัง​คนอื่นๆ​ และ​ตระหนัก​ได้​ว่า​ไม่มีใคร​ยืน​ข้าง​เขา​เลย​ ชายหนุ่ม​จึงทำได้​เพียงแค่​นิ่งเงียบ​อย่าง​หดหู่​

โต​ว​โต​ว​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ โจว​เหว่​ย​ชิงมาตลอด​ และ​ในขณะนั้น​ หญิงสาว​ก็​พลัน​กระพริบตา​และ​พูดว่า​ “อาจารย์​เคย​บอก​ไว้​ก่อนหน้านี้​ว่า​ไม่มีใคร​สามารถ​ตัดสิน​ความงาม​จาก​รูปลักษณ์ภายนอก​ได้​ นอกจากนั้น​ ท่าน​ยัง​บอ​กว่า​ความงาม​ใน​หัวใจ​เป็น​สิ่งสำคัญ​ที่สุด​ ข้า​สัมผัส​ได้​ว่า​หัวใจ​ข้างใน​ของ​พี่​อู่​หยาง​ด​งามมาก​”

โจว​เหว่​ย​ชิงเหลือบมอง​โต​ว​โต​ว​และ​แอบ​คิด​กับ​ตัวเอง​ ผู้หญิง​คน​นี้​…เป็นไปได้​ไหม​ว่า​อู่​ห​ยา​เคย​ซื้อใจ​นาง​ด้วย​ขา​แกะ​ย่าง​ระหว่างทาง​กลับ​ นาง​จึงได้​พูด​อย่างนั้น​ออกมา​?

โจว​เหว่​ย​ชิงตบหลัง​อู่​ห​ยา​เบา​ๆ อีก​ครั้งก่อน​จะชี้ไป​ยัง​ห้อง​ขนาดใหญ่​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​และ​พูดว่า​ “อย่า​ทำ​รุนแรง​นัก​ล่ะ​ ถึงอย่างไร​เขา​ก็​อยู่​ใน​มือ​เจ้าแล้ว​ บาง​เรื่อง​เจ้าก็​ต้อง​ระบาย​ออกมา​บ้าง​ ไม่ว่า​เจ้าทั้งสอง​คน​จะลงเอย​กัน​หรือไม่​ ทว่า​ก็​มีคน​หนึ่ง​ต้อง​ชดใช้​ความผิด​ของ​ตนเอง​ ไป​เถิด​ เจ้าไม่จำเป็นต้อง​ไว้หน้า​ข้า​หรอก​”

หม่า​ฉุน​มอง​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงด้วย​สายตา​ที่​น่าสงสาร​ราวกับ​ต้องการ​จะพูด​อะไร​บางอย่าง​ แต่ทว่า​เมื่อ​เขา​เห็น​ดวงตา​ที่​เต็มไปด้วย​น้ำตา​ของ​อู่​ห​ยา​ ชายหนุ่ม​ก็​ทำได้​เพียง​อึกอัก​พูด​อะไร​ไม่ออก​ ในขณะนั้น​ จู่ๆ ชายหนุ่ม​ก็​รู้สึก​คัน​ยิบ​ที่​หู​และ​น้ำเสียง​แผ่วเบา​ก็​ดัง​ขึ้น​ใน​หู​ของ​เขา​ เบา​จน​แทบ​ฟังไม่ออก​ นั่น​ไม่ใช่เสียง​ของ​หัวหน้า​ของ​เขา​ โจว​เหว่​ย​ชิงหรอก​หรือ​?

ถ้าเหตุการณ์​นี้​เกิดขึ้น​ใน​อดีต​ โจว​เหว่​ย​ชิงคงจะ​ไม่สนใจ​หม่า​ฉุน​ ถ้าเขา​ไม่ปล่อย​ให้​อู่​ห​ยา​ทุบตี​อีก​ฝ่าย​จน​เขา​ตาย​ไป​ครึ่งหนึ่ง​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​คงจะ​ไม่อภัย​ให้​ตัวเอง​ สหาย​คน​นั้น​หนี​จาก​งานแต่งงาน​ บังคับ​ให้​คู่หมั้น​ของ​ตน​ต้อง​ออก​ตามหา​มาเป็นเวลา​เนิ่นนาน​ เขา​คือ​นิยาม​ของ​คำ​ว่า​ ‘ตัวปัญหา​’ จริงๆ​ หาก​ไม่ต้องการ​แต่งงาน​กับ​ใคร​ เขา​ก็​แค่​พูด​ออก​ไป​ ทำไม​ต้อง​หนี​ไป​แบบ​นั้น​ด้วย​?

อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​ไม่กี่​นาที​ที่ผ่านมา​หม่า​ฉุน​กลับมา​ยืน​อยู่​ข้าง​เขา​ใน​ช่วงเวลา​ที่​เลวร้าย​ที่สุด​ ออกโรง​ปกป้อง​เขา​แม้ว่า​นั่น​จะเป็นอันตราย​ต่อ​ตัวเอง​ก็ตาม​ ใน​ช่วงเวลา​นั้น​ โจว​เหว่​ย​ชิงได้คิด​ปฏิบัติ​กับ​เขา​ใน​ฐานะ​พี่ชาย​คน​หนึ่ง​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​ ดังนั้น​เขา​จึงไม่สามารถ​ข้าม​แม่น้ำ​รื้อ​สะพาน​ได้​ และ​การ​ช่วยเหลือ​หม่า​ฉุน​เพียง​เล็กๆ น้อยๆ​ ก็​เป็น​สิ่งที่​เขา​สมควรจะ​ต้อง​ทำ​

ดังนั้น​ สำหรับ​เรื่อง​ระหว่าง​เขา​กับ​อู่​ห​ยา​ โจว​เหว่​ย​ชิงจึงตัดสินใจ​จะช่วย​เขา​เพียง​ครั้ง​เดียว​ ในอนาคต​ไม่ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​ระหว่าง​พวกเขา​ นั่น​ก็​ขึ้นอยู่กับ​ทั้งสอง​คน​แล้ว​ โจว​เหว่​ย​ชิงจะไม่ยุ่งเกี่ยว​อีกต่อไป​

หม่า​ฉุน​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​น่าสงสาร​กับ​อู่​ห​ยา​ว่า​ “ปล่อย​ข้า​ก่อน​ นี่​เป็นเรื่อง​ระหว่าง​เรา​สอง​คน​สามีภรรยา​ อย่า​ให้​คนอื่น​มอง​พวกเรา​เป็นเรื่อง​ขำขัน​ยาม​บ่าย​เลย​ พวกเรา​ไป​ที่​ห้อง​และ​พูดคุย​กัน​จะดีกว่า​ เจ้าสามารถ​ทำ​สิ่งที่​เจ้าต้องการ​กับ​ข้า​ได้​ทุกอย่าง​ แต่​ถึงอย่างไร​ข้า​ก็​เป็น​ลูกผู้ชาย​ อย่าง​น้อย​เจ้าก็​ควรจะ​เหลือ​หน้า​ไว้​ให้​ข้า​บ้าง​”

คำพูด​ที่​หม่า​ฉุน​เพิ่ง​เอ่ย​ออก​ไป​เมื่อกี้นี้​เป็นไป​ตามที่​โจว​เหว่​ย​ชิงสอน​เขา​

อู่​ห​ยา​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความโกรธ​ “เจ้ายัง​รู้จัก​คำ​ว่า​ลูกผู้ชาย​อยู่​อีก​หรือ​? ใคร​เป็น​สามีภรรยา​กับ​เจ้าไม่ทราบ​!” แม้ว่า​หญิงสาว​จะพูด​แบบ​นั้น​ แต่​สุดท้าย​ เธอ​ก็​ยัง​ปล่อย​แขน​หม่า​ฉุน​และ​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​อย่าง​รีบร้อน​

หม่า​ฉุน​มอง​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงซึ่งกำลัง​มอง​กลับ​อย่าง​มีเลศนัย​ เขา​ไม่เหลือ​อะไร​จะให้​เสีย​อีกแล้ว​ ชายหนุ่ม​รู้ดี​ว่า​ตอนนี้​เขา​ไม่สามารถ​ซ่อนตัว​ได้​อีกต่อไป​ และ​เขา​ก็​ยก​นิ้วโป้ง​ให้​โจว​เหว่​ย​ชิงอย่าง​ลับ​ๆ ก่อนที่จะ​เดิน​ตามหลัง​อู่​ห​ยา​ไป​ ทว่า​ในขณะที่​เขา​เดินผ่าน​โจว​เหว่​ย​ชิง เขา​ก็​ได้รับ​ของ​บางอย่าง​อย่าง​รวดเร็ว​

โจว​เหว่​ย​ชิงคิด​กับ​ตัวเอง​ พี่ชาย​ ข้า​ช่วย​เจ้าเท่า​ที่จะ​ทำได้​แล้ว​ ตอนนี้​เจ้าก็​อธิษฐาน​ให้​ตัวเอง​ก็แล้วกัน​

เหตุผล​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงคิด​แผน​ให้​หม่า​ฉุน​ก่อนหน้านี้​เป็น​เพราะ​เขา​รู้จัก​อู่​ห​ยา​เป็น​อย่าง​ดี​ แม้ว่า​หญิงสาว​ผู้​นี้​จะดู​กล้าหาญ​และ​ตรงไปตรงมา​ แต่​ในความเป็นจริง​ เธอ​มีไหวพริบ​และ​เฉียบแหลม​เป็นอย่างมาก​ สายตา​ของ​อู่​ห​ยา​แสน​จะคมกริบ​ การ​แสดงละคร​เป็น​หมู​กิน​เสือ​ของ​เธอ​นั้น​ดีกว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงเสีย​ด้วยซ้ำ​ การ​ไว้หน้า​ผู้ชาย​ของ​ตนเอง​เป็น​สิ่งที่​สำคัญ​สำหรับ​ผู้หญิง​ทุกคน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​สำหรับ​ผู้หญิง​ที่​ฉลาด​เช่น​อู่​ห​ยา​ ถึงอย่างไร​พวกเขา​ก็​ยัง​ไม่ได้​ตัดขาด​ความ​สัมพันธ์กัน​อย่าง​แท้จริง​และ​ยัง​ถือว่า​เป็น​คู่หมั้น​กัน​อยู่​

หม่า​ฉุน​เดินตาม​อู่​ห​ยา​เข้าไป​ใน​ห้อง​ก่อน​จะหันไป​ปิดประตู​ บังคับ​ตัวเอง​ให้​ดู​สงบ​เยือกเย็น​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​ทำได้​

เมื่อ​เข้ามา​ใน​ห้อง​แล้ว​ อู่​ห​ยา​ก็​หมุนตัว​กลับ​ไป​อย่าง​กะทันหัน​ จ้องมอง​เขา​ด้วย​แววตา​เยียบ​เย็น​

หม่า​ฉุน​ถอนหายใจ​ และ​ชายหนุ่ม​ผู้​สูง 2 เมตร​คน​นี้​ก็​ก้าว​ไปหา​อู่​ห​ยา​ก่อน​จะถอนหายใจ​อีกครั้ง​และ​พูดว่า​ “อู่​ห​ยา​ ข้า​รู้​ว่า​ตัวเอง​ได้​ทำผิด​ต่อ​เจ้าอย่าง​ไม่อาจ​ให้อภัย​ได้​ และ​แม้ว่า​ข้า​จะขอโทษ​กี่​ครั้ง​ มัน​ก็​คงจะ​ไม่พอ​สำหรับ​เจ้า ข้า​ไม่มีอะไร​จะพูด​อีกต่อไป​แล้ว​ ลงมือ​เถอะ​ หาก​เจ้าสามารถ​ระบาย​ความรู้สึก​ของ​เจ้าได้​ ข้า​ก็​จะยอมรับ​มัน​เอาไว้​เอง​ ข้า​ทำให้​เจ้าผิดหวัง​แล้ว​” ในขณะที่​พูด​อย่างนั้น​ เขา​ก็​หมอบลง​ต่อหน้า​อู่​ห​ยา​ ยก​แขน​ไป​รอง​ใต้​ศีรษะ​อยู่​ใน​ท่า​ยอมแพ้​ ราวกับ​ยอมรับ​การ​โจมตี​ที่​กำลังจะ​มาถึงโดย​ดุษฎี​

นี่​เป็น​แผน​ขั้น​ตอนที่​ 2 ซึ่งโจว​เหว่​ย​ชิงสอน​หม่า​ฉุน​ก่อน​จะตาม​เข้ามา​ การ​เผชิญหน้า​กับ​หญิงสาว​ที่​ชาญฉลาด​เช่น​อู่​ห​ยา​ ภาษาดอกไม้​ กลอุบาย​ หรือ​การ​โกหก​ใดๆ​ ย่อม​ไร้ผล​ ดังนั้น​การ​ยอมรับผิด​และ​ขอโทษ​ตั้งแต่​ครั้งแรก​ที่​เป็นไปได้​ย่อม​เป็น​วิธี​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​การ​ช่วย​ผ่อนหนักเป็นเบา​ นับตั้งแต่​แผน​ขั้นแรก​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงได้ผล​ ความ​เชื่อใจ​ที่​หม่า​ฉุน​มีต่อ​เขา​ก็​ยิ่ง​เพิ่มมากขึ้น​

นับตั้งแต่​ที่​คู่หมั้น​คน​นี้​หนี​ไป​ก็​อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​อู่​ห​ยา​เกลียด​เขา​มาก​ อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​ร่าง​สูง 2 เมตร​ของ​เขา​ก้ม​หมอบลง​ต่อหน้า​ ปล่อย​ให้​เธอ​ทุบตี​และ​ดุด่า​เขา​ตามที่​ต้องการ​ หัวใจ​ของ​อู่​ห​ยา​ก็​อ่อน​ยวบ​ลง​ เขา​ตัว​ใหญ่​มากเกินไป​ และ​ถ้าเธอ​ทุบตี​เขา​ให้​บาดเจ็บ​ได้​จริงๆ​ เขา​จะเผชิญหน้า​กับ​โจว​เหว่​ย​ชิงในอนาคต​ได้​อย่างไร​?

สมาชิก​ของ​เผ่า​อีกา​ทอง​มีความภักดี​และ​แน่วแน่​เป็น​อย่างยิ่ง​ โดยเฉพาะ​ใน​เรื่อง​ความรัก​ เมื่อ​เธอ​ได้​ตกลง​ทำสัญญา​ว่า​จะแต่งงาน​กับ​หม่า​ฉุน​ หญิงสาว​ก็​คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ของ​เขา​แล้ว​ แม้ว่า​พวกเขา​จะแทบจะ​ไม่เคย​พูดจา​กัน​เลย​สักครั้ง​ แต่​ความเชื่อ​ที่​ฝังราก​ลึก​เช่นนี้​ย่อม​ไม่ใช่สิ่งที่​เปลี่ยนแปลง​ได้​ง่ายๆ​ สิ่งนี้​ยัง​ทำให้​อู่​ห​ยา​คิด​แทน​ผู้ชาย​ของ​เธอ​เสมอ​ แม้ว่า​เธอ​จะโกรธ​เขา​มาก​ก็ตาม​

ด้วยเหตุนี้​ ในที่สุด​เธอ​จึงรั้ง​ตัวเอง​ไว้​และ​ไม่ได้​ลงมือ​ใดๆ​ ก่อน​จะพูด​ด้วย​ความโกรธ​ “หม่า​ฉุน​ พูด​มา เจ้าต้องการ​อะไร​? ถ้าเจ้าไม่ต้องการ​แต่งงาน​กับ​ข้า​ เรา​จะกลับ​ไป​ที่​เผ่า​เพื่อ​สะสางธุระ​ของ​เรา​ให้​เสร็จสิ้น​ จากนั้น​พวกเรา​ก็​สามารถ​หักล้าง​ข้อตกลง​ได้​ ทุบตี​เจ้าไป​ก็​มีแต่​จะทำให้​มือ​ข้า​สกปรก​”

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Status: Ongoing
นี่คือโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร อัปเดตวันละ 2 ตอนในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอมีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตาไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขามันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใครมาร่วมหัวเราะและร้องไห้ไปกับผลงานชิ้นใหม่ของ Tang Jia San Shao ผู้เขียน ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท