หลิงเซียวเปิดประตูห้องของเขาและกำลังจะเข้าไป
ซูเหยากล่าวออกมาราวกับเสียงกระซิบ “หลิงเซียว นายให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของนายกับฉันได้ไหม”
“หมายเลขโทรศัพท์มือถือของฉัน?” หลิงเซียวถามกลับ
ซูเหยาหน้าแดงเธอไม่ได้พูดอะไรและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
จางรุ่ยที่อยู่ถัดจากซูเหยาทำเป็นมองไม่เห็นและกล่าวว่า “ทำไมนายถึงได้น่าเบื่อนัก ถ้านายต้องการที่จะให้ ก็ให้ไปซะเลยสิ”
หลิงเซียวรู้สึกไม่มีความสุขทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของจางรุ่ยและกล่าวออกทันทีว่า”ประสาท! โทรศัพท์มือถือของผม! คุณไม่ได้ไปซื้อหมายเลขมาให้กับผมสักหน่อย”
ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็เดินเข้าไปในห้องและปิดประตูด้วยเสียงดังปัง
ใบหน้าของซูเหยาและจางรุ่ยเต็มไปด้วยเส้นสีดำ ขณะที่มองไปยังประตูอย่างตกตะลึง
แก้มอันแดงก่ำบนใบหน้าของซูเหยาพลันหายไปในทันที
“นี่มันปัญญาอ่อนจริงๆ!” ซูเหยากล่าวออกมาอย่างโกรธเคือง
จางรุ่ยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ เธอกล่าวออกมาทันทีว่า “ลืมไปเถอะ อย่าโกรธเลย นี่คือผู้ชายที่สร้างจากเหล็ก จิตใจของเขาถึงได้แข็งกระด้างแบบนี้”
“ฉันไม่เชื่อว่ารูปลักษณ์และร่างกายของฉันจะไม่สามารถทำให้คนโง่คนนี้คุกเข่าอยู่ใต้กระโปรงของฉันได้!” ซูเหยากล่าวด้วยความโมโห
จางรุ่ยเหลือบมองเธอและกล่าวด้วยความสงสัยว่า”เหยาเหยาเธอคงไม่ได้ชอบหลิงเซียวเข้าแล้วจริงๆใช่ไหม”
ใบหน้าของซูเหยาพลันแดงก่ำขึ้นมาทันที “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ!”
จากนั้นภายใต้การจ้องมองแปลกๆจากจางรุ่ย เธอก็วิ่งหนีไป พร้อมกับหลิงเซียวกที่ลับมามีสติอีกครั้ง
“ต้องการหมายเลขโทรศัพท์ของฉันงั้นเหรอ? สาวน้อยเธอแอบชอบฉันอยู่หรือเปล่า?” หลิงเซียวพึมพำ
ในไม่ช้าวันเปิดรอบคัดเลือกของการแข่งขันแลกเปลี่ยนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายก็มาถึง
ศูนย์แข่งขันศิลปะป้องกันตัวเทียนฉวน คือที่รวมตัวของนักเรียนชั้นมัธยมปลายชั้นนำจากทุกอำเภอของจังหวัด
จำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมดเกือบ 600 คน และทั้ง 600 คนเหล่านี้จะแข่งขันกันที่นี่เพื่อคัดเลือกให้เหลือเพียง 50 คนเท่านั้น
เหตุใดคนจึงมีผู้คนมากมายขนาดนี้ เมืองหนานเฉิงที่อ่อนแอ จากทั้งสามโรงเรียนรวมกันมีเพียง 15 คนเท่านั้น
พื้นที่ในเมืองอื่นๆดีกว่าหนานเฉิงมาก ดังนั้นจึงมีคนเข้าร่วมมากมาย
“ท่านผู้ชม ทุกท่านที่อยู่ทางหน้าจอทีวี อรุณสวัสดิ์ ตอนนี้พวกท่านกำลังรับชมพิธีเปิดการแข่งขันแลกเปลี่ยนมัธยมศึกษาตอนปลายแห่งชาติ พิธีเปิดรอบคัดเลือกเริ่มต้นจากจังหวัดฉวนโจ…” พิธีกรกล่าวไม่หยุด
เมื่อมีทีมเข้าสู่สนามประลอง เสียงเชียร์ก็พลันดังขึ้นพร้อมกัน
ทุกครั้งที่มีทีมเข้าสู่สนาม พิธีกรจะสัมภาษณ์กัปตัน
ด้วยการปรากฏตัวของทีม บรรยากาศภายในงานจึงมาถึงจุดสูงสุด
“สวัสดี หวังหมิง ความนิยมของคุณสูงมาก คุณคาดหวังอะไรสำหรับการประลองเเลกเปลี่ยนในครั้งนี้” พิธีกรถาม
หวังหมิงยิ้มและโบกมือให้กับผู้ชม ปฏิกิริยาของผู้ชมดูมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นพลเมืองของเมืองเทียนฉวน ดังนั้นหวังหมิงที่หล่อเหลาและมีภูมิหลังทางครอบครัวที่โดดเด่น จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เขายังเป็นนักรบจิตวิญญาณระดับ 3 ที่มีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งอีกด้วย
ผู้เข้าแข่งขันประเภทนี้เป็นที่นิยมอย่างมากจากพลเมืองของเมืองเทียนฉวน
“ความคาดหวัง? ฉันหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี” หวางหมิงกล่าว
พิธีกรรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและถามต่อ “แค่นั้นเองหรือ”
“แน่นอน ฉันยังหวังว่าจะได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจ เช่น ผู้เข้าแข่งขันที่ชื่อหลิงเซียว ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้แข่งขันกับเขา” หวังหมิงกล่าว
จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันอีกสองสามประโยค และพิธีกรก็สัมภาษณ์คนอื่นต่อไป
ไม่นานหลิงเซียวและคนอื่นๆก็มายืนอยู่ในพื้นที่สัมภาษณ์
“ผู้เข้าแข่งขันท่านนี้ คุณมีอะไรจะพูดไหม” พิธีกรสัมภาษณ์อย่างตั้งใจ
เมื่อหลิงเซียวเห็นท่าทีของพิธีกร บนใบหน้าของเขาพลันปรากฏรอยยิ้มแปลกๆขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นรอยยิ้มของหลิงเซียว เซียหยู่ และคนอื่นๆต่างพากันหัวใจสั่นไหวทันที หลิงเซียวคงจะไม่สร้างเรื่องอะไรขึ้นมาอีกใช่ไหม