ตอนที่ 61 ทักษะการปรุงยาระดับต่ำ
หลิงเซียวกล่าวด้วยสีหน้าที่เศร้าโศกและโกรธเคือง “ทุกวันฉันต้องตื่นขึ้นในวิลล่าเดี่ยวที่มีพื้นที่กว่าพันตารางเมตร พวกคุณเข้าใจความรู้สึกเหงานี้ไหม?”
“นักเรียนคนอื่นๆ อาศัยอยู่ในโรงเรียนหรือไม่ก็เดินหรือนั่งรถบัสมาโรงเรียน แต่ฉันได้แต่ขับลมโบร์กีนี พวกคุณเข้าใจความรู้สึกอึดอัดนั้นไหม?”
“ไม่ว่าฉันจะทําอะไร ไม่ว่าจะดีหรือร้าย คนรอบข้างก็จะชื่นชมในความยิ่งใหญ่ของฉันเสมอ พวกคุณเข้าใจความรู้สึกที่มีแต่ความไม่จริงใจนั้นไหม?”
“เงินค่าขนมทุกเดือนอาจเป็นความพยายามตลอดทั้งชีวิตของคนธรรมดาทั่วไป พวกคุณเข้าใจความรู้สึกของการไม่มีเป้าหมายในชีวิตหรือไม่?”
“แม้ว่าฉันจพพยายามมากแค่ไหน แต่บางคนก็มักจะบอกว่าฉันเป็นลูกเศรษฐีที่พึ่งพาแต่เงินของพ่อแม่ พวกคุณเข้าใจความรู้สึกที่ไร้อํานาจนั้นไหม?”
“คนรวยจะต้องมีความสุข เพราะซื้อทุกอย่างที่พวกคุณต้องการได้งั้นหรือ?”
เมื่อมาถึงจุดนี้ ดวงตาของหลิงเซียวพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงและเริ่มเอ่อคลอด้วยน้ำตา
เมื่อดูจากท่าทางของหลิงเซียวแล้ว ดูเหมือนว่าน้ำตาของเขาจะพร้อมหลั่งออกมาได้ทุกเมื่อ
ในเวลานี้หลิงเซียวรู้สึกว่าเขาถูก มาร์ลอน แบรนโด และ ทอม แฮงส์ เข้าชิงรางวัลออสการ์จะเป็นของใครไปได้ถ้าไม่ใช่ของเขา!
บรรยากาศในห้องเรียนพลันเปลี่ยนไปในทันที
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่านักเรียนก็เปลี่ยนทิศทาง
“เฮ้อ ชีวิตของคนรวยไม่จําเป็นต้องมีความสุขเสมอไป”
“ก็จริง ชีวิตแบบนั้นน่าจะสูญเสียแรงจูงใจไปจนหมดใช่ไหม?”
“พวกเราไม่ควรถูกบดบังความสามารถและความพยายามโดยบรรพบุรุษของเรา แต่หลิงเซียว…”
“การจะได้อะไรมามันก็มีราคาที่ต้องจ่าย บางทีนี่อาจเป็นราคาของมัน”
“…”
หลิงเซียวกล่าวออกมาอย่างแช่มช้าว่า “ความสุขของคนรวยคือสิ่งที่คนจนไม่สามารถจินตนาการได้”
“บางสิ่งบางอย่างไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน เพราะมันต้องใช้เงินเป็นจํานวนมาก”
เสียงซุบซิบนินทาทั้งหมดพลันหายไป ทุกคนเบิกตากว้างและจ้องมองไปที่หลิงเซียว นายคือปีศาจเหรอ? !
เมื่อหลิงเซียวเห็นดังนั้นก็กล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสาว่า “มีอะไรเหรอ? มันไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ? ”
อาจารย์และนักเรียนไม่สามารถโต้แย้งได้ เพราะหลิงเซียวพูดถูกทั้งหมด แล้วท่าทางที่เศร้าโศกและโกรธเคืองก่อนหน้านี้ของนายมันคืออะไร!
พวกเขาสัมผัสได้ถึงความโหดร้ายของสังคมนี้อย่างสุดซึ้ง และยังสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังอีกด้วย!
อาจารย์ปรุงยายังคงบรรยายบทเรียนนี้ต่อในบรรยากาศที่แปลกประหลาดนี้ บทเรียนที่เขาบรรยายคือการสกัดกลั่นเม็ดยาลมปราณโลหิตขั้นต้น
“ติ้ง! ระบบตรวจพบทักษะการปรุงยาที่ไม่รู้จัก โฮสต์ต้องการเรียนรู้หรือไม่? ”
หลิงเซียวกําลังรอช่วงเวลานี้อยู่ เขาตอบทันที “เรียนรู้!”
“ตั้ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่เชี่ยวชาญทักษะการปรุงยาระดับต่ำ “หัวตัน” ระดับความชํานาญในปัจจุบันคือระดับเริ่มต้น”
หลิงเซียว เบ้ปาก ชื่อของทักษะการปรุงยาระดับต่ำนี้ช่างตรงไปตรงมาจริงๆ
ยี่สิบนาทีต่อมา อาจารย์ปรุงยาก็สอนเสร็จและกล่าวว่า “ต่อไปพวกเธอจะต้องฝึกฝีมือด้วยตัวเอง จําไว้ให้ดีว่าต้องระมัดระวังให้มาก!”
กลุ่มนักเรียนพยักหน้า และหลังจากนั้นก็มีคนมองไปที่หลิงเซียวอย่างมีเจตนาร้าย เห็นได้ชัดว่าพวกเขากําลังรอดูการแสดงของหลิงเซียว
พวกเขาเรียนทฤษฎีมาหลายครั้งแล้ว แม้ว่าจํานวนครั้งที่พวกเขาปฏิบัติจริงจะไม่มากนัก แต่เมื่อเทียบกับหลิงเซียวแล้ว ไม่ใช่ว่าความสามารถของพวกเขาจะบดขยี้หลิงเซียวจนไม่เห็นฝุ่นเลยหรอกหรือ
“การปรุงยา ไม่ใช่ว่าใครๆก็สามารถเรียนรู้ได้”
“บางคนควรจะรู้จักประเมินความสามารถของตัวเองบ้าง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนุกดีนะ”
“เย่ปิง เธอควรอยู่ให้ห่างจากเขา ถ้าเตาปรุงยาของเขาระเบิดขึ้นมา มันอาจส่งผลกระทบต่อการปรุงยาของเธอได้”
“คุณชายใหญ่หลิงเซียว ให้เราดูว่าท่านมีความสามารถอะไร”
“….”
เหล่านักเรียนหัวเราะอย่างสนุกสนาน พวกเขาไม่คิดว่าหลิงเซียวจะสามารถสกัดกลั่นเม็ดยาลมปรานโลหิตขั้นต้นได้
เม็ดยาลมปราณโลหิตขั้นต้นเป็นยาระดับเริ่มต้นไม่ผิด แต่คนที่ไม่มีพื้นฐานใดๆ และเพิ่งเข้าเรียนได้แค่ 20 นาที จะปรุงยานี้ได้อย่างไร