ตอนที่ 90 ความอยาก
หลิงเซียวได้ยินดังนั้นก็แสยะยิ้มและกล่าวว่า “นี่เป็นวัสดุเดียวกับดาบถึงของฉัน มันเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆจากผู้ขาย”
หลังจากพูดจบหลิงเซียวก็คิดจะเริ่มจัดการกับหมูขนเหล็กต่อ
ซูเหยาและคนอื่นๆมองไปที่อาวุธในมือของพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่มีดทําครัวใน อของหลิงเซียว
เมื่อนําอาวุธของพวกเขาเอามารวมกัน แม้แต่มีดทําครัวของหลิงเซียวก็ยังเทียบไม่ได้!
นี่ทําให้จิตใจของพวกเขาแทบระเบิดออก พวกเขาล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นนักรบจิตวิญญาณ ทําไมช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนมันถึงได้มากกว่าช่องว่างในพลังต่อสู้ได้?
เมื่อเทียบกับหลิงเซียวแล้วพวกเธอก็เป็นแค่กลุ่มขอทานเท่านั้น!
คนดูในห้องถ่ายทอดสดก็แทบบ้าเช่นกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าหลิงเซียวจะใส่ของพวกนี้ไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลัง
“หลิงเซียว ที่จริงแล้วเขามาตั้งแคมป์หรือไง”
“ดูนั่นสิ หมูขนเหล็กอยู่ตรงนั้น หลังจากที่พวกเราฆ่ามันแล้ว พวกเราก็สามารถกินมันได้!”
” หั่นหมูขนเหล็กออกเป็นชิ้นๆ ชุบด้วยแป้งผสมไข่ แล้วนําไปทอดในกระทะจนเป็นสีเหลืองทอง กลิ่นของมันสามารถทําให้เด็กข้างบ้านต่างร้องไห้ด้วยความโหยหาได้เลย!”
“233333…… หลิงเซียวหล่อมากจริงๆ แต่หล่อเพียงสามวิแรกเท่านั้น!”
”เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เขายังดูหล่อเหลาแต่ตอนนี้เขากลายเป็นนักกินไปแล้ว โอ้เทพธิดาการกระทําของเขาทําให้หัวใจของฉันรับไม่ได้!”
หลังจากหลิงเซียวคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เรียกให้พวกเขามาช่วยกันลากหมูขนเหล็กออกไปจากที่ นี่สักสองกิโลเมตร
จากคําพูดของหลิงเซียว หมูที่ฆ่าด้วยความสามารถของเขา ทําไมเขาจะต้องแบ่งปันกับทีมอื่นด้วย?
เมื่อคนอื่นๆได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็คิดว่าเป็นความจริง
นี่คือเนื้อของสัตว์วิญญาณ ไม่มีใครที่นี่เคยกินมาก่อนเลยสักคน
หลังจากที่พวกเขาช่วยกันลากหมูขนเหล็กออกไปกว่าสองกิโลเมตร ซูเหยาและคนอื่นๆ ก็เหนื่อยจนหายใจแทบไม่ออก
หลิงเซียวเห็นคนพวกนั้นไม่ขยับเขยื้อน จึงกล่าวว่า “ขยับตัวกันหน่อย รีบไปหาก้อนหินมาตั้งหม้อและไปหาฟื้นมาด้วย ฉันซื้อวัตถุดิบหม้อไฟมา!”
ซูเหยาและคนอื่นๆมองหน้ากันไปมา ในที่สุดพวกเธอก็ทําตามที่หลิงเซียวพูดอย่างไม่เต็มใจ
เพื่อเนื้อของหมูขนเหล็ก ต่อให้บุกน้ําลุยไฟก็ต้องทํา!
20 นาทีต่อมาหม้อไฟก็เริ่มเดือด
กลิ่นหอมของวัตถุดิบในหม้อไฟผสมผสานกับกลิ่นหอมของหมูขนเหล็ก ทําให้กลิ่นหอมลอยอบอวลอยู่ในอากาศ
ซูเหยาและคนอื่นๆมองไปที่หม้อไฟอย่างกระตือรือร้น พร้อมกับกลืนน้ําลาย
” แย่แล้ว!” หลิงเซียวตบหน้าผากเขา
ซูเหยาและคนอื่นๆ แสดงสีหน้าที่โง่งมออกมา เกิดอะไรขึ้น?
“ลืมเอาต้นหอมขิงกระเทียมมาด้วย ไม่รู้ว่ามันจะคาวเกินไปหรือเปล่า” หลิงเซียวมองไปยังเพื่อนร่วมทีม
หลิงเซียวคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสริมอีกประโยคหนึ่งว่า “ถ้างั้นหม้อใบนี้ให้ฉันกินคนเดียว ดีกว่า หากเนื้อมันคาวเกินไป ก็คงจะไม่อร่อยนัก”
ซูเหยาและคนอื่นๆแทบร่ําไห้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจในตอนไปหาฟื้น แต่พวกเขาก็ยังฝืนสังขารไปอยู่ดี ทําไมนายถึงได้ทํากับพวกเราอย่างนี้?
อีกอย่าง ดูจากท่าทางของนายแล้ว เห็นได้ชัดว่านายอยากกินเองคนเดียวไม่ใช่หรือไง? นายหาข้อแก้ตัวที่มันดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ?
หม้อไฟหมูที่มีกลิ่นหอมโชยมาแตะจมูกแบบนี้ มันจะมีกลิ่นคาวได้ยังไง?
หลิว รั่วเหยียน รีบพูดทันที “ฉันไม่กลัวกลิ่นคาว!”
“ฉันเองก็คิดว่าฉันรับได้เหมือนกัน” ซูเหยารีบพูดขึ้นมา
เมื่อชายหนุ่มทั้งสองเห็นดังนั้นก็อยากจะพูดบ้าง แต่หลิงเซียวกลับเปิดปากพูดขึ้นมาก่อน “เอาละ งั้นหม้อใบนี้ให้เราลองสามคนก่อน พวกนายสองคนรอไปก่อน”
หัวสนามหญ้าและนิ้วกลมมองหน้ากันอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ําตา
หลังจากนั้นหลิงเซียวและอีกสองคนก็เริ่มกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนชายหนุ่มสองคนนั้นทําได้เพียงมองอย่างหิวโหย ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอยาก
อะไรคือทุกข์? นี่ต่างหากที่เรียกว่าทุกข์!
หลิงเซียวและอีกสองคนกินกันจนคราบน้ํามันเต็มปาก ชายหนุ่มทั้งสองคนทําได้เพียงกลืนน้ํา ลายเท่านั้น!