ตอนที่ 107 สัตว์วิญญาณเหยียบเมฆา
หวังไฉนําหน้าส่วนหลิงเซียวและคนอื่นๆเดินวิ่งตามหลังหวังไฉ
ห้าคนและหนึ่งหมาป่าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงสิบนาที่พวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทาง
“อาวู้ววว นายท่าน ถ้าไม่ใช่เพราะข้าสู้มันไม่ได้ ข้าคงจะกินเจ้าวัวตัวนี้ไปนานแล้ว!” น้ําลายของหวังไฉ่เกือบแทบจะหยดลงสู่พื้น
สายตาของมันจับจ้องไปที่สิ่งมีชีวิตประเภทวัวที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร
เมื่อหลิงเซียวและคนอื่นๆเห็นสัตว์วิญญาณก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
หลิว รั่วเหยียน พูดช้าๆว่า “สัตว์วิญญาณเหยียบเมฆาดูคล้ายวัว รูปร่างใหญ่กว่าวัวทั่วไป เขาคู่หนึ่งของมันมีพลังทําลายล้างที่น่าตกใจ และพลังป้องกันของมันก็สูงไม่แพ้กัน”
“แขนขาของมันแข็งแกร่ง เมื่อพุ่งเข้าไปหามัน การหลบหนีของมันรวดเร็วมากราวกับว่ามันกําลังบินอยู่ด้วย เหตุนี้มันจึงได้รับชื่อ สัตว์วิญญาณเหยียบเมฆา ดูแล้วสัตว์วิญญาณตัวนี้น่าจะอยู่ในระดับห้าหรือหก”
ใบหน้าของซูเหยาและคนอื่นๆจริงจังเป็นอย่างมาก พวกเธอจําเป็นต้องระมัดระวังอย่างมากกับสัตว์วิญญาณเช่นนี้
บางที่หลิงเซียวอาจจะสามารถเผชิญหน้ากับมันได้ แต่พวกเธอทําไม่ได้ เพราะความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งนั้นกว้างเกินไป
หากไม่ระวังก็อาจถูกฆ่าโดยสัตว์วิญญาณเหยียบเมฆาได้ในทันที
“คราวนี้พวกเธออยากกินอย่างไรดีล่ะ? สเต็กย่างดีไหม?” หลิงเซียวตาเป็นประกายขณะกล่าว
ซูเหยาและคนอื่นๆมองหน้ากันและไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เรากําลังพูดเรื่องสําคัญกันอยู่ นายช่วยจริงจังกับเรื่องนี้หน่อยไม่ได้หรือ?
ยังไม่ทันเริ่มการต่อสู้เลย ก็คิดที่จะกินแล้ว!
คนดูในห้องถ่ายทอดสดกําลังคิดเมนูอาหารอยู่
“ฉันว่าเนื้อต้มอร่อยมาก!”
“กระดูกคาวบอยทอดหอมๆ, เนื้อย่างมันฝรั่ง, เนื้อต้นหอม, เนื้อยี่หร่า, เนื้อผัด”
“ว้าว พี่ชายเม้นต์บน คุณเป็นปีศาจจริงๆ น้ําลายของฉันแทบจะไหลออกมาอยู่แล้ว”
“หยุดพูดได้แล้ว! หยุดพูดได้แล้ว! ท้องของฉันร้องแล้วเนี่ย”
ไม่นานหลิงเซียวก็คิดแผนออก
เขาเปิดปากและกล่าวว่า “ไม่ว่าพลังป้องกันของมันจะสูงแค่ไหนหรือวิ่งหนี้ได้รวดเร็วแค่ไหน ฉันจะเผชิญหน้ากับมันและตรึงมันไว้ด้วยพล็กสมุทร”
หวังไฉรับผิดชอบการโจมตีระยะใกล์ ซูเหยาและ หลิว รัวเหยียน ใช้พลังจิตวิญญาณเพื่อก่อกวนจากระยะไกล
“เฉาผิง และ หยวนมู่ ทั้งสองคนมีหน้าที่เฝ้าระวัง เมื่อมีคนหรือสัตว์วิญญาณเข้ามาใกล้ พวกนายจะต้องส่งสัญญาณทันที
เฉาผิงที่หลิงเซี่ยวพูดถึงคือชายหัวสนามหญ้า ส่วนหยวนมู่คือชายหัวกลม
ซูเหยาและคนอื่นๆพยักหน้า ความแข็งแกร่งของพวกเธอยังด้อยกว่าเล็กน้อย จึงได้แต่จัดการเช่นนี้เท่านั้น
“ไปกันเถอะ!” เมื่อหลิงเซียวออกคําสั่ง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทันที
ส่วนหลิงเซียวและหวังไฉพุ่งเข้าหาสัตว์วิญญาณเหยียบเมฆา
สัตว์วิญญาณเหยียบเมฆาที่เดิมที่ยังเดินเตร็ดเตร่อยู่นั้นตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
เพียงเสี้ยววินาทีมันก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่กําลังใกล้เข้ามา
เมื่อมันเห็นหวังไฉ จมูกของวัวก็ร้อนขึ้นมาทันที
หวังไฉคือสัตว์วิญญาณที่เคยยั่วโมโหเจ้าสัตว์ร้ายเหยียบเมฆตัวนี้มาก่อน
แม้ว่าหวังไฉจะด้อยกว่าสัตว์วิญญาณเมฆา แต่ความเร็วของมันนั้นเหนือกว่า
แต่ก่อนหวังไฉมักจะก่อกวนและจากไปทันที มันไม่เคยรอให้สัตว์วิญญาณเหยียบเมฆาพุ่งเข้าใส่มันมาก่อน
ดวงดาวัวคู่หนึ่งแดงก๋าทันที มันยกกีบวัวขึ้น และวิ่งไปทางหวังไฉ
ส่วนหลิงเซียวถูกสัตว์วิญญาณเหยียบเมฆาเมินเฉย เพราะมันสามารถรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของหลิงเชียว ที่เป็นเพียงนักรบจิตวิญญาณระดับสี่เท่านั้น
ปั้มบี้ม!
สัตว์วิญญาณเหยียบเมฆายกเท้าขึ้นกระทุบพื้น ดินจํานวนนับไม่ถ้วนถูกพาบินขึ้นสู่อากาศ
มันเป็นราวกับรถถังที่วิ่งเร็ว มันสามารถเหยียบสิ่งมีชีวิตทั้งหมดให้กลายเป็นเนื้อสับได้!
หลิงเซียวไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาถือดาบถังไว้ในมือและตะโกนอย่างเย็นชา “พลิกสมุทร!”
พลังจิตวิญญาณกลายเป็นหอกนับร้อยเล่มพุ่งออกไป!
โฮกกก!
เสียงคํารามของวัวเหยียบเมฆาสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งผืนฟ้าและปฐพี พลังจิตวิญญาณพลันกลายเป็นคลื่นเสียง ทําลายหอกยาวกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
เมื่อหลิงเซียวและคนอื่นๆเห็นฉากนี้ สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนเป็นจริงจัง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีปัญหาแล้ว