จอมนางข้ามพิภพ บทที่25 ซื่อจื่อเป็นที่รักในหัวใจของข้า
หยุนถิงเหลือบไปมองหน้าประตู หญิงสาวชุดชมพูเดินเข้ามา กระโปรงผ้าโปร่งสีเขียวอ่อนปักด้วยดอกโบตั๋นสีแดงขนาดใหญ่ และเข็มขัดผ้าไหมด้ายทองผูกรอบเอวของนาง ทำให้รูปร่างของนางโค้งมนงดงามได้สัดส่วน
สายตามีเสน่ห์ โครงหน้าน่าหลงใหล ระหว่างคิ้วมีความเย่อหยิ่ง ในตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นกำลังมองมาที่นางอย่าเหยียดหยาม
หยุนถิงเลิกคิ้วขึ้น: “เยว่เอ๋อร์ ผู้หญิงคนนี้ ทำไมถึงดูคุ้นหน้าจัง?”
“คุณหนู นางคือนางงามลั่วที่หลีอ๋องรักที่สุดเจ้าค่ะ” เยว่เอ๋อร์ตอบเสียงเบา
“โลกนี้ช่างกลมจริงๆเลยนะ” หยุนถิงกวาดตามอง
นางงามลั่วเดินเข้ามาด้วยความโกรธ: “หน้าตาขี้เหร่ ไม่คู่ควรกับการใช้ของแพงหรอกนะ เจ้ายังมีหน้ามาใช้อีก!”
เมื่อคืนนางงามลั่วไม่ได้ปรนนิบัติหลีอ๋อง โดนหลีอ๋องด่าจนไม่มีชิ้นดี กลางคืนดึกดื่นก็กลับห้องตัวเองอย่างหดหู่ ในวันที่สองก็โดนข้ารับใช้ทั้งจวนหลีอ๋องนินทา หัวเราะเยาะนาง
นางงามลั่วโกรธมากอยู่แล้ว พอเห็นหยุนถิงก็เข้ามาระบายความโกรธทันที
เมื่อคืนนางงามลั่วไม่ได้ออกมา จึงไม่ได้ยินเรื่องที่จวินซื่อจื่อปกป้องหยุนถิง แล้วสั่งสอนองค์ชายสี่ ไม่งั้นตอนนี้นางคงไม่กล้าทำแบบนี้
หยุนถิงไม่โกรธ แล้วมองไปที่นาง: “ข้าก็ต้องมีหน้าอยู่แล้วสิ หรือจะให้เหมือนกับเจ้า คอยเฝ้าผู้ชาย ตอนผู้ชายรักก็บอกว่าเจ้าเป็นที่รักในใจ พอไม่รักเจ้าแล้ว เจ้าก็เป็นได้แค่ขยะ ขนาดถือรองเท้ายังไม่คู่ควรเลย ดูท่าทางเจ้าโกรธขนาดนี้ หรือหลีอ๋องนกเขาไม่ขัน ก็เลยใส่อารมณ์ที่เจ้าแทน?”
พอพูดออกไป ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกันหมด
หลีอ๋องนกเขาไม่ขัน เป็นเรื่องจริงเหรอ นี่เป็นข่าวที่อื้อฉาวที่สุดในแคว้นต้าเยียนแล้วล่ะ
นางงามลั่วถูกพูดแทงใจดำ สีหน้าก็แย่มาก: “หยุนถิง เจ้ากล้าแช่งหลีอ๋องนกเขาไม่ขันงั้นเหรอ รอข้ากลับไปบอกหลีอ๋อง ให้หลีอ๋องมาจัดการเจ้า”
“เหอะ ข้ากลัวจังเลย เจ้ารีบไปเลยนะ หลีอ๋องเป็นแค่เศษขี้ดินในสายตาข้าเท่านั้น ข้าจะกลัวเขางั้นเหรอ ทุกคนต่างก็รู้ว่าเจ้าเป็นสาวที่หลีอ๋องรักที่สุด หากผู้หญิงโกรธขนาดนี้มักจะเกิดจากการที่ไม่พอใจกับความอยาก หลีอ๋องไม่ได้สนองความอยากของเจ้าเหรอ หรือเขาไม่ได้รักเจ้าแล้ว?” หยุนถิงตั้งใจถาม
สีหน้าของนางงามลั่วก็แย่ลงกว่าเดิม มองค้อนอย่างโกรธแค้น: “ยัยผู้หญิงขี้เหร่ ยังไงข้าก็เป็นผู้หญิงที่หลีอ๋องรัก และในคืนที่เจ้าแต่งงานกับหลีอ๋องก็รังเกียจจนไม่แตะต้องเจ้า เจ้าก็เป็นแค่ผู้หญิงที่หลีอ๋องทิ้งไปก็เท่านั้น
ตอนนี้ขึ้นเตียงของซื่อจื่อได้ เจ้าคิดว่าจะได้เป็นหงส์เลยหรือไง อย่าฝันไปหน่อยเลย ซื่อจื่อมีฐานะตำแหน่งที่ส่งสูงแต่ก็เป็นแค่คนป่วยออดแอด ชีวิตสั้น หมอมีชื่อเสียงก็ยังรักษาไม่ได้ ข้าว่าเขาคงจะมีชีวิตไม่ถึงปีด้วยซ้ำ ไม่แน่อาจจะตายพรุ่งนี้เลยก็ได้” นางงามลั่วกัดฟันพูด
หยุนถิงสีหน้าเย็นชา สายตากวาดมองไปอย่างแหลมคม ยื่นมือไปตบใบหน้าซ้ายขวาของนางงามลั่วอย่างแรง
“กรี๊ด!” นางงามลั่วกรีดร้อง เจ็บแก้มสองข้างมาก: “หยุนถิง เจ้ากล้าตบข้างั้นเหรอ!”
“เจ้าด่าว่าข้ายังไงก็ได้ แต่หากเจ้าไม่เคารพซื่อจื่อ ข้ายอมไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้ซื่อจื่อเป็นสามีของข้า เป็นฟ้าของข้า เป็นที่รักในดวงใจของข้า ข้าจะไม่ยอมให้คนอื่นมาดูถูกเหยียดหยามเขาได้” หยุนถิงตะคอกอย่างโมโห
ตั้งแต่ที่นางงามลั่วแต่งเข้าจวนหลีอ๋อง ก็ได้รับความรักมาตลอด ไม่เคยน้อยใจหรือถูกรังแกขนาดนี้มาก่อน
“ยัยขี้เหร่ เจ้ากล้าตบข้างั้นเรอะ ข้าจะฆ่าเจ้า!” นางงามลั่วกระโจนเข้าไป
แต่ไม่รอนางเข้าใกล้หยุนถิง ก็ถูกหยุนถิงเตะออกไปไกล นางกระเด็นไปชนกันชั้นวางสินค้า ล้มลงพื้นอย่างแรง ของบนชั้นสินค้าก็ตกลงมาหมด และตกลงบนตัวของนางงามลั่วอย่างแรง
ครีมบำรุงผิวเครื่องสำอางมากมายตกลงพื้น สาดไปบนตัวของนางงามลั่วทั้งหมด ท่าทางของนางก็เหมือนตกลงไปในแป้งสีชมพู น่าตลกมาก
ทุกคนหัวเราะเสียงดัง นางงามลั่วหยิ่งผยองจองหองเพราะความรักของหลีอ๋อง ตอนนี้ถูกหยุนถิงจัดการ ทุกคนก็รู้สึกสะใจมาก
นางงามลั่วอยากจะฆ่าหยุนถิงให้ตายทั้งเป็น วันนี้นางถูกเหยียดหยามแบบนี้ นางจะไม่ยอมปล่อยหยุนถิงไปง่ายๆเด็ดขาด
“ยังกล้ามองค้อนข้าอีก ทำไม ไม่พอใจหรือไง?” หยุนถิงเลิกคิ้วถาม
“ถึงเจ้าจะตีข้าจนตาย ข้าก็จะพูด ซื่อจื่อโชคร้ายทั้งชีวิต และเจ้าก็เป็นแค่ตัวซวย พวกเจ้าสองคนก็เหมือนคนอาภัพมาเจอกัน ถึงแม้เจ้าจะแต่งงานกับซื่อจื่อ แต่เจ้าก็เป็นแค่ตัวซวย ไม่แน่วันไหนจะทำให้ซื่อจื่อต้องตายไปด้วย……” นางงามลั่วพูดอย่างโกรธแค้น
คนที่มองดูรอบข้างต่างก็พากันพูดว่านางงามลั่วจะต้องบ้าไปแล้วแน่ กล้าแช่งซื่อจื่อแบบนี้ได้ยังไง รนหาที่ตายจริงๆ
“เจ้ารนหาที่ตายเองนะ” หยุนถิงแสยะยิ้มมุมปากประชด เดินเข้าไปแล้วหยิบเข็มเงินออกมาจากเส้นผมของตัวเอง แล้วฝังลงไปยังจุดของนางงามลั่ว
นางงามที่เกลียดจนจะบ้าตาย ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา หัวเราะเสียงดังมาก หัวเราะจนน้ำตาไหลออกมา ก็ยังหัวเราะอยู่
ทุกคนต่างพากันสูดหายใจซี๊ด ต่างก็มองไปยังหยุนถิงอย่างหวาดกลัว ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรลงไปกันนะ
“เถ้าแก่ ตอนนี้เอาสินค้าที่แพงที่สุดในร้านขายให้ข้าได้หรือยัง” หยุนถิงพูด
เถ้าแก่ที่อยู่ข้างๆรู้ว่าหยุนถิงโหดแค่ไหน เขาตกใจจนรีบยื่นกล่องกำมะหยี่ออกไปอย่างเคารพ: “คุณหนูหยุน สินค้าที่ดีที่สุดของร้านเราอยู่ที่นี่ หากคุณหนูหยุนไม่รังเกียจ ก็รับไปเถิดขอรับ ข้าไม่เก็บเงิน”
ทุกคนต่างพากันอิจฉาไม่ไหว นั่นเป็นของที่ดีที่สุดในร้านเลยนะ เถ้าแก่ใจกว้างเกินไปแล้วไหม
“ไม่ให้เงินได้ยังไงกัน วันนี้ข้าออกมา ซื่อจื่อให้เงินข้ามาตั้งเยอะ ให้ข้าซื้อของที่อยากได้ ไม่อยากประหยัด อะไรที่ควรจ่ายก็ต้องจ่าย ซื่อจื่อของข้ามีเงินเหลือเฟือ” หยุนถิงพูดแล้วก็ตั้งใจเอาเงินออกมา แล้วยื่นออกไปหนึ่งใบ
เถ้าแก่ไม่คิดว่าคุณหนูหยุนจะเป็นงานขนาดนี้ เขารีบรับเงินมา: “ขอบพระคุณคุณหนูหยุนมากขอรับ”
“เทียบกับคุณหนูหยุนแล้ว ข้าชอบให้คนอื่นเรียกข้าว่าจวินฮูหยินมากกว่านะ เงินที่เหลือไม่ต้องทอนแล้วล่ะ ผู้หญิงในร้านมีเยอะแยะ ถือว่าเป็นเงินเล็กๆน้อยๆให้ทุกคนแล้วกัน ทุกคนที่ซื้อของ เจ้าดูว่าจะแจกเครื่องสำอางอะไรได้บ้าง นอกจากผู้หญิงคนนั้น” หยุนถิงเหลือบมองนางงามลั่วที่อยู่ตรงพื้น
“ขอรับ จวินฮูหยินใจกว้างขนาดนี้ ข้าขอบคุณฮูหยินแทนทุกคนด้วยขอรับ” เถ้าแก่พูดประจบ
ผู้หญิงคนอื่นอึ้งกันหมด ไม่คิดว่าหยุนถิงจะใจกว้างขนาดนี้ ของในร้านนี้ก็ไม่ถูกเลย เครื่องสำอางธรรมดายังต้องใช้เงินสิบตำลึง แพงจะตายชัก
ผู้คนมากมายเดินเข้ามาดู แต่ก็ไม่คิดที่จะซื้อ ผู้หญิงล้วนแต่มีใจรักสวยรักงามทั้งนั้น แค่ดูก็อารมณ์ดีแล้ว
พอได้ยินหยุนถิงพูดแบบนี้ ทุกคนก็ซาบซึ้งใจและดีใจมาก ทันใดนั้นก็เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อนางในทันที
“เถ้าแก่ไม่ต้องเกรงใจหรอก วันนี้ข้าอารมณ์ดี เยว่เอ๋อร์ยังไม่รีบเอาของอีก นี่เป็นของขวัญที่ข้าซื้อให้เจ้า ใบหน้าของเจ้าแห้งกร้านมาก ใช้แล้วจะปรับสมดุลผิวหน้าเจ้าได้” หยุนถิงตั้งใจพูด
เยว่เอ๋อร์ซึ้งใจมาก รีบรับกล่องกำมะหยี่นั้นมา: “ขอบพระคุณคุณหนูมากเจ้าค่ะ”
“ไปกัน ไปเดินเที่ยวต่อ ซื่อจื่อบอกว่าใช้เงินไม่หมด ห้ามข้ากลับบ้าน” หยุนถิงตั้งใจพูดเสียงดัง