The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1083 – ขอบเขตแห่งอสูรเนรมิตร

ตอนที่ 1083 - ขอบเขตแห่งอสูรเนรมิตร
  วาบ!
รอยแยกฉีกออกในระยะพันศอกตรงหน้าจ้าวดินแดนมีดสวรรค์เดินมือไพล่หลังออกมา เขามาพร้อมกับดวงวิญญาณของกู้ไทซู
“ใช้พลังมิติต่อหน้าอสูรเนรมิตรก็เหมือนกับสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ!”
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์กล่าวอย่างเย็นชา
“หากเจ้าไม่อยากจะมีชีวิตไปพบราคาช้าเจ้าก็ไปเจอตอนที่ตายก็แล้วกัน! การให้เจ้าสามคนตายพร้อมกันถือเป็นความเมตตาสูงสุดของข้าแล้ว”
จ้าวดินแดนโบกมือพื้นที่รอบตัวซือหยูหยุดนิ่งจากพลังอันยิ่งใหญ่ของอสูรเนรมิตร
เมื่อใช้พลังมิติไม่ได้อีกต่อไปซือหยูต้องเผชิญหน้ากับจ้าวดินแดนมีดสวรรค์แบบตาต่อตา
ฟึ่บ!   ซือหยูไม่รอให้จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ได้ลงมือต่อเขาพลิกฝ่ามือ กระบี่สีเงินเปล่งแสงสีเงินทั่วนภา มือยักษ์ปรากฏลงมาจากสวรรค์ มิติที่ถูกปิดกั้นแตกสลายในทันที!
“ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ขั้นสุดยอด!”
ในที่สุดก็เกิดความตกใจกลัวบนใบหน้าของจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ที่เคยไร้อารมณ์
เขามองซือหยูด้วยความชื่นชมและกล่าว
“ยากพออยู่แล้วที่จะมีอัจฉริยะฎีกาสวรรค์สักคนถือกำเนิดขึ้นในยุคสมัยหนึ่งเวลานี้กลับมีถึงสอง! ไม่แปลกเลยที่เจ้าสังหารคนมีดสวรรค์ได้มากมาย! ข้าเห็นแล้วว่าเจ้ามีพลังที่ดี”
เมื่อเขาพูดเขามองแสงกระบี่สีเงินด้วยความโลภในแววตาเมื่อเขาหรี่ตามอง
“เอ๋!เจ้าทำข้าตกใจอีกแล้ว! นี่มันไผ่เทวะสูงสุดแห่งจิวโจว ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์! มันอายุเกินพันปี มีคุณภาพดีที่สุด! คงเสียเปล่าถ้ากระบี่นั่นเป็นของเจ้า!”   จ้าวดินแดนมีดสวรรค์มีความเข้าใจในกระบี่ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์และรู้ว่ามันตัดผ่านอะไรก็ได้ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะป้องกันการโจมตีแต่ซ่อนตัวโดยฉีกมิติออกฃ
เมื่อปรากฏตัวอีกครั้งเขาห่างจากซือหยูพันศอก เขาค่อย ๆ คลายมือที่ไพล่หลังอยู่ออกมา
“ข้าต้องเอาจริงกับเจ้าสินะ”
ปั้ง!
เสียงมหาสมุทรแตกซ่านดังก้องนภาที่เต็มไปด้วยเมฆามหาสมุทรพุ่งขึ้นสูงจนปกปิดท้องฟ้าได้
เพียงพริบตาสายคลื่นได้ปรากฏด้านหลังจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ คลื่นมากมายไร้สิ้นสุดกำลังซัดเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างเหี่ยวแห้งเปื่อยยุ่ยไปตลอดทาง มันพุ่งเข้ามาด้านหน้าอย่างน่ากลัว
เสียงคลื่นกระแทกดังราวกับเสียงสายฟ้าคำรามหมู่เมฆที่ล่องลอยกระจัดกระจายออกไป พลังวิญญาณในพื้นที่ปั่นป่วน มิติสั่นสะเทือน
คลื่นพลังกำลังเข้ามาอย่างรวดเร็วแม้คลื่นพลังจะดูเหมือนภาพมายาที่ไม่มีจริง แต่มันก็มีแรงกระแทกที่เหนือกว่าคลื่นของจริง
ไม่มีใครสงสัยในพลังของคลื่นกระแทกเหล่านั้นแม้แต่จักรพรรดิโลหิตกับองครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้าก็คงเลือกหนีเมื่อต้องเจอกับพลังนี้
“ขอบเขตพลังอสูรเนรมิตร!”
ซือหยูมองมันอย่างเคลิบเคลิ้มสิ่งที่เรียกว่าขอบเขตพลังของอสูรเนรมิตรก็คือสิ่งที่เกิดจากพลังอสูรเนรมิตรเมื่อทะลวงพลังมา
พลังของจ้าวดินแดนมีดสวรรค์คือคลื่นยักษ์ที่อยู่ระหว่างสิ่งที่จับต้องได้และสิ่งที่จับต้องไม่ได้มันมีทั้งความอ่อนและความแรง
สิ่งนี้เรียกว่าขอบเขตพลัง!
การใช้พลังของขอบเขตนั้นแทบจะทำให้อสูรเนรมิตรไร้เทียมทานอสูรเนรมิตรจะไม่มีวันเสียเปรียบเมื่อใช้พลังนี้ พวกเขาสามารถทำลายล้างศัตรูได้โดยไม่ต้องสูญเสีย ขอบเขตพลังยังทำให้พวกเขาเลี่ยงการโจมตีของศัตรูได้ มันเป็นสิ่งที่ยากจะรับมือ
อสูรเนรมิตรที่ไร้ขอบเขตพลังนั้นไม่สามารถทำอะไรกับอสูรเนรมิตรที่มีพลังของขอบเขตได้แม้ว่าผู้ที่ไร้ขอบเขตพลังจะมีขั้นพลังที่เหนือกว่ากี่ขั้นก็ตาม
แต่การสร้างขอบเขตของพลังนั้นท้าทายอย่างไม่น่าเชื่อมันไม่ใช่แค่ต้องการพลังสูงในการบรรลุ แต่กุญแจคือการหาพลังอันยิ่งใหญ่ที่เข้ากับวิถีในการบ่มเพาะของตนเอง มันทดสอบการบรรลุของยอดฝีมืออย่างยากเย็น
อสูรเนรมิตรขั้นเก้าบางคนไม่มีโอกาสได้ขอบเขตของตัวเองในตลอดชีวิตมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถสร้างขอบเขตพลังขึ้นมาได้ ความรู้สึกนั้นเหมือนกับฎีกาสวรรค์ แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เกินจริงเท่า พลังที่ได้ก็แข็งแกร่งจนเกินคาดเดา
ซือหยูอยากจะต่อสู้แววตาคุกรุ่นไปด้วยเพลิง แม้ศัตรูจะแข็งแกร่ง เขาก็มีฎีกาสวรรค์ป้องกันตัว!
เนตรยักษ์บนท้องนภากลายเป็นจันทรากระจ่างคลื่นกระแทกหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่
หัตถ์ยักษ์จากสวรรค์ซัดลงมาจากด้านบนมันทำให้คลื่นอันน่ากลัวกระจายไปในทุกทิศทาง
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ตกใจ
“พวกที่บ่มเพาะฎีกาสวรรค์แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ! แค่ภูติระดับเก้ายังทำให้พลังขอบเขตของอสูรเนรมิตรสลายไปได้!! ขอข้าดูหน่อยว่าเจ้าจะต้านทานขอบเขตของข้าได้สักแค่ไหน!”
ตู้ม!
คลื่นกระแทกตอบรับแรงใจของจ้าวดินแดนมันเพิ่มความรุนแรงเป็นสองเท่า คลื่นกระแทกโหมกระหน่ำบดบังฟ้า
เนตรสวรรค์หัตถ์สวรรค์ และคลื่นกระแทกเข้าห้ำหั่นกันบนท้องฟ้า พื้นที่ในระยะหมื่นลี้แตกสลาย เหล่าขุนเขาถล่ม แม่น้ำไหลย้อนกลับ ชั้นเมฆาแบ่งแยก มิติเคลื่อนขาด พลังมิติที่ปั่นป่วนแพร่กระจายไปยังทุกมุมโลก
ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ขั้นสุดยอดของซือหยูถูกใช้งานเต็มที่หัตถ์สวรรค์และเนตรสวรรค์ใช้พลังสูงสุดในการหยุดคลื่นกระแทกเพื่อที่พลังนั้นจะไม่ได้เข้าใกล้ซือหยู
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ไม่พอใจ
“เจ้ามันก็แค่คนธรรมดา!ข้าไม่สนใจฎีกาสวรรค์ของเจ้า! ข้าจะจัดการเจ้าเดี๋ยวนี้!”
คลื่นไร้ที่สิ้นสุดอันน่ากลัวถาโถมขึ้นมาอีกครั้งคลื่นแม่น้ำจากสวรรค์กำลังจะทำลายล้างโลก มันกดทับลงมาอย่างรุนแรง
แม้หัตถ์สวรรค์และเนตรสวรรค์จะเป็นม่านพลังป้องกันคลื่นเหล่านั้นพลังบางส่วนก็ทะลวงผ่านไปถึงซือหยูได้
ในตอนนั้นเองเนตรสวรรค์สีทองได้เปล่งแสงทองกระจ่างออกมา มันสว่างสดใสและยิ่งใหญ่กว่าที่เคยเป็นสองเท่า! พลังทำลายลบ้างที่ปล่อยออกมานั้นเข้มข้น คลื่นกระแทกได้หายไปในพริบตา
ซือหยูดีใจเล็กๆ
ในการปะทะกับขอบเขตเนตรสวรรค์ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง มันใหญ่กว่าเดิมเป็นสองเท่า พลังเองก็ทวีคูณขึ้นไป
เมื่อดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นซือหยูก็ได้เข้าใจ เนตรสวรรค์นั้นจะเปลี่ยนแปลงตามความตั้งมั่นของเขา มันคือตัวแทนของการต่อต้านและพลังใจที่ไม่มีโอนอ่อนของเขาเอง!
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังมันจะแข็งแกร่งขึ้น หากได้ต่อสู้กับพลังขอบเขตเป็นเวลานาน มันจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด มันคือธรรมชาติของฎีกาสวรรค์ซือหยู
การค้นพบทำให้ซือหยูมีความหวังเขาเพิ่งจะปลดกลอนประตูบานใหญ่แห่งวิถีฎีกา วิถีแห่งฎีกาสวรรค์นั้นมีความเป็นไปได้ไม่รู้จบ
หลังจากล้มเหลวในการกำจัดซือหยูจ้าวดินแดนมีดสวรรค์รู้สึกกังวลใจยิ่งขึ้น เขาเป็นอสูรเนรมิตรที่มีพลังของขอบเขต แต่เขายังเอาชนะภูติระดับเก้าไม่ได้!
แม้แต่ซือหยูก็ต่อสู้กับเขาด้วยฎีกาสวรรค์ที่แทบจะไม่มีใครได้เห็นแน่นอนว่าจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ก็ต้องต่อสู้กับซือหยูด้วยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเช่นกัน
แม้ว่าฐานพลังของทั้งคู่จะแตกต่างกันมากผลที่ออกมายังคงเป็นการเสมอ!
“เจ้าหนูข้าต้องยอมรับว่าประเมินเจ้าต่ำไป”
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ถอนหายใจเบาๆ เขาประกาศก้อง
“แต่มันจะจบที่นี่!”
ตู้ม!ตู้ม! ตู้ม!
คลื่นสายฟ้าจากสวรรค์ถาโถมลงมาเข้าใกล้ไม่ขาดสายพลังมหาศาลทำให้ซือหยูใบหน้าตึงเครียด
คลื่นกระแทกสีขาวเงินคล้ายกับกำแพงขนาดยักษ์ที่กำลังจะบดขยี้ซือหยูมันทำให้คลื่นลูกก่อนเหมือนกับจอมปลวกต่อหน้าภูเขาลูกใหญ่! ขนาดของมันต่างกันสิบเท่า!!
ตลอดมาจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ใช้พลังของขอบเขตเพียงแค่หนึ่งในสิบเท่านั้น!
“การฝังเจ้าด้วยขอบเขตที่แข็งแกร่งที่สุดของข้าถือเป็นความนับถือสูงสุดสำหรับยอดอัจฉริยะฎีกาสวรรค์อย่างเจ้า”
จ้าวดินแดนพูดอย่างไร้อารมณ์เมื่อเขาคิดอีกครั้ง พลังขอบเขตพุ่งลงไปราวกับสายฟ้า!
หัตถ์และเนตรสวรรค์รับมันได้เพียงครู่เดียวก่อนจะสลายไปเมื่อมิอาจต้านทานพลังอันยิ่งใหญ่เกิดขีดจำกัดไหวกำแพงขนาดยักษ์ที่ใหญ่เกือบเท่าโลกกระแทกลงมาอย่างป่าเถื่อน
แต่ในตอนนั้นเองกำแพงขนาดยักษ์ได้หยุดลง! แม้ว่าจะมีพลังมหาศาล มันก็มิอาจขยับได้แม้แต่นิดเดียว  เมื่อมองดูให้ชัดเจนรอยแยกมิติได้ปรากฏภายใต้กำแพงใหญ่ ดัชนีสีขาวเงินยื่นออกมา ดัชนีนั้นมีลวดลายไม้อยู่ด้วย เป็นดัชนีเล็กจ้อยนี้ที่ตรึงกำแพงให้อยู่กับที่จนขยับไม่ได้ ดัชนีนี้มีพลังสูงกว่า
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ชักสีหน้าผู้เฒ่าที่มีสีเงินทั้งตัวที่สวมผ้าคลุมเก่าแก่ได้เดินออกมาจากรอยแยกมิติ แม้แต่ผิวที่เปิดเผยออกมาก็เป็นลายไม้
ผู้เฒ่านี้ใบหน้าไร้อารมณ์การเคลื่อนไหวของเขาไม่เหมือนกับมนุษย์เลย
“พลังขอบเขตคลื่นกระแทกนับว่าแข็งแกร่ง”
เกิดประกายสีมรกตที่ปลายดัชนีของเขาไม่นานกำแพงขนาดใหญ่ยักษ์ก็ถูกประกายมรกตโอบล้อมทั้งแผง
พลังขอบเขตแตกสลายจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ได้รับผลกระทบเช่นกัน เขาหน้าแดงก่ำ
ในแววตามีความกังวลใจ  “เจ้าเป็นใคร?!”
นอกจากราชาเก้าเขตเขาก็ไม่เชื่อว่ามีคนอื่นที่สามารถทำลายพลังขอบเขตของเขาได้ในกระบวนเท่าเดียว!
นอกเสียจากอีกฝ่ายก็ใช้พลังขอบเขตเหมือนกัน!
แค่การประมือครั้งเดียวก็บอกได้ว่าใครที่แข็งแกร่งกว่ากันศัตรูนั้นมีขอบเขตยิ่งใหญ่กว่าที่เขามี ความแตกต่างนี้คือกำแพงที่เขาไม่มีทางข้ามได้เลบย
ในโลกใบนี้ยังมีอสูรเนรมิตรที่มีขอบเขตทรงพลัง แต่เขายังไม่ได้ยินชื่อ!
“ช้าก่อนหรือว่าเจ้าจะมาจาก…”
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์มองขอบนภาที่มีผืนป่าอยู่
นั่นคือสถานที่ต้องห้ามชื่อดังในดินแดนพรสวรรค์ป่าปีศาจร้าง!
ตำนานว่ากันว่าแม้แต่อสูรเนรมิตรก็ไม่รอดชีวิตกลับมาจากพื้นที่หวงห้ามแห่งนั้นสิ่งเดียวที่พวกเขามั่นใจก็คือมันเป็นอาณาเขตต้องห้ามที่เผ่าไม้ที่ไม่เคยปรากฏตัวออกมาจากป่าสู่จิวโจวเลย
“ข้าคือหยินมู่”
ชายผิวสีเงินคือหยินมู่จากป่าปีศาจร้าง
หากซือหยูขอให้พวกเขาหาตำแหน่งกงซุนหวูซื่อได้เขาจะไม่เรียกหาไพ่ตายที่ใช้ช่วยชีวิตอีกหรือ? การมีหยินมู่มาช่วยนั้นคือแผนลับที่ซือหยูวางเอาไว้
เมื่อเคยเป็นเซียนมาก่อนพลังขอบเขตที่หยินมู่มีนั้นย่อมเหนือกว่า สำหรับหยินมู่ พลังขอบเขตเป็นแค่ของเล่นที่สามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย แล้วจ้าวดินแดนมีดสวรรค์จะเอาชนะเขาได้รึ?
“ไปเร็ว!”
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์คว้าวิญญาณกู้ไทซูและร่างที่ขาดสะบั้นของกู้ไทซูหนีไปผ่านรอยแยกมิติ
ขณะที่หนีกู้ไทซูนั้นหันมามองด้วยความแค้น
“เจ้าปล่อยซือหยูไปทั้งอย่างนั้นเรอะ?ถ้ามันเป็นอิสระ มันก็เหมือนกับการปล่อยเสือกลับภูเขา จะต้องเกิดเรื่องตามมาแน่!”
อั่ก!
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์กระอักเลือดเต็มปากเขาหน้าซีดเผือด
“เจ้าจะไปรู้อะไร?เจ้านั่นใช้พลังเซียนในทุกกระบวนท่า! ร่างต้นของมันจะต้องเหนือกว่าเซียนไปแล้ว ถ้าไม่หนีตอนนนี้แล้วจะหนีตอนไหน?”
กู้ไทซูพูดไม่ออกแต่เขาก็ต้องรู้สึกขมขื่นอีกครั้ง เขากำหมัดแน่น ซือหยูมีเซียนคอยช่วยเหลืออยู่!

เป๊าะ!
ดัชนีหยินมู่เกิดรอยแตกเท่าเส้นผมเขาก้มลงมองรอยแยกและถอนหายใจ
“เวลาของข้าหมดแล้วร่างกายนี้เสื่อมถอยมานานเกินไป มันอ่อนแอเกินกว่าจะซ่อมแซม กระบวนท่าเมื่อครู่คือขีดกำจัดสูงสุดของข้า”
เขาถูกพลังชั่วร้ายครอบงำมาหลายปีแม้ว่าจะถูกเทพไม้ชำระล้าง ร่างกายที่เสื่อมถอยก็มิอาจฟื้นตัวได้อีก
ถ้าหากเขามิอาจกลับไปเป็นเซียนได้อีกครั้งหยินมู่จะมิอาจรอดพ้นความตายในอีกไม่นาน
“ขอบคุณท่านมากผู้อาวุโส”
ซือหยูทั้งรู้สึกขอบคุณและรู้สึกผิด
“ข้าจะพยายามชุบชีวิตเทพไม้ให้ได้”
The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท