จอมนางข้ามพิภพ บทที่39 ซื่อจื่อหึง
“เพคะ”
“ทำไมไม่เหมือนกับที่บ่าวเคยดื่มเลย ถุงเล็กๆนี้คืออะไรกัน บ่าวไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน?” ซูกงกงถามอย่างสงสัย
“ด้านในมีดอกไม้และสมุนไพรผสมกัน จนทำให้เกิดสรรพคุณที่ดีขึ้น นี่เป็นชาที่หม่อมฉันคิดค้นขึ้นมาเอง ปกติชาจะมีรสชาติที่ขมและเข้มข้นเกินไป หม่อมฉันไม่ค่อยชอบดื่มเท่าไหร่ ดังนั้นก็เลยคิดค้นขึ้นมาเอง ฝ่าบาทลองดื่มชาที่ช่วยในการนอนหลับดูก่อนได้นะเพคะ” หยุนถิงอธิบาย
“ได้ ซูกงกง เจ้ารีบไปเทน้ำเปล่ามาให้ข้า”
“พ่ะย่ะค่ะ”
สักพัก น้ำเปล่าก็มาถึง ฮ่องเต้มองดูถุงเล็กๆนั้น กลับไม่รู้ว่าต้องทำยังไง แต่ก็ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองทำไม่เป็น จึงมองไปยังซูกงกง: “เจ้ามาชงให้ข้า”
“พ่ะย่ะค่ะ” ซูกงกงรีบรับมา แต่ถุงเล็กนั้นไม่มีปากให้เปิด จึงไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
“กงกงให้ข้าทำเถิด ถุงเล็กนี้เป็นถุงนอก ป้องกันไม่ให้น้ำเข้า ตรงนี้มีที่เปิด ฉีกตรงนี้ออกก็ได้แล้ว จากนั้นก็ใช้น้ำชงชา ดื่มแก้วนี้หมดแล้วยังไม่ต้องทิ้ง สามารถเติมน้ำได้เรื่อยๆ ชาหนึ่งถุงดื่มได้ทั้งวันเลยล่ะ” หยุนถิงอธิบาย
“เป็นแบบนี้นี่เอง บ่าวเข้าใจแล้ว” ซูกงกงรีบฉีกออก จากนั้นก็เทลงไปในแก้ว
ถึงแม้ฮ่องเต้จะทำหน้าบึ้งตึง แต่ก็ตั้งใจฟัง ตั้งใจดู เพราะยังไงเขาก็เคยเจอชาแบบนี้มาก่อน
ไม่นานมาก กลิ่นหอมจากดอกเบญจมาศอ่อนๆก็โชยเข้าจมูก ฮ่องเต้สูดดมเบาๆ ใบหน้าที่เย็นชาก็คลายลงบ้างเล็กน้อย
“ฝ่าบาทลองชิมดูสิเพคะ” หยุนถิงพูด
“ได้” ฮ่องเต้หยิบแก้วชาขึ้นมา จิบเบาๆ: “กลิ่นดอกไม้ผสมกับกลิ่นชาหอมๆ รสชาติอ่อนๆและยังมีความหวานเล็กน้อย ไม่เลวเลยจริงๆ ดื่มง่ายกว่าชาที่ข้าเคยดื่มเยอะมาก”
“ถ้าหากฝ่าบาทชอบดื่ม งั้นหม่อมฉันจะทำเยอะๆมาให้ฝ่าบาทนะเพคะ”
“ดี”
“ถ้าหากฝ่าบาทไม่มีเรื่องอันใดแล้ว กระหม่อมขอพาฮูหยินกลับไปก่อน ไม่รบกวนการพักผ่อนของฝ่าบาทแล้ว” จวินหย่วนโยวพูด
“ได้ กลับไปเถอะ หยุนถิง ต่อไปเจ้าอย่าทำการโดยไม่คิดก่อนล่ะ เรื่องในวันนี้ ข้าไม่อยากเห็นเป็นรอบที่สองแล้ว” ฮ่องเต้พูดขึ้น
“เพคะ หม่อมฉันจะไม่ทำอีกแล้ว” หยุนถิงทำความเคารพฮ่องเต้ แล้วเดินจากไปพร้อมกับจวินหย่วนโยว
ออกจากวัง หยุนถิงขึ้นรถม้า ก็ทรุดตัวลงทันที: “ซื่อจื่อพยุงข้าที เมื่อกี้ข้าตกใจมากเลย ฮ่องเต้ทรงอิทธิพลมาก อารมณ์แปรปรวนง่ายจริงๆ”
จวินหย่วนโยวพยุงนางไว้ ให้นางพิงอยู่บนตัวของเขา: “เมื่อกี้ข้าดูเจ้าพูดเหมือนไม่กลัวเลยนะ”
“ข้าแกล้งต่างหาก ถ้าฮ่องเต้สงสัยขึ้นมาจริงๆ งั้นข้าก็ทำให้ซื่อจื่อเดือดร้อนกันพอดี ต่อไปข้าจะไม่สั่งสอนนางงามลั่วแบบเปิดเผยแบบนี้แล้ว จะสั่งสอนแบบลับๆ” หยุนถิงอธิบาย
จวินหย่วนโยวตลกกับคำพูดของนาง: “เจ้านี่นะ ถ้าจะสั่งสอนใครจริงๆ ก็บอกข้าสิ ข้าจะสั่งให้คนไปจัดการคนผู้นั้นเอง ไม่ต้องให้เจ้าลงมือเองหรอก”
“ไม่ได้ ข้าจะต้องสั่งสอนเองถึงจะสะใจ”
“วันนี้เจ้าให้ชาอะไรกับฝ่าบาทเหรอ?” จวินหย่วนโยวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“นั่นเป็นชาที่ข้าสะสมไว้ ข้ารู้สึกว่ารบกวนฝ่าบาทตอนกลางคืน กลัวเขาจะลงโทษข้า ดังนั้นก็เลยเอาชามาให้สินบนฝ่าบาทแทน นั่นเป็นแค่ของเล็กๆน้อยๆเอง” หยุนถิงอธิบาย
“เจ้าคิดว่าจักรพรรดิจะรับสินบนเล็กๆน้อยๆของเจ้าเหรอ?” สีหน้าจวินหย่วนโยวมืดมน
ในเมื่อเป็นของชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำไมนางไม่ให้เขาเลยล่ะ
“ไม่ใช่แบบนั้น ฝ่าบาทจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา ข้าแค่ทำในส่วนของตัวเองให้ดี ข้ายังมีของดีอย่างอื่นอีกเยอะ ชาดอกไม้เป็นแค่ส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น ซื่อจื่อได้ข้าเป็นภรรยาถือเป็นโชคดีของท่าน อย่าไปแอบดีใจเองล่ะ” หยุนถิงพูดอย่างได้ใจ
“อืม ข้าจะแอบดีใจนะ”
หยุนถิงได้ยินน้ำเสียงของเขา ดูจะไม่พอใจเท่าไหร่ ก็เลยถามว่า: “ซื่อจื่อ ทำไมดูท่านเหมือนจะไม่พอใจเลย?”
“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ”
“หรือว่าตอนดึกรบกวนท่าน ให้ท่านเข้าวังกับข้า ท่านไม่พอใจเหรอ?” หยุนถิงถามกลับ
จวินหย่วนโยวสีหน้าไม่พอใจ: “ไม่ใช่”
“งั้นเป็นเพราะอะไรล่ะ หรือเพราะชาดอกไม้พวกนั้น ซื่อจื่ออย่าใจแคบแบบนี้สิ นั่นเป็นฝ่าบาทนะ ไม่ใช่ใครที่ไหนเสียหน่อย”
“ฝ่าบาทก็เป็นคนอื่น นับแต่โบราณคาดเดาจิตใจของจักรพรรดินั่นยากที่สุด” จวินหย่วนโยวเบะปาก
“รู้แล้วน่า งั้นซื่อจื่อกลับไป ข้าจะชงให้ทานดื่มเองกับมือเลย ข้ายังมีชาดอกไม้อื่นๆอีกมากมาย หลายกลิ่นและอีกหลายประเภท ฝ่าบาทได้ไปแค่สองกลิ่น จริงสิ! ข้ามีของจะให้ท่านพอดี” หยุนถิงเอาลูกอมออกมา
“นี่คืออะไร?”
“ลูกอมไง หวานมาก กินแล้วจะทำให้คนอารมณ์ดี ถ้าข้าอารมณ์ไม่ดีก็ชอบกินอันหนึ่งนะ ยังป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดตกด้วย” หยุนถิงฉีกออกแล้วยื่นให้เขา
“ข้าไม่ใช่เด็กเสียหน่อย ไม่กินลูกอมหรอก” จวินหย่วนโยวปฏิเสธ
“ซื่อจื่อ ร่างกายท่านอ่อนแอ กินขนมลูกอมจะช่วยให้ท่านสุขภาพดีขึ้น ลองชิมดู ท่านเป็นคนแรกที่ได้กินเลยนะ” หยุนถิงชูลูกอมไปใกล้ปากเขา
ได้ยินนางพูดประโยคหลัง ความโกรธของจวินหย่วนโยวก็หายไปทันที เขาอ้าปากกิน
รูปร่างแปลกมาก หวานแต่ไม่เลี่ยน ดีมากจริงๆ
“รสชาติเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ดี”
หยุนถิงฉีกให้ตัวเองกิน: “ข้ารู้อยู่แล้ว นี่เป็นลูกอมที่ข้าชอบมากที่สุด ถึงแม้จะราคาแค่ห้าเหมา แต่รสชาติดีมาก เป็นยี่ห้อเก่าแล้วล่ะ”
“ห้าเหมา?” จวินหย่วนโยวถาม ช่วงนี้นางชอบพูดจาแปลกๆอยู่เรื่อย เป็นคำพูดที่เขามักจะไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
“อ้อ ก็คือราคาถูกมากน่ะ ซื่อจื่อ ข้าง่วงจะตายแล้ว ข้าหลับก่อนนะ ถึงบ้านแล้วเรียกข้าด้วย” หยุนถิงซบไหล่ของจวินหย่วนโยวแล้วหลับตา
“ได้”
……
ณ จวนหลีอ๋อง
หลังจากที่โม่ฉือหานพานางงามลั่วกลับมาถึงบ้าน เพิ่งเข้าประตู โม่ฉือหานก็หันไปตบหน้านางงามลั่วอย่างจัง
“กรี๊ด!” นางงามลั่วกรีดร้องออกมา แล้วล้มลงกับพื้น ใบหน้าแสบร้อน รอยนิ้วมือประทับบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านอ๋อง ข้าขอโทษ เป็นความผิดของข้าเอง ข้าสร้างความเดือดร้อนให้ท่านเอง แต่ข้าโดนใส่ร้ายนะ ข้าไม่เคยพูดจาแบบนั้น หยุนถิงโกหกใส่ร้ายป้ายสีข้า ขอท่านอ๋องทวงความเป็นธรรมให้ข้าด้วย” นางงามลั่วพูดขอร้อง
“หุบปาก นังผู้หญิงโง่ เจ้าทำให้ข้าถูกเสด็จพี่สงสัย ทำให้ข้าต้องอับอายขายขี้หน้า ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก ทหาร! นำตัวนางงามลั่วไปขังในเรือนเย็น ไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามปล่อยตัวนางออกมาตลอดชีวิต” หลีอ๋องตะคอก
ทหารสองคนรีบวิ่งเข้ามา ลากตัวนางงามลั่วออกไป
“ท่านอ๋อง! ท่านอ๋อง! ข้าถูกใส่ร้าย!! ท่านอ๋อง……” นางงามลั่วร้องไห้ขอร้องทั้งน้ำตา
โม่ฉือหานกลับไม่มองนางเลย เขาโมโหมาก วันนี้เขาถูกหยุนถิงเหยียดหยาม น่าโมโหยิ่งนัก เขาจะเอาคืนหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวสองคนนั้นร้อยเท่าพันเท่าเลย คอยดูเถอะ!
“ทหาร!” โมฉือหานตะโกน
ทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามา: “ท่านอ๋องมีรับสั่งอันใดขอรับ?”
“เจ้านำกำลังคนไปจับจ้องที่จวนซื่อจื่อ ไม่ว่าจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงจะทำอะไรก็รีบมารายงานข้าทันที ข้าไม่เชื่อว่าจะจับจุดอ่อนของพวกนั้นไม่ได้” โม่ฉือหานสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ขอรับ” ทหารรีบไปจัดการทันที