จอมนางข้ามพิภพ บทที่40 เจ้าอุ้มไหวเหรอ
ณ จวนซื่อจื่อ
ตอนที่รถม้ามาถึงหน้าประตูบ้าน หยุนถิงก็หลับนานแล้ว จวินหย่วนโยวมองดูหยุนถิงที่ซบอยู่บนไหล่ของตัวเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ซื่อจื่อ ถึงจวนแล้วขอรับ” คนขับรถม้าพูดขึ้น
“รู้แล้ว” จวินหย่วนโยวตอบเสียงเบา หยุนถิงไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลย
ตอนกลางวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว แถมยังต้องตื่นตอนกลางคืนอีก ตอนนี้ก็ใกล้จะเช้าแล้ว นางคงจะง่วงมากไม่ไหว ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงอุ้มหยุนถิงขึ้น แล้วลงจากรถม้า
พ่อบ้านกับหลิงเฟิงพวกเขาที่รออยู่หน้าบ้านเห็นแล้วก็ตกใจมาก
“ซื่อจื่อ ให้ข้าน้อยอุ้มแทนเถิด ท่านจะอุ้มคุณหนูหยุนไหวได้ยังไง” พ่อบ้านพูดอย่างเป็นห่วง
“เจ้าอุ้มไหวเหรอ?” จวินหย่วนโยวถาม
พ่อบ้านอึ้ง เขาอายุมากขนาดนี้แล้ว ถ้าให้เขาอุ้มหยุนถิงจริง คงจะอุ้มไม่ไหวจริงๆ และไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่
“ซื่อจื่อ ข้าน้อยล้ำเส้นเอง ข้าน้อยแค่เป็นห่วงร่างกายของท่าน” พ่อบ้านรีบอธิบาย
หลิงเฟิงที่อยู่ข้างๆรีบพูดด้วยสีหน้าเข้มงวดว่า: “ซื่อจื่อ ข้าน้อยไม่ได้มีความคิดอื่นต่อฮูหยิน ข้าน้อยร่างกายแข็งแรง ให้ข้าน้อยทำเถิด ท่านเพิ่งจะหายดีนะขอรับ”
“ไม่ต้อง ข้าไม่ได้อ่อนแอเหมือนอย่างที่พวกเจ้าคิด เดินแค่ไม่กี่ก้าวไม่เป็นไร” จวินหย่วนโยวอุ้มหยุนถิงเข้าไปในบ้าน
ที่จริงเขากลัวว่าถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น จะทำให้หยุนถิงตื่นได้
พ่อบ้านกับหลิงเฟิงรีบตามไป ถ้าซื่อจื่อไม่ไหว พวกเขาจะได้รีบเข้าไปรับต่อ
สุดท้ายจวินหย่วนโยวก็อุ้มหยุนถิงกลับไปที่ห้อง ก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไร พ่อบ้านก็ถึงโล่งอก รีบปิดประตูให้พวกเขา
“ในที่สุดซื่อจื่อก็เปิดใจได้สักที รู้ว่าต้องอุ้มฮูหยินกลับห้อง พลังแห่งความรักช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน เมื่อก่อนซื่อจื่อแค่เดินสองก้าวก็ไอคอกแคกไม่สบายแล้ว ตอนนี้อุ้มฮูหยินกลับห้องได้อย่างสบายๆ จึ๊ๆ! มหัศจรรย์จริงๆ” พ่อบ้านเบะปากพูด
“ข้าก็รู้สึกว่าซื่อจื่อแข็งแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก นี่เป็นเรื่องที่ดีนะ” หลิงเฟิงเอ่ยชม
ทั้งสองก็กลับไปพักผ่อน พวกเขาไม่กล้าแอบฟังว่าซื่อจื่อทำอะไรในห้องหรอกนะ
ภายในห้องนอน จวินหย่วนโยววางหยุนถิงลงบนเตียง แล้วห่มผ้าให้นาง เห็นในปากนางยังอมลูกอมอยู่ เขาก็เอาลูกอมออกจากปากนางช้าๆ
หยุนถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพลิกตัวนอนต่อ
จวินหย่วนโยวมองดูนางที่นอนกางแขนกางขา เขาก็ฉีกยิ้มกว้างขึ้น ถอดเสื้อคลุมแล้วนอนลงไปตาม
หลับสบายไปจนถึงตอนเช้า
……
ณ บ้านตระกูลซู
ซูชิงโยวกลับไปแล้วให้คนเปลี่ยนของในห้องนอนให้หมด พวกกลิ่นหอมดอกไม้ก็โยนทิ้งจนหมด จากนั้นก็ให้พ่อบ้านนำวัตถุดิบส่งเข้าเรือนตัวเอง ให้ข้ารับใช้ในเรือนของนางทำ เดือนนี้จะไม่ออกไปไหนทั้งนั้น
นางเหลือไว้แค่ข้ารับใช้ประจำตัว พวกข้ารับใช้ที่รับใช้ในเรือนก็ไล่ออกไปทั้งหมด
ถ้าไม่ใช่เพราะหยุนถิงบอกนาง นางก็คงไม่รู้ว่าตัวเองโดนยาพิษอยู่ กล้าวางยาพิษให้นางโดยที่นางไม่รู้ตัวเลย จะต้องมีหนอนบ่อนไส้ในเรือนนี้แน่ๆ
“คุณหนู คุณหนูหยุนจะรักษาใบหน้าของคุณหนูได้จริงเหรอ?” สาวรับใช้ลู่เอ๋อร์ถามอย่างเป็นห่วง
“ข้าเชื่อใจนาง” ซูชิงโยวพูดอย่างเข้มงวด
เกี่ยวกับข่าวลือของหยุนถิง ซูชิงโยวก็เคยได้ยินมาไม่น้อย แต่วันนี้นางปกป้องตัวเองขนาดนี้ แววตาที่มั่นใจและเด็ดเดี่ยวของนาง ทำให้ซูชิงโยวยอมเชื่อใจนาง
ซูชิงโยวเอายาที่หยุนถิงให้นางออกมา รูปทรงแปลกมาก ถึงแม้จะไม่เคยเห็น แต่นางก็เงยหน้ากินลงไป
“ในเมื่อคุณหนูเชื่อ งั้นข้าก็จะเชื่อด้วย คุณหนูไล่ข้ารับใช้ในเรือนไปทั้งหมด งั้นต่อไปข้าจะรับใช้คุณหนูอย่างดีเจ้าค่ะ จะไม่ให้ใครมาทำร้ายคุณหนูได้อีก” สาวรับใช้ลู่เอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าเข้มงวด
“เด็กโง่ ข้ารู้ว่าเจ้าภักดีแค่ไหน พรุ่งนี้พวกเราไปซื้อข้ารับใช้กัน ตอนนี้ศัตรูอยู่ในความมืด ข้าอยู่ในที่สว่าง จะต้องระวังตัวให้มาก” ซูชิงโยวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
กล้าลอบทำร้ายนาง นางจะไม่ปล่อยคนที่วางยาให้นางหนีรอดไปได้เด็ดขาด
“ลูกสาว ลูกสาว……” เสียงชราดังขึ้น ซูโหวเย่รีบวิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น
“ท่านพ่อ ท่านมาได้อย่างไร?”
“พ่อได้ยินเรื่องในวันนี้แล้ว หยุนถิงจะรักษาหน้าเจ้าได้จริงเหรอ?” ซูโหวเย่ถาม
วันนี้เขาได้ยินเรื่องที่หยุนถิงเดิมพันในวังหลวง หยุนถิงคนไร้ความสามารถนั่นประกาศออกไปว่ารักษาใบหน้าของลูกสาวเขาได้ หมอดังหรือหมกหลวงทั้งเมืองยังทำไม่ได้ ซูโหวเย่ตื่นเต้นมาก รีบกลับมาถามให้ชัดเจน
“เจ้าค่ะท่านพ่อ คุณหนูหยุนบอกว่ารักษาได้” ซูชิงโยวตอบ
“ดีมากเลย ต้องการอะไรก็บอกพ่อได้นะ ไม่ว่าจะเป็นยาแพงแค่ไหน พ่อก็จะหามาให้เจ้า” ซูโหวเย่ซาบซึ้งใจมาก แต่ก็รู้สึกสงสัย: “ลูกสาว เจ้าคงไม่ได้โดนหลอกใช่ไหม หยุนถิงเป็นพวกไร้ความสามารถเชียวนะ ข้าไม่เคยได้ยินว่านางเก่งด้านการแพทย์ด้วย?”
“ท่านพ่อ ข้าเชื่อนางว่าทำได้ เพราะข้ากับนางไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่นางกลับยอมปกป้องข้า ข้าอยากลองดู อีกอย่าง นางไม่ได้ร้องขอค่าตอบแทนอะไรจากข้าด้วย ท่านพ่อไม่อยากให้ใบหน้าของลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิมเหรอ?” ซูชิงโยวถามกลับ
“ก็ต้องอยากอยู่แล้วสิ ขนาดในความฝันยังอยากเลย หลังจากที่ใบหน้าเจ้าพัง เจ้าก็เสียใจจนไม่กล้าออกจากบ้าน พ่อเห็นเจ้าเป็นแบบนี้ก็รู้สึกปวดใจมาก ลูกวางใจได้เลยนะ ผู้หญิงสองคนนั้นที่รังแกเจ้า พ่อจะหาคนไปจัดการพวกนางเอง กล้ารังแกลูกสาวข้างั้นเรอะ รนหาที่ตายชัดๆ” ซูโหวเย่พูดอย่างโกรธแค้น
ซูชิงโยวซาบซึ้งใจมาก: “ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงข้า ท่านพ่อวางใจได้เลย ข้าจะไม่ยอมให้คนอื่นรังแกแบบนี้อีกแล้ว”
“ดี ดีมาก นี่สิถึงจะเป็นลูกสาวของข้าได้”
……
ณ จวนซื่อจื่อ
หยุนถิงนอนหลับถึงตอนเที่ยงในวันที่สอง จวินหย่วนโยวยังคงนอนข้างนาง เมื่อก่อนเขาไม่เคยหลับสบายขนาดนี้มาก่อน เหมือนเจอนางแล้ว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันที
แต่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ทำให้จวินหย่วนโยวรู้สึกไม่เลวเลย
“ซื่อจื่อ ข้าหิวจัง” หยุนถิงบิดขี้เกียจแล้วพูด
“ลุกขึ้นสิ เที่ยงแล้วจะไม่หิวได้ยังไง” จวินหย่วนโยวลุกขึ้นจากที่นอน เขาหยิบเสื้อผ้าของหยุนถิงมาอย่างเคยชิน
แต่ครั้งนี้ไม่มีเสื้อด้านใน มีแต่เสื้อด้านนอกธรรมดาๆ
“ในเมื่อเจ้าไม่ชอบใส่เสื้อผ้าที่ยุ่งยาก เดี๋ยวข้าจะสั่งให้คนทำแบบง่ายๆมา เสื้อที่ซื้อมายังไงเนื้อผ้ากับคุณภาพก็ไม่ดีเท่าที่ทำเอง” จวินหย่วนโยวช่วยนางใส่เสื้อผ้า พลางพูดไปด้วย
“ดีเลย ขอบคุณซื่อจื่อมาก”
“จะเกรงใจข้าไปทำไมกัน”
สองคนใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็ถึงไปที่ห้องโถง
พ่อบ้านสั่งให้คนยกอาหารมาหมดแล้ว มองดูอาหารที่วางเต็มโต๊ะ หยุนถิงก็ล้างมือแล้วรีบกระโจนเข้ามา กินเข้าไปคำใหญ่ๆ
มองดูท่าทางเขมือบกินของนาง จวินหย่วนโยวก็ยิ้มอย่างเหนื่อยใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินเข้าไปนั่งแล้วคีบอาหารให้นาง
“ซื่อจื่อ วันนี้อากาศดีจัง พวกเราออกไปเที่ยวกันหน่อยไหม?” หยุนถิงเสนอแนะ
“ได้สิ”
“ซื่อจื่อ เมื่อคืนชานมที่ฮูหยินให้คนส่งไปที่โรงเตี๊ยมได้รับการตอบรับดีมาก มีคนมากมายถามกันใหญ่ และมีคนอยากซื้อกันเยอะด้วย” พ่อบ้านเข้ามารายงาน
“ดีเลย! พ่อบ้าน นมของวันนี้ส่งมาหรือยัง?” หยุนถิงถาม