จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 70 เพราะว่ามีท่านอยู่ ข้าจึงไม่ไว้วางใจ

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 70 เพราะว่ามีท่านอยู่ ข้าจึงไม่ไว้วางใจ

“เอะอะโวยวายอะไร เพียงแค่ยุงกัดเท่านั้น ท่านกรีดร้องเกินจริงเช่นนี้ ซื่อจื่อจะคิดว่าข้าทำอะไรเจ้า” หยุนถิงเบ้ปาก

“ยัยเด็กบ้า ตอนที่เจ้าจะลงมือทำไมถึงไม่บอกห่อน?” ท่านลั่วโอดครวญ

“ข้าเรียกว่าลงมือทีเผลอ หากบอกท่านไป ท่านจะไม่กลัวหรอกหรือ”

“กลัว ใครกลัว ข้ารักษาคนมามากมายขนาดนั้น—–” ท่านลั่วกำลังคุยโม้อยู่ ก็เห็นหยุนถิงนำของมากมายจากที่ไหนไม่รู้มาวางบนโต๊ะ ซึ่งทั้งหมดนี้เขาไม่เคยเห็นมัน

“สิ่งเหล่านี้คืออะไร?”

“เป็นเครื่องมือที่จะผ่าตัดให้ท่าน เพื่อเอาลูกธนูออกให้ท่าน และไม่ว่าจะเห็นอะไรก็อย่าได้พูดออกไป หากไม่ใช่ว่าตะขอสองชั้นนี้ยากลำบากเกินไป ต้องติดตามปฏิกิริยาตอบสนองของท่านทุกเวลา ข้าก็จะแทงเข็มเพียงเข็มเดียวให้ท่านสลบไปเลย” หยุนถิงทำเสียงไม่พอใจ

ท่านลั่วสนใจที่จะโต้เถียงกับนางเสียที่ไหน เขาเป็นคนบ้าเรื่องการแพทย์ ฉะนั้นดวงตาทั้งสองข้างของท่านลั่วจึงพิจารณาอยู่กับสิ่งของเหล่านั้น นั่นคือสิ่งที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน ส่วนหยุนถิงพูดอะไรนั้น เขาไม่ได้ฟังเสียด้วยซ้ำ

หยุนถิงหาชั้นวางของ มาแขวนนำเกลือ จากนั้นให้น้ำเกลือต้านการอักเสบและบรรเทาความเจ็บปวดแก่ท่านลั่ว

ทันทีที่เข็มแทงเข้าไปในเส้นเลือด ก็มีอาการเจ็บแปลบๆ แต่ก็หายไปในพริบตา

เมื่อเห็นหยดของเหลวไหลเข้าสู่เส้นเลือดของตนเอง ท่านลั่วก็ตกตะลึง : “ยัยเด็กอัปลักษณ์ นี่มันคืออะไร?”

“เพื่อต้านการอักเสบและบรรเทาความเจ็บปวดให้ท่าน มือของท่านต้องวางอยู่อย่างนี้ อย่าขยับเคลื่อนไหวเด็ดขาด และห้ามยกขึ้นด้วย มิฉะนั้นเลือดจะไหลย้อนกลับ” หยุนถิงอธิบาย

ครั้งนี้ท่านลั่วไม่สงสัยและตะโกนโวยวายเหมือนครั้งก่อน เขามองสิ่งของบนมืออย่างเงียบๆ รู้สึกได้ถึงของเหลวเย็นที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของตนเอง รู้สึกแปลกใหม่อย่างมาก

หยุนถิงยื่นมือออกไปหยิกไหล่ของเขาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าท่านลั่วไม่มีการตอบสนองใดๆ เพียงแค่จ้องมองอุปกรณ์ทางการแพทย์เหล่านั้น นางก็รู้เลยว่ายาชาได้ผลแล้ว

อันดับแรกนางเอาผ้าพันแผลจุ่มเบตาดีนเพื่อช่วยทำความสะอาดบาดแผลให้แก่เขา เช็ดให้แห้ง และยังฆ่าเชื้อแหนบและมีดอีกครั้ง จากนั้นก็นำมีดไปตัดเนื้อส่วนที่เปื่อยเหล่านั้นออก หนีบตะขอคู่ที่อยู่บนไหล่ และมืออีกข้างหนึ่งก็ดึงมันออกมาอย่างรวดเร็ว

การกระทำดูชำนาญ เฉียบขาดและประณีต เสร็จสิ้นในคราวเดียว ไม่นานลูกธนูถูกดึงออกมาเสียแล้ว

เสียงดัง”แกร๊ก!” ลูกธนูถูกโยนไปบนโต๊ะที่อยู่ข้างๆ

ท่านลั่วจึงได้สติกลับมา มองไปที่ไหล่ทางด้านนั้นอย่างตกตะลึง : “ยัยเด็กอัปลักษณ์ เจ้าดึงมันออกมาแล้วหรือ?”

“ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ?” หยุนถิงเอ่ยถาม รีบช่วยจัดการบาดแผล ฆ่าเชื้อ ใส่ยา พันแผลให้

ในชั่วขณะท่านลั่วก็รู้สึกคาดไม่ถึง : “นี่มันเร็วเกินไปหรือเปล่า แม้แต่ข้าหากจะดึงลูกธนูออก ก็จะต้องใช้เวลานาน ไม่ใช่สิ ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกเจ็บปวดที่ไหล่เลยล่ะ?”

“ข้าใช้ยาชากับท่าน เป็นยาชาเฉพาะที่ ฉะนั้นท่านจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดที่ไหล่ แต่ร่างกายส่วนอื่นยังสามารถขยับเคลื่อนไหวได้ ถ้าหากว่าเป็นยาชาทั่วร่างกาย แม้กระทั่งพูดท่านก็ไม่สามารถพูดได้ ลูกธนูนี้เป็นการบาดเจ็บเล็กน้อย ใช้ยาชาเฉพาะที่ก็เพียงพอแล้ว” หยุนถิงอธิบาย

“ยาชาเฉพาะที่?” ท่านลั่วตกใจจนพูดไม่ออก

เดิมทีเขามองว่าหยุนถิงยังเด็กเกินไป อีกทั้งยังอัปลักษณ์เช่นนี้ คิดว่านางแค่มีพรสวรรค์เท่านั้น คาดไม่ถึงว่าจะมีทักษะทางการแพทย์ขนาดนี้ และยังรู้จักการวางยาชาด้วย

ท่านลั่วก็ศึกษาทางด้านยาชาเช่นกัน อย่างไรเสียคนที่ได้รับบาดเจ็บจากลูกธนูมีจำนวนมาก เมื่อเอาออกก็จำเป็นจะต้องเจ็บปวดอย่างมาก แต่ท่านลั่วศึกษามาหลายปี ก็ยังไม่มีการคำนวณที่เหมาะสม

หากฤทธิ์ของยาน้อยเกินไป ก็จะไม่ได้ผลใดๆ หากฤทธิ์ของยามากเกินไป คนคนนั้นก็จะได้รับยาชาจนสลบไปเลย ไม่มีการตอบสนองใดๆ เช่นนี้การรักษาจะไม่ราบรื่น ไม่สามารถสังเกตปฏิกิริยาของคนไข้ได้ทุกเวลา หากคนไข้ทนไม่ไหวก็ทำได้เพียงนอนหลับตายไปแบบนั้น

เห็นหยุนถิงในเวลานี้ ท่านลั่วก็ตกตะลึงอย่างมาก

ยัยเด็กอัปลักษณ์คนนี้คาดไม่ถึงว่าจะเก่งกาจเช่นนี้ รู้จักยาชาเฉพาะที่ แม้แต่เขาก็ทำไม่ได้ แสดงว่าทักษะทางการแพทย์ของนางนั้นเก่งกาจจริงๆ เกรงว่าจะเหนือกว่าเขาด้วยซ้ำ

มิน่าเล่าเจ้าหนูจวินถึงได้แต่งงานกับนาง นางมีความสามารถจริงๆ

เห็นนางใช้ของแปลกๆ เหล่านั้น เพื่อช่วยพันแผลให้ตนเอง ท่านลั่วก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง

“เอาล่ะ ห้ามให้บาดแผลสัมผัสน้ำ เปลี่ยนยาทุกๆ สามวัน ภายในหนึ่งเดือนก็จะฟื้นฟูกลับมาดังเดิม” หยุนถิงจัดเก็บสิ่งของ

“ยัยเด็กอัปลักษณ์อย่าขยับ ส่งของเหล่านี้ของเจ้าคืออะไร ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็น?” ท่านลั่วเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

“อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นสิ่งประดิษฐ์ไฮเทคที่คิดค้นขึ้นตามยุคสมัย ไอ๋หยาพูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจหรอก เพียงแค่ท่านจำเอาไว้ว่า ข้าช่วยชีวิตท่านก็พอ” หยุนถิงตอบกลับอย่างคลุมเครือ

นางไม่สามารถบอกชายชราสมัยโบราณได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของสมัยใหม่ นางไม่รู้ว่าจะอธิบายสมัยใหม่อย่างไร เกรงว่าพูดไปแล้วชายชราก็จะไม่เชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ไม่อยากถูกคนอื่นมองว่าเป็นสัตว์ประหลาดด้วย

“สิ่งประดิษฐ์ไฮเทคหรือ?” ท่านลั่วเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ ทำไมถึงฟังคำพูดของยัยเด็กคนนี้ไม่เข้าใจนะ

“ใช่แล้ว ช่วงนี้ท่านอย่าออกแรงที่ไหล่กับมือนะ ส่วนยานี้กินวันละสามครั้ง กินหลังอาหารครึ่งชั่วยามก็ได้” หยุนถิงส่งยาลดการอักเสบหนึ่งกล่องให้แก่เขา

เมื่อเห็นกล่องที่แปลกประหลาดกล่องนั้น ด้านบนยังมีตัวอักษรด้วย อีกทั้งตัวอักษรเหล่านั้นเขาก็ไม่รู้จัก ท่านลั่วก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ : “สิ่งนี้มีประโยชน์อะไร?”

“เป็นยาลดการอักเสบ กินยานี้แล้วบาดแผลจะหายเร็วขึ้น”

“ยัยหนู ทำไมเจ้าถึงทำเช่นนี้ เมื่อครู่นี้ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไม่สุภาพไม่ใช่หรือ?” ท่านลั่วเอ่ยถามความสงสัยในใจ

“ไม่ใช่แค่ไม่สุภาพเท่านั้น แต่หยาบคายอย่างมาก แน่นอนว่าข้าไม่ให้ยาลดการอักเสบแก่ท่านก็ได้ เช่นนั้นบาดแผลของท่านจะหายช้าลง แต่จะไม่ตาย เพียงแต่ว่าข้าไม่ใช่คนใจคอคับแคบเช่นนั้นหรอก

เนื่องจากท่านเป็นคนที่ซื่อจื่อปฏิบัติอย่างมีมารยาท หลายปีมานี้ก็ช่วยบำรุงร่างกายของซื่อจื่อมาตลอด ตอนนี้ซื่อจื่อเป็นพระสวามีของข้า เขาฝากฝังให้ข้าช่วยท่าน แน่นอนว่าข้าจะพยายามอย่างเต็มที่

อีกอย่างหนึ่ง หากข้าคิดจะจัดการท่าน มันก็มีวิธีอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดแผนร้ายเช่นนี้หรอก ท่านควรจะขอบคุณซื่อจื่อนะ หากไม่ใช่เขาวันนี้ข้าจะไม่ช่วยท่านอย่างแน่นอน” หยุนถิงตอบกลับ

“ไอ๋หยายัยเด็กอัปลักษณ์ เจ้าว่าอะไรนะ คาดไม่ถึงว่าจะต้องการจัดการข้า เจ้าเอาความกล้ามาจากไหนกัน?” สีหน้าของท่านลั่วเคร่งขรึมลง ถลึงตาใส่อย่างเกรี้ยวโกรธ

“แน่นอนว่าต้องอาศัยความสามารถที่แท้จริงของข้า ตาแก่ท่านพักผ่อนให้หายดีแล้วค่อยว่ากัน อย่าพูดว่าตอนนี้ท่านบาดเจ็บเลย ถึงแม้ว่าจะสบายดีท่านก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ฉะนั้นรอให้บาดแผลของท่านหายดีแล้วค่อยมาคิดบัญชีกับข้าก็แล้วกัน” หยุนถิงพูดไปพลาง จัดเก็บสิ่งของเหล่านั้นไปด้วย

ท่านลั่วโกรธจนแทบจะเป็นลม หน้าอกแปรปรวนอย่างรุนแรง ถ้าไม่ใช่ว่าร่างกายครึ่งซีกถูกยาชาจนขยับไม่ได้ล่ะก็ คงจะตบยัยเด็กคนนี้จนตายไปแล้วอย่างแน่นอน

เห็นนางเก็บของเหล่านั้นหมดแล้ว จึงร้อนรนใจทันที : “ยัยเด็กอัปลักษณ์ สิ่งของมากมายเช่นนั้นเจ้าจะไปวางไว้ไหน มันไม่สะดวกที่จะนำไปด้วยนะ มิฉะนั้นก็วางไว้ที่ห้องของข้านี่แหละ ห้องนี้นอกจากข้าแล้วก็ไม่มีใครมาอีก เจ้าวางใจได้”

“ก็เพราะว่ามีท่านอยู่น่ะสิ ข้าจึงไม่ไว้วางใจ” หยุนถิงไม่มองท่านลั่ว และเก็บของไปอย่างรวดเร็ว

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท