จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 71 เจ้าหนูจวินช่วยด้วย

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 71 เจ้าหนูจวินช่วยด้วย

สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ในยุคปัจจุบัน หากคนยุคโบราณพบเห็นสิ่งเหล่านี้ ยังไม่รู้เลยว่าจะเกิดหายนะอะไรขึ้น

“ยัยเด็กอัปลักษณ์ เจ้าหมายความว่าอะไร ตาเฒ่าอย่างข้าเป็นหมอเทวดาที่ทั่วทั้งสี่แคว้นต่างเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง ของดีอะไรไม่เคยเห็นมาก่อน ทำไมข้าถึงทำให้เจ้าไม่วางใจ” ท่านลั่วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

หยุนถิงไม่อยากจะอธิบาย เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ของเขาค่อนข้างดี จึงถอนน้ำเกลือออกมาแล้วทิ้งไป

“แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วหรือ ข้าเห็นว่าในถุงนั้นยังมีน้ำอีกมาก ไม่ต้องให้จนหมดหรือ?” ท่านลั่วถามอย่างเป็นกังวล

“ไม่ต้อง ท่านมีชีวิตชีวาเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องให้น้ำเกลือมากขนาดนั้น” หยุนถิงตอบ

เมื่อท่านลั่วเห็นว่านางต้องการจะเก็บอีกครั้ง เขาก็ยื่นมือไปคว้าถุงน้ำเกลือ “ยัยเด็กอัปลักษณ์ เจ้าเหลือสิ่งนี้ไว้ให้ข้าสักอันเถอะ ข้ารักษาร่างกายให้ซื่อจื่อมากว่าสิบปี มีทั้งคุณงามความดีทั้งเหน็ดเหนื่อยตรากตรำ เจ้าให้ข้าได้ทำความเข้าใจให้ดีเถอะ!”

“เมื่อก่อนนั้นลำบากท่านแล้วจริงๆ ข้าจะให้ซื่อจื่อตอบแทนท่านเป็นอย่างดี” หยุนถิงตอบ

เมื่อเห็นว่านางมีทิฐิ ดวงตาทั้งคู่ของท่านลั่วก็หันไปมองที่หน้าประตู “เจ้าหนูจวิน เจ้าหนูจวินช่วยด้วย หญิงสาวผู้นี้ต้องการจะฆ่าข้า ช่วยด้วย เจ้าหนูจวิน!”

ทันใดนั้นเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา ทำให้สีหน้าของจวินหย่วนโยวที่รออยู่หน้าประตูดูเคร่งขรึมและเกร็งไปทั้งตัว

แต่เมื่อนึกถึงคำอธิบายเมื่อครู่ของหยุนถิง เขาก็ไม่กล้าผลีผลามเข้ามา

หยุนถิงมองดูท่านลั่วส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนา และกล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยาม “ยังคงเป็นนักแสดงแก่สินะ ซื่อจื่อเข้ามาเถิด”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ จวินหย่วนโยวก็ผลักประตูเข้ามาในทันที เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่หมดคำพูดของหยุนถิง และท่านลั่วที่ส่งเสียงครั้งแล้วครั้งเล่า

“แสดง แสดงต่อไป” หยุนถิงกล่าวอย่างหมดคำพูด

“เจ้าหนูจวิน ในที่สุดเจ้าก็มา เมื่อครู่ยัยเด็กอัปลักษณ์ผู้นี้ต้องการจะฆ่าข้าจริงๆ พอเห็นว่าเจ้ามานางก็หยุดมือ!” ท่านลั่วแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

จวินหย่วนโยวชำเลืองมองไปที่บาดแผลบนไหล่ของเขา และรู้สึกโล่งใจที่ได้รับการรักษาแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ข้าช่วยทำแผลให้ตาแก่นี้ แต่เขาอยากได้อุปกรณ์ทางการแพทย์ของข้า ตาแก่ หากท่านอยากได้ ข้าก็จะให้ท่าน ถึงขั้นจะต้องแสดงเรียกร้องความสงสารหรือ?” หยุนถิงดูถูกเขา

“ยัยเด็กอัปลักษณ์ เจ้าพูดจริงหรือ เจ้าบอกว่าจะให้ข้าแล้ว เจ้าห้ามคืนคำเด็ดขาด” ท่านลั่วตื่นเต้นมาก

จะยังมีท่าทางที่ส่งเสียงด้วยความเจ็บปวดทรมานได้อย่างไร ใบหน้าเต็มไปด้วยดีใจ ยื่นมือออกไปหยิบอุปกรณ์ให้น้ำเกลือในมือ และมองดูด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง

จวินหย่วนโยวหมดคำพูด เขากับท่านลั่วรู้จักกันมานานกว่าสิบปี แม้ว่าปกติแล้วท่านลั่วจะมีนิสัยขี้เล่น สันโดษ แปลกประหลาด และมากที่สุดก็เข้ากับคนได้ยาก ยังเคยเรียกร้องความสงสารมาก่อนเลย

“ในเมื่อทำแผลเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นก็พักผ่อนให้เต็มที่ ช่วงนี้ข้าจะส่งรั่วจิ่งมาดูแลท่าน” จวินหย่วนโยวกล่าว

“รั่วจิ่ง เจ้าเด็กคนนั้นเอาแต่ส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ข้าไม่ต้องการเขา ให้หญิงสาวผู้นี้มาดูแลข้า” ท่านลั่วกล่าวอย่างหน้างอ

จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างไม่ต้องคิดว่า “ไม่ได้ นิสัยของหยุนถิงนั้นเหวี่ยงและก่อเรื่องวุ่นวายยิ่งกว่ารั่วจิ่ง หากให้นางอยู่ที่นี่ อย่าว่าแต่ท่านลั่วจะพักฟื้นเลย เกรงว่าแม้แต่นอนหลับก็คงยาก ตอนนี้บาดแผลของท่านเพิ่งได้รับการรักษา จำเป็นต้องพักผ่อน”

ท่านลั่วเลิกคิ้วและมองดู “เจ้าหนูจวินพูดจาน่าเกรงขามเช่นนี้ทำไม? ข้าว่านะเจ้าแค่เป็นห่วงภรรยาของเจ้า และกลัวว่าข้าจะรังแกนาง”

“ไม่ใช่เสียหน่อย ท่านรังแกนางไม่ได้หรอก” จวินหย่วนโยวตอบเบาๆ

แม้ว่าจะรู้จักหยุนถิงได้ไม่นาน แต่จวินหย่วนโยวก็รู้ว่าหยุนถิงเป็นคนที่เกลียดชังคนชั่วเข้ากระดูกดำ แม้แต่หลีอ๋องก็ถูกนางปั่นหัวเล่น ฮ่องเต้ก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย แน่นอนว่ายิ่งไม่ต้องพูดถึงท่านลั่วเลย

เมื่อท่านลั่วได้ยิน สีหน้าก็ไม่น่ามองมากยิ่งขึ้น “เจ้าหนูจวิน เจ้าโตแล้ว รู้จักที่จะเข้าข้างพรรคพวกของตนเอง อย่างไรเสียข้าก็เป็นผู้อาวุโสของเจ้า ชีวิตนี้ของเจ้าล้วนเป็นข้าที่ช่วยรักษาให้ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะทำกับข้าเช่นนี้?”

“ท่านลั่วเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้า ข้าจะซาบซึ้งในบุญคุณไปตลอดชีวิต และจะตอบแทนบุญคุณด้วย แต่หยุนถิงนางเป็นฮูหยินของข้า ไม่ใช่สิ่งของหรือวัตถุใดๆ ดังนั้นข้าจึงต้องให้เกียรตินาง และยิ่งไม่สามารถปล่อยให้นางถูกรังแกได้ ข้าแต่งงานกับนางแล้วก็ต้องให้นางมีความสุข” จวินหย่วนโยวตอบกลับอย่างแข็งกร้าว

หยุนถิงที่อยู่ข้างๆ รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก ท่าทางที่โดดเด่นและพยายามปกป้องของซื่อจื่อช่างหล่อเหลา สมกับเป็นสามีที่ตนเองเลือก

“โอ้โห ซื่อจื่อ ข้าชอบที่ท่านเป็นเช่นนี้ ข้ารักท่านมาก จุ๊บๆ” หยุนถิงเดินเข้าไปกอดแขนของจวินหย่วนโยวด้วยความดีใจ นางจูบที่หน้าผากและแก้มของเขา

มุมปากของจวินหย่วนโยวยกขึ้นสูง และพึงพอใจมาก

เมื่อเห็นใบหน้าที่ดำคล้ำของท่านลั่ว “หนุ่มสาวเช่นพวกเจ้าสองคนทำเช่นนี้ต่อหน้าข้า ช่างขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี ไป ออกไปให้หมด อย่าให้ข้าเห็นพวกเจ้า ช่างขายหน้าจริงๆ”

“เช่นนั้นท่านลั่วพักผ่อนให้สบาย ข้าจะส่งคนมาที่นี่” จวินหย่วนโยวพาหยุนถิงจากไป หลังจากออกไปก็ไม่ลืมที่จะปิดประตู

“ซื่อจื่อเมื่อครู่ท่านหล่อมาก ข้าคิดว่าท่านจะทิ้งข้าให้ดูแลตาแก่นั่นเสียอีก” หยุนถิงเบะปาก

“เจ้ามีนิสัยทำตามใจชอบ ไม่ยอมเชื่อฟังการควบคุมของผู้อื่น นับประสาอะไรกับการรับใช้ผู้อื่น ท่านลั่วมีนิสัยขี้เล่นและวิตถาร หากทิ้งเจ้าไว้จริงๆ เกรงว่าพวกเจ้าสองคนจะทำให้หลังคาบ้านถล่ม” จวินหย่วนโยวตอบ

“ยังเป็นซื่อจื่อที่เข้าใจข้า ดังนั้น ข้าพอใจมากที่ท่านไม่ปล่อยให้ข้าได้รับความไม่เป็นธรรม พรุ่งนี้ข้าจะทำอาหารอร่อยๆ ให้ท่าน” หยุนถิงกล่าวด้วยความดีใจ

“ดี”

หลังจากยุ่งวุ่นวายอยู่นาน ในเวลานี้ก็ดึกมากแล้ว ทั้งสองคนจึงกลับห้องมาอาบน้ำนอน

ทางด้านนี้ ในห้องของท่านลั่ว เมื่อเห็นว่าพวกเขาออกไปแล้ว สีหน้าที่เดิมทีหงุดหงิดก็เปลี่ยนเป็นดีใจและความตื่นเต้นในทันที แขนข้างเดียวที่สามารถขยับได้วางถุงน้ำเกลือลงบนโต๊ะและเริ่มศึกษา

“ยัยเด็กอัปลักษณ์ผู้นี้นิสัยแย่จริงๆ แต่ของสิ่งนี้ช่างวิเศษนัก” ท่านลั่วอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม

เขาปรับลูกล้อกลิ้งที่ด้านบน และเห็นว่าน้ำเกลือไหลเร็วและช้า จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจว่าการออกแบบนี้ดีเยี่ยม

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น หลังจากทานอาหารแล้ว หยุนถิงก็ไปที่จวนซู และก่อนออกเดินทาง นางก็ไม่ลืมที่จะให้พ่อบ้านเตรียมโยเกิร์ตหนึ่งถ้วยและผลไม้ติดตัวไปด้วย

จวนซู

เมื่อเห็นว่าเป็นหยุนถิง คนรับใช้ก็เปิดประตูด้วยความนอบน้อมในทันที และพาพวกนางตรงไปที่เรือนของคุณหนูใหญ่ ซูโหวเย่บอกว่าจะละเลยหยุนถิงไม่ได้เด็ดขาด

“คุณหนูหยุน เจ้ามาแล้ว เร็วเข้าเถิด” ซูชิงโยวกล่าวอย่างกระตือรือร้น

“ได้ ใบหน้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” หยุนถิงถาม

สาวใช้ลู่เอ๋อร์ปิดประตูในทันที และเฝ้าอยู่หน้าประตู

ซูชิงโยวตอบด้วยความดีใจ “ดีขึ้นมากแล้ว ข้ากินยาที่เจ้าให้มาตรงเวลาทุกวัน รวมทั้งยาแก้อักเสบนั่นด้วย ข้าคิดว่าแผลดีขึ้นมากกว่าครึ่งแล้ว”

นางถอดมาสก์หน้าล้างพิษบนใบหน้าออกในทันที และเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง

“การฟื้นตัวค่อนข้างดี เห็นเช่นนี้แล้ว อีกประมาณสิบวันก็คงกลับมาเป็นเหมือนเดิม” หยุนถิงเข้ามาช่วยตรวจดูแผลและทายาให้นาง

“ต้องขอบคุณคุณหนูหยุน บุญคุณอันยิ่งใหญ่ของเจ้า ข้าจะตอบแทนอย่างแน่นอน” ซูชิงโยวรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณอย่างมาก

“ไม่ต้องกล่าวเกินจริงหรอก ข้าไม่ชอบที่มีคนเย่อหยิ่งเช่นนั้น เมื่อวานข้าเพิ่งทำอาหารไป วันนี้จึงนำมาให้เจ้าลองชิม”

“ขอบคุณ”

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ เสียงของสาวใช้ก็ดังมาจากนอกประตู “คุณหนูใหญ่ ฮูหยินให้มามาเอาน้ำแกงบำรุงมาให้อีกแล้วเจ้าค่ะ คราวนี้มีถาดดอกไม้ด้วย”

หยุนถิงเลิกคิ้ว “แม่เลี้ยงของเจ้าช่างเอาใจใส่เจ้าจริงๆ”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท