จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 78 ซื่อจื่อ ข้าอยากให้ท่านป้อนข้า
หยุนถิงกำลังเดินไปที่ห้องโถง แน่นอนว่าเห็นใบหน้าที่เศร้าหมองของโม่ฉือหาน นางเดินผ่านเขาไปโดยไม่มอง และตรงไปที่จวินหย่วนโยว
“ซื่อจื่อ เมื่อคืนท่านบ้าคลั่งเกินไปแล้ว จนกระทั่งตอนนี้ขาของข้ายังปวดเมื่อยไม่หาย และปวดเอวด้วย” หยุนถิงบ่น
“เมื่อคืนเป็นความผิดของข้า คืนนี้ข้าจะระมัดระวัง มา ข้าจะนวดให้เจ้า” จวินหย่วนโยวเย็นชาเหมือนเมื่อครู่ที่ไหนกัน เขากลายเป็นคนกลัวภรรยาในทันที และดึงหยุนถิงให้นั่งลงบนตักของตนเอง จากนั้นก็ยื่นมือไปช่วยนวดเอวให้นาง
เมื่อเห็นว่าโม่ฉือหานก็ยิ่งโกรธมากขึ้น นึกไม่ถึงเลยหยุนถิงหญิงอัปลักษณ์ผู้นี้จะเพิกเฉยต่อตนเอง ราวกับว่ามองไม่เห็นเขา ช่างน่าเกลียดชัง
“หยุนถิง เจ้ามาพอดีเลย เมื่อหลายวันก่อน เจ้ากับจวินหย่วนโยวไปเที่ยวทะเลสาบ ในขณะนั้นเรือของโจวโฉงและหลิ่วเหมยมีบางอย่างแปลกๆ เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” โม่ฉือหานจ้องมองอย่างเย็นชาและโกรธ
หยุนถิงหันหน้าไปมองโม่ฉือหาน “อุ๊ย นี่หลีอ๋องไม่ใช่หรือ? ข้าคิดว่าเป็นสุนัขบ้าเห่าแต่เช้าตรู่เสียอีก”
“ให้ตายเถอะ เจ้าว่าใครเป็นสุนัขบ้า?” โม่ฉือหานกัดฟัน
“ข้าไม่ได้ว่าท่าน ท่านรีบร้อนยอมรับเสียเอง เช่นนั้นก็ไม่เกี่ยวกับข้า” หยุนถิงเบะปาก
“ให้ตายเถอะหยุนถิง เจ้ารนหาที่ตาย!” โม่ฉือหานตะคอกด้วยความโมโห และชกเข้ามาอย่างแรง
หยุนถิงดูถูกเหยียดหยาม นางยังไม่ทันได้เคลื่อนไหว จวินหย่วนโยวก็ปกป้องนางไว้ข้างหลัง
หลิงเฟิงออกโรงในทันที เขาชักดาบออกมาต่อหน้าซื่อจื่อ และต่อสู้กับโม่ฉือหาน
“หลิงเฟิงสู้ๆ สั่งสอนเขาหนัก หากชนะ ข้าจะทำอาหารอร่อยๆ ให้เจ้ากิน” หยุนถิงส่งเสียงเชียร์
“ขอบคุณฮูหยินขอรับ” หลิงเฟิงพยายามโจมตีโม่ฉือหานอย่างเต็มที่
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของโม่ฉือหานก็ดำคล้ำ “ให้ตายเถอะหยุนถิง เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว” พูดจบ เขาก็โจมตีอย่างดุเดือด
อย่างไรก็ตาม หลิงเฟิงก็ไม่ได้อ่อนแอ ทั้งสองคนต่อสู้กันในทันที โดยไม่ให้โอกาสโม่ฉือหานได้ทำร้ายซื่อจื่อและฮูหยินเลยแม้แต่น้อย
“พ่อบ้าน ข้าหิวแล้ว ตั้งโต๊ะอาหารเถอะ” หยุนถิงกล่าว
“ขอรับ ฮูหยิน” พ่อบ้านไปตั้งโต๊ะอาหารในทันที
ไม่นานบนโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหาร
หยุนถิงไม่สนใจว่าที่นี่มีคนต่อสู้กัน นางเดินไปดูโจ๊กในถ้วย ทันใดนั้นก็นึกถึงอาหารเป็นยาที่ตนเองพูดถึงก่อนหน้านี้
“พ่อบ้าน ต่อไปเราจะเปลี่ยนโจ๊กกัน ทำโจ๊กผลไม้ โจ๊กฟักทอง โจ๊กใส่เครื่องแปดอย่าง แบบนั้นทั้งอร่อยและบำรุงร่างกาย” หยุนถิงแนะนำพร้อมอธิบายวิธีการทำสั้นๆ
พ่อบ้านฟังอย่างจริงจัง “ขอรับ บ่าวจะจำไว้ และพรุ่งนี้จะทำตามที่ฮูหยินบอก”
“นอกจากนี้ อาหารที่ซื่อจื่อกินก็ต้องเปลี่ยนอาหารเป็นยาด้วย อีกเดี๋ยวข้าจะเขียนอาหารที่เป็นยาให้ ท่านให้ห้องครัวทำอาหารตามสูตรที่ข้าให้ก็พอ อาหารเป็นยาเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด”
“ขอรับ”
รอยยิ้มของจวินหย่วนโยวลึกยิ่งขึ้น ตั้งแต่หยุนถิงเข้ามาในจวนซื่อจื่อ อาหารในจวนซื่อจื่อทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นหลากหลาย
“อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินอาวุโสฟูแล้ว ถึงตอนนั้นเจ้าก็ไปเข้าร่วมกับข้าด้วย ข้าให้คนเตรียมของขวัญไว้แล้ว ฝ่าบาททรงกำชับเป็นพิเศษว่าให้ข้าพาเจ้าด้วย” จวินหย่วนโยวกล่าว
“เจ้าค่ะ” หยุนถิงหยิบถ้วยโจ๊กและกำลังจะกิน เมื่อเห็นโม่ฉือหานที่ยังคงต่อสู้กับหลิงเฟิงอยู่ไม่ไกล หยุนถิงก็วางถ้วยลงในทันที
“ซื่อจื่อ ข้าอยากให้ท่านป้อนข้า”
เมื่อเห็นที่รอยยิ้มที่สดใสของนาง จวินหย่วนโยวก็รู้ว่านางจงใจ จึงหยิบถ้วยขึ้นมาด้วยความร่วมมือ ตักโจ๊กขึ้นมาหนึ่งช้อนแล้วเป่า จากนั้นยื่นไปที่ปากของหยุนถิง
“ระวังร้อนนะ”
“อืม ซื่อจื่อป้อนนั้นอร่อยมาก ขอบคุณซื่อจื่อเจ้าค่ะ” หยุนถิงกล่าวและอ้าปากกิน
โม่ฉือหานที่กำลังต่อสู้หันมาเห็นฉากนี้พอดี และตกตะลึงจนลืมตอบโต้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าจวินหย่วนโยวผู้เย็นชาจะรับใช้หยุนถิง และป้อนโจ๊กให้นางด้วยตนเอง
เมื่อเห็นทั้งสองคนนี้ใกล้ชิดกัน ใบหน้าของโม่ฉือหานก็ดำราวกับก้นหม้อและโมโหมาก
ให้ตายเถอะ สองคนนี้ต้องจงใจแน่ๆ จวินหย่วนโยวตาบอดจริงๆ นึกไม่ถึงเลยว่าจะตกหลุมรักหยุนถิงหญิงอัปลักษณ์ผู้นี้ แถมยังโปรดปรานนางเช่นนี้ ช่างรสจัดเสียจริง
โม่ฉือหานเห็นแล้วก็รู้สึกเสียสายตา เขาจึงหยุดต่อสู้กับหลิงเฟิง และจากไปอย่างเดือดดาล
เมื่อเห็นว่าเขาหายไป มุมปากของหยุนถิงก็โค้งขึ้น “วันนี้ช่างสบายใจจริงๆ เกรงว่าหลังจากที่หลีอ๋องกลับไป คงต้องโยนถ้วยชาม เห็นใครก็ขัดหูขัดตา”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการหรือ” จวินหย่วนโยวกล่าว
“ใช่ ขอแค่ทำให้หลีอ๋องอึดอัดใจ ข้าจะไม่ละความพยายามอย่างแน่นอน จริงสิซื่อจื่อ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะไม่ออกไปข้างนอก ข้าจะไปหาท่านลั่วที่สวนหลังบ้าน ท่านให้คนนำอาหารไปส่งวันละสามมื้อก็พอ ข้าต้องการตัดขาดจากโลกภายนอก” หยุนถิงกล่าว
“เหตุใดต้องทำเช่นนี้?” จวินหย่วนโยวขมวดคิ้ว
“แน่นอนว่าช่วยสกัดยาถอนพิษให้ท่าน เดิมทีข้าอยากจะบอกท่านตั้งแต่เมื่อคืน ข้าสกัดพิษจากในเลือดของท่าน หลังจากการตรวจสอบและศึกษาค้นคว้า ระบุได้ว่าเป็นพิษสองชนิด ซึ่งต่อต้านกัน และแก้ไขได้ยาก ดังนั้นเกรงว่าในช่วงหลายวันนี้ข้าคงยุ่ง”
จวินหย่วนโยวมองด้วยความตกตะลึง และตื่นเต้นจนไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
ทันทีที่เข้ามานางก็ช่วยถอนพิษให้ตนเองไปสองส่วนแล้ว และตอนนี้ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน นางก็พบพิษอีกสองชนิด ซึ่งทำให้จวินหย่วนโยวประหลาดใจ ตกตะลึง และทำอะไรไม่ถูก
“ฮูหยิน สิ่งที่ท่านพูดเป็นความจริงหรือ?” พ่อบ้านถามด้วยความตื่นเต้น
“เป็นความจริง เพียงแต่พิษคราวนี้ยุ่งยากมาก และข้าเองก็ไม่มั่นใจ ข้าจะไปดูสมุนไพรที่สวนหลังบ้านก่อนว่ามีอะไรที่สามารถนำมาใช้ได้บ้าง” หยุนถิงตอบตามความเป็นจริง
“ขอบคุณฮูหยิน ขอแค่สามารถช่วยซื่อจื่อได้ ไม่ว่าอะไรฮูหยินก็สั่งมาได้เลยขอรับ” หลิงเฟิงคุกเข่าลงบนพื้นดังตุ๊บ
หยุนถิงตกใจ “รีบลุกขึ้นเถิดหลิงเฟิง อย่าเพิ่งคุกเข่าเลย ข้ากลัวว่าจะอายุสั้น ช่วงนี้พวกเจ้าทำอาหารอร่อยๆ ให้ข้ากินก็พอ”
“ขอรับ บ่าวจะให้มีคนเตรียมอาหารไว้ตลอดเวลา” พ่อบ้านรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง
“ตกลง เช่นนั้นชานมก็คงต้องรบกวนพ่อบ้านแล้ว ผลไม้รวมก็สามารถเอามาได้ เช่นเดียวกับชานม จัดส่งให้ก่อนหนึ่งวันแล้วค่อยเก็บเงินในภายหลัง” หยุนถิงอธิบาย
“ทุกอย่างล้วนเชื่อฟังฮูหยิน”
จวินหย่วนโยวมองหยุนถิงที่พูดอย่างสบายๆ แต่เขารู้ดียิ่งกว่าใครว่าพิษในร่างกายของเขาน่ากลัวและซับซ้อนเพียงใด แม้แต่ท่านลั่วก็ที่รักษาร่างกายของเขามานานหลายสิบปี ก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นพิษชนิดใด แต่นางทำได้
จวินหย่วนโยวรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง “หยุนถิง ขอบคุณเจ้านะ”
ประโยคนี้ออกมาจากใจ
“ซื่อจื่อ จะเกรงใจข้าทำไม ท่านดีต่อข้า ข้าก็ย่อมต้องดีต่อท่าน” หยุนถิงตอบ
นางเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เคยอ้อมค้อม ไม่เคยเล่นตลก และยิ่งไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ ไม่มีข้อแลกเปลี่ยน นางทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ หยุนถิงเป็นเช่นนี้ จวินหย่วนโยวจะไม่รักและไม่หวั่นไหวได้อย่างไร
“ต้องการอะไรก็ขอให้บอกข้า แม้ว่าต้องไปหาทั่วทั้งสี่แคว้น ข้าก็จะส่งคนไปค้นหา” จวินหย่วนโหวจริงจังมาก
“เจ้าค่ะ แต่ซื่อจื่อและทุกคนห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร ข้าชอบที่จะจัดการอย่างเงียบๆ” หยุนถิงหัวเราะคิกคัก
หากคนนอกรู้ว่าฝีมือทางการแพทย์ของนางยอดเยี่ยมขนาดนี้ เกรงว่าจะนำมาซึ่งความหายนะ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เบื้องบน หากตนเองไม่สามารถทำงานให้เขาได้ เกรงว่าจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อกำจัดตนเอง หยุนถิงเข้าใจจักรพรรดิเป็นอย่างดี