จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 80 สมกับที่ข้าเลือกมาเป็นสามี

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 80 สมกับที่ข้าเลือกมาเป็นสามี

จวินหย่วนโยวพาท่านลั่วไปที่ห้องโถงด้านข้าง พ่อบ้านให้ห้องครัวตั้งโต๊ะอาหารใหญ่ในทันที ท่านลั่วกินไปพลางบ่นหยุนถิงไปพลาง

จวินหย่วนโยวฟังอย่างเงียบๆ ไม่ได้ตำหนิหยุนถิงและไม่ได้โต้แย้งท่านลั่ว แต่ยังคงรินสุราให้เขาไม่หยุด

ท่านลั่วกินด้วยความพอใจอย่างยิ่ง จนสุราหมดไปเกือบครึ่งไห ยังกินไม่ทันอิ่มก็ฟุบหลับลงไปบนโต๊ะ

พ่อบ้านมองด้วยความงุนงง “ซื่อจื่อ ความสามารถในการดื่มสุราของท่านลั่วไม่ได้แย่ขนาดนั้นใช่หรือไม่?”

เขาจำได้ว่าท่านลั่วสามารถดื่มสุราได้เป็นไห

“ช่วงนี้หยุนถิงต้องการความเงียบสงบ ให้ท่านลั่วพักผ่อนให้เพียงพอ ส่งเขาไปที่ห้องข้างๆ ข้า และส่งองครักษ์เงามังกรไปคุ้มกันอย่างลับๆ” จวินหย่วนโยวสั่ง

“ขอรับ” พ่อบ้านให้คนเอาตัวท่านลั่วไปในทันที และอดไม่ได้ที่จะบ่นในใจว่าซื่อจื่อช่างหน้าเนื้อใจเสือ นึกไม่ถึงเลยว่าจะวางยาท่านลั่ว

ท่านลั่วถูกส่งไปพักผ่อน และทั้งจวนซื่อจื่อก็เงียบสงบลง

จวินหย่วนโยวตั้งใจเดินไปที่สวนหลังบ้าน และนำอาหารกลางวันไปให้หยุนถิง และบอกนางว่าช่วงนี้สามารถอยู่ที่นี่ได้ และทำการทดลองได้ตามสบาย

“แล้วท่านผู้เฒ่าไม่ได้ไปฟ้องท่านหรือ?” หยุนถิงเลิกคิ้วขึ้นและมองไป

“ฟ้องแล้ว แต่ถูกข้ามอมเหล้า” จวินหย่วนโยวตอบตามความจริง

หยุนถิงกล่าวชมเขาในทันที “ซื่อจื่อ ท่านเยี่ยมมาก สมกับที่ข้าเลือกมาเป็นสามี เช่นนี้เขาจะได้นอนหลับสักวันสองวัน และป้องกันไม่ให้มารบกวนข้า”

“ไม่ใช่วันสองวัน อย่างน้อยก็ห้าหกวัน”

“เกิดอะไรขึ้น?” หยุนถิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“ข้าใส่บางอย่างลงในสุราของท่านลั่ว เพื่อทำให้เขาได้พักผ่อนอีกหลายวัน”

วินาทีต่อมา หยุนถิงกอดจวินหย่วนโยวด้วยความตื่นเต้น “ซื่อจื่อ ท่านช่างรู้ใจข้าจริงๆ ไม่เลวเลย เยี่ยมมาก”

จวินหย่วนโยวยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่ใช่ว่าข้าทำเพื่อเจ้าหรือ กลัวว่าเมื่อท่านลั่วตื่นขึ้นมา คงจะด่าทอข้าเป็นการใหญ่”

“จะกลัวอะไร มีข้าอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้ใครรังแกท่าน” หยุนถิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

ความอบอุ่นปรากฏขึ้นในใจขอจวินหย่วนโยว “เมื่อถึงเวลานั้น คงต้องพึ่งพาฮูหยินแล้ว”

“ได้”

จวินหย่วนโยวทานอาหารเป็นเพื่อนหยุนถิง ก่อนที่จะจากไป เดิมทีเขาบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนหยุนถิง แต่ถูกหยุนถิงไล่

ซื่อจื่ออยู่ที่นี่ ใบหน้าอันหล่อเหลานั้นต้องทำให้นางคลั่งไคล้อย่างแน่นอน หากจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จะไม่มีสมาธิทำงาน

หลายวันต่อมา หยุนถิงไม่ได้ออกจากเรือนไม้ไผ่เลย และจวินหย่วนโยวไปส่งอาหารวันละสามมื้อด้วยตนเอง

เมื่อถึงเวลาต้องไปที่จวนซู หยุนถิงก็เอายาขี้ผึ้งมาสองขวด และให้จวินหย่วนโยวส่งคนไปที่นั่น

………

ทางด้านนี้ หลีอ๋องโม่ฉือหานออกมาจากจวนซื่อจื่อด้วยความอึดอัดใจ และโกรธมาก หลังจากที่กลับไป เขาเห็นใครก็ขัดหูขัดตา และทำลายข้าวของในห้องหนังสือ

ให้ตายเถอะ หยุนถิงหญิงอัปลักษณ์ผู้นี้ เห็นได้ชัดว่าหน้าตาน่าน่ารังเกียจ นึกไม่ถึงเลยว่าจวินหย่วนโยวจะเห็นเป็นสมบัติล้ำค่า เมื่อนึกถึงทั้งสองคนที่จงใจแสดงความรักต่อหน้าเขา โม่ฉือหานก็รู้สึกคลื่นไส้และโกรธแค้น

เห็นได้ชัดว่านางเป็นผู้หญิงที่เขารังเกียจและเกลียดชัง แต่ตอนนี้กล้าที่จะเพิกเฉยต่อเขา ช่างสมควรตายจริงๆ นอกจากความโมโหแล้ว โม่ฉือหานก็โกรธมากและไม่เต็มใจ เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม

นอกประตู คนรับใช้มาแจ้งว่าองค์ชายสี่มาขอเข้าเฝ้า

“พี่รอง ท่านออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้ เหตุใดท่านต้องตีข้าจนสลบ” โม่ฉือชิงเดินตรงเข้ามาด้วยความโกรธ

เดิมทีโม่ฉือหานก็โกรธมากอยู่แล้ว เมื่อเห็นเขา สีหน้าก็ไม่น่ามองยิ่งขึ้น “ข้าขอถามเจ้า เมื่อหลายวันก่อนตอนที่ไปเที่ยวทะเลสาบ เจ้าเห็นอะไรผิดปกติบนเรือลำนั้นหรือไม่?”

โม่ฉือชิงตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง “พี่รอง ท่านรู้ได้อย่างไร ข้าจะบอกท่านว่าในตอนนั้นเรือลำนั้นแปลกมาก และความเร็วในการกลับไปกลับมาก็เร็วจนน่าตกใจ ไม่ต้องพูดถึงว่าแปลกเพียงใด”

“ในเวลานั้นหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวกำลังทำอะไร?” โม่ฉือหานถามอย่างเย็นชา

“พวกเขากำลังตกปลา จวินหย่วนโยวตกปลาบนเรือ และหยุนถิงก็กระโดดลงไปจับปลาในน้ำ อ้อ ในเวลานั้นพวกเขากำลังแข่งขันกัน ใครจับปลาได้สามตัวก่อนเป็นผู้ชนะ”

สีหน้าของโม่ฉือหานเย็นชายิ่งขึ้น “ไม่มีอะไรผิดแปลกเลยหรือ?”

“พี่รอง ทำไมจู่ๆ ท่านถึงถามข้าเช่นนี้? หากพูดถึงความผิดแปลกที่สุดก็คงเป็นเรือลำนั้น ข้ารู้สึกเหมือนว่าเรือลำนั้นถูกคนควบคุม เห็นได้ชัดว่าเรือของจวินหย่วนโยวอยู่ตรงหน้าข้า หากต้องการชนก็ควรชนเขา ผลสุดท้ายเรือลำนั้นก็ไม่ดูให้ดี หลบเรือของเขามาชนข้าโดยตรง โชคดีที่ในตอนนั้นข้าตอบสนองอย่างรวดเร็ว และกระโดดลงไปที่เรือของจวินหย่วนโยว มิเช่นนั้นข้าคงต้องถูกของไม่สะอาดเกาะติดอย่างแน่นอน” โม่ฉือชิงเบะปาก

โม่ฉือหานเลิกคิ้ว “เจ้าบอกว่าเรือลำนั้นจงใจหลบเรือของจวินหย่วนโยวไปชนเรือของเจ้า? ”

“ใช่”

ดวงตาอันดำขลับของโม่ฉือหานฉายแววเฉียบคม เขาเดาว่าเรือลำนั้นต้องเกี่ยวข้องกับจวินหย่วนโยวและหยุนถิงอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องสืบออกมาให้ได้

“ไม่สิพี่รอง ท่านกำลังเปลี่ยนเรื่อง ข้ามาที่นี่เพื่อคิดบัญชีกับท่าน” โม่ฉือชิงกล่าวด้วยความโกรธ

“เอาล่ะ เสด็จพี่ให้ข้าตรวจสอบเรื่องเรือลำนั้น เจ้ามาอยู่กับข้า หากตรวจสอบได้แล้ว จะยกคุณงามความดีให้แก่เจ้า” โม่ฉือหานกล่าวเบาๆ

“ท่านพูดเองนะ ท่านห้ามผิดคำพูด”

“ข้าไม่เคยผิดคำพูด”

……….

หลายวันผ่านไป เช้าตรู่วันนี้ก็มาถึงวันงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินเฒ่าฟู่

จวินหย่วนโยวตื่นแต่เช้า เขาไปตรวจสอบของขวัญวันเกิดด้วยตนเอง และแน่ใจว่าไม่มีปัญหา หลังจากนั้นจึงยกอาหารไปให้หยุนถิง

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หยุนถิงทำการทดลองยาอยู่ตลอด จนมาถึงขั้นตอนสำคัญ และวันนี้ก็เกือบจะเป็นวันเดียวกัน

เมื่อเห็นจวินหย่วนโยวเข้ามา หยุนถิงก็กล่าวว่า “ซื่อจื่อ วันนี้ข้าไม่ไปได้หรือไม่?”

“เกรงว่าจะไม่ได้ เมื่อหลายวันก่อนฮ่องเต้ทรงเรียกข้าไปเข้าเฝ้า และให้ข้าพาเจ้าไปด้วย ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นฮูหยินของข้า และอยากให้ฮูหยินเฒ่าฟู่ได้พบเจ้า

เรื่องยาถอนพิษรอให้เจ้ากลับมาแล้วค่อยทำก็ได้ วันนี้ไม่ต้องรีบร้อน ถึงอย่างไรงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินเฒ่าฟู่ก็มีเพียงปีละครั้ง ตอนที่ข้ายังเด็ก ฮูหยินอาวุโสช่วยข้าไว้มากมาย” จวินหย่วนโยวตอบกลับ

“ก็ได้ ข้าจะไปกับท่าน” หยุนถิงมานั่งทานอาหารและกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า

เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่ขั้นตอนซับซ้อนเช่นนั้น สีหน้าของหยุนถิงก็ดูขมขื่น “ซื่อจื่อ แต่งตัวเรียบง่ายกว่านี้ไม่ได้หรือ?”

“ข้าจะช่วยเจ้าเอง” จวินหย่วนโยวชำนาญอยู่แล้ว และช่วยหยุนถิงแต่งตัวอย่างคล่องแคล่ว

เครื่องประดับศีรษะที่หนักอึ้ง ในที่สุดหยุนถิงก็ตระหนักได้ว่าผู้หญิงในสมัยโบราณนั้นยุ่งยากเพียงใด

ทั้งสองเก็บข้าวของและขึ้นไปบนรถม้า โดยมีหลิงเฟิงและรั่วจิ่งคุ้มกันพวกเขา และตรงไปยังจวนฟู่

บนรถม้า หยุนถิงหาที่นั่งตามสบายและพิงไหล่ขอจวินหย่วนโยว “ซื่อจื่อ ข้าของีบสักครู่ ถึงแล้วท่านเรียกข้าด้วย”

“ได้ เจ้างีบสักพักเถอะ” จวินหย่วนโยวประคองศีรษะของนางให้ตรง

“จริงสิซื่อจื่อ รบกวนท่านส่งคนไปที่จวนซู และพาซูชิงโยวมา” หยุนถิงกล่าว

“เหตุใดถึงต้องไปรับนาง?”

“วันนี้ตระกูลซูมีการแสดงที่น่าสนุก เกรงว่าแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่ที่เตรียมการอย่างหนัก จะต้องคว้าน้ำเหลว แต่ข้าคิดว่าซูชิงโยวคงไม่ไปถึงจวนฟู่ได้อย่างราบรื่นเช่นนั้น ดังนั้นพวกเราต้องช่วยนาง”

“ตกลง รั่วจิ่ง เจ้าไปรัซูชิงโยว” จวินหย่วนโยวพูดเบาๆ

“ขอรับซื่อจื่อ” รั่วจิ่งจากไปในทันที

หยุนถิงหลับตาลง หลังจากนั้นก็เข้าไปในมิติของตัวเอง เมื่อครู่นางใส่ยาสมุนไพรที่ใช้ทดลองเหล่านั้นลงในมิติของตัวเอง เช่นนี้นางก็สามารถเฝ้าดูความคืบหน้าของการทดลองได้ตลอดเวลาแล้ว

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท