จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 217 ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านไม่อยากแยกจากข้า
โหวฉิงเต็มไปด้วยความลำบากใจ “ท่านอ๋อง คุณหนูหยุนกับจวินซื่อจื่อกำลังพักผ่อนอยู่ในห้อง หากเข้าไปรบกวนตอนนี้ คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่?”
สีหน้าของโม่ฉือหานเย็นชาลงกะทันหัน “ทำไม ข้ามาแล้วนางยังกล้าไม่พบหรือ?”
โหวฉิงตกใจจนตัวสั่น “ท่านอ๋องเข้าใจผิดแล้ว ฮูหยินของข้าคลอดยาก สองวันนี้คุณหนูหยุนดูแลฮูหยินเหนื่อยล้าเกินไป ข้าจะส่งคนไปแจ้งต่อคุณหนูหยุนเดี๋ยวนี้”
“ไม่จำเป็น ข้าไปหานางด้วยตัวเอง!” โม่ฉือหานฮึออกมาอย่างเย็นชา ลุกขึ้นมาก็เดินจากไป
โหวฉิงรีบร้อนนำทาง ในใจกลับอดที่จะบ่นขึ้นมาไม่ได้ ผู้ยิ่งใหญ่สามคนนี้มาอยู่ด้วยกันนี่คือจะเอาชีวิตของเขาใช่ไหม
ไม่ช้าทั้งสองคนก็เดินมาถึงลานหลัง โม่ฉือหานเห็นรั่วจิ่งกับหลิงเฟิงเฝ้าอยู่หน้าประตูจากระยะไกล แสดงให้เห็นว่าจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงอยู่ด้านใน
โม่ฉือหานเดินก้าวใหญ่เข้าไป “ข้าต้องการพบหยุนถิง ไปรายงานนาง”
“ขอโทษด้วยหลีอ๋อง ฮูหยินกับซื่อจื่อของเรากำลังนอนกลางวัน มีเรื่องอะไรรอให้พวกเขาตื่นขึ้นมาแล้วค่อยว่ากันเถอะ” หลิงเฟิงปฏิเสธอย่างเย็นยะเยือก
นัยน์ตาสีดำที่ดุร้ายของโม่ฉือหานกวาดมองมา “บัดซบ องครักษ์อย่างเจ้าก็กล้าพูดกับข้าเช่นนี้หรือ!”
“หลีอ๋องเข้าใจผิดแล้ว ข้าก็แค่ทำตามหน้าที่ที่องครักษ์คนหนึ่งควรต้องทำเท่านั้น ซื่อจื่อสั่งไว้ว่าห้ามใครไปรบกวนการพักผ่อนของเขากับฮูหยิน หากหลีอ๋องยังทำเช่นนี้อีก ก็อย่าหาว่าข้าที่เป็นผู้น้อยล่วงเกินผู้ใหญ่” หลิงเฟิงกล่าวอย่างไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตนจนดูต่ำต้อย
“ไอ้ระยำ นี่เจ้ากล้ายั่วยุข้าหรือ คนมา บุกเข้าไป!” โม่ฉือหานคำรามด้วยความโกรธ
ทันใดนั้นคนชุดดำสิบกว่าคนก็ลอยลงมาจากฟ้า จู่โจมไปทางหลิงเฟิงกับรั่วจิ่งทันที
“ท่านอ๋องไม่ได้นะ ท่านกับคนของจวินซื่อจื่อต่อสู้กันที่นี่ หากเรื่องไปถึงหูฝ่าบาท ฝ่าบาทต้องโทษว่าข้าต้อนรับแขกไม่ทั่วถึงอย่างแน่นอน” โหวฉิงเกลี้ยกล่อมทันที
“ถอยไปข้างหนึ่งเลยไป ตอนนี้ข้าไม่มีเวลามาฟังเจ้าพล่าม” โม่ฉือหานกล่าวด้วยความโมโห
โหวฉิงวิ่งออกไปไกลทันที มองดูคนสองคนต่อสู้อยู่ด้วยกัน ในใจรู้สึกกลัวแทบตาย โหวฉิงนึกถึงโม่เหลิ่งเหยียน รีบไปหาเขาทันที
เพียงแต่ว่า เมื่อโม่เหลิ่งเหยียนได้ยินว่าหลีอ๋องกับคนของจวินหย่วนโยวกำลังต่อสู้กันอยู่ สีหน้าสงบนิ่ง กล่าวอย่างไม่รีบร้อน “ถึงแม้จะสู้กันจนตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน ท่านอยู่เฝ้าพี่สาวของข้าที่นี่ก็พอ ถึงแม้ฝ่าบาทจะถามขึ้นมา ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน”
โหวฉิงคิดแล้วก็ถูก “ใช่แล้ว ข้าไม่ได้เป็นคนให้พวกเขาต่อสู้กันเสียหน่อย พวกเขาจะสู้กันเองนี่นา เสียดายดอกไม้ใบหญ้าในลานของข้า”
“พอเถอะนายท่าน ดอกไม้ใบหญ้าอีกหน่อยค่อยหาซื้อก็ได้ ท่านก็อยู่ดูแลลูกที่นี่เถอะ อย่าไปเพิ่มความวุ่นวายเลย” ฮูหยินเอ่ยปาก
“ฟังคำฮูหยิน”
นัยน์ตาสีดำที่คมกริบของโม่เหลิ่งเหยียนหรี่ลงเล็กน้อย ก้าวเท้าออกจากห้องไป เดินมาทางด้านนี้
เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จู่ๆทำไมโม่ฉือหานผู้นี้ถึงมาที่นี่ได้ เขาคงไม่ได้ตั้งใจมาทะเลาะกับจวินหย่วนโยวโดยเฉพาะหรอกใช่ไหม?
หลังจากที่โม่เหลิ่งเหยียนเร่งไปถึง ก็เห็นคนของโม่ฉือหานถูกทุบตีจนล้มอยู่บนพื้นพอดี นอกจากหลิงเฟิงกับรั่วจิ่งแล้ว ยังมีองครักษ์เงามังกรเพิ่มขึ้นมาสี่ห้าคน
โม่ฉือหานรู้สึกโมโหอย่างมาก มองไปที่ทุกคนที่ล้มอยู่บนพื้นด้วยความโกรธเคือง แทบอยากจะสับหลิงเฟิงและคนอื่นๆเป็นหมื่นๆชิ้น แต่เขาก็รู้ว่า ตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององครักษ์เงามังกร หดหู่และคับข้องใจอย่างยิ่ง
โม่ฉือหานเห็นโม่เหลิ่งเหยียนเข้าพอดี ถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่า ฮูหยินของแม่ทัพภักดีคือพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของเขา “ซวนอ๋อง เจ้าเข้าไปเรียกหยุนถิงออกมา”
โม่เหลิ่งเหยียนเลิกคิ้ว “เหตุใดหลีอ๋องไม่เข้าไปด้วยตัวเองเล่า?”
“หากข้าสามารถเข้าไปได้ ยังต้องใช้เจ้าอีกหรือ?”
“ทั่วทั้งใต้หล้าแห่งนี้ นอกจากฝ่าบาทแล้วยังไม่มีใครสามารถออกคำสั่งกับข้าได้” โม่เหลิ่งเหยียนตอกกลับไป
ใบหน้าของโม่ฉือหานมืดมนราวกับน้ำแข็งมากยิ่งขึ้น “เช่นนั้นเจ้ามาทำไม?”
“มาดูว่าท่านถูกตบหน้าอย่างไรไงล่ะ”
“บัดซบ” โม่ฉือหานโกรธจนเส้นเลือดตรงหน้าผากปูดออกมา ขาดแค่กระอักเลือดออกมาเท่านั้น ทำไมแต่ละคนถึงได้พากันต่อต้านเขา
คนก็ไม่ได้พบ โม่ฉือหานก็บุกเข้าไปไม่ได้ สู้ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ อย่าให้พูดเลยว่าหดหู่และคับข้องใจมากแค่ไหน สะบัดแขนเสื้อเดินออกไป แต่ว่าเขาก็ไม่ได้จากไป แต่ไปที่ห้องโถงด้านหน้า เขาไม่เชื่อหรอกว่าหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวจะไม่ออกมา
ด้านในเรือน หยุนถิงอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของจวินหย่วนโยว ความจริงตอนที่โม่ฉือหานมาที่ด้านนอกลาน พวกเขาก็ได้ยินแล้ว เพียงแต่ไม่สนใจเท่านั้น
เวลานี้ไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวจากด้านนอกแล้ว หยุนถิงอดที่จะสงสัยไม่ได้ “ซื่อจื่อ ท่านว่าจู่ๆหลีอ๋องมาหาข้าทำไม ไม่ใช่ว่าในที่สุดก็รู้ถึงความดีของข้าแล้ว คงไม่ได้จะเปลี่ยนใจกลับมาหาข้าหรอกใช่ไหม”
“เขาฝันหวานไปเถอะ ข้าจะไม่ให้โอกาสเขาแย่งเจ้าไปหรอก” จวินหย่วนโยวกล่าวตอบอย่างแข็งกร้าว
หยุนถิงซาบซึ้งอย่างยิ่ง “ซื่อจื่อของข้าองอาจห้าวหาญ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านไม่อยากแยกจากข้า”
“เจ้าตัวเล็ก พักผ่อนนานพอแล้วใช่ไหม อีกสักรอบไหม?” จวินหย่วนโยวกล่าวถาม
สีหน้าของหยุนถิงเคร่งขรึมลงมาทันที “ซื่อจื่อ ท่านปล่อยข้าไปเถอะ ตอนนี้ข้าปวดเอวปวดหลังขาเป็นตะคริว ท่านอย่าทรมานข้าอีกเลย คนที่ถูกเลื่อยขาเก้าอี้คือข้าแท้ๆ ควรเป็นข้าที่โกรธถึงจะถูก ท่านทรมานข้าทำไม”
จวินหย่วนโยวยิ้มอย่างชั่วร้าย จงใจเข้าไปใกล้หยุนถิง “ย่อมต้องปรนนิบัติฮูหยินให้ดี ทำให้ฮูหยินพึงพอใจแล้ว ถึงจะสามารถปกป้องไม่ให้ขาเก้าอี้อย่างข้าถูกเลื่อยได้”
“ตีฝีปาก” หยุนถิงกลอกตามองเขาครู่หนึ่ง แก้มกลับแดงระเรื่อ
“ข้าก็แค่พูดไปตามความจริงเท่านั้น ฮูหยินปกป้องข้าเช่นนั้น ข้าย่อมต้องปรนนิบัติฮูหยินอย่างเต็มความสามารถอยู่แล้ว” จวินหย่วนโยวหัวเราะออกมาเบาๆ
“ซื่อจื่อห้ามพูดต่ออีก พักผ่อนครู่หนึ่งข้าต้องไปดูร่างกายของฮูหยิน” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ตกลง” จวินหย่วนโยวตามใจอย่างมาก
ทั้งสองคนพักผ่อนไปครู่หนึ่ง ถึงได้ลุกขึ้นมา จวินหย่วนโยวให้หลิงเฟิงไปเตรียมอาหารทันที
พวกเขาสองคนกลับเข้าไปในเรือนตั้งแต่เช้าจนกระทั่งตอนบ่ายถึงออกมา ตอนเที่ยงก็ยังไม่ได้กินอะไร คลอเคลียจนถึงตอนนี้ เวลานี้ทั้งสองคนย่อมต้องหิวมากอยู่แล้ว
ไม่นานเท่าไหร่ อาหารหรูหราชนิดต่างๆก็ถูกวางเอาไว้บนโต๊ะ หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวล้างมือสะอาดแล้วก็เข้ามานั่งรับประทาน
โม่ฉือหานที่อยู่ด้านนี้ได้ยินผู้ใต้บังคับบัญชาที่เฝ้าลานของหยุนถิงเอาไว้ตลอดบอกว่า หลังจากที่พวกเขาสองคนออกมาแล้วก็ไปกินข้าวที่ห้องโถงด้านข้าง โม่ฉือหานตรงเข้ามาทางนี้
ทันทีที่เข้าไปก็เห็นจวินหย่วนโยวกำลังป้อนอาหารให้กับหยุนถิง โม่ฉือหานเต็มไปด้วยการดูหมิ่นและรังเกียจ “ตัวเองไม่มีมือหรือไง?”
หยุนถิงเหลือบมองคนที่เข้ามาครู่หนึ่ง “ซื่อจื่อของข้าโปรดปรานข้า พอใจจะป้อนข้า เกี่ยวอะไรกับหลีอ๋องด้วย?”
“ฮูหยินของข้า ย่อมต้องเอาอกเอาใจอยู่แล้ว หยุนถิงคือหัวใจของข้า แก้วตาดวงใจของข้า สุดที่รักของข้า” จวินหย่วนโยวโอ้อวดอย่างแสดงอำนาจ
โม่ฉือหานโกรธจนหน้าดำคร่ำเครียด เส้นเลือดตรงคอกระตุกขึ้นมารางๆ สองผัวเมียจวินหย่วนโยวที่สมควรตายคู่นี้ นี่คือจงใจจะทำให้เขาขยะแขยงหรือ
“ท่านอ๋อง อย่าลืมเรื่องสำคัญ” องครักษ์เหลยถิงเตือนสติ
โม่ฉือหานอดกลั้นความโกรธเอาไว้ ถึงได้เอ่ยปากขึ้นมา “ข้าไม่อยากจะถือสาหาความกับพวกเจ้า หยุนถิงข้าต้องการจะซื้อสิ่งที่เจ้าให้คุณชายใหญ่ตระกูลโจวไปครั้งก่อน เท่าไหร่เจ้าเสนอมาเลย?”
น้ำเสียงโอหัง เย่อหยิ่ง ราวกับการได้รับความสนใจจากเขาเป็นพระคุณอันใหญ่หลวง
หยุนถิงมองไปทางจวินหย่วนโยวด้วยความงุนงง “ซื่อจื่อ ข้าให้สิ่งของกับคุณชายใหญ่ตระกูลโจวหรือ ทำไมข้าจำไม่ได้ล่ะ?”
“ก่อนหน้านี้ไม่นานเจ้าเพิ่งรักษาโรคไม่สามารถแข็งตัวได้ของคุณชายใหญ่ตระกูลโจวหายไม่ใช่หรือ ได้ยินว่าจวนตระกูลโจวแต่งผู้หญิงให้คุณชายใหญ่ตระกูลโจวหลายคน ตอนนี้ตั้งครรภ์กันหลายคนแล้ว” จวินหย่วนโยวจงใจกล่าวออกมา
“หรือว่าหลีอ๋องก็ไม่สามารถแข็งตัวได้?” หยุนถิงจงใจแกล้งถาม
นางต้องการจะทำให้โม่ฉือหานอับอาย ตอนนั้นเขาทุ่มเทกำลังทำให้ตัวเองอับอายอย่างเต็มความสามารถ ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
กรามของโม่ฉือหานเกร็งตึง นัยน์ตาสีดำเต็มไปด้วยกระหายเลือดที่รุนแรง สีหน้าไม่น่าดูอย่างมาก “บัดซบ หยุนถิงนี่เจ้ารู้อยู่แล้วยังแกล้งถามอีกหรือ?”