จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 222 จงหลบซ่อนตัวเองไว้แล้วกลับมา

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่222 จงหลบซ่อนตัวเองไว้แล้วกลับมา

ผู้หญิงทุกคนในลานบ้านมองไปที่หยุนถิงที่คุกเข่าอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ยังเป็นคุณหนูใหญ่ที่หยิ่งผยองและเจ้าอำนาจอยู่อีกหรือไม่

ในอดีต ทุกคนไม่เห็นด้วยที่หยุนถิงส่งกองทัพขนหงส์ไปให้หลีอ๋อง หยุนถิงเทสลอดใส่ในอาหาที่พวกนางกิน ทิ้งอุจจาระลงในบ่อน้ำดื่มที่พวกนางดื่ม แม้กระทั่งเอาเงินค่าขนมของทุกคนไปหมด

ต่อมาหยุนถิงไม่พอใจที่พวกนางที่ไม่เชื่อฟังการจัดการของนางจ้าว ก็พาคนมาทุบลานบ้านของพวกนางบ่อยๆ ทำเหมือนกับโจรเลย ขนาดมีครั้งหนึ่งหยุนถิงถึงกับให้คนจุดไฟเผาบ้านกลางดึก โชคดีที่ทุกคนตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

เรื่องแบบนี้มีมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นผู้คนจำนวนมากรู้สึกหมดหวังต่อหยุนถิง ถ้าไม่ใช่เพราะคำนึงถึงบุญคุณของฮุหยินในตอนนั้น เกรงว่าคนเหล่านี้คงจากไปนานแล้ว

ตอนนี้เมื่อทุกคนเห็นหยุนถิงคุกเข่าลง พวกนางก็ตกตะลึงทันที หลายคนถึงกับคิดว่านี่คงไม่ใช่อุบายใหม่ ๆ ของคุณหนูใหญ่ที่ใช้มามาทรมานคนหรอกนะ

“คุณหนูใหญ่ ท่านรีบลุกขึ้นเถอะเจ้าค่ะ” ซูหลินกำลังจะดึงหยุนถิงขึ้นมา

“ไม่ ข้าควรคุกเข่า ทุกคนรับได้ ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ทุกคนยังคงยึดมั่นในความตั้งใจเดิมและเฝ้าอยู่ที่นี่ ข้าชื่นชมและประทับใจจริงๆ

เมื่อก่อนคือข้าไม่รู้เรื่องรู้ราว ข้าสามควรตาย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว รู้ว่าใครจริงใจกับข้า ใครเสแสร้งกับข้า ดังนั้นข้ารับกองทัพขนหงส์กลับมาจากนางจ้าว

กองทัพขนหงส์คือเลือดเนื้อของแม่ข้า และก็เป็นความเชื่อที่ทุกคนยึดมั่น ข้าจะไม่ยอมให้ใครเหยียบย่ำได้ เห็นแก่ที่แม่ของข้า โปรดให้โอกาสข้าได้แก้ไขเถอะนะ” หยุนถิงกล่าวอย่างเคร่งขรึมและหยิบป้ายออกมาในอ้อมแขนของเธอ

เมื่อทุกคนเห็นป้าย ตาของพวกนางก็แดงไปหมด มันคือป้ายขนหงส์ของฮูหยิน ก็เป็นคุรหฯใหญ่มอบให้กับนางจ้าวเมื่อกี่ปีก่อน

พวกนางไม่คิดว่าจะได้เห็นป้ายนี้ด้วยตาตัวเองในสักวันหนึ่ง ทุกคนตื่นเต้นน้ำตาไหลอย่างเงียบ ๆ

นั่นเป็นความเชื่อและความศรัทธาเดียวที่สนับสนุนพวกนางมาหลายปี และยังเป็นเป้าหมายที่พวกนางสาบานว่าจะไล่ตามตลอดชีวิต

“คุณหนูใหญ่ ท่านรีบลุกขึ้นเถอะ ข้ายอมเชื่อท่าน” กัวอวิ๋นโหรวพูด และรีบพยุงนางลุกขึ้น

“พวกเราก็เต็มใจที่จะเชื่อในตัวคุณหนูใหญ่อีกครั้ง ฮูหยินใจกว้าง มีความสามารถที่น่าทึ่ง ลูกสาวของท่านต้องไม่เลวแน่” ทุกคนประทับใจในความจริงใจของหยุนถิง

จากนั้นหยุนถิงก็ยืนขึ้น “ขอบคุณทุกคนมากที่ยอมเชื่อใจข้าอีกครั้ง”

“คุณหนูใหญ่ ที่ท่านพูดเมื่อครู่ว่าต้องการฟื้นฟูกองทัพขนหงส์ ท่านมีแผนการแล้วหรือยัง” อู๋หนี๋จื่อถาม

“มี นี่เป็นเพียงการคิดของข้า ข้าพูดออกมาให้ทุกคนฟังก่อน ถ้าคิดว่ามันเป็นไปได้ก็นำไปปฏิบัติ ถ้าไม่ได้ผล พวกเราค่อยมาหารือกันต่อ” หยุนถิงตอบ

ด้วยประโยคนี้ ทุกคนเชื่อในทันทีว่าหยุนถิงเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

ในอดีตคุณหนูใหญ่คอยบังคับพวกนางเสมอ ไม่เคยสุภาพเท่านี้มาก่อน ยากมากที่จะมาปรึกษาหารือกับพวกนาง

“คุณหนูใหญ่ เข้าไปคุยกันเถอะ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา

หยุนถิงตามทุกคนเข้าไปในบ้าน “หลายปีมานี้ ทุกคนยังคงเต็มใจอยู่ที่นี่ ข้ารู้สึกขอบคุณและตื้นตันใจมาก แต่ไม่สามารถกักขังทุกคนไปตลอดชีวิตเพราะกองทัพขนหงส์ พวกเจ้าควรมีชีวิตของตัวเองด้วย

ข้าซื้อร้านค้าและบ้านมากมายจากองค์ชายสี่และจวินซื่อจื่อ บางส่วนอยู่ในเมืองหลวง บางส่วนอยู่ในเมืองอื่น และยังมีบ้างอยู่ในสามแคว้นอื่น ๆ ทุกคนสามารถเลือกได้ตามสถานที่ที่อยากไป ร้านค้าและบ้านพร้อมอยู่หมด

มองเผิน ๆ เหมือนทุกคนกำลังทำธุรกิจเล็ก ๆ การค้าขายเล็ก ๆ หรือดูแลบ้าน แต่ความจริงแล้วกำลังสืบข่าวสารของเมืองที่ตนเองอยู่ และทำหน้าที่เป็นจุดติดต่อของกองทัพขนหงส์ ซึ่งเรียกว่าการปลอมตัว

ด้วยวิธีนี้ สี่แคว้นก็จะมีคนของกองทัพขนหงส์ของเราหมด และข่าวที่ทุกคนสืบได้สามารถส่งถึงกันผ่านนกสื่อสาร แบบนี้พวกเราก็สามารถรวบรวมข้อมูลล่าสุดได้โดยตรง

ทุกคนสามารถรับคนเข้าร่วมกองทัพขนหงส์ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก เด็กกำพร้า หรือผู้ที่มีความสามารถพิเศษล้วนได้หมด แต่ข้ามีข้อกำหนดเพียงข้อเดียว นั่นคือความจงรักภักดีอย่างแท้จริง

ในฐานะสมาชิกของกองทัพขนหงส์ หากต้องการสร้างครอบครัวก็สร้าง ลูกหลานของพวกเจ้าจะเข้าร่วมกองทัพขนหงส์ได้เป้นอันดับแรก ข้อนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ทุกคนต้องจำไว้ว่าจะต้องไม่เปิดเผยตัวตน แม้แต่สามีหรือคนในครอบครัวก็ห้ามให้พวกเขารู้ตัวตนของพวกเจ้า

เมื่อมีคนทรยศหรือถูกคนอื่นหลอกใช้ ให้ตัดขาดการติดต่อกับหัวหน้าทันที เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรคนอื่น ๆ

พวกเจ้าในฐานะกองบัญชาการน้อยของกองทัพขนหงส์ บุคลากรที่ได้รับเข้ามาในอนาคตอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเจ้า และเมืองหลวงในฐานะกองบัญชาการใหญ่จะไม่เข้าไปแทรกแซง เพียงแค่ส่งข่าวมาเป็นระยะ

นี่เป็นงานที่ลำบาก และหนทางยังอีกยาวไกลหากทุกคนคิดว่าเป็นไปได้หรือมีอะไรเพิ่มเติม พวกเราทุกคนสามารถพูดคุยหารือกันได้อย่างอิสระ “หยุนถิงพูดแผนของนางออกมา

ทุกคนตกตะลึง พวกนางคิดว่าคุณหนูใหญ่แค่กำลังจัดระบบบุคลากรใหม่ แต่พวกนางไม่คิดว่านางจะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและทะเยอทะยานขนาดนี้ ที่สำคัญคือการวางแผนนั้นพิถีพิถันมาก ซึ่งน่าทึ่งมาก

“คุณหนูใหญ่ ท่านต้องการแยกออกเป็นส่วน ๆ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของกองทัพขนหงส์ไว้” กัวอวิ๋นโหรวอดไม่ได้ที่จะชื่นชม

“ถูกต้อง แม้ว่าทุกคนจะอายุมากแล้ว แต่พวกเจ้ามีประสบการณ์การต่อสู้ในสนามรบ ยุทธวิธีและกลยุทธ์ในการต่อสู้ สิ่งเหล่านี้มีค่ามาก ข้าคิดว่าทุกคนก็ไม่อยากให้ประสบการณ์เหล่านี้หยุดอยู่แค่นี้ ส่งต่อไปยังลูกหลาน หรือญาติสาวกทั้งหลาย จากรุ่นสู่รุ่น กองทัพขนหงส์ก็จะคงอยู่ตลอดไป” หยุนถิงกล่าวอย่างตื่นเต้น

ในขณะนี้ ทุกคนต่างมองหยุนถิงด้วยความชื่นชม “คุณหนูใหญ่ ฉันยินดีที่จะทำตามแผนนี้ ข้าอยากลองไปแคว้นชางเยว่”

“บรรพบุรุษของข้ามาจากแคว้นเป่ยลี่ ข้าอยากกลับไปดูบ้านเกิดของข้า”

“ข้าเป็นเด็กกำพร้า แต่ข้าได้ยินมาว่าภูเขาหิมะในแคว้นเทียนจิ่วนั้นดีมาก ข้าอยากไปมานานแล้ว และตอนนี้ข้าสามารถได้แล้ว”

ทุกคนต่างมีความปรารถนาของตัวเองและมีสถานที่ที่ต้องการไป ต่างก็พูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจ หยุนถิงได้ยินแล้วรู้สึกสะเทือนใจมาก

จากนั้นนางก็หยิบโฉนดที่ดินของร้านค้าและบ้านที่ได้มาจากองค์ชายสี่และจวินซื่อจื่อออกมาจากกระเป๋าของนาง แจกจ่ายไปตามความปรารถนาของพวกนาง นางให้เงินอีกห้าแสนตำลึงแก่พวกนางแต่ละคน เพื่อเป็นการลงทุนในการบริหารร้านค้า จัดหาคนเพิ่ม และฝึกอบรม

เดิมทีทุกคนต้องการปฏิเสธ แต่หลังจากหยุนถิงอธิบาย พวกนางทำได้เพียงยอมรับ

ในคืนนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกองทัพขนหงส์ ในเช้าวันรุ่งขึ้น ลานบ้านที่พวนางอาศัยอยู่มากว่าสิบปีก็ว่างเปล่า ไม่มีใครรู้ว่าพวกนางไปที่ไหน นับประสาอะไรกับที่อยู่ของพวกนาง ราวกับว่ามันหายไปชั่วข้ามคืน

เดิมก็เป็นคนที่ถูกลืมเมื่อนานมาแล้ว ดังนั้นแม้ว่าหลายคนได้ยินข่าวนี้ ก็ไม่ได้คิดลึก คิดแค่ว่ากลุ่มหญิงชราทนไม่ได้แล้ว จึงแยกย้ายกันไป

พวกเขาคงนึกไม่ถึงว่า ห้าปีต่อมากองทัพขนหงส์จะกลับมา ในเวลานั้นพวกนางเป็นเครือข่ายข่าวกรองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ควบคุมข่าวโดยตรงล่าสุดจากสี่แคว้น และยังตั้งองค์กรลับอีกจำนวนมาก ล้วนเป็นองค์กรที่มีอิทธิพรในสี่แคว้น

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท