จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 253 ซื่อจื่อของข้าน่ะรักใคร่ข้าที่สุดเลย

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 253 ซื่อจื่อของข้าน่ะรักใคร่ข้าที่สุดเลย

โม่เหลิ่งเหยียนพาคนทั้งหมดเข้าไป ผู้คุมมารอรับด้วยท่าทางเคารพ โม่เหลิ่งเหยียนเหล่มองพวกเขา

“นับจากวันนี้เป็นต้นไป คนพวกนี้จะรับผิดชอบเฝ้าคุมหยุนถิง นางเป็นฮูหยินของจวินหย่วนโยว เจ้าจะต้อนรับไม่ดีมิได้เด็ดขาด!” โม่เหลิ่งเหยียนสั่งการอย่างดุดัน

“ขอรับ!” ผู้คุมน้อมรับคำสั่งอย่างนอบน้อม

ซวนอ๋องเป็นผู้ที่เขาเลื่อมใสมากที่สุด การที่เขาได้มาเป็นหัวหน้าผู้คุมก็เป็นเพราะซวนอ๋องเสนอชื่อขึ้นมา ดังนั้นคำสั่งของซวนอ๋อง ย่อมต้องน้อมรับอย่างที่สุดอยู่แล้ว

หมิงจิ่วซางกับองครักษ์เงามังกรสี่คนเปลี่ยนเป็นชุดผู้คุม และแยกย้ายกันยืนประจำตำแหน่งในคุกหลวง ถ้ามองดูดีๆแล้ว จะสามารถเห็นได้เลยว่าพวกเขาล้วนยืนอยู่ไม่ห่างจากหยุนถิงนัก

โม่เหลิ่งเหยียนพุ่งเข้าไปด้านใน พอเห็นหยุนถิงถูกขังไว้ข้างเสวี่ยเชียนโฉว สีหน้าโม่เหลิ่งเหยียนเย็นชาลงทันที

“ซวนอ๋องท่านมาแล้ว” หยุนถิงที่อยู่ด้านมนกำลังนั่งกินข้าวกับโม่ฉือชิง

“เจ้ายังสบายดีอยู่หรือไม่?” โม่เหลิ่งเหยียนถาม

“ดี ก็ดีอยู่นะ ห้องขังของข้าน่ะใกล้จะเป็นห้องพักแรมอยู่แล้ว ซวนอ๋องไม่ต้องเป็นห่วงดอก มากินด้วยกันไหม พ่อบ้านลั่วส่งมาเยอะมาก ข้ากับองค์ชายสี่กินไม่หมดหรอก” หยุนถิงเอ่ยปาก

โม่เหลิ่งเหยียนเหล่มองห้องขังนั่นหรูหรายิ่งจริงๆ เขายกเท้าก้าวเข้ามา “จวินหย่วนโยวยังพอมีศีลธรรมอยู่บ้างนะ”

“แน่นอนล่ะ ซื่อจื่อรักใคร่ข้าที่สุดอยู่แล้ว”

“เอาล่ะ โม่เหลิ่งเหยียนเจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก หยุนถิงอยู่ที่นี่มีข้าด้วย ข้าไม่ให้นางเป็นอะไรไปหรอก เจ้ากับจวินหย่วนโยวนั่นแหละรีบหาตัวคนร้ายให้ได้เร็วๆ” โม่ฉือชิงบ่นออกมา

“ไม่ต้องให้เจ้าบอก ข้าก็ทำแน่ อีกครู่เปลี่ยนห้องขังให้เจ้าแล้วกัน คนห้องข้างๆนั่นเจ้าระวังให้ดี” โม่เหลิ่งเหยียนเดินเข้ามาร่วมกินอาหารกับหยุนถิง

“คนนั้นเป็นใครกันรึ?” หยุนถิงถาม

“คนชั่วที่ชั่วร้ายที่สุดคนหนึ่ง สรุปแล้วเจ้าอยู่ห่างเขาให้ไกลหน่อย”

“ได้”

อาหารมื้อหนึ่ง ทั้งสามคนกินกันอย่างสบายอารมณ์ โม่เหลิ่งเหยียนเห็นหยุนถิงท่าทางสบายดี เลยวางใจ

ก่อนจะไป หยุนถิงให้โม่เหลิ่งเหยียนไปส่งจดหมายที่จวนตระกูลหยุน บอกหยุนเฉิงเซี่ยงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ให้เขาไม่ต้องเป็นห่วง

โม่เหลิ่งเหยียนออกจากคุกหลวง มุ่งตรงไปยังจวนตระกูลหยุน

ตอนนี้จวนตระกูลหยุนวุ่นวายอลหม่านไปหมด หยุนเฉิงเซี่ยงได้ยินว่าหยุนถิงเกิดเรื่อง ก็เป็นกังวลเอามากๆ ตอนบ่ายเขาเข้าวังไปขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท แต่ฝ่าบาทไม่ยอมพบเขาด้วยซ้ำ

ยิ่งทำให้หยุนเฉิงเซี่ยงเป็นกังวลมากขึ้น ตีให้ตายเขาก็ไม่เชื่อว่าบุตรสาวตนเองจะฆ่าคนได้ แต่ตอนนี้เขาเจอหยุนถิงไม่ได้ เลยเป็นกังวลยิ่งนัก

ได้ยินว่าซวนอ๋องมาแล้ว หยุนเฉิงเซี่ยงรีบออกไปต้อนรับด้วยตัวเอง “กระหม่อมถวายบังคมซวนอ๋อง มิทราบว่าซวนอ๋องมาครั้งนี้เพราะเรื่องบุตรสาวหรือไม่?”

“ใช่ เมื่อครู่ข้าพึ่งไปพบหยุนถิงที่คุกหลวงมา นางสุขสบายดี ข้ากับจวินหย่วนโยวต่างส่งคนออกไปคุ้มกันหยุนถิงอยู่เงียบๆ หยุนถิงให้ข้ามาบอกท่านว่าไม่ต้องกังวล อีกไม่กี่วันนางก็ออกมาแล้ว ให้ท่านวางใจ กินดื่มให้ดี แต่ยังต้องแสร้งทำเป็นกังวลใจต่อไปนะ” ซวนอ๋องปลอบ

“ถิงเอ๋อร์ไม่เป็นไรจริงรึ นางสบายดีจริงรึ?” หยุนเฉิงเซี่ยงถามอย่างไม่แน่ใจ

“แน่นอนว่าจริง ข้ารับประกันกับท่านได้เลย ไม่มีใครทำอันตรายหยุนถิงได้” โม่เหลิ่งเหยียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

หยุนเฉิงเซี่ยงถึงวางใจ “ขอบพระทัยซวนอ๋องนัก ไม่รู้ว่าไอ้สารเลวคนไหนกล้าใส่ร้ายบุตรีของข้า หากให้ข้าจับได้นะต้องจับมันฟาดแส้ถลกหนังแน่”

นางจ้าวที่เดินเข้ามาจากด้านนอกพลันฮัดเช้ยทันที สายตาดำขลับของโม่เหลิ่งเหยียนเหล่มองนางจ้าวพลางสำรวจนาง

นางจ้าวรับรู้ได้ถึงสายตาคมปลาบของซวนอ๋อง ตกใจตัวสั่นเทา รีบคารวะ “หม่อมฉันคารวะซวนอ๋อง”

“ข้ายังมีธุระ หยุนเฉิงเซี่ยงมิต้องไปส่งดอก” โม่เหลิ่งเหยียนหมุนตัวจากไป ไม่สนใจนางจ้าวเลยสักนิด

“น้อมส่งซวนอ๋อง!” หยุนเฉิงเซี่ยงคารวะ

นางจ้าวรีบเดินเข้ามาทันที “นายท่าน ซวนอ๋องมาจวนเรามีอะไรรึ?”

พอคิดถึงสิ่งที่ซวนอ๋องพูดเมื่อครู่ หยุนเฉิงเซี่ยงทำสีหน้าทุกข์ทรมานและเสียใจออกมาทันที “ซวนอ๋องมาบอกข้าว่า หยุนถิงฆ่าจ้าวเหลียงเหริน โดนส่งเข้าคุกหลวง ทำอย่างไรดี ถิงเอ๋อร์ต้องโดนคนใส่ร้ายป้ายสีแน่ แต่ฝ่าบาทไม่ยอมพบข้า ถิงเอ๋อร์ที่น่าสงสารของข้า”

นางจ้าวเห็นนายท่านน้ำหูน้ำตาไหลพราก ท่าทางเจ็บปวดรวดร้าวนัก สายตานางมีประกายสมใจและพอใจวาบผ่าน

ดียิ่งนัก ในที่สุดแผนการของนางก็สำเร็จแล้ว

นางรอวันนี้มานานนักหนาแล้ว ในที่สุดก็จัดการหยุนถิงได้สำเร็จสักที ช่างสาแก่ใจยิ่งนัก

กว่าจะโดนนายท่านปล่อยออกมาได้มันไม่ง่ายสำหรับนางเลย เลยไม่กล้าแสดงถึงความไม่พอใจต่อหยุนถิงออกมา

นางจ้าวพอใจยิ่งนัก แต่กลับทำสีหน้าเป็นห่วง “นายท่านอย่าเสียใจไปเลย ถิงเอ๋อร์เป็นคนมีบุญต้องแคล้วคลาดแน่ จวินซื่อจื่อไม่มีทางไม่ดูแลนางอยู่แล้ว”

“จะว่าไปก็ถูก ข้าจะไปจวนซื่อจื่อ” หยุนเฉิงเซี่ยงรีบให้พ่อบ้านเตรียมรถม้าทันที

ซูอี๋เหนียงได้ยินนายท่านบอกว่าจะไปจวนซื่อจื่อ ขอร้องเขาให้พาตนไปด้วย พอรู้ว่าหยุนถิงเกิดเรื่อง ซูอี๋เหนียงเป็นกังวลยิ่งนัก หยุนซูกับหยุนหลีก็ร้อนใจยิ่งนัก ต่างตามไปกันหมด

พอเห็นหยุนเฉิงเซี่ยงจากไป นางจ้าวรีบไปเรือนหยุนหลิงทันที

หลังจากกลับมาจากเทศกาลดอกท้อ หยุนหลิงก็เอาแต่บ่มพึมพำถึงงูไม่หยุดไม่หย่อน จนเริ่มเสียสติ หยุนเฉิงเซี่ยงก็เชิญท่านหมอมาตรวจรักษานางหลายคนแล้ว แต่ไม่ดีขึ้นเลย ถึงได้ปล่อยนางจ้าวออกมา

เดิมภายใต้การดูแลของนางจ้าว หยุนหลิงเริ่มดีขึ้น สุดท้ายมีวันหนึ่งหยุนหลีฝึกทำนองเพลงที่หยุนถิงสอนนางในสวนด้านหลัง กลับเรียกงูออกมาได้โขยงหนึ่ง

หยุนหลิงที่ออกมาเดินเล่นพอดี ก็เจอกับงูฝูงหนึ่งเต็มสวน เลยตกใจเป็นลมสลบไปเลย

หยุนหลีไม่คิดมาก่อนว่าจะเป็นอย่างนี้ ทำพี่รองตกใจสลบไป นางยิ่งไม่กล้ายอมรับหนักกว่าเดิม ดังนั้นหยุนหลีเลยแอบหนีไป

พอเห็นลูกสาวที่ตนภูมิใจหนักหนามาตลอดกลายเป็นเช่นนี้ นางจ้าวเคียดแค้นหยุนถิงนัก นางสาบานจะต้องให้หยุนถิงอยู่ไม่สู้ตายให้ได้

รอมานานขนาดนี้ ในที่สุดก็ได้โอกาสสักที

จะว่าไปต้องขอบคุณใต้เท้าคนนั้น หากมิใช่ความคิดของเขา ก็ไม่มีทางราบรื่นเช่นนี้ คนที่อยากให้หยุนถิงตายมีมากเกินไป นางจ้าวสาแก่ใจนัก

“หลิงเอ๋อร์ แม่ล้างแค้นให้เจ้าแล้วนะ ครั้งนี้หยุนถิงจะต้องตายไร้ดินกลบหน้าแน่ คนที่นางฆ่าน่ะเป็นถึงเหลียงเหรินของฝ่าบาท จะตีหมายังต้องดูเจ้าของ ดังนั้นครั้งนี้นางตายแน่

หลิงเอ๋อร์ที่น่าสงสารของแม่ แม่เฝ้าฟูมฟักอบรมเจ้ามาแต่เล็ก พิณหมากหนังสือภาพ กาพย์โคลงกลอนเพลงร่ายรำทุกสิ่งล้วนรอบรู้ เจ้าจะมาย่อยยับเช่นนี้มิได้นะ แม่ยังหวังให้เจ้าตบแต่งกับองค์ชายหรือท่านอ๋อง และอยู่สุขสบายกับลาภยศสรรเสริญไปตลอดชาติอีกนะ” นางจ้าวพูดออกมาอีกเป็นชุด

นางคิดว่าตนต้องชนะแน่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าทั้งหมดนี้จะโดนสาวใช้ด้านนอกประตูได้ยินเข้า

สาวใช้นั่นเป็นคนที่จวินหย่วนโยวมอบให้ซูอี๋เหนียงก่อนหน้านี้พอดี พอได้ยินว่าหยุนถิงเกิดเรื่อง จวินหย่วนโยวรีบสั่งการพวกนาง ให้คอยจับตาดูนางจ้าวกับหยุนหลิงเอาไว้

เพราะยังไงสาวใช้สองคนเข้าออกอิสระ สะดวกกว่าองครักษ์เงามังกรมากนัก

สาวใช้คนนั้นรีบออกจากเรือน และส่งข่าวให้กับองครักษ์เงามังกรที่รับหน้าที่จับตาดูจวนตระกูลหยุน องครักษ์เงามังกรคนหนึ่งกลับไปรายงานจวินหย่วนโยว ที่เหลืออยู่ทำหน้าที่จับตาดูต่อไป

จวินหย่วนโยวที่อยู่จวนซื่อจื่อ กำลังนั่งรอข่าว พอได้ยินพ่อบ้านมารายงาน บอกว่าหยุนเฉิงเซี่ยงพาครอบครัวมา

จวินหย่วนโยวรีบออกไปต้อนรับด้วยตัวเองทันที เดิมเขาคิดจะรอข่าวแล้วค่อยไปจวนตระกูลหยุนพอดี

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท