จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 259 รับผลกรรมของตนเอง
จวินหย่วนโยวเลิกคิ้ว ซวนอ๋องผู้นี้คิดอะไรอยู่น่ะ ตนมิได้ไหว้วานเขาไปสืบเรื่องเครื่องประทินโฉมเครื่องหอมเลย แต่เห็นแก่ที่เขาช่วยหยุนถิง จวินหย่วนโยวจึงไม่ได้พูดอันใดออกมา
พอฮ่องเต้ได้ยินดังนั้น สีหน้ายิ่งเดือดดาลทะมึนหนักขึ้น บรรยากาศเย็นเยียบกระจายปกคลุมรอบด้านไปทั่วท้องพระโรง
หากมิใช่ฆาตกร จะสามารถสัมผัสกับเครื่องประทินโฉมที่จ้าวเหลียงเหรินปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษได้อย่างไร และยังปรากฏตัวในตำหนักของจ้าวเหลียงเหรินกลางค่ำกลางคืนอีก
“น่าตายนัก หลักฐานพร้อมสรรพเยี่ยงนี้เจ้ายังมิยอมรับอีก ใครบงการเจ้ากันแน่ มีเป้าหมายอะไร สารภาพมาตามจริงเดี๋ยวนี้!” ฮ่องเต้ตะคอกอย่างเดือดดาล!
จื่อย่วนตกใจสะดุ้ง นางรู้ว่าตนจบแล้ว เอ่ยปากขึ้นอย่างละล่ำละลัก “มิมีผู้ใดบงการข้าน้อย ข้าน้อยเอง—“
“ฝ่าบาท ฮองเฮาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ!” ขันทีร้องบอกด้านนอกอีกครั้ง
จวินหย่วนโยวยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา เขาเห็นชัดเจนเลยว่า พอจื่อย่วนได้ยินว่าฮองเฮามา ก็มีทีท่าโล่งอก เห็นได้ชัดว่าฮองเฮามาเพื่อนาง
“ฮองเฮามาได้เวลาเสียจริง” ซวนอ๋องแค่นเสียงเย็น
“ให้นางเข้ามา ข้าจะดูสิว่านางจะว่าอย่างไร!” ฮ่องเต้แค่นเสียงเย็น
ฮองเฮาเข้ามาจากด้านนอก ใบหน้ามีแววเหนื่อยล้า ชุดราชพิธีแดงเลือดหมู ทำผมทรงเรียบง่าย ไร้ซึ่งความสูงส่งอย่างปกติ แต่กลับมีแววสนิทสนมชิดเชื้อมากขึ้น
“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท” ฮองเฮาคารวะ
“ฮองเฮามาได้เวลาพอดีเลย สาวใช้นางนี้เป็นคนสนิทของเจ้า นางเป็นฆาตกรที่ฆ่าจ้าวเหลียงเหรินใส่ความหยุนถิง ฮองเฮารู้เรื่องนี้หรือไม่?” ฮ่องเต้ย้อนถามเสียงเย็น
ฮองเฮามีสีหน้าตกใจ มองจื่อย่วนอย่างฉับพลัน “เป็นไปได้อย่างไรกัน จื่อย่วน เจ้าฆ่าจ้าวเหลียงเหรินจริงรึ เหตุใดเจ้าต้องทำอย่างนี้ด้วย?”
จื่อย่วนมองฮองเฮา พลางคุกเข่าหลังตรง “เหนียงเหนียงขออภัยด้วย ข้าน้อยผิดเอง ข้าน้อยเลอะเลือน แต่ข้าน้อยไม่เสียใจ ชาติหน้าข้าน้อยขอให้ได้รับใช้เหนียงเหนียงอีก”
ดวงตาฮองเฮาแดงเรื่ออย่างซาบซึ้ง รีบเดินเข้าไปกุมมือจื่อย่วน “เด็กโง่ ทำไมเจ้าทำอะไรโง่ๆเช่นนี้ น้อยเนื้อต่ำใจอะไรบอกข้าได้ ข้าต้องช่วยเจ้าแน่”
“มีคำพูดนี้ของเหนียงเหนียง ข้าน้อยตายไม่เสียดายชีวิตเลย” จื่อย่วนซาบซึ้งใจนัก สูดลมหายใจเข้าปอดลึก พลางหันมองฮ่องเต้บนบัลลังก์
“ฝ่าบาท ข้าน้อยเป็นคนฆ่าจ้าวเหลียงเหรินจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ข้าน้อยไปยกน้ำแกงหวานให้เหนียงเหนียงที่ห้องเครื่อง ไม่ทันระวังทำของนางตกหล่น และพอดีจ้าวเหลียงเหรินมาเห็นเข้า
ตอนนั้นนางตบหน้าข้าน้อยฉาดใหญ่ และยังเหยียดหยามข้าน้อย เรื่องพวกนี้ไม่ถือเป็นอะไร นางกลับให้ข้าน้อยคุกเข่าลงและเห่าอย่างหมา พลางคลานเห่าไปทั่วห้องเครื่อง
ไม่อาจทนได้อีกต่อไป ตอนนั้นเหนียงเหนียงพึ่งแท้ง ข้าน้อยจึงไม่ได้บอกเหนียงเหนียง ไม่อยากให้เหนียงเหนียงต้องมาเป็นกังวลกับเรื่องของข้าน้อย
แต่ต่อมามีครั้งหนึ่งข้าน้อยเก็บดอกไม้ในอุทยาน ได้ยินจ้าวเหลียงเหรินสาปแช่งเหนียงเหนียงพอดี นางบอกว่า สมน้ำหน้าที่ฮองเฮาแท้งแล้ว ใครให้เหนียงเหนียงปกติมีอำนาจเหนือตำหนักหลัง ครอบครองฝ่าบาทไว้คนเดียว
จ้าวเหลียงเหรินจะเหยียดหยามข้าน้อยอย่างไรก็ได้ แต่ข้าน้อยเป็นคนที่เหนียงเหนียงนำมาจากด้านนอก เหนียงเหนียงเป็นผู้มีพระคุณของข้าน้อย ข้าน้อยมิยอมให้ผู้ใดลบหลู่เหยียดหยามเหนียงเหนียงโดยเด็ดขาด ดังนั้นข้าน้อยรอเวลามาตลอด
ในที่สุดก็รอจนเห็นคุณหนูหยุนเกิดข้อขัดแย้งกับจ้าวเหลียงเหริน ดังนั้นข้าน้อยจึงติดต่อนางจ้าว เพื่อถามสัญลักษณ์พิเศษบนตัวหยุนถิง จากนั้นข้าน้อยก็ปลอมแปลงใบหน้าเป็นหยุนถิงไปฆ่าจ้าวเหลียงเหริน และยังจงใจให้สาวใช้จ้าวเหลียงเหรินเห็นข้าน้อย เพื่อใส่ความหยุนถิง ทั้งหมดนี้ข้าน้อยทำเองผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเหนียงเหนียงเลย ขอฝ่าบาทอย่าพาลโกรธเหนียงเหนียงเลย” จื่อย่วนพุดอย่างจงรักภักดียิ่งนัก
ฮ่องเต้ที่เดิมเดือดดาลยิ่งนัก พอได้ยินคำพูดนี้อดรู้สึกผิดต่อฮองเฮาขึ้นมาไม่ได้
ครึ่งปีก่อนฮองเฮาตั้งครรภ์ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงแท้ง ตอนนั้นฮ่องเต้มัวยุ่งกับการศึกสงครามชายแดน เลยไม่มีเวลาปลอบโยนและอยู่เคียงข้างฮองเฮามากนัก กระทั่งยังโทษฮองเฮาที่ไม่ดูแลลูกให้ดี มาตอนนี้ได้ยินนางกำนัลบอกเช่นนี้ สายตาทุ้มลึกของฮ่องเต้เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
นางจ้าวที่อยู่ข้างเมื่อครู่ฟื้นขึ้นมาพอดี พอลืมตามาเห็นคนรอบข้าง นางจ้าวตกใจยิ่งนัก รีบโขกศีรษะลงพื้นทันที
“นางจ้าว เหตุใดเจ้าทรยศขายหยุนถิงเช่นนี้ บอกมาตามตรงซะ หากเจ้ากล้าพูดปดแม้เพียงครึ่งคำ ระวังหยุนหลิงจะตายเป็นเพื่อนเจ้า!” จวินหย่วนโยวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ประหนึ่งน้ำแข็งพันปี ดุดันยิ่งนัก
นางจ้าวตกใจตัวสั่นเทา “ท่าน ท่านจับหลิงเอ๋อร์ของข้าไป ซื่อจื่อขอร้องท่านปล่อยหลิงเอ๋อร์เถอะ นางเป็นผู้บริสุทธิ์นะ?”
“นางเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วหยุนถิงมิใช่ผู้บริสุทธิ์รึ?” จวินหย่วนโยวย้อนถาม
คำพูดเดียว ทำเอานางจ้าวพูดไม่ออก
“นางจ้าว ทางที่ดีเจ้าพูดความจริงซะ ไม่เช่นนั้นต่อให้เป็นหยุนเฉิงเซี่ยงก็ช่วยเจ้าไม่ได้ หากเจ้าอยากตายไม่มีผู้ใดขัดขวางเจ้า แต่ลูกชายลูกสาวเจ้าจะต้องมารับโทษกัยบสิ่งที่เจ้าก่อไว้ด้วย!” โม่เหลิ่งเหยียนเอ่ยปากเสียงเนิบช้า
นางจ้าวอึ้งบื้อไปเลย สีหน้าเหมือนปลาตาย นางรู้ดีว่าจวินซื่อจื่อเข้มงวดยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีซวนอ๋อง สองคนนี้ไม่ว่าผู้ใดนางก็ไม่อาจหือได้เลย
ตอนนี้นางจ้าวเสียใจยิ่งนัก หากรู้เช่นนี้นางจะไม่ใส่ร้ายหยุนถิงเลย นี่มิใช่ขุดหลุมทำตัวเองรึ
“นางจ้าว หากเจ้ายังมิพูดความจริงอีก ข้าจะให้คนจับเจ้าสับเป็นแปดชิ้น และประหารเก้าชั่วโคตรของเจ้า!” น้ำเสียงทรงอำนาจดุดันของฮ่องเต้ลอยมา
นางจ้าวรีบอ้อนวอนทันที “ขอฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตด้วย เป็นเพราะข้าริษยาหยุนถิง ริษยาที่หยุนเฉิงเซี่ยงรักใคร่นางหนักหนา และยิ่งเคียดแค้นที่นางเอาป้ายขนหงส์คืน ดังนั้นเลยบอกเรื่องปานของหยุนถิงไป
ทั้งๆที่นางบอกว่ายกป้ายขนหงส์ให้ข้าแล้ว จะไม่เอากลับไป ปกติแล้วหยุนถิงมักจะลบหลู่ เหยียดหยาม เสียดสี บอกว่าข้าเป็นแค่อนุ ต่ำต้อยมิมีหน้ามีตาตลอดกาล
นางไม่เพียงลบหลู่ข้า ยังทุบตี ด่าทอหยุนหลิงและหยุนเสี่ยวลิ่วให้อับอายตั้งแต่เล็ก ไม่เคยเห็นพวกเขาเป็นคนเลย และยิ่งไม่เห็นพวกเขาเป็นคนตระกูลหยุน
ข้ารับไม่ไหวกับความจองหองเอาแต่ใจ ไม่เห็นหัวใครของหยุนถิงแล้ว เดิมคิดว่าพอนางแต่งออกไปชีวิตของข้าจะดีขึ้นหน่อย
ใครจะคิดว่า พอนางกลับมาเยี่ยมบ้านก็หาเรื่อง แย่งอำนาจในการดูแลบ้านไปจากข้า และยังเชิดชูซูอี๋เหนียงมาแทนที่ ข้าโกรธมากเลยทำเช่นนี้ ข้าไม่คิดจะฆ่าหยุนถิง แค่อยากสั่งสอนนางเท่านั้น
ขอฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตลูกชายลูกสาวข้าด้วย พวกเขาไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ทั้งหมดนี้เป็นข้าทำเองคนเดียว เป็นเพราะข้าโดนจิตมารเข้าครอบงำ
ข้าเองก็ไม่คิดว่า หยุนถิงจะฆ่าจ้าวเหลียงเหริน ต่อให้ตีให้ตาย ข้าก็ไม่กล้าดอก ขอฝ่าบาทโปรดละเว้นลูกชายลูกสาวข้าด้วย ข้านั้นตายไม่เสียดายเลย”
“ชั่วช้านัก ตนเองทำผิดยังหาข้ออ้างใส่ความหยุนถิง สตรีเช่นเจ้านี่มันช่างจิตใจโหดเหี้ยมจริงๆ!” ฮ่องเต้แค่นเสียงหยัน
“ฝ่าบาท บัดนี้ความจริงกระจ่างแล้ว ขอฝ่าบาทคืนความเป็นธรรมให้แก่หยุนถิงด้วย!” จวินหย่วนโยวเอ่ยขึ้น
“ซูกงกง เจ้าไปรับหยุนถิงออกจากคุกหลวงด้วยตนเอง” ฮ่องเต้บอก
“พ่ะย่ะค่ะ” ซูกงกงรีบไปทันที
“จ้าวเหลียงเหรินประพฤติไม่เหมาะสม ปลดตำแหน่งรองเสนาบดีจ้าว ตระกูลจ้าวทั้งตระกูลเนรเทศไปชายแดน ห้ามมิให้กลับเมืองหลวงตลอดชีวิต จื่อย่วนฆ่าจ้าวเหลียงเหรินเพราะความแค้นส่วนตัวของตนเอง สั่งลงโทษประหาร ประทานผ้าขาวให้ ส่วนนางจ้าวใส่ร้ายหยุนถิง ทรยศขายคนตระกูลตนเอง จิตใจโหดเหี้ยม มิสนใจความสัมพันธ์ ลงโทษโบยห้าสิบปีและจับขังคุกรอการตัดสินต่อไป!” ฮ่องเต้ประกาศการลงโทษอย่างทรงอำนาจ