จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 263 อย่านั่งที่พื้น พื้นเย็น

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 263 อย่านั่งที่พื้น พื้นเย็น

พระราชวัง

ฮ่องเต้กำลังร่ายกลอนวาดภาพอยู่ที่ตำหนักของเหมยเฟย สุดท้ายก็เห็นซูกงกงวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน

“ฝ่าบาท แย่แล้ว เป่ยหมิงไท่จื่อเกิดเรื่องแล้ว!”

ฮ่องเต้สีหน้าตึงเครียดทันที “เกิดอะไรขึ้น?”

“องครักษ์ของเป่ยหมิงไท่จื่อบอกว่า ไท่จื่อโดนพิษ ส่วนปัญหาอะไรกันแน่พวกเขาไม่ได้บอก บอกแต่ขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท ตอนนี้คนมารออยู่นอกตำหนักแล้ว” ซูกงกงรีบรายงานทันที

ฮ่องเต้คิ้วขมวดมุ่น “รีบให้พวกเขาเข้ามา อีกอย่างรีบไปตามหมอหลวงมา!”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เป่ยหมิงฉี่โดนคนหามเข้ามา พ่อบ้านและองครักษ์ของเขาอยู่ด้านข้าง พอเจอฝ่าบาท พ่อบ้านสีหน้าร้อนใจและเคียดแค้นนัก

“ฝ่าบาท ไท่จื่อของเราใส่เสื้อผ้าที่พวกท่านส่งมาให้ถึงโดนพิษ เรื่องนี้ขอฝ่าบาทให้คำตอบแก่พวกเราด้วย ไม่เช่นนั้นแคว้นเป่ยลี่ของเราไม่มีทางยอมเลิกราแน่” พ่อบ้านพูดอย่างเคียดแค้น โยนเสื้อผ้าลงพื้นทันที

นี่เป็นเสื้อผ้าที่กรมชุดหลวงส่งไปเมื่อหลายวันก่อน

สีหน้าฮ่องเต้ดูไม่ดีนัก เหล่มองเป่ยหมิงฉี่ที่นอนสลบไสลสีหน้าซีดเผือดเหงื่อไหลไม่หยุดอยู่ แถมบนแขนและคอยังมีผื่นแดงขึ้นเต็ม ดูแล้วสาหัสมาก

“เรื่องนี้ข้าจะสืบให้แน่นอน จะไม่ยอมให้เป่ยหมิงไท่จื่อเกิดเรื่องในแคว้นต้าเยียนของข้าแน่” ฮ่องเต้แค่นเสียงเย็น

หมอหลวงหลิวรีบเข้ามาอย่างร้อนใจ พลางถวายบังคมฮ่องเต้

“หมอหลวงหลิวรีบมาตรวจอาการเป่ยหมิงไท่จื่อเร็ว ต้องช่วยเป่ยหมิงไท่จื่อให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไรก็ตาม ต้องการยาแพงแค่ไหนใช้ได้เลยตามสบาย” ฮ่องเต้ออกคำสั่ง

“พ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหลิวรีบตรวจอาการทันที

หมอหลวงที่ติดตามเป่ยหมิงฉี่มารีบบอก “กระหม่อมตรวจแล้ว เป่ยหมิงไท่จื่ออยู่ในสภาพเช่นนี้เพราะแพ้เสื้อผ้า กระหม่อมจะรีบช่วยฝังเข็มให้เป่ยหมิงไท่จื่อ”

“รีบรักษาเร็ว”

“พ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหลิวรีบฝังเข็มทันที แต่เขาฝังเข็มอยู่นาน เป่ยหมิงฉี่กลับไม่ดีขึ้นเลย และไม่ฟื้นด้วย

“ทำไมไท่จื่อของข้ายังไม่ฟื้นเสียที หมอหลวงเจ้าไหวหรือไม่นี่ หรือว่าแคว้นต้าเยียนมิมีหมอฝืมือดีแล้วรึ หากไท่จื่อของเราไม่ฟื้นขึ้นมา ข้าจะต้องกราบทูลกษัตริย์ให้ยกทัพมาทลายต้าเยียนแน่!” พ่อบ้านพูดอย่างเดือดดาล

“พ่อบ้านท่านนี้ ข้าเข้าใจความเป็นห่วงเป่ยหมิงไท่จื่อของท่าน สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องช่วยเป่ยหมิงไท่จื่อให้ฟื้นเสียก่อน ต่อให้ตอนนี้เจ้าเขียนสาสน์ส่งกลับไป น่ากลัวจะรอไม่ทันกษัตริย์ของเจ้าส่งทหารมา ไท่จื่อของเจ้าคงไม่รอดเสียก่อน

อีกอย่างฝ่าบาทเองก็ไม่อยากให้เป่ยหมิงไท่จื่อเกิดเรื่อง ให้หมอหลวงช่วยรักษาเต็มที่ หากเจ้ายังเสียมารยาทเช่นนี้อีก และทำให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัยจนไม่ยอมช่วยคน เจ้าก็ทำเช่นใดมิได้ อย่างไรซะที่นี่คือดินแดนของต้าเยียนเรา” เหมยเฟยตอบอย่างราบเรียบ แต่ทรงอำนาจยิ่งนัก

พ่อบ้านที่กำลังเดือดดาลร้อนเป็นไฟพลันสงบลงโดยพลัน ไม่มีท่าทีเหิมเกริมและเสียมารยาทเหมือนเมื่อครู่เลยสักนิด

ถึงเรื่องนี้ต้าเยียนจะเป็นฝ่ายผิด แต่หากทำให้ฮ่องเต้ต้าเยียนไม่พอใจขึ้นมาจริงๆ พวกเขาไม่ยอมช่วยไท่จื่อ เช่นนั้นไท่จื่อก็จบกันแล้ว

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกท่านก็รีบช่วยคนสิ!” พ่อบ้านบอกเสียงอ่อย

ดวงตาคมปลาบประดุจอินทรีของฮ่องเต้มีแววชื่นชมและพอใจวาบผ่าน สมเป็นเหมยเฟยของเขา แค่คำพูดไม่กี่คำก็ดับไฟเหิมเกริมของพ่อบ้านได้แล้ว เขาชื่นชมจริงๆ

“หมอหลวงหลิว เป่ยหมิงไท่จื่อเป็นอย่างไรบ้าง?” เหมยเฟยถาม

“กราบทูลเหมยเฟย อาการแพ้ของเป่ยหมิงไท่จื่อนั้นค่อนข้างสาหัส ตามหลักแล้วพอกระหม่อมฝังเข็มเสร็จแล้วควรจะฟื้นเลย เหตุใดยังไม่ฟื้นอีกเล่า?” หมอหลวงหลิวงุนงงยิ่งนัก

“ซูกงกง เจ้าไปจวนซื่อจื่อด้วยตัวเองซะ เชิญหยุนถิงมา!” ฮ่องเต้พูดเสียงเนิบ

“พ่ะย่ะค่ะ” ซูกงกงรีบไปทันที

“ใครก็ได้ ไปเชิญหลีอ๋องมา!” ฮ่องเต้ออกคำสั่ง

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ไม่นาน หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวมาถึงพระราชวัง เพียงแต่หยุนถิงโดนอุ้มมา สีหน้าแดงระเรื่อ เมามายเต็มขั้น

คืนนี้เธอดีใจมาก ดื่มไปไม่น้อย กำลังจะพักผ่อนกับซื่อจื่อ สุดท้ายซูกงกงก็มาแล้ว ได้ยินว่าเป่ยหมิงฉี่เกิดอาการแพ้โดนพิษ หยุนถิงก็มาเลย

“ฝ่าบาท ข้าได้ยินว่าเป่ยหมิงฉี่เกิดอาการแพ้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?” หยุนถิงเรอเหล้าออกมา เธอเดินไปหาเป่ยหมิงฉี่อย่างโอนเอน เพียงแต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็เกือบจะล้มลง โชคดีที่จวินหย่วนโยวพยุงนางไว้ทัน

ฮ่องเต้ไม่มีเวลาสนใจกิริยาไม่งามของหยุนถิง รีบบอก “หยุนถิง เจ้ารีบช่วยดูให้เป่ยหมิงฉี่หน่อยเร็ว หมอหลวงหลิวฝังเข็มให้เขาไปแล้วเหตุใดยังไม่ฟื้นอีก?”

พ่อบ้านมองดูหยุนถิงที่มึนเมา ก็ขวางหน้าหยุนถิงไว้โดยพลัน “ฝ่าบาท ท่านนำสตรีขี้เมาเช่นนี้มารักษาให้ไท่จื่อของเรา มิใช่ก่อกวนรึ?”

“ก่อกวนอะไร ข้ายอมมารักษาเขานี่ถือเป็นเกียรติของเป่ยหมิงฉี่เลย หากเจ้าขวางไว้ แล้วทำให้รักษาเป่ยหมิงฉี่ล่าช้า เขาตายขึ้นมาข้าไม่รับผิดชอบนะ” หยุนถิงพูดเสียงอ้อแอ้

พ่อบ้านโกรธควันแทบออกหู ยังอยากจะพูดอะไรอีก องครักษ์ข้างเขารีบดึงเขาไป “ให้คุณหนูหยุนดูหน่อยเถิด ไท่จื่อเคยบอกว่าฝีมือการแพทย์ของนางไม่เลวเลย”

พ่อบ้านถึงยอมหลีกทางให้ แต่ก็แค่ถอยหลังไปสองก้าวเท่านั้น ดวงตาคู่นั้นจับจ้องหยุนถิงเขม็ง หากนางกล้าทำอะไรไท่จื่อ พ่อบ้านต้องโผเข้าไปฆ่านางทันทีแน่

หยุนถิงนั่งลงกับพื้น หาวหวอดออกมา ก่อนจะยื่นมือไปจับชีพจรให้เป่ยหมิงฉี่ และมองดูในตาเขา

“ไม่ตายหรอก ก็คือแพ้ แต่ร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน ดังนั้นการใช้ยาและวิธีรักษาก็เลยไม่เหมือนกัน ถอดเสื้อผ้าบนตัวเขาออกให้หมด โยนเขาลงแช่น้ำเย็นนานหน่อยก็ฟื้นแล้ว” หยุนถิงบอก

“คุณหนูหยุน มิต้องลงเข็มรึ?” หมอหลวงหลิวถามอย่างตกใจ เขาไม่เคยได้ยินวิธีรักษาเช่นนี้มาก่อนเลย

“ไม่ต้อง เป่ยหมิงฉี่เป็นร่างกายธาตุเย็น ฝังเข็มไม่มีประโยชน์กับเขา”

พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆมองหยุนถิงอย่างตะลึง ไม่คิดว่านางจะดูออกว่าไท่จื่อเป็นร่างกายธาตุเย็น ดูท่านางจะมีฝีมืออยู่บ้าง

“ฝ่าบาท ตำหนักของหม่อมฉันมีอ่างใหญ่พอดี น้ำในนั้นเป็นน้ำเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด วางเป่ยหมิงไท่จื่อเข้าไปเถอะ” เหมยเฟยบอก

“ได้”

พ่อบ้านและองครักษ์รีบช่วยเป่ยหมิงฉี่ถอดเสื้อผ้า เหลือแค่กางเกงตัวเดียว จากนั้นก็วางคนลงในอ่างน้ำ

จวินหย่วนโยวรีบพยุงหยุนถิงขึ้นมา “อย่านั่งบนพื้น พื้นมันเย็น”

“ไปเถอะ พวกเรากลับไปนอนกัน ข้าง่วงนัก” หยุนถิงหาวหวอดและทำท่าจะออกไป

“หยุนถิง เจ้าพักผ่อนอยู่ที่ตำหนักนี้ของเหมยเฟย รอเป่ยหมิงไท่จื่อฟื้นแล้วค่อยกลับเถอะ” ฮ่องเต้เอ่ยปาก

“ในเมื่อฝ่าบาทพูดเช่นนี้แล้ว ข้าอยู่ต่ออีกหน่อยแล้วกัน”

“ให้คุณหนูหยุนเอนกายพักผ่อนบนเก้าอี้นอนแล้วกัน ด้านบนมีเบาะนุ่ม จะสบายหน่อย” เหมยเฟยเดินเข้ามา

“ขอบพระทัยพระสนม” จวินหย่วนโยวพยุงนางไปนั่งลง

หลีอ๋องเดินเข้ามาจากด้านนอก ได้เห็นหยุนถิงที่เอนกายหลับตาบนเก้าอี้นอน มือหนึ่งของจวินหย่วนโยวกุมมือหยุนถิงไว้อยู่ สายตาอ่อนโยนและเป็นห่วงยิ่งนัก เขานั่งมองดูนางเงียบๆเช่นนี้เอง

สายตาโม่ฉือหานมีประกายบางอย่างวาบขึ้น มีทั้งอิจฉาและเสียใจ

มิน่าหยุนถิงถึงเลือกจวินหย่วนโยว จวินหย่วนโยวที่เย็นชากระหายเลือดและได้รับสมญานามว่าอสูรร้ายจากนรกก็มีด้านที่อ่อนโยนอบอุ่นเช่นนี้ด้วย มันทำให้โม่ฉือหานอดเลื่อมใสไม่ได้

ต่อให้เป็นเขา ก็คงทำไม่ได้ถึงขั้นนี้กระมัง

“หม่อมฉันถวายบังคมเสด็จพี่” หลีอ๋องคารวะอย่างนอบน้อม

“หลีอ๋องเจ้ามาก็ดีเลย หมอหลวงบอกว่า เป่ยหมิงไท่จื่อเกิดอาการแพ้โดนพิษจากเสื้อผ้า เรื่องนี้ให้เจ้าเป็นผู้รับผิดชอบสืบสวน ไม่ว่าเป็นใคร กล้าให้ร้ายเป่ยหมิงไท่จื่อ จะละเว้นมิได้เด็ดขาด!” ฮ่องเต้แค่นเสียงเย็น

“พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันรับบัญชา”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท