จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 269 จวินหย่วนโยวโดนคนเล่นงาน

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 269 จวินหย่วนโยวโดนคนเล่นงาน

หยุนถิงมีสีหน้าตกใจ “เกิดอะไรขึ้น ซื่อจื่อเป็นอะไร?”

“พอฟ้าสาง ซื่อจื่อก็พาเหล่าองครักษ์ไปบ่อน แต่ไม่คิดเลยว่าบ่อนนั่นจะเป็นกับดัก อีกฝ่ายขุดหลุมพรางไว้ก่อนแล้ว รอเพียงให้ซื่อจื่อเข้าไปเท่านั้น

และด้านในยังมีนักฆ่าจำนวนมาก พวกเขาเหมือนเป็นบ้าไปแล้ว มีดดาบฟันแทงไม่เข้า ดูแปลกยิ่งนัก โชคดีที่องครักษ์เงามังกรพยายามสุดชีวิตช่วยซื่อจื่อกลับมาได้ แต่รั่วจิ่งเกิดเรื่องแล้ว เขาโดนทำลายวรยุทธ์ ตัดขาดเส้นเอ็นประสาททั้งหมด” องครักษ์รีบรายงานทันที

หยุนถิงสีหน้าตึงเครียด เป็นห่วงยิ่งนัก “หลงเอ้อร์ รีบพาข้ากลับไปเร็ว”

“ขอรับ ฮูหยิน” หลงเอ้อร์รีบคว้าตัวหยุนถิง ใช้วิชาตัวเบาพานางเหาะไปยังจวนซื่อจื่อ

ตอนนี้ในจวนซื่อจื่อวุ่นวายไปหมด ท่านลั่วกำลังรักษาให้ทุกคน น้ำปนเลือดแต่ละถังถูกยกออกไป เหล่าคนรับใช้ของจวนตกใจยิ่งนัก

หยุนถิงกับหลงเอ้อร์มาหยุดลงในเรือน ได้เห็นหลิงเฟิงกำลังยืนรออยู่หน้าประตูด้วยจิตใจร้อนรุ่มดั่งไฟเผา

“ซื่อจื่อล่ะ?” หยุนถิงถาม

“ฮูหยิน ในที่สุดท่านก็มาสักที รั่วจิ่งอยู่ด้านใน ท่านลั่วกำลังช่วยรักษาให้เขา ขอร้องฮูหยินต้องช่วยรั่วจิ่งให้ได้นะ” หลิงเฟิงบอก พลางคุกเข่าลงพื้นดังพลั่ก

หลิงเฟิงกับรั่วจิ่งล้วนเป็นเด็กกำพร้า ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกัน ติดตามอยู่ข้างกายซื่อจื่อ ไม่ใช่พี่น้องแต่รักกันยิ่งกว่าพี่น้องแท้ๆ ทั้งสองคนร่วมเป็นร่วมตายมาหลายครั้ง ดังนั้นพอเห็นรั่วจิ่งเกิดเรื่อง หลิงเฟิงถึงได้เป็นห่วงนัก

“วางใจเถอะ ข้าจะช่วยเขาอย่างเต็มที่แน่” หยุนถิงพุ่งเข้าไปทันที

ในห้อง จวินหย่วนโยวยืนดูอยู่ข้างๆ ในปากรั่วจิ่งที่อยู่บนเตียงยัดผ้าขาวเอาไว้ เส้นเลือดปูดโปนข้างขมับเขาเต้นตุบๆ ถึงจะไม่ได้ร้องออกมา แต่หยุนถิงดูออกว่าเขาเจ็บปวดมาก

ท่านลั่วกำลังช่วยรักษาให้เขา องครักษ์สองข้างรับใช้อยู่ ตื่นเต้นยิ่งนัก

“ข้าขอดูหน่อย” หยุนถิงส่งเสียงบอก

“รีบช่วยรั่วจิ่งเถิด เร็ว!” จวินหย่วนโยวสีหน้าตึงเครียดยิ่งนัก

“ได้” หยุนถิงเดินเข้าไปตรวจดูอาการ

วรยุทธ์ของรั่วจิ่งโดนทำลายแล้วจริงๆ เส้นเอ็นประสาทของขาข้างหนึ่งโดนตัดขาด เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายโหดเหี้ยมแค่ไหน

“ซื่อจื่อ พวกท่านออกไปกันก่อน ท่านลั่วอยู่ช่วยข้าก็พอแล้ว” สีหน้าหยุนถิงตึงเครียดยิ่งนัก

จวินหย่วนโยวพาคนออกไปทันที เฝ้าอยู่หน้าประตู ใครก็ห้ามรบกวนโดยเด็ดขาด

ในห้อง หยุนถิงหันมองรั่วจิ่ง “ไม่ต้องกลัว ปล่อยตัวตามสบาย ข้าไม่ให้เจ้าเป็นอะไรแน่”

รั่วจิ่งเห็นฮูหยินพูดเช่นนี้ เขาตาแดงเรื่อขึ้นมา ยื่นมือมาดึงผ้าขาวในปากออกอย่างยากลำบาก “ฮูหยิน ข้าใช้ไม่ได้การแล้วจริงๆรึ ต่อไปไม่อาจฝึกยุทธ์ได้อีกแล้ว ไม่อาจปกป้องซื่อจื่อได้อีกแล้ว”

ชายอกสามศอก รั่วจิ่งที่ร่าเริงสดใสที่สุดคนนั้น ตอนนี้ร้องไห้เหมือนเด็กน้อยเลย

ทำเอาหยุนถิงปวดใจนัก เธอมองออกถึงความสิ้นหวังและทุกข์ทรมานของรั่วจิ่ง “ไม่หรอก ฝีมือการแพทย์ของข้าดีที่สุดในแคว้นต้าเยียนนะ เจ้าต้องเชื่อมั่นในตัวข้า และต้องเชื่อมั่นในตัวเจ้าเองด้วย”

“ฮูหยิน ข้ารู้ว่าท่านกำลังปลอบใจข้า ครั้งนี้เป็นความผิดของข้าเอง ต้องโทษที่ข้าโง่งม ไม่ได้สังเกตว่ามันเป็นกับดักของอีกฝ่าย ทำร้ายซื่อจื่อ และทำร้ายพี่น้องคนอื่นๆ ข้าผิดต่อพวกเขา” รั่วจิ่งรู้สึกผิดยิ่งนัก นอนนิ่งอย่างหมดอาลัยตายอยาก ไม่มีไอชีวิตเลยแม้แต่น้อย

ในการผ่าตัด สิ่งที่ต้องห้ามที่สุดคือ ตัวคนไข้หมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา เขาต้องอันตรายอย่างมากแน่

“รั่วจิ่ง เจ้าพูดเช่นนี้ไม่ได้นะ ใครก็ไม่คิดให้มันเป็นเช่นนี้ดอก อาจจะมิใช่เรื่องร้ายก็ได้ ดังนั้นอย่าหมดหวังในตัวเอง และอย่าละทิ้งเหล่าพี่น้องด้วย

พวกเขาต้องหวังให้เจ้าช่วยล้างแค้นให้พวกเขาแน่ ถ้าหากเจ้ารู้สึกผิดต่อเหล่าพี่น้องพวกนั้น ก็ต้องให้ความร่วมมือกับการรักษา พยายามฟื้นตัวให้เร็ว และไปลงมือฆ่าคนที่ทำร้ายพวกเขาพวกนั้นด้วยมือตนเอง ล้างแค้นให้พวกเขา

พิษในตัวซื่อจื่อข้ายังมีหนทาง นับประสาอะไรกับเจ้าที่แค่โดนตัดเส้นเอ็นประสาท เชื่อใจข้านะ และเชื่อในตัวเจ้าเองด้วย” หยุนถิงไม่สนใจอะไรแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะอาการรั่วจิ่งทั้งอันตรายทั้งเร่งด่วนมาก เธอก็ไม่พูดแบบนี้ออกมาหรอก

พอคำพูดนี้ออกมา ทำคนสองคนตกตะลึง

รั่วจิ่งมองมาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง “ฮูหยิน ท่านพูดจริงรึ?”

“ข้าหลอกเจ้าแล้วได้อะไรล่ะ เจ้าไม่เห็นรึว่าระยะนี้ซื่อจื่อมีเรี่ยวแรงดีมากน่ะ แถมยังใช้กำลังภายในไปหลายครั้งแล้วด้วย” หยุนถิงบอก และหยิบยาชาออกมาจากในมิติ ฉีดใส่รั่วจิ่ง

ท่านลั่วยิ่งมองหยุนถิงอย่างตะลึง “นังหนู เจ้าเป็นคนถอนพิษร้ายในกายเจ้าหนูจวินจริงรึ?”

“นอกจากข้าแล้ว ใครจะมีฝีมือแบบนี้ได้กันล่ะ” หยุนถิงย้อนถาม และหยิบมีดผ่าตัด ยาฆ่าเชื้อ ถุงมือใช้แล้วทิ้ง เข็มด้ายที่ใช้ในการเย็บแผล รวมถึงกล้องจุลทรรศน์ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อล้างแผลออกมาอย่างรวดเร็ว—-

“มิน่าล่ะสองวันก่อนข้าจับชีพจรให้เจ้าหนูจวิน พบว่าร่างกายเขาดีขึ้นมากเลย” ท่านลั่วพูดจบก็เห็นหยุนถิงหยิบของหน้าตาประหลาดมากมายออกมา

“ของพวกนี้ของเจ้าคืออะไรกัน เอามาจากไหนน่ะ?”

“ซื่อจื่อให้ถุงวิเศษกับข้าอันหนึ่ง ของพวกนี้ข้าใส่ไว้ในถุงวิเศษ”

“ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง มิน่าวันๆเจ้าพกแต่ถุงผ้าขาดๆนี่ ที่แท้ถุงนี้ก็เป็นของล้ำค่านี่เอง” ท่านลั่วพูดพลางถอนหายใจ

พอรั่วจิ่งได้ยินท่านลั่วพูดแบบนี้ เขาตื่นเต้นนัก “ฮูหยิน ข้าจะฟื้นฟูกลับมาดีดุจเดิมได้จริงรึ?”

“แน่นอน วางใจเถอะ มีข้าอยู่ ท่านลั่วมาช่วยเร็ว” หยุนถิงบอกขั้นตอนการผ่าตัดอย่างละเอียด ท่านลั่วร่วมมือช่วยด้วยเต็มกำลัง

เมื่อก่อนเขาแค่รู้สึกว่าหยุนถิงมีฝีมืออยู่บ้าง ตอนนี้มาได้ยินว่านางถอนพิษให้เจ้าหนูจวิน ท่านลั่วต้องมองหยุนถิงใหม่เลยทีเดียว ท่าทีนอบน้อมขึ้นมาก

เวลาค่อยๆผ่านไป จวินหย่วนโยวที่รออยู่ด้านนอกสีหน้าซีดเผือด ไอค่อกแค่กออกมาหลายคำ รีบให้คนไปยกเก้าอี้มา

“ซื่อจื่อ ให้ข้าน้อยไปเชิญหมอหลวงมาเถอะ ท่านเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน?” พ่อบ้านพูดอย่างปวดใจ

“ไม่ต้อง หากเชิญหมอหลวง ก็จะล่วงรู้ไปถึงหูฮ่องเต้ ร่างกายของข้าจะให้คนอื่นรู้เรื่องไม่ได้ รอหยุนถิงออกมาก่อนค่อยว่ากัน รั่วจิ่งสำคัญกว่า” จวินหย่วนโยวพูดอย่างอ่อนแรง

พ่อบ้านปวดใจยิ่งนัก ไม่ได้เกลี้ยกล่อมอีก เขารู้ดีว่า ซื่อจื่อ รั่วจิ่งและหลิงเฟิงสามคนสนิทสนมกันที่สุด บัดนี้เพราะช่วยซื่อจื่อ รั่วจิ่งโดนทำลายวรยุทธ์และเส้นเอ็นประสาท ซื่อจื่อย่อมต้องรู้สึกผิดและโทษตัวเองยิ่งนัก

รอมาหนึ่งวันเต็ม จนฟ้ามืด ประตูห้องถึงเปิดออก

พวกจวินหย่วนโยวกับหลิงเฟิงรีบเดินเข้ามาหา “รั่วจิ่งเป็นอย่างไรบ้าง?”

หยุนถิงสีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย ยิ้มอ่อนๆออกมา “การผ่าตัดประสบความสำเร็จ วางใจเถอะ ตอนนี้เขาหลับไปแล้วล่ะ”

“งั้นก็ดี” จวินหย่วนโยวพูดจบ ก็เป็นลมสลบไปเลย

หยุนถิงรีบเข้ามาพยุงเขาไว้ “ซื่อจื่อ ท่านเป็นอะไรไหม?”

“ฮูหยิน อันที่จริงซื่อจื่อเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้สาหัสเหมือนรั่วจิ่ง เขาอยากให้ท่านกับท่านลั่วรักษารั่วจิ่งก่อน เลยอดทนรอจนถึงตอนนี้ ขอฮูหยินโปรดรีบรักษาซื่อจื่อด้วยเถอะ” หลิงเฟิงอธิบาย

“รีบหามเขาเข้าไปเร็ว” หยุนถิงรีบช่วยจับชีพจรให้จวินหย่วนโยวทันที หลิงเฟิงกับพ่อบ้านรีบหามคนเข้าไป

หยุนถิงป้อนสารอาหารเหลวให้ซื่อจื่อ และป้อนยาอีกหลายเม็ด “ซื่อจื่อแค่บาดเจ็บภายนอกเท่านั้น เสียเลือดมากเกินไป บวกกับใช้กำลังภายในเลยทำให้ร่างกายอ่อนแอเช่นนี้ พักผ่อนสักหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว”

ทุกคนถึงได้วางใจ หยุนถิงคว้าผ้าห่มมาห่มให้จวินหย่วนโยว และนั่งพักหลับตาข้างเขา

พอเห็นหยุนถิงก็หลับตาลง พ่อบ้านเป็นห่วงยิ่งนัก “ท่านลั่ว ฮูหยินเป็นอะไรรึ?”

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท