จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 308 ลมเปลี่ยนทิศ ตระกูลซ่างกวนจบสิ้นกันแล้ว
หยุนเฉิงเซี่ยงเปลี่ยนเป็นชุดสะอาด ทำความสะอาดใบหน้า แล้วถึงเดินออกมา
“ถิงเอ๋อร์ จวินซื่อจื่อพวกท่านกลับไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อ องครักษ์จวนตระกูลหยุนน่ะมีมากนัก ปลอดภัยมาก” หยุนเฉิงเซี่ยงเปิดปาก
“แต่ข้าก็ไม่วางใจอยู่ดี คืนนี้ข้าจะพักที่บ้าน” หยุนถิงบอก
“ท่านพ่อตารีบพักผ่อนเถอะ คืนนี้ข้าจะพักที่เรือนของหยุนถิงกับนาง พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ” จวินหย่วนโยวเสนอ
“ได้ งั้นพวกเจ้ารีบพักผ่อนแล้วกัน” หยุนเฉิงเซี่ยงกำลังจะกลับไป
“ท่านพ่อ ข้าอยากพูดกับท่านสองสามคำ” หยุนถิงบอก
“ได้ งั้นไปห้องหนังสือเถอะ พึ่งเข้าไป หยุนถิงก็ปิดประตูห้องลง และควักปืนที่พกติดตัวออกมา “ท่านพ่อ ของสิ่งนี้ข้าจะสอนท่านใช้ดีไหม ต่อไปท่านพกติดตัวไว้นะ ถึงเวลาคับขันจะปกป้องท่านได้”
หยุนเฉิงเซี่ยงมองดูของสีดำมะเมี่ยมนั่น แล้วรู้สึกสงสัย “นี่คืออะไร?”
“ปืน” หยุนถิงบอกวิธีใช้ง่ายๆออกมา และเล็งไปที่แจกันดอกไม้ในห้องต่อหน้าหยุนเฉิงเซี่ยง
“ปั้ง!” ดังขึ้น แจกันดอกไม้แตกกระจายทันที
ทำเอาหยุนเฉิงเซี่ยงตกใจตะลึงเลย “ของสิ่งนี้ร้ายกาจเพียงนี้เลยรึ?”
“ใช่ไง ท่านลองดูสิ” หยุนถิงสอนทันที
หยุนเฉิงเซี่ยงตั้งใจเรียน ไม่นานก็ยิงเป็น หยุนถิงเหลือลูกกระสุนไว้ให้เขาเยอะมาก
หยุนเฉิงเซี่ยงไม่ได้พูดถึงเรื่องนักฆ่า หยุนถิงก็ไม่พูด ทั้งสองคนพูดคุยกันจบก็ออกจากห้องหนังสือไป
หยุนเฉิงเซี่ยงพาซูอี๋เหนียงกลับไปเรือนตนเอง ส่วนหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวก็ไปพักผ่อนที่เรือนของเธอ
หยุนหลีกับหยุนซูได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่กลับมา เดิมอยากมาหาพี่หญิงใหญ่ แต่กลัวจะรบกวนการพักผ่อนของพี่หญิงใหญ่กับพี่เขย ทั้งสองคนเลยไม่ได้ไป
ทางนี้องครักษ์เงามังกรไล่ตามคนที่ฆ่าคนปิดปากผู้นั้นไป คนผู้นั้นโดนไปหนึ่งนัด เจ็บปวดจนอยากตาย เลือดสดหลั่งริน รีบหนีไปอย่างไว
ไม่คิดว่าห่างไกลเพียงนี้ อาวุธลับของหยุนถิงร้ายกาจขนาดนี้ ยังยิงโดนเขาอีก
คนผู้นั้นผลันร่าง มุ่งเข้าจวนตระกูลซ่างกวน สุดท้ายปีนข้ามกำแพงเข้าไป
องครักษ์เงามังกรที่ไล่ตามมาอย่างลับๆเห็นคนที่ได้รับบาดเจ็บคนนั้นเข้าไปในจวนตระกูลซ่างกวน หลงซื่อจับตาดูต่อไป หลงเอ้อร์รีบกลับไปรายงาน
จวนตระกูลหยุน
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวกลับมาถึงเรือน ก็ไม่ได้เข้าพักผ่อนทันที หยุนถิงเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องนักฆ่า
จากนั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น “ฮูหยิน ซื่อจื่อ ข้าเอง”
“เข้ามาก่อน” หยุนถิงบอก
หลงเอ้อร์เปิดประตูเข้าไป “ข้าน้อยกับหลงซื่อตามนักฆ่าคนนั้นไป สุดท้ายเห็นเขาเข้าไปในจวนตระกูลซ่างกวน”
หยุนถิงสีหน้าเย็นชาทันที “ซ่างกวนเจิ้นจริงๆด้วย”
“ซ่างกวนเจิ้นเป็นเฉิงเซี่ยง พรรคพวกมากมายนักในราชสำนัก อำนาจแผ่กระจายไปทั่วต้าเยียนและอีกสามแคว้น หากจะต่อกรกับตระกูลซ่างกวนก็ต้องกำจัดพรรคพวกของเขาเสียก่อน เอาทีเดียวให้ถึงตาย จะให้โอกาสเขาพักผ่อนใดๆไม่ได้เด็ดขาด” จวินหย่วนโยววิเคราะห์
“ตกลง ในเมื่อพวกมันลอบฆ่าพ่อข้า ครั้งนี้ข้าจะไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่” หยุนถิงพูดอย่างเคียดแค้น
คืนนี้ จวินหย่วนโยวและหยุนถิงนอนอยู่บนเตียง ไม่ได้ทำกิจกรรมเฉกเช่นสามีภรรยาทั่วไป แต่คุยกันถึงเช้า
จวินหย่วนโยวเล่าข้อมูลทั้งหมดที่ตนรู้เกี่ยวกับตระกูลซ่างกวนให้หยุนถิงฟัง หยุนถิงตั้งใจฟังอย่างละเอียด ในใจคิดวางแผน
ไม่ได้นอนเลยทั้งคืน จนเช้าตรู่
เช้าวันต่อมา หยุนเฉิงเซี่ยงและซูอี๋เหนียงตื่นมา กำลังคิดว่าจะมาถามหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวว่า เช้านี้จะกินอะไร ก็เห็นพวกเขาสองคนเดินออกมา
“ท่านพ่อ ข้ากับซื่อจื่อยังมีงานต้องทำ ไม่กินข้าวเช้าแล้วนะ ระยะนี้ท่านอย่าไปร่วมว่าราชการเลย อยู่บ้านพักผ่อนดีกว่า” หยุนถิงกำชับอีกหลายคำก่อนจะจากไป
หยุนเฉิงเซี่ยงรู้ว่าจวินซื่อจื่อราชการยุ่งมาก รีบส่งพวกเขาที่หน้าประตู
พอกลับไปจวนซื่อจื่อ
หยุนถิงรีบให้ซูหลินติดต่อคนของหอเพลิงแดง ให้พวกเขารับผิดชอบคุ้มกันความปลอดภัยของจวนตระกูลหยุน และยังให้กัวอวิ๋นโหรวติดต่อกองทัพขนหงส์ ให้พวกเขาเตรียมทหารซื้อม้าเตรียมพร้อมไว้
ระยะต่อมา หยุนถิงไม่ได้ออกจากจวนเลย ทุกวันจะมีคนมากมายเข้าออกจวนซื่อจื่อ มีองค์ชายสี่ มีซวนอ๋อง และยังหญิงงามเมืองไม่น้อย ทุกคนพากันสงสัยว่า นี่จวินซื่อจื่อเปลี่ยนใจแล้วรึ
แต่จวนซื่อจื่อยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ทุกคนเลยได้แต่คาดเดา
ส่วนหยุนเฉิงเซี่ยงนับแต่โดนลอบฆ่า ก็ขอลาป่วยไม่ไปร่วมว่าราชการ ตอนแรกฮ่องเต้คิดว่าหยุนเฉิงเซี่ยงคงไม่สบายจริงๆ แต่พอนานวันเข้า ฮ่องเต้ก็อดสงสัยไม่ได้
เขาให้คนไปสืบถึงรู้ว่า ที่แท้หยุนเฉิงเซี่ยงโดนลอบฆ่า และคนที่ทำ ได้ยินว่าคือจวนตระกูลซ่างกวน
ฮ่องเต้รู้มาตลอดว่า ซ่างกวนเจิ้นไม่ถูกกันกับหยุนเฉิงเซี่ยง แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้ากำเริบเช่นนี้ กล้าลอบฆ่า เช่นนี้แล้วยังจะมีอะไรที่เขาไม่กล้าทำอีก
จากนั้นสายสืบของฮ่องเต้ก็ได้รับข่าวจากตระกูลซ่างกวนติดต่อกันหลายวันว่า ซ่างกวนเจิ้นทำการทุจริตรับใต้โต๊ะ ยักยอกเงินในการซ่อมแซมสร้างแม่น้ำ ลักลอบสร้างและฝึกกองทหารในหุบเขาลึกที่ห่างไกล และยังยักยอกเงินโดยไม่รายงานต่อราชสำนัก และเปิดหอนางโลมหารายได้ในอีกสามแคว้น ลอบขายข่าวให้กับแคว้นอื่น—
ฮ่องเต้ได้ยินข่าวพวกนี้แล้วเดือดดาลโกรธจัด เขามีสายสืบไปทั่วทั้งสี่แคว้น ย่อมรู้ละเอียดถึงความเคลื่อนไหวของทุกคนในราชสำนัก เขารู้ว่าซ่างกวนเจิ้นมิใช่คนมือใสสะอาดอะไร เพียงแต่เจ้าจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้เจ้าเล่ห์นัก ต่อให้ฮ่องเต้สงสัย แต่ก็ไม่มีเบาะแสอะไรมาก บัดนี้พอข่าวของจวนตระกูลซ่างกวนปะทุออกมา เห็นได้ชัดว่ามีคนลงมือแล้ว
พอคิดถึงว่า หยุนเฉิงเซี่ยงโดนลอบฆ่า แต่จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงกลับไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย มันทำให้ฮ่องเต้อดสงสัยไม่ได้ว่า เป็นฝีมือของจวินหย่วนโยว
พระราชวังสงบมาได้ระยะหนึ่ง จู่ๆจี๋ผินก็เสนอกับฝ่าบาทให้จัดงานชมดอกไม้ นี่ใกล้จะเข้าฤดูร้อนแล้ว น่ากลัวจะเป็นงานชมดอกไม้ครั้งสุดท้ายแล้ว ฮ่องเต้ย่อมรับปากแน่นอน และยังเจาะจงให้หยุนถิงเข้าร่วมด้วย
เขาเองก็อยากจะดูเหมือนกันว่า ผ่านการโดนลอบฆ่าของหยุนเฉินเซี่ยงมา หยุนถิงเอาแต่นิ่งเงียบมานานขนาดนี้ นางกำลังวางแผนอะไรกันแน่
จี๋ผินดีใจนัก ต่อให้ฮ่องเต้ไม่พูด นางก็จะเชิญหยุนถิงอยู่แล้ว เพราะมันเป็นงานที่วางแผนไว้ให้หยุนถิง
จวนซื่อจื่อ
ในเรือน หยุนถิงอ่านจดหมายจากนกพิราบสื่อสาร ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา เลิกคิ้วมองดูต้นอัลบิเซียในเรือน
“ลมเปลี่ยนทิศ ตระกูลซ่างกวนก็ใกล้จะจบสิ้นแล้ว!”
“คุณหนูใหญ่ จะทำอย่างไร?” ซูหลินถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เจ้าไปบอกกัวอวิ๋นโหรวให้ลงมือได้เลย อีกอย่างส่งคนไปบอกองค์ชายสี่ ประกาศเริ่มเถอะ ร้านอื่นๆก็เปิดกิจการได้แล้ว บอกพี่น้องของหอเพลิงแดง ให้กำจัดพรรคพวกของตระกูลซ่างกวนได้แล้ว” หยุนถิงออกคำสั่ง
“เจ้าค่ะ”
“ฮูหยิน ให้พวกเราทำอะไรขอรับ?” หลงเอ้อร์รีบเข้ามาถาม
“ตาข่ายที่ซื่อจื่อเหวี่ยงออกไป เก็บกลับมาได้แล้ว” หยุนถิงตอบ
“เข้าใจแล้วขอรับ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”
คืนนี้ นกพิราบจำนวนมากยุ่งวุ่นวายนัก ต่างบินไปยังทุกที่ในสี่แคว้น
ไม่นานก็มาถึงงานชมดอกไม้
หยุนถิงเข้าวังกับจวินหย่วนโยวแต่เช้าตรู่ จวินหย่วนโยวไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท อุทยานด้านหลังล้วนเป็นสนมนางในของฮ่องเต้ และยังคุณหนูกับฮูหยินของตระกูลต่างๆ บุรุษเช่นเขาเข้าไปไม่สะดวก ดังนั้นหยุนถิงเลยเข้าไปเอง
ตอนหยุนถิงไปถึง อุทยานหลวงก็มีคนมากมายแล้ว สนมนางในของวังหลังทั้งหมดต่างมากันพร้อม หยุนถิงยังเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาหลายคน
ซูชิงโยวรีบเดินเข้ามาทันที “หยุนถิงเจ้ามาแล้ว เดิมข้ายังคิดจะไปหาเจ้าแต่เช้า แต่มาคิดอีกที อย่ารบกวนเจ้ากับซื่อจื่อดีกว่า เลยมารอเจ้าที่นี่”