จอมนางข้ามพิภพ บทที่324 จวินหย่วนโยวไปคุกเข่าบนแผ่นซักเสื้อผ้า
ว่าแล้ว มู่ว่านว่านก็เห็นขนนกในแก้วน้ำ นางตกใจ และทันใดนั้นก็ตระหนักว่า: “ดังนั้น สิ่งที่อยู่ในแก้วสุราของข้าในอุทยานของพระราชวังเป็นเพียงภาพสะท้อน?”
“ถูกต้อง ตอนนั้นเจ้าฆ่าอินทรีทองของข้าไป ข้าเกลียดเจ้ามาก ดังนั้นข้าจึงคิดวิธีนี้มาแก้แค้นเจ้า” หยุนถิงตอบอย่างตรงไปตรงมา
มู่ว่านว่านทำหน้าแค้นและโมโห: “ที่แท้ช่วงนี้ข้ากลัวแทบตาย และได้รับความทุกข์มากเช่นนี้ล้วนเป็นเพราะแผ่นการของเจ้า??”
“ถูกต้อง ข้าเอง เจ้าฆ่าอินทรีทองของข้า และข้าก็แก้แค้นเจ้าแค้นแทนอินทรีทอง ก็เสมอกันพอดี”
ในขณะนี้ มู่ว่านว่านฟังคำพูดของหยุนถิง จริงๆแล้วควรจะโกรธมาก แต่กลับรู้สึกโล่งใจอย่างอธิบายไม่ถูก
ที่แท้สิ่งที่นางดื่มลงไปไม่ใช่ดวงวิญญาณของอินทรีทอง แต่เป็นกลอุบายของหยุนถิง ในที่สุดปมในใจของนางก็ถูกคลายออกสักที มู่ว่านว่านก็รู้สึกผ่อนคลายและสบายมาก
มีเพียงฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าช่วงนี้นางไม่กล้าหลับตานอนเลย ทันทีที่หลับตาก็รู้สึกว่าอินทรีสีทองร้องโหยหวนอยู่ในท้องของตัวเอง ทีนี้นางสามารถนอนหลับได้อย่างสงบสักที
แม้ว่าหยุนถิงจะหยิ่งผยองและกำเริบเสิบสาน ชอบคิดแค้นและแก้แค้น แต่นางกลับเป็นคนตรงไปตรงมาและกล้าทำกล้ายอมรับ ดังนั้นดูเหมือนว่านางจะดีกว่าคนอย่างพี่ใหญ่ที่ต่อหน้าสนิทและดีกับเจ้า แต่กลับเอามีดแอบแทงหลัง
“หยุนถิง ขอบคุณที่เจ้าบอกความจริงกับข้า เรื่องที่ตอบตกลงเจ้าข้าจะไม่มีวันผิดสัญญาแน่นอน” มู่ว่านว่านกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา
“อืม ข้าเชื่อเจ้า” หลังจากหยุนถิงพูดจบ ก็กระโดดออกจากหน้าต่างและจากไป
มู่ว่านว่านรีบหยิบยาขวดนั้นออกมาทันที กินไปเม็ดหนึ่งแล้วหลับตาแล้วยิ้มมุมปาก
หลังจากหยุนถิงจากไป อารมณ์ก็ดีมาก ตอนนี้ฟ้าพึ่งสว่าง บนถนนยังไม่ค่อยมีคน แต่พ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารเช้าได้ออกมาเปิดแผงขายของแล้ว
หยุนถิงบังเอิญเห็นคนขายเต้าฮวยอยู่ข้างถนนในไม่ไกลนัก จึงเดินไปสั่งเต้าฮวยชามหนึ่งกับปาท่องโก๋สองอัน
อาหารเช้าในทุกๆวันก็เตรียมโดยครัวหลังของจวนซื่อจื่อ นางไม่ได้กินของบนถนนแบบนี้มานานแล้ว เห็นคนเดินถนนและพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังยุ่งอยู่ จู่ๆหยุนถิงก็รู้สึกว่าชีวิตแบบนี้มีชีวิตชีวามาก
“เฒ่าแก่เจ้ารีบไปพักผ่อนเถิด ตอนเช้าไม่ค่อยมีคน อย่าเหนื่อยมากจนเกินไป ต้องระวังเอวเจ้าให้ดี” ผู้หญิงข้างๆพูด
“ไม่ต้องห่วง แผลเก่าแล้วไม่เป็นไร แต่เต้าฮวยนี้ของพวกข้า ขายมาทั้งชีวิตแล้ว ยิ่งอยู่ก็ยิ่งขายไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน ไม่รู้ว่าจะขายได้อีกกี่วัน” ท่านลุงถอนหายใจ
“ท่านลุง เต้าฮวยนี้ของเจ้าอร่อยเช่นนี้ ทำไมถึงขายไม่ดีล่ะ” หยุนถิงถาม
“คุณหนูหยุนไม่รู้ เต้าฮวยนี้ของข้าขายมาหลายสิบปีแล้ว ทุกวันก็เป็นแต่ของเดิมพวกนี้ สงสัยว่าทุกคนคงกินเบื่อกันแล้ว”
หยุนถิงชำเลืองมองดูเต้าฮวยนั้น มีเพียงรสเค็มเท่านั้น ซึ่งค่อนข้างน้อยไปหน่อยจริงๆ
“ท่านลุง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าใส่กระป๋องน้ำตาลทรายขาวไว้ที่นี่ขวดหนึ่ง บางคนชอบทานหวาน เจ้าก็ให้เขาใส่น้ำตาลเอง ข้าจะสอนเจ้าทำซุปอีกอย่าง เปลี่ยนรสชาตินิดหน่อย พรุ่งนี้เจ้าลองดู” หยุนถิงเสนอ
“ขอบคุณคุณหนูหยุน คุณหนูหยุนเป็นผู้มีเมตตามากจริงๆเลย” ท่านลุงและหญิงวัยกลางกล่าวอย่างซาบซึ้ง
“ทั้งสองไม่ต้องเกรงใจ”
หยุนถิงสอนวิธีการผสมให้พวกเขาอย่างจริงจัง จนทั้งสองคนทำเป็นแล้ว หยุนถิงก็ให้แนวคิดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย คนเฒ่าทั้งสองซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ไม่เก็บเงินค่าอาหารเช้าของหยุนถิง ก่อนจากไปท่านลุงยังห่อปาท่องโก๋อีกหลายชิ้นให้กับหยุนถิง
หยุนถิงอยากปฏิเสธก็ปฏิเสธไม่ได้ ได้แต่รับเอาไว้ และกลับไปที่จวนซื่อจื่อพร้อมกับปาท่องโก๋ถุงใหญ่
“ฮูหยิน นี่คือ?” จวินหย่วนโยวเลิกคิ้วและถาม
“ท่านลุงที่ขายของว่างยามเช้าให้มา ข้าสอนวิธีทำซุปให้เขา ดังนั้นเขาจึงส่งปาท่องโก๋ให้ข้า เพิ่งออกจากกระทะร้อนๆเลย ซื่อจื่อลองกินดู” หยุนถิงยื่นมาอันหนึ่ง
“ข้ายังไม่ได้ล้างมือ” จวินหย่วนโยวตอบ
“งั้นข้าป้อนท่าน” หยุนถิงหยิบปาท่องโก๋ออกมาอันหนึ่งแล้วยื่นให้
จวินหย่วนโยวอ้าปากกัด: “รสชาติไม่เลวจริงๆ”
“งั้นก็กินเยอะๆ” หยุนถิงก็ป้อนปาท่องโก๋อันหนึ่งให้จวินหย่วนโยวเช่นนี้
พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจว่า ซื่อจื่อเพิ่งล้างหน้าแปรงฟันไปชัดๆ เพื่อให้ฮูหยินป้อนเขา กลับบอกว่าไม่ได้ล้างมือ ร้ายกาจยิ่งนัก
แต่เห็นฮูหยินกับซื่อจื่อรักกันมากเช่นนี้ พ่อบ้านก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
องครักษ์คนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก คำนับด้วยความเคารพ: “ซื่อจื่อ คนของพวกข้าได้รับข่าวว่าในอีกห้าวันองค์หญิงหลันรั่วจะมาที่แคว้นต้าเยียน และจุดประสงค์น่าจะมาสมรสเพื่อสันติภาพ”
จวินหย่วนโยวที่กำลังจิบชาอยู่ จู่ๆ ก็สำลักออกมา คนทั้งคนตกในฐานะลำบาก จนมุมมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่หยุนถิงเห็นเขาในสภาพเช่นนี้: “ซื่อจื่อ ท่านตื่นเต้นเช่นนี้ทำไม หรือว่าองค์หญิงหลันรั่วคนนี้มีความสัมพันธ์อะไรกับท่าน?”
สีหน้าของจวินหย่วนโยวมืดครึ้มลงในทันที: “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ในใจของข้ามีเพียงเจ้าเท่านั้น ฟ้าสามารถเป็นพยานได้”
“ในเมื่อเช่นนี้ ท่านทำไมถึงสำลัก?” หยุนถิงถาม
สีหน้าของจวินหย่วนโยวแย่ลงกว่าเดิม เขาไม่รู้ว่าจะบอกกับหยุนถิงอย่างไร
“ฮูหยิน ท่านไม่รู้ องค์หญิงหลันรั่วคนนี้ รักแรกพบต่อซื่อจื่อ เมื่อสามปีก่อน ซื่อจื่อเดินทางเป็นทูตไปยังแคว้นเทียนจิ่ว แต่ถูกองค์หญิงหลันรั่วเข้ามาพัวพันเอาไว้
วิธีอะไรซื่อจื่อก็ล้วนใช้ไปหมดแล้ว แต่องค์หญิงหลันรั่วผู้นี้เอาแต่ดันทุรังซื่อจื่อ นางยังเคยบอกว่าชาตินี้นอกจากซื่อจื่อจะไม่ยอมแต่งงานกับคนอื่นโดยเด็ดขาด และยังต้องการให้ซื่อจื่อแต่งเข้าแคว้นเทียนจิ่ว
ต่อมาก็ยังเป็นเพราะซื่อจื่อถูกนางทำให้โกรธจนพิษกำเริบ หมอหลวงและหมอทั้งแคว้นเทียนจิ่วล้วนไม่มีวิธีรักษา องค์หญิงหลันรั่วจึงค่อยปล่อยซื่อจื่อกลับมา หากไม่ใช่เป็นเพราะในเวลานั้นจักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนจิ่วป่วยหนัก เกรงว่าองค์หญิงหลันรั่วคงมาด้วยแล้ว
ดังนั้น ฮูหยิน ท่านต้องจับตามองซื่อจื่อดีๆ องค์หญิงหลันรั่วคนนี้ขึ้นชื่อเป็นคนที่ก่อกวนสุ่มสี่สุ่มห้า คนทั่วไปก็ไม่ใช่คู่แข่งขนของนาง” พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างพูดอย่างจริงจัง
หยุนถิงขมวดคิ้ว นางรู้ว่าใบหน้านี้ของซื่อจื่อดึงดูดหญิงสาวที่สุด แต่คิดไม่ถึงว่ายังมีหญิงสาวที่จัดการยากเช่นนี้ด้วย
“แล้วทำไมในช่วงสามปีที่ผ่านมานี้ไม่เห็นมาหาซื่อจื่อเลย ซื่อจื่อแต่งงานกับข้า นางก็ไม่มา?” หยุนถิงถามกลับ
“นั่นเป็นเพราะซื่อจื่อวางแผนกับพวกเขา และกดดันแคว้นเทียนจิ่ว ให้องค์หญิงหลันรั่วมาไม่ได้” หลิงเฟิงอธิบาย
“อย่างงี้นี่เอง” หยุนถิงเลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่จวินหย่วนโยว ดวงตานั้นดูล้อเล่น โกรธ และหึง
จู่ ๆในใจของจวินหย่วนโยวก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย: “ฮูหยิน ระหว่างข้าและองค์หญิงหลันรั่วไม่มีอะไรกันจริงๆ”
“ข้าเชื่อซื่อจื่อ ดูเหมือนว่าคราวนี้มีศัตรูที่แข็งแกร่งมาแล้วสินะ”
“ไว้ใจ ข้าจะไม่ให้โอกาสใดๆแก่นางแน่นอน และจะไม่ปล่อยให้นางรังแกเจ้าเด็ดขาด” จวินหย่วนโยวพูดปลอบโยน
“ถือว่าท่านยังมีน้ำใจ” หยุนถิงทำเสียงเชอะ
องครักษ์อีกคนวิ่งเข้ามาจากนอกประตู ในมือถือจดหมายไว้: “ซื่อจื่อ นี่คือจดหมายจากองค์หญิงหลันรั่วที่ส่งถึงท่านอย่างเร่งด่วน?”
สีหน้าของจวินหย่วนโยวเย็นชาลง และรู้สึกว่าอากาศที่ไหลเวียนหยุดนิ่งลง เหลือมองสีหน้าที่มืดครึ้มและเย็นชาของหยุนถิง จวินหย่วนโยวก็รีบอธิบาย
“ฮูหยิน นี่ไม่เกี่ยวกับข้า ข้าไม่รู้ว่าองค์หญิงหลันรั่วเขียนจดหมายถึงข้า ส่งจดหมายคืน”
“เดี๋ยวก่อน ในเมื่อนางได้เขียนจดหมายถึงเจ้าแล้ว ไม่ดูก็ไม่ดี ข้าดูแทนเจ้า” หยุนถิงรับจดหมายฉบับนั้นมาและเปิดดู เมื่อเห็นเนื้อหาข้างใน สีหน้าของหยุนถิงก็มืดครึ้มลงทันที
“จวินหย่วนโยว ไปคุกเข่าบนแผ่นซักเสื้อผ้า!”