จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 328 หาเรื่องใส่ตัว

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่328 หาเรื่องใส่ตัว

“หลันรั่วอย่าลืมล่ะ หากไม่ใช่เพราะข้า ท่านจะไม่สามารถเข้าประตูจวนซื่อจื่อได้เด็ดขาด องค์หญิงโปรดจำไว้ให้ดี ข้าต่างหากที่เป็นคือนายหญิงของจวนซื่อจื่อ” หยุนถิงกล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“เจ้ามีอะไรน่ากำเริบเสิบสาน เป็นเพียงอนุภรรยาคนหนึ่ง คราวนี้ข้ามาก็เพื่อ——” องค์หญิงหลันรั่วยังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง มามาข้างๆก็หยุดนาง จากนั้นนางก็ค่อยเปลี่ยนคำพูด

“อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าก็เร็วข้าทำให้เจ้าคุกเข่าขอร้องข้าแน่นอน!” หลันรั่วเดินเข้าไป

พ่อบ้านมองดูจวินหย่วนโยว เห็นเขาพยักหน้า ก็รีบพาองค์หญิงไปที่ห้องทันที แน่นอนว่าที่พ่อบ้านเตรียมให้นั้นเป็นหลันเซียนที่อยู่ห่างจากห้องของซื่อจื่อมากที่สุด

โม่ฉือหานเห็นเช่นนี้ ก็จากไปเช่นกัน

คนอื่น ๆ ที่ติดตามองค์หญิงหลันรั่วมา อยากเข้าไป แต่กลับถูกองครักษ์ที่เฝ้าประตูของจวนซื่อจื่อขวางเอาไว้ที่ข้างนอก ไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาจึงไปที่พักเปลี่ยนม้าหลวง

“ซื่อจื่อ พวกข้ากลับไปทำต่อเถอะ” หยุนถิงเสนอ

“อืม”

หยุนถิงกลับไปฝึกไท้จี๋ต่อ จากนั้นก็เห็นองค์หญิงหลันรั่วเดินมาอย่างโกรธ

“พี่ซื่อจื่อ ทำไมห้องของข้าถึงอยู่ไกลจากห้องของท่านมากขนาดนั้น?”

สีหน้าของจวินหย่วนโยวเย็นชาลง: “หากเจ้าไม่ชอบ ก็สามารถไปที่พักเปลี่ยนม้าหลวงได้”

หลันรั่วโกรธมากที่ถูกว่า แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร นางรู้อารมณ์ของจวินหย่วนโยวดีกว่าใครอีก ต้องเป็นเพราะอนุภรรยาคนนี้คิดมิดีมิร้ายแน่นอน องค์หญิงหลันรั่วในตอนนี้เกลียดหยุนถิงแทบตาย

เมื่อเห็นท่าทางที่เบาและอ่อนแรงของนาง องค์หญิงหลันรั่วก็ทำหน้าดูดูถูกเหยียดหยาม: “นี่เจ้าเต้นได้น่าเกลียดเกินไปแล้ว พี่ซื่อจื่อ หากท่านชอบดู ข้าจะเต้นให้ท่านดู?”

“ข้าไม่ชอบดู!” จวินหย่วนโยวปฏิเสธอย่างเย็นชา

“ถ้าเช่นนั้น ข้าจะชกมวยให้ท่านดู” องค์หญิงหลันรั่วถาม

“ไม่ต้อง!”

สีหน้าของหลันรั่วมืดครึ้มลงในทันที: “เหตุใด เหตุใดพี่ซื่อจื่อต้องปฏิบัติเช่นนี้กับข้า?”

“เพราะซื่อจื่อไม่ชอบท่าน ดังนั้นไม่ว่าท่านจะทำอะไรก็ตาม เขาก็ไม่ชอบ!” หยุนถิงตอบแทนจวินหย่วนโยวโดยตรง

“เจ้าในฐานะอนุภรรยาเล็กๆคนหนึ่งก็กล้ามาเหยียดหยามข้า รนหาที่ตาย!” หลันรั่วโกรธจัด และโจมตีใส่หยุนถิง

สีหน้าของจวินหย่วนโยวเย็นชาลง และกำลังจะออกมือ แต่ถูกหยุนถิห้ามเอาไว้ด้วยสายตา

คนอื่น ๆ ไม่ได้เป็นห่วงหยุนถิงเลย แต่กลับเป็นห่วงองค์หญิงหลันรั่วแทน องค์หญิงผู้นี้ช่างไม่รู้จักข้อบกพร่องของตนเองสักนิดเลย

หลันรั่วโจมตีไปใส่หยุนถิงอย่างโหดร้าย หยุนถิงก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนท่าหรือการเคลื่อนไหวใดๆ และรับมือกับการโจมตีของนางได้อย่างง่ายดาย ดูเหมือนนุ่มนวลแต่กลับอย่างโจมตีนางกลับอย่างแรง

“อ๊าก!” ได้ยินเพียงองค์หญิงหลันรั่วกรีดร้องอย่างน่าสงสาร คนทั้งคนถอยหลังไปหลายก้าว และมองดูหยุนถิงด้วยความตกใจและไม่น่าเชื่อ

“เจ้าจะเอาชนะข้าได้อย่างไรกัน เจ้าต้องใช้วิธีหลอกลวงข้าแน่นอน มาต่อ!” หลันรั่วโจมตีต่อ

เพียงแต่ว่าครั้งนี้ นางก็ยังคงถูกหยุนถิงตีถอยเหมือนเดิม เจ็บและโกรธกว่าครั้งก่อน

หลันรั่วเคยได้รับความอึดอัดคับค้องใจเช่นนี้เมื่อไหร่กัน โจมตีใส่หยุนถิงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ถูกหล่อนตีถอยหลังเหมือนเดินทุกครั้ง สุดท้ายหลันรั่วก็ล้มลงกับพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นได้ เจ็บจนนางร้องไห้อย่างขมขื่น

“องค์หญิงหลันรั่ว แพ้แล้วรับไม่ได้ก็อย่าหาเรื่อง ท่านเป็นคนโจมตีข้าก่อนเอง ต่อให้ท่านไปร้องทุกข์ต่อฝ่าบาทข้าก็เป็นคนถูก!” หยุนถิงกล่าวอย่างดูถูก

เดิมทีนางก็ไม่คิดที่จะสั่งสอนหล่อนเร็วขนาดนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าหลันรั่วนี้โง่เขลา อยากหาเรื่องใส่ตัวเอง เช่นนั้นก็โทษนางไม่ได้แล้ว

“เจ้า อนุภรรยาเช่นเจ้านี้ช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว พี่ซื่อจื่อท่านต้องตัดสินแทนข้าด้วย?” หลันรั่วพูดอย่างน้อยใจ

จวินหย่วนโยวเหลือบมองนางอย่างเย็นชา: “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของหยุนถิง เจ้าเป็นคนมาหาเรื่องก่อนเอง ต่อให้เป็นความผิดของนาง ข้าก็ด่านางไม่ลง”

“ท่าน พี่ซื่อจื่อ ท่านมากเกินไปแล้ว ข้าจะไปหาฝ่าบาทของพวกเจ้าเดี๋ยวนี้ ให้เขาตัดสินเพื่อข้า!” หลันรั่วโกรธมาก ลุกขึ้นจากพื้นและจากไป

คนในจวนซื่อจื่อไม่มีใครห้ามนางเอาไว้เลย ทุกคนถึงกับปรบมือเรียกดี ตัวซวยนี้ไปสักที

หยุนถิงพอใจกับการแสดงของจวินหย่วนโยวมาก: “ซื่อจื่อ วันนี้ทำได้ไมเลว ทำต่อไปนะ”

“ถ้าอย่างนั้นฮูหยินมีรางวัลอะไรหรือไม่?” เสียงที่น่าฟังของจวินหย่วนโยวดังขึ้น และนัยน์ตาอันดำทึบหันมองหยุนถิงอย่างยั่วยุ

“ในฐานะสามีของคนอื่น นี่เป็นหน้าที่พื้นฐานที่สุดไม่ใช่หรือ”

“ถ้าอย่างนั้น ก็เห็นแก่การที่ข้าประพฤติตนเหมาะสมและปฏิบัติตนสงบเสงี่ยมเจียมตัว ฮูหยินก็ควรแสดงอะไรบางอย่างด้วยสิ” จวินหย่วนโยวถามกลับ

เดิมทีหยุนถิงจะปฏิเสธ แต่ก็เห็นองค์หญิงหลันรั่วไปและกลับมาพอดี หยุนถิงเดินก้าวใหญ่ และไปจูบจวินหย่วนโยว

ยากนะที่จวินหย่วนโยวจะเห็นนางเป็นคนริเริ่มก่อนเช่นนี้ กอดนางเข้าในอ้อมแขนด้วยมืออันใหญ่ พลิกเบี้ยล่างให้กลายเป็นเบี้ยบน จูบลึกลงไป

ที่ประตู หลันรั่วที่เพิ่งเดินย้อนกลับมา เดิมทีกลับมาหยิบของ ทว่ากลับมองเห็นจวินหย่วนโยวและหยุนถิงกอดจูบกันในลานอย่างไม่เกรงใจ ทำเอานางโกรธมากจนหน้ามืดครึ้มไปหมด ตัวสั่นเทาอย่างรุนแรง มือก็กำหมัดแน่น

“น่าเกลียดชะมัด ข้าจะทำให้พวกเจ้าเสียใจภายหลังอย่างแน่นอน!” หลันรั่วทำเสียงเชอะด้วยความโกรธ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปโดยไม่เอาอะไรเลย

หยุนถิงมองดูนางจากไป จากนั้นก็ผลักจวินหย่วนโยวออก แต่จวินหย่วนโยวจะไปยอมที่ไหนกันล่ะ

“ฮูหยิน แสดงละครก็ต้องทำให้ครบชุด!” จวินหย่วนโยวอุ้มหยุนถิงขึ้น แล้วเดินตรงไปที่ห้อง

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า หยุนถิงจะต้องถูกเขาทำให้เหนื่อยจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้อีกแน่นอน

ทางนี่ องค์หญิงหลันรั่วตรงไปที่วังด้วยความโกรธ ขอเข้าพบฝ่าบาท และเล่าเรื่องที่ตนเองอยู่จวนซื่อจื่อถูกหยุนถิงเหยียดหยาม

สีหน้าของฝ่าบาทก็ตึงเครียดเล็กน้อย: “องค์หญิงหลันรั่ว ว่ากันว่าข้าราชการที่สุจริตก็ยากที่จะตัดสินเรื่องราวในครอบครัวได้ นี่คือเรื่องครอบครัวของจวินหย่วนโยวและหยุนถิง แม้ว่าข้าจะเป็นจักรพรรดิของแว่นแคว้นหนึ่งก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถยุ่งเรื่องครอบครัวของพวกเขาได้”

“ท่านคือฝ่าบาทของแคว้นต้าเยียน จะไม่สนใจเรื่องนี้ได้อย่างไร อีกอย่างอนุภรรยาของจวินหย่วนโยวเหยียดหยามข้าเช่นนี้ ในฐานะฝ่าบาทท่านไม่ควรตัดสินเพื่อข้าหรือ?” หลันรั่วถามกลับ

“องค์หญิงหลันรั่ว โปรดให้อภัยที่บ่าวพูดมาก คุณหนูหยุนเป็นฮูหยินของจวินซื่อจื่อ พวกเขาสองคนพลอดรักกันมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว มันจะเรื่องไร้มารยาทได้เยี่ยงไร

เมื่อครู่ท่านก็บอกแล้วว่า ท่านเป็นคนโจมตีคุณหนูหยุนก่อนเอง นางโต้กลับก็เป็นเพียงการป้องกันตัวเองเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นการยั่วยุองค์หญิง โทษที่องค์หญิงมีความสามารถไม่เท่าคนอื่นเท่านั้น” ซูกงกงที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะพูด

แต่เดิมหลันรั่วก็โกรธอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับถูกขันทีคนหนึ่งว่า นางจะทนได้อีกสักที่ไหนกันล่ะ

“เจ้าขันทีเพียงคนหนึ่งคู่ควรที่จะมายกไม้ยกมือต่อข้าด้วยหรือ หรือว่านี่เป็นวิธีปฏิบัติต่อแขกแห่งแคว้นต้าเยียนของพวกเจ้าหรือ หากพวกเจ้าปฏิบัติต่อข้าแบบนี้อีก ข้าจะให้เสด็จพ่อของข้าออกศึกโจมตีต้าเยียน!” หลันรั่วพูดด้วยความโกรธ

สีหน้าของฝ่าบาทเย็นชาลงในทันที เส้นกรามตึง ออร่ารอบตัวเย็นชาลงเล็กน้อย: “องค์หญิงหลันรั่วเจ้าไม่สนชื่อเสียงของตัวเองจะเข้าพักอาศัยที่จวนซื่อจื่อเอง ข้าตอบตกลงเจ้าก็ถือเป็นการอดทนต่อเจ้าแล้ว

หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเป็นสามีภรรยากัน ระหว่างพวกเขาสองคนนั้นเป็นอย่างไรก็ยังไม่จำเป็นต้องให้เจ้าคนนอกคนหนึ่งมาพูด สิ่งที่ซูกงกงพูดในเมื่อครู่นี้เป็นความจริง หากองค์หญิงหลันรั่วยังเจตนาก่อกวนเช่นนี้อีก ข้าก็จะไม่สนถึงเรื่องสนธิสัญญาระหว่างต้าเยียนกับแคว้นเทียนจิ่ว

เมื่อถึงตอนนั้นสองแคว้นทำสงครามกัน เช่นนั้นองค์หญิงหลันรั่วก็จะเป็นผู้ที่ก่อให้เหตุเภทภัย ครั้งนี้ข้าถือว่าเจ้าพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ถือว่าข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ หากมีครั้งต่อไป ข้าก็ไม่ถือสาที่ทั้งสองแคว้นจะทำสงครามกัน และเจ้าก็จะเป็นตัวประกันคนแรกของแคว้นเทียนจิ่ว! ”

สำนวนที่งดงาม น้ำเสียงที่เย็นชา อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท