จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 331 ปรนนิบัติข้าให้ดีก่อนค่อยว่ากัน
สุดท้ายรถม้าก็ไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูหอจิ่นเซ่อ หนานเทียนหลินหยิบหมวกไม้ไผ่สานสวมเอาไว้บนศีรษะ จากนั้นก็ใส่ผ้าคลุมหน้าให้กับหยุนถิง ถึงได้ลากนางเดินเข้าไป
เมื่อแม่เล้าเห็นการแต่งกายที่แปลกประหลาดของสองคนนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาทันที
“ไม่ทราบว่าลูกค้าทั้งสองท่านมีความต้องการอะไร สาวๆในหอของเราสวยๆกันทุกคน?”
“พูดไร้สาระให้มันน้อยๆหน่อย เปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง แล้วให้นางไปรับแขก รับไม่ครบหนึ่งร้อยคนห้ามให้นางกินข้าว!” หนานเทียนหลินออกคำสั่ง
แม่เล้ามีสีหน้าลำบากใจทันที กำลังจะปฏิเสธ แต่แล้วเมื่อหนานเทียนหลินยื่นทองหยวนเป่ามาให้หนึ่งแท่ง แม่เล้ามองอย่างตกตะลึง รีบรับปากทันที
“ได้เลยลูกค้า ข้ารับรองว่าจะนับจำนวนคนไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนแน่นอน แม่นางตามข้าไปเถอะ” แม่เล้าเข้ามาลากคนทันที
หยุนถิงไม่สามารถขยับเขยื้อน และไม่สามารถพูดได้ ได้แต่ถูกบังคับลากออกไป
หนานเทียนหลินพอใจอย่างยิ่ง ตรงไปยังห้องส่วนตัวบนชั้นสอง เพื่อรอชมการแสดง
โม่เหลิ่งเหยียนที่ตามมาติดๆเห็นพวกเขาเข้าไปที่หอจิ่นเซ่อ สีหน้าเคร่งเครียด เหตุใดหนานเทียนหลินต้องพาหยุนถิงมาที่นี่ด้วย?
“นายท่าน มีอะไรให้รับใช้?”
“พาคนไปล้อมรอบหอจิ่นเซ่อเอาไว้ จะปล่อยให้หนานเทียนหลินจากไปไม่ได้เด็ดขาด และส่งคนไปแจ้งจวินหย่วนโยวด้วย!” โม่เหลิ่งเหยียนออกคำสั่ง
“ขอรับ” องครักษ์ลับนายนั้นกำลังจะออกไป
“ซวนอ๋อง หากท่านอยากจะช่วยฮูหยิน ก็อย่าทำอะไรผลีผลาม!” หลงเอ้อปรากฏตัวขึ้นมาทันที
“เจ้าติดตามอยู่ตลอด ทำไมถึงไม่ช่วยหยุนถิง?” นัยน์ตาสีดำที่เย็นยะเยือกของโม่เหลิ่งเหยียนกวาดมองมา
“ข้าอยากจะช่วย แต่ว่าฮูหยินไม่ยอมนี่นา” หลงเอ้อกล่าวด้วยความน้อยใจ รีบเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในป่าก่อนหน้านี้ออกมาทันที
โม่เหลิ่งเหยียนเลิกคิ้ว“ในเมื่อหยุนถิงไม่ให้เจ้าช่วย นางต้องสามารถรับมือได้เองแน่นอน เช่นนั้นเราก็ต้องระมัดระวังอย่าไปแหวกหญ้าให้งูตื่น อย่างไรเสียหนานเทียนหลินก็เป็นเจ้าสำนักแห่งสำนักราตรีที่ฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน ข้ากลัวว่าหยุนถิงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
“ได้ขอรับ”
ดังนั้นโม่เหลิ่งเหยียนกับหลงเอ้อจึงแอบเข้าไปทางประตูหลัง และเริ่มตามหาหยุนถิง
ทางด้านนี้ แม่เล้าพาหยุนถิงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องแต่งตัว ในตอนที่หยิบผ้าคลุมหน้าของนางออก และเห็นว่าเป็นหยุนถิง แม่เล้าชะงักงันไปจริงๆ
“คุณหนูหยุน ทำไมถึงเป็นท่าน?”
“ถูกต้อง ข้านี่แหละ แล้วมามาจะให้ข้าไปรับแขกหรือ?” หยุนถิงถามกลับ
หนานเทียนหลินสกัดจุดและจุดใบ้ของหยุนถิงแล้วก็จริง แต่สำหรับหยุนถิงที่มีทักษะทางการแพทย์อยู่เหนือคนทั่วไปแล้ว ในนาทีที่เขาสกัดจุดนางก็แทงไปที่จุดฝังเข็มของตัวเองไปหนึ่งจุด และคลายจุดไปแล้ว สาเหตุที่ให้ความร่วมมือกับหนานเทียนหลิน ก็เพราะต้องการจะดูว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่
“มิกล้ามิกล้า ข้าจะกล้าให้คุณหนูหยุนรับแขกได้อย่างไร เมื่อครู่นี้ข้านึกว่าท่านเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา เช่นนั้นคุณหนูหยุนท่านรีบออกไปทางประตูหลังเถอะ ข้าจะไปถ่วงเวลาคนผู้นั้นเอาไว้!” แม่เล้ากล่าวอย่างรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร
เอะอะหยุนถิงก็สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งเมืองหลวง เรื่องของนางแม่เล้าได้ยินมามากกว่าใครๆ อาศัยแค่จวินซื่อจื่อโปรดปรานคุณหนูหยุนคนเดียวเช่นนั้น หากนางกล้าให้หยุนถิงรับแขกจริงๆ จวินซื่อจื่อจะไม่นำกำลังคนมาทำลายล้างทั่วทั้งหอจิ่นเซ่อ และสับนางเป็นหมื่นๆชิ้นหรอกหรือ
ให้นางมีความกล้ามากแค่ไหน นางก็ไม่กล้าล่วงเกินจวินซื่อจื่อหรอก นั่นคือการดำรงอยู่ที่น่ากลัวยิ่งกว่ายมราชในนรกเสียอีก
หยุนถิงพึงพอใจอย่างยิ่ง ถือว่าแม่เล้าคนนี้รู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร“เจ้าคิดเพื่อข้าเช่นนี้ ข้ารู้สึกตื้นตันใจจริงๆ แต่หากข้าไปแล้ว คนผู้นั้นจะต้องไประบายความโกรธใส่เจ้าแน่นอน ดังนั้นข้าต้องการความร่วมมือของเจ้า!”
“ต้องการให้ข้าทำอะไร คุณหนูหยุนบอกมาได้เลย ข้าจะต้องทำตามอย่างแน่นอน!” แม่เล้ารู้สึกขอบคุณมาก คิดไม่ถึงว่าเวลาเช่นนี้คุณหนูหยุนยังคิดเพื่อตัวเองอีก
“เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้าเถอะ”
“ท่านจะทำจริงหรือ?” แม่เล้าถามด้วยความตกตะลึง
“ย่อมไม่ใช่อยู่แล้ว ข้าก็แค่แสร้งทำไปอย่างนั้นแหละ” หยุนถิงอธิบาย
“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี หากท่านเกิดอุบัติเหตุที่หอจิ่นเซ่อของข้าแม้เพียงเล็กน้อย จวินซื่อจื่อไม่มีทางปล่อยข้าไปแน่นอน” แม่เล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หยุนถิงด้วยตัวเองทันที
มองดูตัวเองในกระจก หยุนถิงพึงพอใจอย่างยิ่ง“พาข้าไปพบคนผู้นั้น”
“เจ้าค่ะ!”
แม่เล้าพาหยุนถิงไปที่ห้องส่วนตัวของหนานเทียนหลินทันที“คุณชาย เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว”
หนานเทียนหลินเงยหน้ามองมา แค่แวบเดียวเขาก็ตกตะลึงไป
ได้ยินมาตลอดว่าหยุนถิงงดงามมาก แต่หนานเทียนหลินไม่เคยสนใจและใส่ใจมาก่อน เพราะเดิมทีเขาก็อยู่ฝั่งตรงข้ามหยุนถิง เป็นเหมือนกับศัตรูคู่แค้นกันอยู่แล้ว เห็นหน้าก็มีแต่อยากจะฆ่ารัดคอนาง หรือไม่ก็ใช้นางมาข่มขู่จวินหย่วนโยว
และเวลานี้ มองดูนางเดินเข้ามาทีละก้าว ชุดกระโปรงยาวสีแดงราวกับเปลวเพลิงเสริมกับรูปร่างเพรียวบางของนาง อรชนอ้อนแอ้น มีเสน่ห์ล้นเหลือ ภายใต้ผ้าโปร่งสีแดง ผิวที่ขาวราวกับหิมะปรากฏขึ้นมาอย่างวับวาบ ตู้โตวสีแดงบนหน้าอกมีดอกลำโพงปักอยู่หนึ่งดอก
เย้ายวน และอันตราย
รวมกับโครงหน้าที่งดงามน่าทึ่งของนาง คิ้วดำราวกับภูเขาที่ห่างไกล นัยน์ตาสดใสราวกับดวงดาว ผิวเรียบเนียนราวกับหยก ปากเล็กดุจเชอร์รี่เป็นสีแดงชาดโดยไม่ต้องแต่งแต้ม โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยนั่นมีความเย็นชาเล็กน้อย หยิ่งทะนงเล็กน้อย เย็นยะเยือกเล็กน้อย คนทั้งคนโดดเด่นและแข็งกร้าว ชั่วร้ายและโอหัง นิสัยบ้าระห่ำที่แผ่ซ่านออกมาจากภายในแบบนั้น ทำให้คนมีความรู้สึกไม่สามารถทนต่อแรงกระตุ้นที่ต้องการอยากจะพิชิต
หยุนถิงที่งดงามน่าทึ่งเช่นนี้ แม้แต่หนานเทียนหลินก็ยังตกอยู่ในภวังค์ จากนั้นก็ยิ่งโมโหและโกรธแค้นมากขึ้น
ถือสิทธิอะไรที่จวินหย่วนโยวสามารถแต่งงานกับหญิงสาวที่งามล่มเมืองเช่นนี้ ในเมื่อเขาไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องทำลายซะ
“คุณชาย ท่านคิดเห็นอย่างไร?” แม่เล้าสอบถามด้วยความเคารพนบนอบ
หนานเทียนหลินถึงได้ตอบสนองกลับมา ในดวงตาที่มืดมนมีแสงสีดำแว๊บผ่านไปเล็กน้อย“ไม่แลว เจ้าไปทำอย่างอื่นเถอะ ทิ้งคนเอาไว้ที่นี่!”
แม่เล้าแอบตะโกนขึ้นมาในใจว่าแย่แล้ว นางเคยเห็นคนที่เข้าออกหอนางโลมมามากมาย ถึงแม้หนานเทียนหลินจะสวมหมวกไม้ไผ่สาน แต่เมื่อครู่นี้เขาตกอยู่ในภวังค์นานขนาดนั้น แม่เล้ามองแค่แว๊บเดียวก็ดูออกแล้วว่าเขารู้สึกหวั่นไหวต่อคุณหนูหยุนแล้ว
หญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวย และน่าทึ่งเช่นนี้ แม้แต่นางที่เป็นผู้หญิงยังรู้สึกหวั่นไหว นับประสาอะไรกับผู้ชาย
“คุณชาย เมื่อครู่ท่านบอกว่า——”
“ไสหัวออกไป หากยังพูดไร้สาระอีกข้าจะฆ่าเจ้าตอนนี้เลย!” หนานเทียนหลินกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
แม่เล้ายังคิดจะพูดอะไร แต่กลับถูกหยุนถิงส่งสายตาห้ามเอาไว้ ไม่มีทางเลือก แม่เล้าได้แต่เดินออกไป
ทันทีที่นางออกไป ก็ให้คนไปแจ้งข่าวต่อจวนซื่อจื่อทันที หอจิ่นเซ่อคือความอุตสาหะทั้งชีวิตของนาง อย่าให้ต้องถูกทำลายเช่นนี้เลย
ด้านในเรือน
หนานเทียนหลินดึงหยุนถิงเข้ามา มือใหญ่บีบแก้มของนางเอาไว้“ใบหน้าเล็กที่งดงามน่าทึ่งเช่นนี้ รับแขกง่ายๆเช่นนี้มันถูกไปสำหรับผู้ชายพวกนั้น ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงของจวินหย่วนโยวเป็นอย่างไรบ้างกันแน่ ปรนนิบัติข้าให้ดีก่อนค่อยว่ากัน!”
ขณะที่หนานเทียนหลินพูดไป ก็ถอดหมวกไม้ไผ่สานที่อยู่บนหัวออก ยื่นมือก็จะไปฉีกเสื้อผ้าของหยุนถิง
ดวงตาคู่สวยของหยุนถิงเบิกกว้างทันที ตื่นตกใจไม่สิ้นสุด เต็มไปด้วยการต่อต้านแต่กลับไม่สามารถขยับได้ ความหวาดกลัวแบบนี้มองในสายตาของหนานเทียนหลินแล้ว รู้สึกพึงพอใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง
เพียงแต่ว่ามือของเขาเพิ่งจะแตะไปโดนเสื้อผ้าของหยุนถิง จู่ๆบางแห่งในร่างกายของหนานเทียนหลินก็เจ็บปวดขึ้นมา ราวกับถูกเข็มทิ่มแทง
หนานเทียนหลินยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมา คนทั้งคนก็ล้มลงไปบนพื้น เขามองไปทางหยุนถิงอย่างตกตะลึงไม่อยากจะเชื่อ
“บัดซบ เจ้าทำอะไรกับข้า?”
หยุนถิงมองเขาจากที่สูงด้วยสายตาเย็นชา“ย่อมต้องปฏิบัติต่อท่านเช่นนี้เดียวกันอยู่แล้ว ท่านพยายามทุกวิถีทางเพื่อจับข้ามาเช่นนี้ ต้องการจะทำให้ข้าอับอาย ข้าย่อมต้องตอบแทนเป็นร้อยเท่าอยู่แล้ว”
“เจ้าคิดจะทำอะไร?” จู่ๆในใจของหนานเทียนหลินก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา เพียงแต่ว่าเขายังไม่ทันได้พูดอะไร เข็มเงินที่อยู่ในมือของหยุนถิงก็แทงมาทางเขาอย่างรวดเร็ว